New Document









Home School

บทความทางเภสัชศาสตร์ และบทความทั่วไป

Re: Home School

โพสต์โดย PatcharapornPanyawuthikra » 26 ก.ค. 2007, 19:12

อายุ 1 - 3 ปี เน้นการเรียนผ่านการเล่น ด้วยกิจกรรมการเคลื่อนไหว พัฒนากล้ามเนื้อ ร่วมกับศิลปะ จังหวะ และดนตรี-เสียงเพลง
ลูกของเรา สามารถเรียนรู้ได้ทุกอย่าง การที่ได้ทำกิจกรรมกับคุณพ่อคุณแม่ คือเวลาที่สุขที่สุด แต่ต้องสนุกด้วยนะ ไม่ใช่ใส่แต่สาระ มุ่งจะสอน จนลืมว่าเขาพร้อมจะรับ หรือต้องการอะไร

แปลกดีนะ ตอนที่ลูกเล็กๆ เราจะค่อยๆ เติมประสบการณ์ ให้เขาค่อยๆ เรียนรู้ เปิดโลกกว้างไปกับเรา เพื่อเขาจะได้เติบโตด้วยตัวเขาเอง อย่างงดงาม
ตอนนี้ ลูกก็พาเราเรียนรู้ไปพร้อมกับเขา - ลูกสาวของพี่ เพิ่งเข้า ถา,ปัด อินเตอร์ เลยมีเรื่องมาชวนคิด ชวนทำโมเดล สงสัยว่าพี่ต้องห่างไกลจากอัลไซเมอร์แน่เลย สมองได้บริหารอะไรแปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ
PatcharapornPanyawuthikra
 







Re: Home School

โพสต์โดย BECKY » 09 ส.ค. 2007, 20:29

อย่าลืมพก พจนานุกรมฉบับนักเรียนของราชบัณฑิตยสถานและ
อ่านอย่างไร เขียนอย่างไร ไปทุกเส้นทางเพื่อการเรียนภาษาไทยที่ราบรื่นด้วยนะคะ
จักเป็นพระคุณที่เด็กๆ ยังคิดถึงกัน

ไม่เกิน 9 เดือนได้ย้ายแน่
BECKYbackTOhometown
ภาพประจำตัวสมาชิก
BECKY
 
โพสต์: 24
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.พ. 2007, 21:44
ที่อยู่: รพ.ตราด อ.เมือง จ.ตราด

Re: Home School

โพสต์โดย spras77 » 25 ส.ค. 2007, 13:29

เมื่อปีก่อน ภรรยาผมไปดูงานแถวๆลพบุรี สระบุรี แล้วมีโอกาสแวะไป โรงเรียนแห่งหนึ่ง
กลับมาก็มาเล่าให้ฟัง บลาๆๆๆๆ ......... ผมก็ฟังแล้วก็เลยผ่านไป จำได้คร่าวๆว่าเป็นโรงเรียนที่ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เป็นผูก่อตั้ง
ตั้งอยู่กลางหุบเขา แถวๆ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี  เน้นการสร้างคนดี มากกว่าคนเก่ง  ดูรูปคร่าวๆก็คล้ายๆโรงเรียนในชนบททั่วไป แล้วก็เลือนหายไปในความทรงจำ .........

จนกระทั่งเมื่อวาน นั่งดูรายการทีวีทางช่องเคเบิ้ล ซึ่งเค้าไปสัมภาษณ์ ดร.อาจอง และพาไปดู รร.แห่งที่ว่า เลยจะลองตั้งใจดูสักหน่อย

" โรงเรียนสัตยาไส "  จ.ลพบุรี

ในรายการเค้าก็ก็สอบถามถึงความเป็นมา เป็นไปแลการก่อตั้ง รร.
ได้ข้อสรุปคร่าวๆว่า เป็น รร.กินนอน ในระดับ ประถมจนถึง ม.6
ส่วนระดับ อนุบาลไป - กลับ และกำลังจะทำในระดับ อุดมศึกษา

เน้นเรื่องการทำสมาธิ ควบคู่ไปในการเรียนและการสอน  เน้นเรื่องคุณธรรม และการอยู่ร่วมกัน ของเด็กๆเหมือนใน โรงเรียนกินนอน
และเค้าบอกว่า ตัววัดผลที่ชัดเจนที่สุดเมื่อเทียบกกับเด็กทั่วไป คือ เด็กๆสัตยาไสสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ 100% และได้ในคณะที่ดีด้วย

การเข้าเรียน ไม่มีการสอบเด็กๆ แต่จะสอบผู้ปกครองของเด็ก
คุณครู อาจารย์ที่รับมา ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ จะเข้ารับการทดสอบ และให้เด็กๆในโรงเรียนเป็นคนบอกว่า คุณครูคนนี้ สอบผ่านหรือไม่
และเห็นว่าที่นี่เป้นที่ฝึกงานสำหรับคุณครูในระบบ สัตยาไส  ทั่วโลกด้วย  ( ดร.อาจอง ได้รับอิทธิพล และแนวคิดมาจากท่าน สัตยาไส บาบ๋า ) 

เมื่อค้นๆในอินเตอร์เนต พบเพิ่มเติมว่า ที่นี่ขึ้นทะเบียนเป็น home school ด้วย
และการเรียนการสอน น่าทึ่งมากๆ รายละเอียด search  ใน google ตามลิงค์ดูครับ

น่าสนใจมากๆเลยทีเดียว  ครับ

http://www.google.co.th/search?hl=th&q= ... ogle&meta=
แก้ไขล่าสุดโดย spras77 เมื่อ 25 ส.ค. 2007, 13:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
spras77
 
โพสต์: 182
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ม.ค. 2007, 14:53

Re: Home School

โพสต์โดย naproxen » 14 ก.ย. 2007, 21:34

ในความเห็นของผม ผู้เคยเรียกตัวเองว่าครู  และเป็นลูกของคุณครู

ขอเล่าเรื่องตัวเองก่อน

ที่บ้านคุณพ่อ คุณแม่ ของผม ท่านเปิดสอนพิเศษ ในระดับ ป.1-ป.6 กล้าพูดว่าเคยมีเชื่อเสียงและมีจำนวนเด็กที่มาเรียนมากที่สุด ในอำเภอแห่งหนึ่ง ของ จ.พังงา  ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่เลิกกิจการสอนพิเศษตามคำขอร้องของผม  (ผมขอร้องท่านให้เลิกสอนพิเศษอยู่หลายปี ด้วยอยากให้ท่านพักผ่อน ขอร้องอยู่หลายปีกว่าท่านจะเลิกกิจการ)

ผมเริ่มเป็นครู ครั้งแรกก็ที่บ้านที่พังงานี่แหละ ด้วยการสอนเด็กๆแทนคุณพ่อ คุณแม่ บ้าง ในช่วงปิดเทอมของมหาวิทยาลัย
โดยรวมแล้วผมสนุกและมีความสุขมากที่ได้สอนเด็กๆ  มีบางครั้งบ้างที่รู้สึกหัวเสียเมื่อต้องเจอเด็กดื้อ  จิตวิทยาในการกำราบเด็กดื้อผมสู้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้  ใครคิดว่าการสอนพิเศษเด็ก ป.1-ป.6 ง่าย ผมว่าไม่จริง การสอนเด็กประถม นั้นต้องใช้จิตวิทยามากกว่าสอนเด็กมัธยมอยู่หลายขุม
 
เด็กใต้อยากไปอยู่เหนือ
ผมจบคณะเภสัชศาสตร์ มอ. ตั้งใจว่าอยากไปใช้ชีวิตที่ภาคเหนือในช่วงเริ่มต้นของการเป็นเภสัชกร แล้วค่อยย้ายกลับบ้าน
เหตุที่อยากไปอยู่ภาคเหนือ  เพราะฮักคนเมืองขนาด (เคยมีแฟนเป็นสาวพะเยา 5555555555)

เริ่มชีวิตราชการด้วยการเป็นเภสัชกร รพ.ชุมชน แห่งหนึ่งในภาคเหนือ ชีวิตในรพ.ก็ไม่ต่างจากเภสัชกร รพ.ชุมชนทั่วๆไปแต่ที่ต่างบ้างก็คือ เป็นเภสัชขายเวรตัวยง  ขายเวรไปหาเด็ก ม.ปลาย  :D

ผมไปสมัครงานที่สำนักสอนพิเศษ ติวเตอร์ แห่งหนึ่ง  ด้วยความที่อยากทำงานที่ใจรักและฝันไว้ โชคเข้าข้างที่นั้นขาดอาจารย์ติวเตอร์วิชา เคมี พอดี ผมอธิบายแนวทางการสอนและสาธิตการสอน ที่นั้นตอบตกลงรับผม ความฝันที่จะเป็นติวเตอร์วิชาเคมีจึงเป็นจริง   
ผมมีความสุขมากกับการสอนวิชาเคมี เตรียมตัวทำการบ้านก่อนไปสอนทุกครั้ง  และถ่ายทอดวิทยายุทธ์วิชาเคมีทั้งหมดที่ได้รับมาและคิดขึ้นเองให้เด็กๆม.4-5-6  เวลาสอนผมเรียกตัวเองว่า พี่ และ ครู เวลาเด็กเรียกผมว่าครู ผมรู้สึกมีความสุขมาก  :D

ผลงาน เด็กม.6 เกือบทั้งหมดที่สอน สอบent.ติดม.รัฐ อาจเพราะเด็กส่วนใหญ่เป็นเด็กที่ตั้งใจเรียน
และมี 1 คน ที่ทำให้ผมภูมิใจเป็นพิเศษ คือ น้องเค้าสอบเคมีโอลิมปิก ได้คะแนนเป็นที่ 1 ของภาคเหนือ
ผมอยู่ภาคเหนือ 1 ปี และตัดสินใจย้ายกลับใต้ ด้วยกลัวว่าถ้าไม่รีบย้าย มีโอกาสจะได้อยู่เหนือนานแน่ๆ

กลับใต้ ลาออกจากติวเตอร์ มาเป็นเภสัชกร รพ.ชุมชน แห่งหนึ่ง อยู่ได้ 3 เดือน หัวหน้าฝ่ายขอย้ายเพื่อไปเปิดร้านยา
ด้วยความที่หัวหน้าฝ่ายการพยาบาลกับผอ.รพ.  เอ็นดู เลยได้เป็น หัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมชุมชน
อยู่ไปอยู่มา ผอ.เกิดอุบัติเหตุบางอย่างไม่อาจทำหน้าที่ได้  เลยได้ตำแหน่งรักษาการผู้อำนวยการ เป็นอยู่เกือบปี เกือบตาย
รอดตายมาได้ด้วยความภูมิใจและประสบการณ์ชีวิต อันล้ำค่า

ปัจจุบันลาออกจากราชการ เปิดร้านยา เป็นเภสัชกรร้านยา ที่ จังหวัดที่เป็นเกาะ

หลังจากกลับใต้ ได้ไปกราบคารวะอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิทยายุทธ์วิชา เคมี ให้ ท่านเป็นอาจารย์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ม.ราชภัฏ แห่งหนึ่ง ท่านชวนเปิดสถาบันกวดวิชาเคมี  ผมปฏิเสธ และเรียนท่านตามตรงว่า เราสู้ อ.อุ๊  ไม่ได้หรอก ไม่ใช่เพราะว่าวิทยายุทธ์เคมีของอาจารย์ด้อยกว่า แต่เราสู้การตลาดของ อ.อุ๊ ไม่ได้หรอก พูดคุยเหตุผลกันมากมาย ในที่สุด ท่านอาจารย์ก็เห็นด้วย ว่าอย่าเปิดดีกว่า

เปิดร้านยาใหม่ๆ ยอดขายช่างน้อยจัง จึงรับจ้างสอนพิเศษวิชา คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ให้เด็ก ม.ต้น สอนไปจนเมื่อร้านยาอยู่ได้แล้วก็เลิกสอน  และเป็นเภสัชกรร้านยาอย่างเดียว 

โปรดติดตามตอนต่อไป  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: Home School

โพสต์โดย naproxen » 21 ก.ย. 2007, 13:46

ในความเห็นของผม ผู้เคยเรียกตัวเองว่าครู  และเป็นลูกของคุณครู  ตอนที่ 2 

Home school  ของผม
ว่าด้วย ลูกศิษย์อัจฉริยะกะครูบ้าเต๋า  ตอนที่ 1

พอเอ่ยคำว่า Home school ผมเริ่มทบทวนว่าเราเคยมีประสบการณ์ตรงนี่หว่า  ก็ผมเคยสอนเด็กที่คุณพ่อคุณแม่ของเค้าบอกว่านี่แหละ ลูกของฉัน เด็ก Home school 

1 เด็กอัจฉริยะ ตามโครงการเด็กอัจฉริยะของ มศว.ประสานมิตร  เคยเป็นลูกศิษย์ผม  ผมสอนน้องเค้าตอนอายุ 8 ขวบ เด็กคนนี้เป็นเด็กอัจฉริยะจริงครับๆ พูด อ่าน เขียน ได้  5 ภาษา  ถ้าจำไม่ผิดพูดภาษาญี่ปุ่น จีน เกาหลี อังกฤษไทย ได้ตั้งแต่ 3 ขวบ  ได้ออก TV หลายช่องแล้ว  (ในชีวิตผมยังไม่เคยได้ออก TV สักครั้ง โอ้มันแน่กว่ากรู และแน่จริงๆ  จำได้ว่าตอนที่สอนนั้นน้องเค้าใช้ภาษาอังกฤษได้ดีกว่าผมอีก ไม่ว่าจะสำเนียง  ไวยากรณ์ หรือ ความเร็วในการพูด  ยอมรับตามตรงผมสู้ไม่ได้เลย  สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเด็กอัจฉริยะทางภาษา)

คุณแม่ของน้องเค้าจ้างผมให้สอนวิชา คณิตศาสตร์ ให้กับน้องคนนี้  ผมตอบตกลงทันทีเนื่องจากอยากรู้ว่าเอ..
เด็กอัจฉริยะเป็นอย่างไรหว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: Home School

โพสต์โดย naproxen » 21 ก.ย. 2007, 13:56

ในความเห็นของผม ผู้เคยเรียกตัวเองว่าครู  และเป็นลูกของคุณครู  ตอนที่ 3

Home school  ของผม
ว่าด้วย ลูกศิษย์อัจฉริยะกะครูบ้าเต๋า  ตอนที่ 2

ในการเรียนครั้งที่  2  ชั่วโมงที่3-4 ของเด็กอัจฉริยะ    ผมพบจุดอ่อนของน้องเค้า ที่ผมกังวลใจมิใช่น้อย
นั้นคือ น้องเค้ายึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง    มีความเชื่อมั่นในตัวเองที่สูงมาก    ขาดการถ่อมตน  การไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่าง    และข้อสำคัญคือมีความไม่จริงใจ  มีนิสัยเจ้าเล่ห์

ซึ่งผมไม่อยากเชื่อเลยว่านี้เป็นนิสัยของเด็กวัย 8 ขวบ  จากประสบการณ์ที่สอนเด็กๆมาทั้งเด็กประถมและเด็กมัธยม  ลักษณะข้างต้น ผมพอพบอยู่บ้าง และพบมากขึ้นเรื่อยๆในเด็กมัธยม รุ่นหลังๆ
แต่ไม่เคยพบว่าเด็กในวัยประถม จะมีนิสัยที่ผมไม่สบายใจมากถึงเพียงนี้  เด็กวัยประถมที่พบอย่างมากก็เป็นเด็กดื้อ ไม่ตั้งใจเรียน  เกเร แกล้งเพื่อน  แต่เมื่อพูดกันดีๆ  ชี้แจงเหตุผลก็จะยอมรับฟัง  แต่น้องอัจฉริยะวัย 8 ขวบ คนนี้กลับมีนิสัยที่เจ้าเล่ห์  และทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจมากเพราะเค้าเป็นเด็กอัจฉริยะด้วยสิ

ส่วนเด็กวัยมัธยม ที่นิสัยไม่ดีก็พอพบอยู่ ส่วนมากเกิดจากครอบครัวไม่อบอุ่น  ตัวอย่าง มีนักเรียนผู้หญิงม.ต้น 1 คน ที่โกงค่าเรียนพิเศษผม  แม่ของเขาก็โกงค่ายารักษาโรค คือสัญญาว่าจะนำเงินมาให้ทีหลัง  แต่ก็ชักดาบเฉย
และทำไม่รู้ไม่ชี้  ผมไม่เคยทวงเงินจากเด็ก จากผู้ปกครอง ผมยึดถือว่าทุกครั้งที่ผมสอนผมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ  เด็กดีย่อมมีกตัญญูต่อครู หรืออย่างน้อยก็ไม่โกงครู แต่ถึงใครจะโกงผมก็ไม่ว่าอะไร ก็ยังคงสอนให้อย่างเต็มความสามารถ เด็กผู้หญิงรายนี้พ่อแม่แยกทางกัน

สำหรับเจ้าหนูอัจฉริยะ เนื่องจากน้องเค้ามีความสามารถทางภาษา รวมถึงภาษาจีน  ผมจึงเลือกเอาตัวอักษรจีน จากคำสอนของเต๋ามาสอน  โดยให้เขาอ่านและเขียนตัวอักษร วันละ 1-2 ตัว เช่น ความซื่อสัตย์  ความอ่อนโยน  ความสุขุม  การอ่อนน้อมถ่อมตน  ความเสียสละ  ให้เขาเขียนตัวอักษรแล้วผมก็บรรยายปรัชญา คำสอน เหล่านั้นให้น้องเค้าฟัง  โดยสอนเค้า  10 นาทีสุดท้ายก่อนจบการเรียนในแต่ละวัน ด้วยหวังว่าเค้าจะเป็นอัจฉริยะที่เป็นคนดี มุ่งประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ตนเอง

โปรดติดตามตอนต่อไป  " โรงเรียนสัตยาไส  โรงเรียนในฝันของผม "  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: Home School

โพสต์โดย mom » 26 ก.ย. 2007, 15:06

IQ สร้างได้ง่าย
EQ  ต้องใช้วิทยายุทธหน่อย
ที่ยากที่สุดคือ MQ
เราได้ฉายหนังให้ลูกดูทุกวี่วัน
เหมือนพ่อแม่ที่เคยฉายให้เราดู
ยิ่งสังคมสมัยนี้
จะเอาธรรมะให้ลูกยึดเหนี่ยวก็เกรงว่าลูกจะตามสังคมไม่ทัน
หรือจะให้ลูกได้เรียนรู้สังคมก็เกรงว่าจะกูไม่กลับ
อยากให้มีโรงเรียนสัตยาไส มากกว่านี้...
mom
 

Re: Home School

โพสต์โดย naproxen » 29 ต.ค. 2007, 12:32

หนังเรื่อง " โรงเรียนสัตยาไส  โรงเรียนในฝันของผม " ไม่เข้าฉายสักที ต้องขออภัยด้วยครับเนื่องจากช่วงนี้ชีวิต naproxen วุ่นๆ
แต่ขอให้สัญญาว่าภายในเดือน พฤศจิกายน 2550 หนังเรื่องนี้จะเข้าฉายที่นี้ให้ได้ครับ  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: Home School

โพสต์โดย naproxen » 30 พ.ย. 2007, 15:40

" โรงเรียนสัตยาไส  โรงเรียนในฝันของผม " ตอนที่1

ข้อความข้างล่างนี้เขียนโดย นางสาวรสสุคนธ์  อุ่นอุพันธ์  อดีตนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียน สัตยาไส
คัดลอกจาก หนังสือเรื่อง "อัจฉริยะบนทางสีขาว  ดร.อาจอง  ชุมสาย ณ อยุธยา" ผู้แต่ง คุณ สานุพันธ์  ตันติศิริวัฒน์ 
บรรณาธิการ คุณ อิศวเรศ ตโมนุท

จากศิษย์ถึงอาจารย์

นับตั้งแต่วันแรกที่หนูได้เข้ามาอยู่ในโรงเรียน
สัตยาไส  หนูได้เจอสิ่งดีๆหลายอย่างทั้ง ธรรมชาติ  เพื่อน  ครู
แต่สิ่งที่ดีไปกว่านั้นก็คือการได้พบกับอาจารย์ท่านทำให้หนูได้มี
โอกาสมากกว่าเด็กทั่วไป  ได้เรียนรู้ในทุกๆเรื่องได้แสดงความสามารถ
อย่างเต็มที่ กล้าที่จะไปให้ถึงความฝัน  ซึ่งถ้ามองภายนอกทุกคนอาจจะ
เห็นว่าอาจารย์เป็นคนเก่ง แล้วก็มากไปด้วยความสามารถ
แต่จะมีสักกี่คนรู้บ้างไหมว่านอกจากความสามารถแล้วท่านยังเต็ม
ไปด้วยความเมตตาความรัก  อาจารย์ช่วยเหลือทุกคนทำทุกอย่างเพื่อ
ให้ทุกคนมีความสุข  ซึ่งหนูเองก็เป็นหนึ่งในบุคคลเหล่านั้นที่ได้รับ
การช่วยเหลือจากอาจารย์  บางทีสิ่งที่อาจารย์ให้หนูก็รู้สึกว่ามันมาก
เกินไปจนหนูเองก็ไม่กล้าที่จะรับ มันมากจริงๆคะ  อาจารย์ค่ะ
ถ้าวันนั้นอาจารย์ปล่อยให้หนูไปต่อม.ปลายที่อื่นอนาคตของหนูก็คง
เป็นได้แค่ผู้หญิงไร้ความสามารถใช้กำลังทำงานไปวันๆ  แต่ความห่วงใย
ของอาจารย์จากวันนั้นจนถึงวันนี้ทำให้หนูกล้าที่จะทำ  หนูมีโอกาส
ที่จะทำความฝันให้เป็นจริงมองเห็นอนาคต... ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
ที่ให้หนูนะค่ะ  หนูสัญญาว่าหนูจะไม่ทำให้อาจารย์ผิดหวังค่ะ

                                                นางสาวรสสุคนธ์  อุ่นอุพันธ์
                                          อดีตนักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนสัตยาไส
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: Home School

โพสต์โดย naproxen » 01 ธ.ค. 2007, 12:36

" โรงเรียนสัตยาไส  โรงเรียนในฝันของผม " ตอนที่2
บทความต่อไปนี้นำมาจาก website  http://www.onec.go.th/news46/pr/sala/s_491012-c.htm

รายการคิดได้ไง
ออกอากาศวันอาทิตย์ที่ 8 ตุลาคม 2549

" สัตยาไส พัฒนาคุณค่า..มนุษย์ "


การศึกษาปัจจุบันทั่วโลก ส่วนใหญ่มุ่งเน้นสร้างคนเก่งทางวิชาการ ซึ่งถ้าคนเก่งมีความรู้ มีความสามารถแต่ไม่ได้มีคุณธรรมกำกับไว้  คนเหล่านี้จะกลายเป็นบุคลที่ยึดประโยชน์ของตนเป็นใหญ่กว่าประโยชน์ของสังคม แล้วเมื่อความเก่งของเขานำใช้ไปในแนวทางที่ไม่ถูกต้อง ก็อาจกลายเป็นคนที่เบียดเบียนผู้อื่นและสร้างความเดือดร้อนแก่สังคมในที่สุด  อีกทั้งท่ามกลางกระแสที่โรงเรียนมุ่งสร้างคนเก่ง  ผู้เรียนจึงจำเป็นต้องแข่งขันกันเรียนเพื่อมุ่งเอาชนะ เมื่อมีผู้ชนะย่อมจะมีผู้แพ้ ถ้าคุณครูและผู้ปกครองไม่มีความเข้าใจ  ยิ่งสร้างความคาดหวังกดดันนักเรียน จนสร้างบรรยากาศความเครียดในการเรียนมากเกินไป ก็จะทำให้ผู้เรียนยิ่งเรียนยิ่งเป็นทุกข์  แต่ทว่าที่โรงเรียนสัตยาไส อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี ไม่ได้มีแนวคิดและบรรยากาศเช่นนั้น 

โรงเรียนสัตยาไสมีแนวคิดที่มุ่งสร้างคนดีก่อนคนเก่ง ด้วยความเชื่อที่ว่า ความดีสำคัญกว่าความเก่ง เมื่อนักเรียนมีคุณธรรมหรือคุณค่าความเป็นมนุษย์อยู่กับตัวแล้วเขาจะเป็นคนเก่งเอง  และยินดีที่จะใช้ความเก่งเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและสังคมต่อไป  นักเรียนที่โรงเรียนสัตยาไสจะใช้หลักเรียนรู้แบบร่วมมือ มากกว่าจะเน้นแข่งขันกันเรียน  เมื่อเพื่อนคนใดเรียนไม่ทันในวิชาใด ก็จะช่วยกันติวให้จนเข้าใจ เรียนไปพร้อมๆกัน ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อต่อกัน ไม่มีใครต้องถูกทิ้งอยู่ข้างหลัง  บรรยากาศการเรียนของที่ ร.ร. นี้จึงเป็นบรรยากาศการเรียนรู้ที่มีความสุข ทั้งนี้มีดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เป็นผู้บริหารสูงสุด ร่วมกับ ผู้ที่เห็นความสำคัญในการสร้างเยาวชนไทยให้เป็นคนดี ก่อตั้งโรงเรียนสัตยาไสขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการจัดการศึกษาที่เน้นสร้างคนดี จัดการบูรณาการคุณค่าความเป็นมนุษย์ในการศึกษาแก่เยาวชน  โรงเรียนสัตยาไสเป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนวิถีพุทธ จัดการศึกษาตั้งแต่ชั้นอนุบาล- ชั้นม. 6 เป็นโรงเรียนประจำกินนอน โดยนักเรียนจะต้องใช้ชีวิตเล่าเรียนศึกษาด้วยกันตลอดช่วงเปิดภาคเรียน ซึ่งน้องๆจะอยู่กินนอนอยู่ร่วมกันในกลุ่มบ้าน 5 หลัง ที่มีชื่อตามคุณธรรม 5 ประการ  คือสันติ  เปรมา ธรรมะ สัตยา และอหิงสา

กิจวัตรประจำวันภายในบ้านของนักเรียนที่นี้ ทุกๆวันหลังจากอาบน้ำเย็น น้องๆจะต้องซักถุงเท้าและชั้นใน  ซึ่งเป็นการฝึกความรับผิดชอบในเรื่องส่วนตัว ฝึกช่วยตนเอง นอกจากต้องช่วยฝึกความรับผิดชอบ ฝึกการช่วยตัวเอง รุ่นพี่ยังจะต้องช่วยดูแลน้องเล็ก ๆ ภายในบ้านด้วย ทั้งนี้ครูเพียงคอยดูแลอยู่ห่างๆ เท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างพี่โตและน้องเล็ก  อาหารที่นักเรียนที่นี้รับประทานยังเป็นอาหารมังสวิรัติ เพื่อจะฝึกให้เบียดเบียนสัตว์ให้น้อยที่สุด ทั้งนี้ก่อนที่จะรับประทานข้าวน้องๆต้องสวดมนต์และแผ่เมตตา  อันจะเป็นการช่วยกล่อมเกลาจิตใจน้องๆให้อ่อนโยน กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ และปลูกฝังความเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลก  กิจวัตรสุดท้ายก่อนนอนน้องๆยังจะร่วมกันสวดมนต์นั่งสมาธิและแผ่เมตตา หลังจากนั้นพี่ๆที่โตแล้วจะสลับกันเล่านิทานให้น้องๆฟัง นิทานที่เล่าให้ฟังก็จะสอดแทรกจริยธรรมแก่น้องๆด้วยครับ

เวลา ตี 5 ครึ่ง สำหรับคนหลายๆคนอาจจะยังเป็นเวลาที่นอนต่อได้อีก แต่สำหรับน้องๆนักเรียนโรงเรียนสัตยาไสเวลานี้เป็นเวลาที่ทุกคนต้องมาสวดมนต์ที่ห้องพระ ภายหลังจากการสวดมนต์ทุกครั้งก็จะมีการนั่งสมาธิ โดยนำสติมาอยู่ภายในจิตใจ พิจารณาลมหายใจ และแสงสว่าง ซึ่งสำหรับน้องๆที่โรงเรียนสัตยาไส การสวดมนต์และนั่งสมาธิจะเป็นสิ่งที่กระทำกันอยู่บ่อยครั้งในแต่ละวัน  ทั้งก่อนรับประทานอาหาร 3 มื้อ ก่อนเรียนในแต่ละวิชา  และก่อนนอน ระยะเวลานานครั้งละ 5-10 นาที เหล่านี้ทำให้น้องๆ รวบรวมสติและสมาธิมาอยู่กับจิตใจ อันเป็นพื้นฐานมั่นคงในการเรียนรู้วิชาการและมีคุณธรรมอยู่ตลอดทั้งวันและตลอดไป ทั้งยังทำให้น้องได้มีเวลาพิจารณาทบทวนการกระทำในอดีตและปัจจุบันอย่างเป็นกุศล เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากภายในจิตใจ โดยอาจารย์โรงเรียนสัตยาไสเปิดเผยว่า นักเรียนที่นี้เมื่อนั่งสมาธิเป็นประจำส่วนใหญ่ จะช่วยพัฒนาจิตใจให้อ่อนโยน และพฤติกรรมของนักเรียนจากที่เคยก้าวร้าว ก็เปลี่ยนแปลงดีขึ้น

ภายหลังจากการเคารพธงชาติ วิชาแรกนักเรียนทุกชั้นต้องเรียนคือ วิชาคุณค่าความเป็นมนุษย์ 

สำหรับชั้นเรียนเด็กเล็ก การเรียนการสอนวิชาคุณค่าความเป็นมนุษย์ใช้กิจกรรมเล่านิทาน ร้องเพลง หรือเล่นเกม  ที่สอดแทรกคุณธรรมต่างๆ ที่โรงเรียนมีหลักการปลูกฝังสร้างความดีคือ คุณครูจะต้องคิด พูด และทำตัวเป็นแบบอย่างแห่งความดีแก่เด็ก ครูจะไม่สอนในสิ่งที่ตนเองทำไม่ได้  และดึงคุณธรรมความดี ความงามในจิตใจของเด็กๆออกมา ก่อเป็นแรงบันดาลที่จะทำความดี ทำประโยชน์เกื้อกูลผู้อื่น ขณะที่วิชาคุณค่าความเป็นมนุษย์ ของนักเรียนโต จะใช้วิธีสอนโดยการนำเหตุการณ์บ้านเมืองมาแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์โดยใช้หลักคุณธรรม นำความเข้าใจในคุณธรรมมาใช้ประยุกต์ในสังคมชีวิตประจำวันได้ ถึงแม้วันนี้คุณธรรมในจิตใจน้องๆจะยังเล็ก แต่ในอนาคตคุณความดีที่ปลูกอยู่ภายในจิตใจพวกเขาจะเติบโตและเบิกบาน สร้างคุณประโยชน์แก่ตัวเขาและผู้อื่นต่อไป 

โรงเรียนสัตยาไสได้รับการก่อตั้งขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว เพื่อเป็นโรงเรียนตัวอย่างการจัดการศึกษาโดยให้เด็กเป็นเลิศในเรื่องคุณธรรม จนเป็นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนวิถีพุทธ ของกระทรวงศึกษาธิการ  ต้อนรับผู้สนใจศึกษาแนวทางการนำคุณธรรมไปถ่ายทอดแก่เยาวชนไทยอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางโรงเรียนก็ยินดีให้ผู้มาเยี่ยมชมการสาธิตการเรียนรู้การสอน  รวมถึงสัมผัสเรียนรู้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับน้องๆ นักเรียน  ซึ่งกระบวนการเรียนรุ้เหล่านี้จะทำให้คณะดูงานเกิดความประทับใจ แล้วเกิดแรงบันดาลใจไปปฏิบัติในสถานศึกษาของตนต่อไป  นอกจากนี้โรงเรียนสัตยาไสยังเป็นสถานที่อบรมครู และผู้สนใจที่มาจากทั่วโลกเพื่อเรียนรู้วิธีการสอนคุณธรรม ซึ่งมีครูชาวต่างชาติมาเรียนรู้มากมายที่นี้  เกิดเป็นเครือข่ายแห่งการเรียนรู้สร้างความดีแก่เยาวชนไปทั่วโลก

โรงเรียนสัตยาไส 99 หมู่ 2 ถนนสุรนารายณ์ ตำบลลำนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จ.ลพบุรี  15130

โทร. 01-850 -0276
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: Home School

โพสต์โดย azzuri » 07 ธ.ค. 2007, 01:37

ทราบว่า การศึกษาแบบ home school มีที่เดียวที่จะประเมิน และรับรองคือ ที่กระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น

แล้วคุณหลานๆ ของผม มีกำหนด ที่จะรับการประเมินของกระทรวงเมื่อไรครับ
เภสัชกร = เภสัชกรรม + กรรมกร
อยากให้โลกนี้ไม่มีโชคร้าย
Welcome to My Life
Casa di AzzurRi = บ้านของนาย อัซซูร์รี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
azzuri
Global Moderator
 
โพสต์: 777
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มี.ค. 2004, 16:22
ที่อยู่: สกลนคร

Re: Home School

โพสต์โดย kohboy » 07 ธ.ค. 2007, 09:05

azzuri เขียน:ทราบว่า การศึกษาแบบ home school มีที่เดียวที่จะประเมิน และรับรองคือ ที่กระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น

แล้วคุณหลานๆ ของผม มีกำหนด ที่จะรับการประเมินของกระทรวงเมื่อไรครับ


การประเมิน ทำโดยสำนักงานเขตการศึกษาพื้นที่ๆเราอยู่  สนง.นี่เข้าใจว่ามีอยู่ทุกจังหวัดครับ,


สำหรับช่วงเวลาที่จะทำการประเมิน .. ก็ช่วงเดียวกันกับที่โรงเรียนเค้าสอบปลายภาคเรียนที่2 แหละครับ

:D
ภาพประจำตัวสมาชิก
kohboy
 
โพสต์: 1437
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2006, 14:51

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง อาราบิก้า

ผู้ใช้งานขณะนี้

cron
New Document