วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557
เอเอฟพี – ในแต่ละปีมีเด็กป่วยเป็นวัณโรคถึงราว 1 ล้านคน ซึ่งมากกว่าการประมาณการในครั้งที่ผ่านมาถึงเท่าตัว การศึกษาฉบับหนึ่งซึ่งนำออกเผยแพร่ในวันจันทร์ (24 มี.ค.) โดยเป็นงานวิจัยชิ้นแรกที่เผยแพร่ยอดเด็กที่เป็นวัณโรคดื้อยาระบุ
รายงานฉบับนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า “มีเด็กที่ป่วยเป็นวัณโรค และวัณโรคดื้อยาหลายขนาน (MDR-TB) จำนวนมากไม่ได้รับการตรวจวินิจฉัยโรค”
แบบจำลองคอมพิวเตอร์ของคณะวิจัย ซึ่งอ้างอิงข้อมูลทางประชากรและการศึกษาก่อนหน้านี้ชี้ว่า เมื่อปี 2010 มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีถึง 999,800 คนที่ป่วยเป็นโรควัณโรค โดยราว 40 เปอร์เซ็นต์ในจำนวนนี้ เป็นประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และ 28 เปอร์เซ็นต์อยู่ในทวีปแอฟริกา
เท็ด โคเฮน จากวิทยาลัยการสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาวาร์ดกล่าวว่า “เราประมาณการว่า เด็กที่เพิ่งเป็นวัณโรคทั้งหมดมีจำนวนมากกว่าตัวเลขที่องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดการณ์ไว้ในปี 2010 ถึง 2 เท่า อีกทั้งมากกว่าจำนวนผู้ป่วยเด็กทั่วโลกที่มีการแจ้งให้ทราบในแต่ละปีถึง 3 เท่า
งานวิจัย ซึ่งมุ่งประเด็นสำคัญไปที่โรคร้ายที่พรากชีวิตผู้คนไปถึง 1.3 ล้านคนในแต่ละปีฉบับนี้ ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร “ลานซิต” ในวันนี้ (24 มี.ค.) ซึ่งเป็นวัณโรคโลก
คณะวิจัยคาดการณ์ว่า เมื่อปี 2010 มีเด็กเกือบ 32,000 คนป่วยเป็นวัณโรคดื้อยาหลายขนาน ซึ่งเป็นเชื้อวัณโรคสายพันธุ์ที่สามารถต้านทานยาไอโซไนอาซิด และไรแฟมพิซิน ด้วยเหตุนี้จึงรักษาได้ยากกว่า และมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงกว่า
การศึกษาครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่มีการประมาณการจำนวนผู้ป่วยเป็นวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ของประชากรโลก
ถึงแม้เด็กจะมีความเสี่ยงเป็นวัณโรคดื้อยาหลายขนานมากกว่า และมีอัตราการตายจากโรคนี้สูงกว่า แต่ร่างกายของพวกเขาแสดงปฏิกิริยาตอบสนองต่อการรักษาได้ดี อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยโรคในเด็กยังเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากเด็กเล็กๆ ยังไม่สามารถขากเสมหะ สำหรับเก็บไปเป็นตัวอย่างในการตรวจทางห้องปฏิบัติการได้
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ผู้สาธารณสุขจำเป็นต้องพึ่งพาการประมาณการยอดผู้ป่วยที่เชื่อถือได้ เพื่อสั่งซื้อทรัพยากรที่ใช้ในการวินิจฉัยโรค และเวชภัณฑ์สำหรับรักษาโรคติดต่อซึ่งทำให้มีอาการอักเสบในปอดชนิดนี้
เบน มาเรส์ จากสถาบันโรคติดต่อ และความปลอดภัยทางชีวภาพ “มารี บาชีร์” ในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย กล่าวถึงงานวิจัยชิ้นนี้ว่า เป็นงานวิจัยที่ใช้ “ความพยายามอย่างถึงที่สุด” ในการประเมินสถานการณ์โรควัณโรค และวัณโรคดื้อยาหลายขนานในเด็ก “ในช่วงเวลาปัจจุบัน”
ทางด้าน WHO ระบุว่า เมื่อปี 2012 มีประชาชนราว 450,000 คนที่แสดงอาการวัณโรคดื้อยา และมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคนี้ทั้งสิ้น 170,000 ราย
อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยโรควัณโรคดื้อยาหลายขนานน้อยกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ที่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ทำให้โรคนี้แพร่ระบาดออกไป
นอกจากนี้ ในบรรดาผู้ป่วยเป็นวัณโรคดื้อยา คาดว่ามีเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ที่เป็นวัณโรคประเภท XDR (extensively drug resistant) ซึ่งนอกจากจะดื้อยารับประทานหลายขนานแล้ว ยังดื้อยาฉีดอีกด้วย
http://schau-thai.blogspot.jp/2014/03/1-40.html
