kohboy เขียน:มันมีอยู่สองเรื่องหลักๆ ที่จะจัดการกับเงินออม ครับ
ได้แก่
1. เงินสด และ ตราสารหนี้
2. ตราสารทุน
เดี๋ยวค่อยมาว่ากันต่อนะครับ

ผมมีอีกวิธีครับแบบว่านิ่มๆ ช้าๆ ตอบแทนมากกว่าสองวิธีข้างบน แต่ ไม่มีใครมาแชร์ความเสี่ยง
ผมมองมาสอง ถึงสามปีแล้วครับ โดยให้เพื่อที่ทำงานที่ เป็นโบลกเกอร์
คือให้หาพอร์ตหุ้น ซักพอร์ต ที่ไม่ดังมาก ไม่เป็นเป้าสายตามากนัก..เก็บไว้ซักพอร์ต
เพื่อจะเอาไว้เก็บกินปันผล(devidence)ซึ่งเท่าที่รู้คือกลุ่ม อาหาร
ที่ผมสนใจวิธีที่สามนี้ เพราะว่า คล้ายๆกับสองวิธีแรก แต่เราไม่มีใครดูแลความเสี่ยงให้ ต้องดูเอง
ต้องเข้าใจนะครับไม่เชิงว่าเป้นการเล่นหุ้น เพื่อซื้อเช้าขายบ่าย หรือ ซื้อบ่ายขายเช้า
แต่เป็นการหาพอร์ต ซึ่ง คำว่าพอร์ต คือ หุ้นหลายตัว ที่บวกลบ ความเสี่ยงแล้วอยู่ตรงกลาง
ซื้อไว้ ซักพอร์ต พอ ปลายปี ปันผล....ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้มีความเสี่ยงกว่า แต่ก้อใช่ว่า สองวิธีข้างบนไม่มีความเสี่ยง
แต่อย่างที่บอกคือ สองวิธีข้างบน มีคนดูให้ แต่ วิธีนี้ต้องดูเองครับ
ซึ่งการออมก้อ คือ การลงทุนเหมือนกัน
ทำไมถึงเรียกว่าการลงทุน...ก้อ เพราะเวลาเอาเงินไปฝากธนาคาร แล้วได้ดอก..ดอกคือ รายได้ที่เกิดจากการฝาก
ดังนั้น การออม ก้อคือ การลงทุน
ซึ่ง หลักการลงทุน คือ
high risk high return...................and no free lunch
ดอกที่เราได้มา ก้อ มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่ได้มาฟรีๆ ค่าใช้จ่ายก้อคือ ...ภาษีทีถูกหัก
ดังนั้นหากมองว่าการออมคือการลงทุน ถ้ามีช่องทางอื่น ที่ให้ดอก ผล ที่ดีกว่า
ซึ่งผมอยากเอาไปลงทุนในแบบ ที่สาม
เหตุผลที่ไม่เลือก สองวิธีข้างบนเพราะ......ทุกคนคิดเหมือนพี่เกาะครับ
รู้ได้งั้ยว่า คิดเหมือนกับพี่เกาะหมด......สังเกตจากการประกาศขาย ตราสารต่างๆ หรือ กองทุนรวม
คือ พอเริ่มขายได้ไม่กี่นาที มันก้อหมดแล้ว.."ปซื้อไม่ทันซักที
ดังนั้นการลงทุนในแบที่สาม (ในความคิดผม)น่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และหากว่าเราไม่อยากทำต่อ
เราสามารถที่จะเลิ กได้ทันที อย่างเช่นมีความจำเป็นที่จะเอาเงินไปลงทุนด้านอื่น
สามารถเอาพอร์ตที่ถือ อยู่มาขายในตลาดได้
และอย่างที่บอกครับ ผมจะให้เพื่อนที่เป็นโบลกเกอร์ ช่วยดูให้ไม่ใช่ว่าผมจะดูเองทั้งหมด
เพราะผมไม่มีเวลาเช็กสถานการณ์ได้ ทั้งวัน