New Document









เภสัชกร...กับการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชาย

บทความทางเภสัชศาสตร์ และบทความทั่วไป

เภสัชกร...กับการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชาย

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 07 มี.ค. 2011, 22:11

การไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชาย นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ชายหลาย ๆ คนทั่วโลก รวมถึงชายไทยนับล้านคน ผลพวงจากปัญหาดังกล่าวยังส่งผลไปยังคู่สมรส หรือคู่นอนของคนเหล่านั้นอีกด้วย ดังนั้นผู้ชายหลาย ๆ คนจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้อาวุธประจำกายกลับมาแข็งเหมือนเดิมไม่ว่าจะเสียเงินเสียทองมากมายแค่ไหนก็ตาม
โรคหย่อนสมรรถ ภาพทางเพศ หรือ ED (ERECTILE DYSFUNCTION) ในปัจจุบันได้จำกัดความแคบเข้ามา เอาเฉพาะผู้ชายที่อยากจะมีเพศสัมพันธ์ แต่เขาไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ เพราะไม่สามารถทำให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ หรือแข็งตัวแล้วแต่ไม่สามารถคงการแข็งตัวไว้ได้จนกระทั่งมีความสุข คือ พอใจในการมีเพศสัมพันธ์ อันนี้เรียกว่าโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยากมีเพศสัมพันธ์แต่มีไม่ได้ จึงอยากจะช่วยคนกลุ่มนี้
จากข้อมูลการวิจัยหลาย ๆ ที่ สาเหตุของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ 80% เกิดจากโรคทางร่างกาย ส่วนอีก 20% เกิดจากโรคทางจิตใจ จากการสำรวจในประเทศไทย พบว่าผู้ชายไทยอายุระหว่าง 40-70 ปี จะพบโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ร้อยละ 37.5 หรือประมาณ 3 ล้านคน
ดังนั้นผู้ชายในวัยนี้จะเป็นกันมากเลยเพียงแต่ว่าคนไข้อาจจะอายไม่กล้าไปพบแพทย์ แต่จากการสำรวจทำให้รู้ว่าผู้ชายไทยเป็นเยอะจริง ๆ และปัญหาเหล่านี้มันส่งผลกระทบต่อชีวิต ความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัว
ทำอย่างไรจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
ถ้าเข้าใจกลไกการแข็งตัวของอวัยวะเพศชาย ก็จะเข้าใจสาเหตุของมัน ในอดีตยังไม่รู้กลไกการแข็งตัวดีนัก ก็เลยไปรักษาโดยการผ่าตัดใส่แกนอวัยวะเพศชายเทียม หรือใช้พวกปั๊มสุญญากาศ แต่ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า การที่อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ จะต้องประกอบไป ด้วยสมอง ระบบประสาท และไขสันหลัง คือ เมื่อสมองมีความต้องการทางเพศ ก็จะส่งคำสั่งผ่านไขสันหลังลงมา จากไขสันหลังก็จะผ่านเส้นประสาทไปกระตุ้นให้เลือดเข้ามาเลี้ยงในอวัยวะเพศชาย ดังนั้นเส้นเลือดแดงจะต้องปกติ พอเลือดแดงพองตัว มันจะต้องมีระบบกันไม่ให้เลือดรั่วออกจากอวัยวะเพศชาย ก็คือการพองตัวจะไปกดหลอดเลือดดำไม่ให้เลือดรั่วออกไปได้จากอวัยวะเพศชาย จึงทำให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวในขณะนั้น จนกว่าเมื่อการประกอบกามกิจได้บรรลุถึงจุดสุดยอด ระบบเส้นประสาทซิมพาทิติคก็จะทำงานให้อวัยวะเพศชายกลับคืนสู่สภาพเดิม
หากมีความบกพร่องที่ใดที่ หนึ่ง เช่น ที่สมอง ไขสันหลัง เส้นประสาท เส้นเลือดแดง หรือเส้น เลือดดำ ทุกอย่างทำให้เกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้หมด โรคเหล่านี้มีอะไรบ้าง ที่พบเยอะที่สุดจากการสำรวจทุกชาติเลยเหมือนกัน อันดับหนึ่ง คือ โรคเบาหวาน พบประมาณร้อยละ 30 เหตุที่เบาหวานเป็นมากที่สุดก็เพราะว่า เบาหวาน ทำให้เส้นเลือดตีบทำให้เส้นประสาทเสื่อม คนที่เป็นเบาหวานก็จะชามือชาเท้า มีอาการของเส้นเลือดตีบ เช่น เส้นเลือดสมองตีบ เส้นเลือดหัวใจตีบ เส้นเลือดที่อวัยวะเพศชายก็ตีบ ปัจจัยเสี่ยงที่พบรองลงมา เป็นพวกความดันในเลือดสูง พวกไขมันในเลือดสูง เราเคยสำรวจในผู้ชายไทยพบว่าถ้าใครเป็น 3 โรคนี้ คือ เบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ร้อยละ 100 เลยอวัยวะเพศชายจะมีปัญหาหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
นอกจาก 3 โรคที่กล่าวมาแล้ว ก็ยังมีโรคอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ที่พบ ได้ในคนหนุ่ม ๆ ที่อายุยังน้อย แล้วเกิดปัญหามาก คือ พวกไขสันหลังพิการ หรือ โรคสมองบางอย่างนอกนั้นจะมียาบางตัว เช่น ยาความดันโลหิตสูงบางชนิด จะทำให้เกิดโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ พอหยุดยาแล้วหันไปใช้กลุ่มอื่นอาการก็กลับมาดี ขึ้น แต่โรคหย่อนสมรรถภาพทาง เพศในคนหนุ่ม ๆ จะพบได้น้อย คิดว่าคงไม่ถึง 10% ส่วนมากจะมีปัญหาทางด้านจิตใจมากกว่า
สำหรับอาการของผู้ที่เป็นโรคหย่อนสมรรถภาพ ทางเพศ มีตั้งแต่ อาการน้อย อาการปานกลาง อาการมาก โดยอาการน้อย ก็คือ สามารถสอดใส่ได้แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัวเต็มที่ อาการปานกลาง ก็คือ แข็งตัวเหมือนกันแต่ไม่สามารถสอดใส่ได้ ส่วนกลุ่มที่มีอาการรุนแรง คือ ส่วนใหญ่แล้วอวัยวะเพศชายจะไม่แข็งตัว ยุ่งไม่ได้ สอดใส่ไม่ได้เลย แต่ผู้ป่วยบางรายเริ่มรู้สึกมีปัญหาก็จะมาพบเภสัชกรที่ร้านยา กลุ่มที่มีอาการน้อย และกลุ่มที่มีอาการปานกลาง สามารถรักษาได้
ข้อแนะนำ ก็คือว่า แม้ว่าคนไข้จะไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์แล้ว ไม่เดือดร้อนแล้ว แต่ถ้ารู้ว่าเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ควรปรึกษาเภสัชกรร้านยา เภสัชกรจะได้ให้คำแนะนำว่าควรไปทำการตรวจร่างกายเพราะมีคนไข้หลาย ๆ รายเลยไม่รู้ว่าตัวเองเป็นเบาหวาน เป็นความดันสูง แต่รู้ว่ามีอาการของโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ปรากฏว่ามักจะตรวจพบว่าเป็นอาการเริ่มต้นของเบาหวาน ความดันสูง หรือไม่ก็มีไขมันในเลือดสูง ควรคุมความดัน คุมเบาหวาน คุมไขมันในเลือดให้ดี มิฉะนั้นจะเกิดผลเสียหลายอย่างตามมา
ยารับประทานปัจจุบันคือ ซิลเดนาฟิล ทาเดลาฟิล และ วาร์เดนาฟิล ทั้งหมดนี้ออกฤทธิ์แบบเดียวกัน มีข้อดี ข้อเสียต่างกันเล็กน้อยในแง่การออกฤทธิ์ยาวนานต่างกัน แต่มีข้อเสียที่สำคัญคือว่า ห้ามรับประทานยานี้ร่วมกับยากลุ่มไนเตรดโดยเด็ดขาด ยากลุ่มไนเตรด ก็คือยาที่ใช้รักษากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เพราะมันจะทำให้ความดันลดต่ำลงกะทันหัน อาจเป็นอันตรายถึงตายได้
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35







Re: เภสัชกร...กับการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชาย

โพสต์โดย dussadee » 07 มี.ค. 2011, 22:53

ขอบคุณค่ะพี่ธวัชชัย
ภาพประจำตัวสมาชิก
dussadee
 
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2008, 08:53

Re: เภสัชกร...กับการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชาย

โพสต์โดย humbler » 08 มี.ค. 2011, 10:43

เมื่อ เช้า ข่าวช่อง 3
update.

แว่วๆๆได้ยินว่า แมงมุม ประเภทหนึ่ง กัดแล้วมีผล ให้ผู้ชาย เกิดภาวะแข็งตัวได้ 4 ชม...
แต่อย่าได้ไปลองกันเองนะค๊าบบบ
ผลวิจัยเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป..
คิคิ.. :mrgreen:
สมาธิมี...สติมา...ปัญญาเกิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
humbler
 
โพสต์: 113
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ต.ค. 2010, 12:45


ย้อนกลับไปยัง อาราบิก้า

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document