PharmaCafe.com

ผมว่าเภสัชกรยังสับสนนิยามเรื่องการเมือง
- กรณีเรื่องเขาพระวิหารระหว่างไทยกับเขมร มิใช่เรื่องการเมือง แต่เป็นข้อพิพาทระหว่างประเทศ
- การที่ประชาชนไทยไปเรียกร้องที่ยูเนสโกเพื่อให้ถอนจากสมาชิกมรดกโลก ก็ไม่ใช่เรื่องการเมือง
- การที่เภสัชกรจะแสดงความเห็นเรื่องการไปเลือกตั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องการเมืองแต่เป็นการใช้สิทธิประชาชนตามหน้าที่พลเมือง
- การเมืองเป็นเรื่องระหว่างพรรคการเมืองกับพรรคการเมืองและนักการเมืองกับประชาชน
- ไม่ควรปิดกั้นเภสัชกรในการแสดงความคิดเห็นเรื่องการใชสิทธิตามรัฐธรรมนูญ

อยู่ที่ state มีเสรีภาพ ประชาชนคนตื่นตัว รู้สำนึก

ไม่มีใครสับสนหรอกครับ ลองดูชื่อห้องสนทนาที่อยู่ล่างสุดซิครับ ห้องนั้นมีชื่อว่า "เหตุบ้าน การณ์เมือง" หาใช่ "เหตุบ้าน การเมือง" แต่อย่างใด เพราะฉะนั้นกระทู้เหตุกาณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับบ้านเมือง และไม่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพเภสัชโดยตรง รวมถึงกระทู้การเมืองที่พยายามจะแถให้เกี่ยวกับเภสัชให้ได้ จะต้องอยู่ในห้องนั้นครับ

ชื่อห้องนี้เป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันแรกที่เปิดห้องนะครับ ไม่ใช่พึ่งจะมาเปลี่ยนเอาวันนี้ ซึ่งผมนับถือผู้ที่ตั้งชื่อนี้จริงๆ มองการณ์ไกลว่ามันจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถึงได้ตั้งชื่อที่มีความหมายแบบนี้ไว้

ถ้าคิดว่าที่นี่จำกัดสิทธิเสรีภาพทางการเมืองของท่านจนเกินไป แนะนำให้ท่านไปใช้ facebook หรือ social media อื่นๆ ซึ่งมีอิสรภาพมากกว่านี้ น่าจะทำให้ท่านสบายใจกว่านะครับ

ครับๆ สับสนครับสับสน ถ้าฟังวิทยุหลายๆคลื่น ดูโทรทัศน์หลายๆช่อง ดู web หลายๆด้าน

ถ้าไม่ให้สับสนต้องฟังต้องดูจากแหล่งเดียวเท่านั้น (ไม่ต้องบอกนะ)

บางทีคุณ (ทั้ง) ฟูล (ทั้ง) ไบรท์ อาจสับสนกับนิยามชื่อตัวคุณเองเหมือนกันนะคะ อ่านผิดนิดเดียว ความหมายเป็นตรงกันข้ามเลยนะ แหม คนคิดชื่อทุนเขาก็ฉลาดนะ อ่านดูแล้วให้ความรู้สึกว่า อัจฉริยะผู้ได้ทุนนี้ มีขีดบางๆขีดนึงที่กั้นระหว่างความเป็นอัจฉริยะกับความฟูลน่ะค่ะ

เดี๊ยนไม่มีปัญญาได้ทุนหรอกค่ะ ถ้าคุณได้ทุนนี้เดี๊ยนก็แอบอิจฉาความเป็นอัจฉริยะของคุณนะคะ แต่บางทีก็แอบดีใจความเป็นคนธรรมดาของตัวเอง ที่ทำให้เราไม่ฟูลไม่ไบรท์เกินไปน่ะค่ะ