ทำไมต้องใช้วิธีสวนกาแฟ ดื่มเอาไม่สะดวกกว่าหรือ
โพสต์แล้ว: 24 ส.ค. 2006, 13:35บทความนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อความเข้าใจที่ดีขึ้น เกี่ยวกับ การสวนลำไส้ใหญ่ด้วยกาแฟ
คาเฟอีน มีคุณสมบัติ เป็นสารกระตุ้นการทำงานของตับ ตับของคนเรามีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ การขับสารพิษออกจากร่างกาย หากตับถูกคาเฟอีนกระตุ้นให้ทำงานมากขึ้น ก็เท่ากับว่าตับสามารถขับสารพิษออกนอกร่างกายได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ฤทธิ์ของคาเฟอีน ยังทำให้ท่อน้ำดีขยายตัว ท่อน้ำดีเป็นหนทางหนึ่งในการลำเลียงพิษที่ตับขับออกนอกร่างกาย ทางออกของท่อน้ำดีกว้างขึ้นก็เท่ากับว่าสารพิษถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้นนั่นเอง
ทำไมต้องใช้วิธีสวนกาแฟ ดื่มเอาไม่สะดวกกว่าหรือ
คาเฟอีนในกาแฟเป็นอะไรที่ไม่ต้องย่อย สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทางผนังกระเพาะอาหารและผนังลำไส้ได้ในทันที หากดื่มกาแฟเข้าไป คาเฟอีนจะถูกดูดซึมเข้าสู่เส้นเลือดดำในกระเพาะอาหาร และหากสวนกาแฟ คาแฟอีนก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่หลอดเลือดดำในลำไส้ใหญ่
ถ้าเราดื่มกาแฟเข้าไป คาเฟอีนจะซึมผ่านเส้นเลือดดำที่กระเพาะทันที และจะลัดทางเข้าสู่หัวใจทางเส้นเลือดเข้าหัวใจ (phrenic vein) เมื่อเราดื่มกาแฟ คาเฟอีนจะออกฤทธิ์เร็วมาก ใครดื่มกาแฟแล้วมือสั่นใจสั่น ก็จะรู้สึกได้แทบจะทันที เหมือนกับการออกฤทธิ์ของยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำ
แต่เส้นเลือดที่พาคาเฟอีนไปที่ตับจากกระเพาะอาหารนั้น มีขนาดเล็กนิดเดียว(left gastric vein) ดังนั้นหากดื่มกาแฟเข้าไป คาเฟอีนที่จะถูกส่งไปกระตุ้นตับจะมีน้อยมาก ถ้าต้องการดื่มกาแฟในปริามาณที่กระตุ้นให้ตับขับสารพิษ ก็ต้องดื่มกาแฟในปริมาณที่ทำให้นอนไม่หลับ และท้องผูก การดื่มกาแฟเพื่อล้างพิษจึงเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าใช้วิธีสวนกาแฟเข้าไปในลำไส้ใหญ่ เนื่องจากหลอดเลือดดำของลำไส้ใหญ่ มีขนาดใหญ่และมีมาก และเส้นเลือดดำที่จะรวบรวมหลอดเลือดในลำไส้ไปส่งให้ตับนั้นมีขนาดใหญ่มาก หากเราใช้วิธีสวนกาแฟ คาเฟอีนจากลำไส้ใหญ่ก็จะถูกลำเลียงไปตับได้ทั้งหมด และมีปริมาณมากพอให้ตับทำหน้าที่ล้างพิษได้
ข้อควรระวังในการสวนกาแฟ
1. ความสูงของก้นหม้อสวนกับพื้นที่จะใช้สวนไม่ควรสูงเกิน 3 ฟุต
2. หม้อสวนที่จะใช้ควรเป็นแบบถอดทำความสะอาดได้เป็นส่วนๆ ถ้าใช้แบบถุงพลาสติกแบบที่ขายๆกัน ให้ใชเครั้งเดียวทิ้ง
ฝรั่งเขาประดิษฐ์มาให้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่คนไทยใช้ซ้ำซากน่ากลัวจะติดเชื้อรา
3. น้ำที่ใช้สวนมีอุณหภูมิปกติ ห้ามใช้น้ำร้อนจัดเหมือนการชงกาแฟดื่ม เพราะมันจะลวกลำไส้ใหญ่ของคุณ
ข้อห้ามในการสวนกาแฟ
1. คนที่ผ่าตัดลำไส้มาไม่เกิน 1 เดือนครึ่ง
2. คนที่มีพังผืดในช่องท้องมากจากประวัติการผ่าตัดหลายครั้ง เพราะสวนแล้วอาจจะปวดท้องได้
3. คนท้อง ห้ามสวนอย่างเด็ดขาด
4. คนแก่มากแล้ว หรือเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ห้ามสวนเอง
5. คนที่แพ้กาแฟ
คาเฟอีน มีคุณสมบัติ เป็นสารกระตุ้นการทำงานของตับ ตับของคนเรามีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่ง คือ การขับสารพิษออกจากร่างกาย หากตับถูกคาเฟอีนกระตุ้นให้ทำงานมากขึ้น ก็เท่ากับว่าตับสามารถขับสารพิษออกนอกร่างกายได้มากกว่าเดิม นอกจากนี้ฤทธิ์ของคาเฟอีน ยังทำให้ท่อน้ำดีขยายตัว ท่อน้ำดีเป็นหนทางหนึ่งในการลำเลียงพิษที่ตับขับออกนอกร่างกาย ทางออกของท่อน้ำดีกว้างขึ้นก็เท่ากับว่าสารพิษถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้นนั่นเอง
ทำไมต้องใช้วิธีสวนกาแฟ ดื่มเอาไม่สะดวกกว่าหรือ
คาเฟอีนในกาแฟเป็นอะไรที่ไม่ต้องย่อย สามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ทางผนังกระเพาะอาหารและผนังลำไส้ได้ในทันที หากดื่มกาแฟเข้าไป คาเฟอีนจะถูกดูดซึมเข้าสู่เส้นเลือดดำในกระเพาะอาหาร และหากสวนกาแฟ คาแฟอีนก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่หลอดเลือดดำในลำไส้ใหญ่
ถ้าเราดื่มกาแฟเข้าไป คาเฟอีนจะซึมผ่านเส้นเลือดดำที่กระเพาะทันที และจะลัดทางเข้าสู่หัวใจทางเส้นเลือดเข้าหัวใจ (phrenic vein) เมื่อเราดื่มกาแฟ คาเฟอีนจะออกฤทธิ์เร็วมาก ใครดื่มกาแฟแล้วมือสั่นใจสั่น ก็จะรู้สึกได้แทบจะทันที เหมือนกับการออกฤทธิ์ของยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำ
แต่เส้นเลือดที่พาคาเฟอีนไปที่ตับจากกระเพาะอาหารนั้น มีขนาดเล็กนิดเดียว(left gastric vein) ดังนั้นหากดื่มกาแฟเข้าไป คาเฟอีนที่จะถูกส่งไปกระตุ้นตับจะมีน้อยมาก ถ้าต้องการดื่มกาแฟในปริามาณที่กระตุ้นให้ตับขับสารพิษ ก็ต้องดื่มกาแฟในปริมาณที่ทำให้นอนไม่หลับ และท้องผูก การดื่มกาแฟเพื่อล้างพิษจึงเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าใช้วิธีสวนกาแฟเข้าไปในลำไส้ใหญ่ เนื่องจากหลอดเลือดดำของลำไส้ใหญ่ มีขนาดใหญ่และมีมาก และเส้นเลือดดำที่จะรวบรวมหลอดเลือดในลำไส้ไปส่งให้ตับนั้นมีขนาดใหญ่มาก หากเราใช้วิธีสวนกาแฟ คาเฟอีนจากลำไส้ใหญ่ก็จะถูกลำเลียงไปตับได้ทั้งหมด และมีปริมาณมากพอให้ตับทำหน้าที่ล้างพิษได้
ข้อควรระวังในการสวนกาแฟ
1. ความสูงของก้นหม้อสวนกับพื้นที่จะใช้สวนไม่ควรสูงเกิน 3 ฟุต
2. หม้อสวนที่จะใช้ควรเป็นแบบถอดทำความสะอาดได้เป็นส่วนๆ ถ้าใช้แบบถุงพลาสติกแบบที่ขายๆกัน ให้ใชเครั้งเดียวทิ้ง
ฝรั่งเขาประดิษฐ์มาให้ใช้ครั้งเดียวทิ้ง แต่คนไทยใช้ซ้ำซากน่ากลัวจะติดเชื้อรา
3. น้ำที่ใช้สวนมีอุณหภูมิปกติ ห้ามใช้น้ำร้อนจัดเหมือนการชงกาแฟดื่ม เพราะมันจะลวกลำไส้ใหญ่ของคุณ
ข้อห้ามในการสวนกาแฟ
1. คนที่ผ่าตัดลำไส้มาไม่เกิน 1 เดือนครึ่ง
2. คนที่มีพังผืดในช่องท้องมากจากประวัติการผ่าตัดหลายครั้ง เพราะสวนแล้วอาจจะปวดท้องได้
3. คนท้อง ห้ามสวนอย่างเด็ดขาด
4. คนแก่มากแล้ว หรือเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ห้ามสวนเอง
5. คนที่แพ้กาแฟ
