PharmaCafe.com

ผมไปประชุมที่เชียงใหม่ครับ เป็นการประชุมที่จัดโดย ม.ช. และได้มีโอกาสฟัง รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ พูดเกี่ยวกับเรื่อง FTA ของไทย-อเมริกาในเรื่องสิทธิบัตรยา (ความจริงมันมีเรื่องการตรวจวินิจฉัยและรักษาด้วย)

ความจริงอยากให้อาจารย์มาเล่าเป็นฉากๆเลย เพราะอ่านบทความแล้วมันไม่ค่อยรับรู้ถึงอันตรายของ FTA ซักเท่าไหร่ แต่ถ้าจากการไปฟังมามันค่อนข้างอันตรายมากๆ ไม่รู้ว่าอเมริกากล้าเสนอมาให้เราได้อย่างไร (คิดว่าเมืองไทยสิ้นเภสัชกรดีๆไปหมดแล้วเหรอ) แต่ไม่รู้ว่าท่านอาจารย์จะแวะเข้ามาในนี้บ้างไม๊ ผมว่าเท่าที่ผมไปฟังมา เรื่องนี้น่าสนใจมากๆเลยทีเดียวแหละครับ เป็นเรื่องที่เราเองต้องแสดงบทบาทอะไรออกมาซักอย่างเพื่อให้ประเทศไทยรู้ว่า เรื่องนี้เภสัชฯต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกๆด้านที่เกี่ยวกับยา

http://www.ftawatch.org/autopage1/show_ ... d=8&d_id=8

เคยได้ดูรายการที่ อ.ท่านนี้มาพูดเหมือนกัน
แย่มากๆ รู้สึกกลัวมันเลยจริงๆ

ไม่ต้องไปกลัวครับน้อง Pharma เรื่องพวกนี้อีกหน่อยมาแน่...ไม่มาวันนี้ก็มาพรุ่งนี้...ไทยไม่เซ็นเอง USA ก็เซ็นกับ ASEAN ซึ่งรวมไทยด้วย...
ผมเชื่อว่าไม่พ้นรุ่นเราๆ นี่ล่ะครับ...มีเห็นแน่...FTW = Free Trade World...

มาเตรียมความพร้อมไว้ดีกว่าครับ...เพื่อความไม่ประมาท


ชะแว้บบบ

ผมว่าสิ่งที่เราจะต้องทำ ไม่ใช่ทำใจรับมันเข้ามาครับ
สิ่งที่เราต้องทำคือ การชะลอเวลาในการมาของมันให้นานที่สุดครับ

เราต้องทำมันอยู่แล้วในอนาคต
แต่ขอเวลาอีกนานๆหน่อยครับ

เหมือน คนทุกคนจะต้องตายแน่นอน แต่ยังไงซะเราก็อยากมีอายุยืนยาวที่สุด จริงไม๊ครับ

เรื่อง PICS/GMP กับ การขึ้นทะเบียนตำรับ ดิฉันเห็นด้วยกับภาครัฐเต็มที่ค่ะ เพราะผู้ได้รับผลประโยชน์คือผู้บริโภคค่ะ อย่างไรก็ตามดิฉันก็ยังมีความคิดเห็นว่าการพัฒนาคุณภาพยาควรจัดลำดับความสำคัญเป็นอันดับแรกค่ะ

หน้าที่ของเภสัชโรงงานอย่างเราๆ คือ หาวิธีทางที่จะปรับปรุงโรงงานให้เป็นไปตามนโยบายภาครัฐ และเสนอแนวทางที่ประหยัดตังค์ผู้ประกอบการให้มากที่สุด

Harmonisation Trip Plus 2006

แล้วตอนนี้มีใครติดตามเรือง FTA Thai-India บ้างไหมคะ
เห็นว่ามีข้อตกลงหนึ่งจะให้ไทยยอมให้บุคคลากรทางการแพทย์จากอินเดีย มาทำงานในไทยได้ (ซึ่งรวมถึงเภสัชกรจากอินเดีย)