New Document









กษัย : ตามแนวทฤษฎีการแพทย์แผนไทย

บทความทางเภสัชศาสตร์ และบทความทั่วไป

กษัย : ตามแนวทฤษฎีการแพทย์แผนไทย

โพสต์โดย timshel » 13 พ.ย. 2006, 15:33

  จากหนังสือศัพท์แพทย์ไทย (๒๕๓๕ : ๓) ได้ให้คำจำกัดความว่า กษัย (กษัย, กไษย, กไสย) เป็นโรคที่บังเกิดขึ้นแก่มนุษย์ทำให้มีอาการแห่งความเสื่อมโทรมซูบผอม สุขภาพของร่างกายไม่สมบูรณ์ ทั้งนี้เนื่องจากเป็นโรคหรือไข้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งทำลายสุขภาพของร่างกายให้เสื่อมโทรมไปทีละน้อย เป็นเวลาต่อเนื่องกันโดยมิได้เข้ารับการบำบัดรักษา หรือรักษาแต่ไม่ถูกกับโรค หรือไข้นั้น ๆ โดยตรง เนื่องจากไม่มีอาการอะไรรุนแรงให้เห็นได้ชัด มีอาการผอมแห้งแรงน้อย โลหิตจาง ผิวหนังซีดเหลือง ปวดเมื่อยตามร่างกายและกล้ามเนื้อ บางครั้งก็ไอ บางทีไอเป็นโลหิตทำให้รู้สึกแน่นและหนักตัว กินไม่ได้นอนไม่หลับ ปัสาวะเหลือง และปัสสาวะกะปริกกะปรอย ไม่กำลังทำให้ชาปลายมือและปลายเท้า มีเหงื่อออกตอนกลางคืน ยอกเสียวตามหัวอกและชาวโครง บางคนผิวหนังตกกระตามร่างกาย กล้ามเนื้อชักหดและลีบ มีอาการสะท้านร้อนสะท้านหนาวเป็นคราว ๆ และท้องผูกเป็นประจำ ลักษณะกษัยโรค ซึ่งพระอาจารย์ประมวลไว้มีประเภท ๒๖ จำพวก กษัย ๘ จำพวกนั้นคือ กษัยกล่อน ๕ กษัยน้ำ ๑ กษัยลม ๑ กษัยไฟ ๑ ทั้ง ๘ จำพวกนี้เกิดแต่กองสมุฏฐานธาตุ แจ้งอยู่ในคัมภีร์วุฑฒิกะโรค กล่าวคือ กล่อน ๕ ประการ แต่กษัยบังเกิดเป็นอุปปาติกะโรคมี ๑๘ จำพวก คือ กษัยล้น กษัยราก กษัยเหล็ก กษัยปู กษัยจุก กษัยปลาไหล กษัยปลาหมอ กษัยปลาดุก กษัยปลวก กษัยลิ้นกระบือ กษัยเต่า กษัยดาน กษัยท้น กษัยเสียด กษัยไฟ กษัยน้ำ กษัยเชือก กษัยลม ประมวลเป็น ๑๘ จำพวกด้วยกัน

ความหมายของโรคกษัยจากการสัมภาษณ์หมอพื้นบ้าน
    จากความเห็นของหมอพื้นบ้านภาคกลาง กล่าวว่า "กษัย" หมายถึง ฑาตุเสื่อม เป็นภาษาบาลี-ภาษามคธ แปลว่า ย้อม ติด กวาด ในอวัยวะส่วนใด ถ้าโรคชนิดนั้นไปติดเกาะจะทำให้อวัยวะนั้นเสีย มีความหมายเหมือนกับคำว่า ปาราสิต (Parasite) แปลว่า กาฝาก เช่น เมื่อไปเกาะติดลำไส้ จะเกิดเนื้องอกที่ลำไส้ เมื่อเกาะอวัยวะส่วนใดจะทำให้อวัยวะส่วนนั้นเสื่อม คำว่า กะษะยะ เป็นคำแปลทับศัพท์บาลี สันสกฤตว่า "กษัย" คำว่า เอตังกษัย, คันถังกษัย แปลว่า "คัมภีร์กษัย" ไทยเรานำคำว่า "กษัย"  มาใช้ มีความหมายว่า ย้อม ติด กวาด รัดรึง ซูบผอม หรือบางครั้งผอมเหลือง
    จากความเห็นของหมอพื้นบ้านภาคเหนือ กล่าวว่า กษัย หมายถึง โรคเสื่อมหรืออวัยวะเสื่อม เป็นกันมากในปัจจุบันมากกว่าสมัยโบราณ เนื่องจากทุกวันนี้คนเราทำงานจำเจ นั่งมาก ยืนมาก เดินมาก กินมาก เป็นต้น ก็เป็นกษัยได้ ทางภาคเหนือ เรียกโรคกษัยว่า "มะโหกโรคกษัย" จะแปรปรวนไปได้ ๓ ทาง คือ
    ๑.ริดสีดวงงอกหรือริดสีดวงทวาร
    ๒.ริดสีดวงลำไส้
    ๓.โรคไตกำเริบ เมื่อโรคนี้พัฒนาขึ้นมาจากริดสีดวงเป็นมะเร็งในทวารหนัก จะเป็นตัวแปรที่ ๔ ที่ทำความรุนแรงและร้ายแรง ในตำราเรียกมะเร็งในทวารหนักว่า "กษัยท้น" ซึ่งทำให้อืดท้อง หมอแผนปัจจุบันจะให้ยาโรคกระเพาะ ภาษาเหนือ เรียก "ขางมะโหก" เข้ากินในกระเพาะ "ขาง" ภาคกลางเรียก "ซาง" คือ ซางตัวผู้เข้าผสมกัน จะร้อนขึ้นในทรวงอก เมื่อขย้อนน้ำลายออกมาทีจะมีรสเปรี้ยวเป็นอาการของกษัยท้น และเป็นฐานของโรคมะเร็งในริดสีดวง ถ้าเข้าตับจะเป็นโรคตับ เข้าปอดเป็นโรคปอด เข้าลำไส้ ตา และเล็บจะเหลือง มีอากรไข้ หมอเรียก โรคตับ (น้ำดีในตับกำเริบ)
    จากการศึกษาจากคัมภีร์แผนโบราณและการสัมภาษณ์หมอพื้นบ้าน สรุปความหมายของโรคกษัยดังนี้
โรคกษัย หมายถึง เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากภาวะความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ทำให้มีการเสื่อมโทรม ซูบผอม โดยเริ่มจากอาการของอวัยวะใดอวัยวะหนึ่ง เกิดทีละน้อยและถ้าปล่องทิ้งไว้จะทำให้อาการเป็นมากขึ้นและเรื้อรัง รักษาลำบาก
    สวนหมอพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉัยงเหนือและภาคใต้ ความคิดเห็นเกี่ยวกับความหมายของโรคกษัยเช่นเดียวกันกับภาคกลางและภาคเหนือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
timshel
 
โพสต์: 23
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ค. 2004, 11:44







Re: กษัย : ตามแนวทฤษฎีการแพทย์แผนไทย

โพสต์โดย maymay » 13 พ.ย. 2006, 20:54

แต่กษัยแถวบ้าน เค้ามักจะหมายถึง ปวดเมื่อย กับท้องผูกค่ะ :oops: :oops:
maymay
 

Re: กษัย : ตามแนวทฤษฎีการแพทย์แผนไทย

โพสต์โดย timshel » 14 พ.ย. 2006, 12:40

.................ชาวบ้านจะมีพื้นฐานความเชื่อเรื่องโรคอยู่อย่างหนึ่ง คือ โรคกษัย โรคไต และ ประดง ซึ่งทั้งหมดจะมีการการร่วมกันคือ ปวดเมื่อย แต่จะมีสาเหตุต่างกัน ดังนั้นนอกจากยาแก้ปวด ชาวบ้านมักจะใช้ยากษัย ยาล้างไต และยาประดง 
................" กษัย " เป็นภาษาบาลี-ภาษามคธ แปลว่า ย้อม ติด กวาด ในอวัยวะส่วนใด ถ้าโรคชนิดนั้นไปติดเกาะจะทำให้อวัยวะนั้นเสีย มีความหมายเหมือนกับคำว่า ปาราสิต (Parasite) แปลว่า กาฝาก เช่น เมื่อไปเกาะติดลำไส้ จะเกิดโรคที่ลำไส้ แล้วทำให้เกิดอาการต่างๆขึ้น  ดังนั้นหากเป็น " กษัย " จะต้องขับออก ดังนั้นยาที่ใช้ในการรักษา " กษัย " จึงเป็นยาระบาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
timshel
 
โพสต์: 23
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ค. 2004, 11:44

Re: กษัย : ตามแนวทฤษฎีการแพทย์แผนไทย

โพสต์โดย timshel » 14 พ.ย. 2006, 19:37

คิดดูอีกที 

concept เดียวกันกับ detox เลย
ภาพประจำตัวสมาชิก
timshel
 
โพสต์: 23
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ค. 2004, 11:44


ย้อนกลับไปยัง อาราบิก้า

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document