Updateค่าตัวเภสัช มีของอย่าไปกลัว มัวแต่ดักดานก้อแค่120

[เมจิก พี]

ขอบอกน้องๆว่า ร้านยา"เชน"บางแห่งจ้างเภสัชไม่รวมใบประกอบไม่ถึง2หมื่นต่อเดือน แต่อาจจะให้ค่าใบเกินหมื่น มันเป็นคนละส่วนกัน น้องๆคงต้องทำงานกันหลายปีกว่าจะได้เงินเดือนเท่ากับมาตรฐานที่คนอื่นเขาได้กันมาก่อนแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปมาตรฐานเงินเดือนก็คงปรับหนีห่างออกไปอีก ก็คงจะตามไม่ทันอยู่ดี และที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งคือ Jobdescription ที่ผู้มีอำนาจในเชนไม่บอกเรื่องนี้ให้ชัดเจนลงไปว่ามีไรบ้าง1,2,3,4,5....มักจะพูดกว้างๆอาจจะเน้นเฉพาะงานหลักๆบางงานที่บอกชัด นอกนั้นก็มักจะบอกว่าให้ช่วยๆๆกัน เป็นความฉลาดของผู้บริหาร เพราะน้องๆจะไม่รู้เลยว่าขอบเขตงานมันอยู่ตรงไหน แต่พอน้องบางคนคิดว่าอันนี้มันน่าจะเกินหน้าที่ความเป็นเภสัชกรในร้านยาแล้ว และออกมาโพสเล่าให้เพื่อนๆฟัง ก็จะถูกตอบโต้จากผู้เสียประโยชน์ว่า น้องคนนั้นให้ร้ายหรือไม่พอใจบริษัทเป็นการส่วนตัว บอกแล้วมันเป็นความชาญฉลาดของผู้บริหารแต่ไม่เป็นธรรมกับน้องๆเภสัช สรุปว่าก่อนไปทำงานกับร้านเชน ต้อง
1.เงินเดือนไม่รวมใบต้อง23000บาทขึ้นไป
2.ขอบเขตหน้าที่เภสัชในร้านต้องชัดเจนละเอียดทุกเม็ดได้ก็ดี
3.อย่าไปทำงานกับร้านเชนที่รับเภสัชไปเป็นพระอันดับเท่านั้นคือมีเภสัชเพื่อให้ครบองค์ประกอบของร้านยามาตรฐานแต่ไม่ค่อยมีบทบาทด้านงานบริบาลเภสัชกรรมเท่าที่ควร

[noohappy]

คุณ เมจิกพี ตอบได้ตรงประเด็นมาก ถูกทุกอย่างที่เขียนมา อยากให้น้องๆที่กำลังจะจบ หรือเพิ่งจบแล้วกำลังหางานใหม่ทำ ได้ตระหนักและคิดให้ดีๆก่อนตัดสินใจทำงานในร้านยา เชน ทั้งหลาย เพราะทุกที่จะคล้ายๆกันหมด อย่างที่คุณ เมจิกพี เขียน จริงๆอยากให้สภาเภสัชรับทรสบปัญหาและหามาตรการแก้ไขด้วย สงสารน้องๆที่คิดจะมาทำร้านยาเชนอ่ะ

[noohappy]

Up date ja

[เมจิก พี]

มีบางร้านที่จะไม่ให้เภสัชกรประจำร้านได้รับทราบข้อมูลการขายในแต่ละวันเช่นสรุปยอดขายประจำวัน ขายยาไรไปบ้างเป็นจำนวนเท่าไร เป็นต้นให้ทำเพียงคีย์ขายเท่านั้น ส่วนผู้ช่วยจะรู้ข้อมูลเกือบทั้งหมดเพราะเปิดดูได้มีรหัส ผู้ช่วยก็จะไม่กล้าบอกแม้ถาม เพราะเจ้าของร้าน(ทั้งที่เป็นและไม่เป็นเภสัช)สั่งห้ามไว้ แสดงถึงความไว้วางใจที่ต่างกัน คงเป็นเหตุผลทางธุรกิจ แต่เรื่องนี้ประเมินคร่าวๆไม่ยาก แต่การทำงานร่วมกันถ้าไม่ไว้วางใจกันเท่าที่ควรแล้วมันจะไปต่อยังไง

[0verskill]

มีบางร้านที่จะไม่ให้เภสัชกรประจำร้านได้รับทราบข้อมูลการขายในแต่ละวันเช่นสรุปยอดขายประจำวัน ขายยาไรไปบ้างเป็นจำนวนเท่าไร เป็นต้นให้ทำเพียงคีย์ขายเท่านั้น ส่วนผู้ช่วยจะรู้ข้อมูลเกือบทั้งหมดเพราะเปิดดูได้มีรหัส ผู้ช่วยก็จะไม่กล้าบอกแม้ถาม เพราะเจ้าของร้าน(ทั้งที่เป็นและไม่เป็นเภสัช)สั่งห้ามไว้ แสดงถึงความไว้วางใจที่ต่างกัน คงเป็นเหตุผลทางธุรกิจ แต่เรื่องนี้ประเมินคร่าวๆไม่ยาก แต่การทำงานร่วมกันถ้าไม่ไว้วางใจกันเท่าที่ควรแล้วมันจะไปต่อยังไง

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ธุรกิจสมัยนี้มันไม่ได้แค่ ครบองค์ประกอบแล้วเปิดไปวันๆครับ การแข่งขันยิ่งรุนแรงมาก มันต้องtrust ไว้วางใจกันร่วมมือกันแล้วเดินหน้าไปด้วยกันครับ จะแข่งขันได้มันต้องเกิดจากทุ่มเทจากทุกคน ส่วนเรื่องปิดบัง ผมก็ไม่รู้จะปิดบังไปทำไม เภสัชที่คีย์ขายเข้าเครื่องเขาก็ประเมินออกพอสมควรล่ะครับว่ายอดขายประมาณไหนก็หยิบขายเอง GP%ประมาณไหน ค่าเช่าที่ราวๆเท่าไร ค่าจ้างผู้ช่วย กลัวว่าเภสัชรู้แล้วจะหนีออกไปทำเองหรือเปิดแข่ง อันนี้มันก็ยิ่งแปลก ถ้ากลัวเขาหนีก็เลี้ยงดูเขาให้ดีสิครับ ยิ่งถ้าเห็นว่าเขาเก่งจริงมีความสามารถช่วยคุณบริหารงานได้หลายอย่าง มีคุณค่าต่อเครือร้านยาของคุณ สามารถช่วยบริหารทำกำไรให้คุณได้เป็นกอบเป็นกำ ก็ขึ้นเงินเดือนเลี้ยงเขาให้ดีสิครับ ให้ความก้าวหน้าเขา เขาจะได้ทุ่มเททำงานช่วยแบ่งเบาภาระคุณได้ คุณจะได้ไปคิดลงทุนเรื่องอื่นต่อ ส่วนเรื่องบอกว่ารายได้ของร้านยาไม่พอที่จะจ้างเภสัชที่เงินเดือนสูง คำถามก็ต้องย้อนกลับไปตั้งแต่ทีแรกแล้วว่าคุณทำ project feasibility ศึกษา 5 forces มายังไงคุณถึงแน่ใจว่าทางเลือกในการลงทุนคือเปิดร้านยา ถ้ามันไม่ผ่านคุณก็ต้องไม่เปิดมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่เปิดมาก่อนแล้วมานั่งลดcost ลดเงินเดือนเภสัช หรือแขวนป้าย

[noohappy]

Up date ja

[เมจิก พี]

ถึงจะรู้อยู่แก่ใจ(ว่างานของเภสัชประจำร้านไม่ได้มีแค่การทำยอดขายเท่านั้น งานด้านบริบาลเภสัชกรรม การบริหารยาคงคลัง การสั่งและติดตามยาที่สั่งให้ทันกับการขาย การดูแลยาในร้านให้เป็นระเบียบและถูกต้องตามหลักเภสัชวิทยาและข้อกำหนดของอย. การหาความรู้เพิ่มเติม เป็นต้น)แต่พอยอดขายตก เจ้าของกิจการเริ่มมีอาการไม่ค่อยพอใจผลงานของเภสัช เช่่นมานั่งคุมหน้าจอคอมทุกวันวันละหลายชั่วโมง เซ็นเซ่อร์ออเดอร์ยาสั่งของไปเจ้าของร้านล็อคเอาไว้ไม่สั่งต่อให้ ยาเชียร์บางตัวที่ไม่ใช่ยาเรียกหาเภสัชตั้งราคาไว้พอประมาณเพื่อไว้ทำกำไรให้ร้านยามปรกติก็ไม่เกิดปัญหาอะไร พอยอดขายตกเนื่องด้วยเหตุใกล้เปิดเทอมซึ่งเป็นเรื่องปรกติของทุกปี เภสัชจะโดนบ่นว่าทำไมตั้งราคาแพงทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้าน อย่างนี้เป็นต้น งานด้านอื่นๆของเภสัชดูมีความหมายน้อยลงทันทีถ้ายอดขายตก ได้ฟังเพื่อนๆเล่ามาก็เลยมาเลาสู่กันฟัง

[noohappy]

Up date ja

[Action = Reaction]

อย่าลืมยื่นภาษีกันด้วยนะจ๊ะ

[noohappy]

Up date ja

[เมจิก พี]

น่าแปลกใจอย่างยิ่ง หลายๆท่านประกาศหาเภสัช มีผู้สนใจสอบถามข้อมูลทั้งในเวบและอีเมล ถามตั้งแต่สัปดาห์ก่อนบ้าง เดือนที่แล้วก็เห็นมี แต่จขกท.ไม่ตอบ เอาแต่up date อย่างเดียว ถ้าตอบให้หายสงสัยก็อาจได้เภสัชไปทำงานแล้ว หรือไม่พอใจคำถาม คนถาม หรือมาเชคเรทติ้ง

[เมจิก พี]

Re: update ค่าตัวเภสัช
โดย เมจิก พี » 08 เม.ย. 2013, 00:40

ร้านยาแห่งหนึ่ง ให้ชั่วโมงละ 80 ทั้งๆ ที่เราเป็นเภสัช มีใบประกอบวิชาชีพ
อีกร้านเป็นร้าน chain ให้ชั่วโมงละ 100 บาท หักพัก 1 ชั่วโมง แถมจ่ายช้ามาก ต้องทวงถึงจะได้ค่าจ้าง
แต่บางทีก็จำเป็นต้องทำค่ะ ด้วยหลายเหตุผลประกอบกัน

ถ้าเรานืกถืงแต่เหตุผลหลายประการของเราเท่านั้น เราก็ต้องยอมตกเบี้ยล่างของผู้ประกอบการ และอาจทำให้เพื่อนร่วมวิชาชีพคนอื่นพลอยได้รับผลแห่งการกดราคาจากร้านนั้นไปด้วย เพราะถ้าวันใดที่น้องไม่ได้ทำร้านนั้นแล้วและมีเภสัชคนอื่นไปทำแทนเขาจะอ้างว่าเภสัชคนเก่าเขาก็จ้างเท่านี้
วันนี้เจอมากับตัวจริงๆ ลองโทรไปถามว่าทำงานที่ร้านนี้ให้เงินเดือนอย่างไร เขาบอกให้ค่าแรงชั่วโมงละ100 บาท ค่าใบ6000บาท เภสัชคนเก่าเขาก็ให้เท่านี้ นั่นไงผมเคยตอบแล้วเมื่อ8เมษาที่ผ่านมา เจ้าของร้านจะยึดเอาค่าจ้างที่เคยให้กับเภสัชคนเก่าป็นบรรทัดฐานทันทีถ้ารายได้ของคนเก่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ใช่อย่างกรณีนี้ ผลเสียก็จะตกกับเภสัชคนใหม่ทันทีถ้าเรายอมตามเจ้าของธุรกิจ ผมถึงบอกว่าเพื่อนๆน้องๆ อาจจะมีเหตุผลส่วนตัวที่จะยอมรับค่าจ้างถูกๆและทำงานกับร้านนั้น แต่หลังจากที่น้องไม่ได้ทำงานกับร้านนั้นแล้วมันก็จะเป็นผลเสียกับเพื่อนๆหรือน้องๆคนที่จะไปทำงานต่อจากน้องและผลเสียต่อภาพรวมมาตรฐานรายได้วิชาชีพ จริงอยู่มันอาจจะต่อรองกับเจ้าของได้ แต่จะได้หรือไม่ก็ไม่รู้ เพราะเขายึดตามที่ให้กับคนเก่า ไม่สนใจว่ากาลเวลามันผ่านไปแล้วค่าครองชีพก็เปลี่ยนไป ยาหลายตัวเช่น วิควาโปรับ สเตรปซิล แบนเนอร์โปรตีน ยาเขียว ยาขม ยาดมโป๊ยเซียนและอีกหลายๆยาก็ขึ้นราคาไปตั้งนานแล้วเจ้าของร้านก็ขายตามราคาใหม่แล้ว แต่ค่าตัวเภสัชแกจะยึดตามคนเก่ามันจะได้ไง จึงฝากบอกน้องๆเพื่อนๆว่าอย่ามองแต่มุมของตัวเอง ควรมองถึงผลที่จะมีต่อเพื่อนร่วมวิชาชีพด้วย
อีกเรื่องที่สำคัญและต้องดูให้รอบคอบคือ ผู้ประกอบการหลายท่าน มักจะให้เงินเดือนรวมใบประกอบเช่น 25000 บาท บ้าง 30000บาทบ้างลองมาแยกดู กรณี25000บาท เงินเดือน18000-20000(ไม่ได้มาตรฐาน) ค่าใบ 5-7000(พอได้อยู่) ถ้า30000เงินเดือน2-25000 (พอได้มาตรฐานนิดหน่อย)แต่ค่าใบ5000ถือว่าน้อยไปหน่อย ก็ขอให้พิจารณากันให้ดีๆทั้งเงินเดือนและค่าใบต้องตามราคาตลาดปัจจุบัน
P/T ชั่วโมงละ120-160 บาท เงินเดือนไม่รวมใบประกอบ 23000-35000 บาทเรื่องค่าใบประกอบส่วนมากจะอยู่6-7500บาท อันนี้หมายถึงในกรุงเทพและปริมลฑลรวมทั้งต่างจังหวัดบางแห่ง แต่เนื่องจากปัจจุบัน ใบประกอบมีว่างน้อย เพราะสอบกันได้น้อยหรือรอใบประกอบกันเยอะ ค่าใบประกอบในกรุงเทพและปริมลฑล ล่าสุดอยู่ที่8000บาmบางแห่งก็10000บาท ต่างจังหวัดก็ประมาณ10000ถึง12000บาทบางแห่งก็ให้ถึง15000บาท

[supissara]

แชร์ข้อมูลฝั่ง โรงงาน กันบ้างนะคะ

เด็กจบใหม่ -ทำงาน 5 วัน 23000 รวมใบประกอบ (เงินเดือน 18000 + ค่าใบ 5000)
-ทำงาน 6 วัน 25000 รวมใบประกอบ (เงินเดือน 20000 + ค่าใบ 5000)
เงินเดือนขึ้นปีละ 4-5 % บางที่ขึ้นเฉพาะเงินเดือนที่หักค่าใบประกอบออก ปีนึงขึ้น 800 ++
โบนัส ส่วนมากจะได้ 1 เดือน
โอทีชม.ละ 90++

ลองคิดดูกันนะคะว่า เงินเดือนของเภสัชโรงงาน มันน้อยขนาดไหน

[noohappy]

อยากเล่าประสบการณ์เรื่องวันหยุดบ้าง. a ทำงาน 6 วัน หยุด 1 วัน ดังนั้นใน 1 ปี เอจะได้วันหยุด 365/7 = 52 วัน และ เอก็ได้วันหยุดเพิ่มอีกเดือนละ 2 วัน ใน 1 ปี เอจะได้วันหยุดเพิ่มอีก 12*2= 24 ดังนั้นทั้งปีเอมีวันหยุดที่ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์ พักร้อน ลาป่วย ลากิจทั้งแบบได้เงินกับไม่ได้เงิน เท่ากับ 52+24=76 วัน. ส่วน b ทำงานในหนึ่งเดือนได้หยุด 4 วัน เป็นประจำทุกเดือน ดังนั้นใน 1 ปี บีจะมีวันหยุดที่ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์ พักร้อน ลาป่วย ลากิจทั้งแบบได้เงินกับไม่ได้เงิน เท่ากับ 12*4= 48 วัน ส่วน c ทำงานในหนึ่งเดือนได้หยุด 4 วัน เป็นประจำทุกเดือน และ ซีก็ได้วันหยุดเพิ่มอีกเดือนละ 2 วัน ใน 1 ปี ซีจะได้วันหยุดเพิ่มอีก 12*2= 24 ดังนั้นทั้งปีเอมีวันหยุดที่ไม่รวมวันหยุดนักขัตฤกษ์ พักร้อน ลาป่วย ลากิจทั้งแบบได้เงินกับไม่ได้เงิน เท่ากับ 48+24=72 วัน. กำลังจะบอกว่าทำงาน 6 วัน หยุด 1 วัน ใน 1 ปี มีวันหยุด 52 วัน ส่วนทำงานเดือนนึง หยุด 4 วัน ใน1 ปี มีวันหยุด 48 วัน ดังนั้น ทำงาน 6 วัน หยุด 1 วัน กับ ทำงานเดือนนึงหยุด 4 วัน จึงไม่ใช่ความหมายเดียวกันและก็ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง เพราะเมื่อเราไปเปิดปฏิทินดูก็จะพบว่าในบางเดือนก็อาจจะมี 5 จันทร์ หรือ 5 เสาร์ เป็นต้น หากสมัครงานที่ไหนก็ถามให้ดีๆด้วยล่ะว่าหยุดยังไง จะได้ไม่เหนื่อยมาก

[doodoojung]

แชร์ข้อมูล ฝั่งโรงงานบ้างครับ

สถานที่ปฏิบัติงาน กรุงเทพมหานคร (ค่อนข้างจะในเมือง ไม่ใช่แถบชานเมือง ทั้งหลายแหล่)
ทำงาน 8ชม./วัน จำนวน 5-6 วัน/สัปดาห์ (หยุดเสาร์เว้นเสาร์)
เงินเดือนเด็กจบใหม่+ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ 20000+5000 ใบประกอบ
มีประสบการณ์อัพขึ้นให้อีกน่าจะไม่เกิน 2000 บาท(ตามจำนวนปีที่เพิ่มขึ้น)
โอที เรียกได้ว่าไม่มี แต่ถ้ามีได้ชม.ละ 150 บาท

เมื่อลองมองๆดูแล้ว คิดว่ามันไม่คุ้มเลยกับค่าแรงที่ได้รับ

เพราะเราต้องทำหลายอย่างทั้งคุมคนงาน วางแผนงาน ดูความเรียบร้อยทั้งในไลน์ และเอกสาร ติดต่อตบตีกับฝ่ายอื่น และบุคคลภายนอกอีก

เมื่อไปมองงานสายอื่นๆพบว่า งานน่าจะสบายกว่า แถมรายได้ก็มากกว่า แรงกดดันมีเหมือนกัน แต่จะเป็นแรงกดดันคนละแบบ

ผู้ประกอบการน่าจะคำนึงถึงจุดนี้บ้าง

ถามเพิ่มเติมครับว่า รายได้ระดับนี้ ถือว่าเป็นปกติของเภสัชกรประจำโรงงาน หรือเปล่าครับ

และถึงเวลารึยังที่เราควรจะเรียกร้องในการอัพค่าตัวของวิชาชีพเราเพิ่มมากขึ้น