จริงๆแล้วคิดว่าเจ้าของร้านคงอยากให้ร้านเป็นที่รู้จักในสายตาประชาชนมากกว่าค่ะ
เป็นการถือโอกาสประชาสัมพันธ์ร้านไปในตัว เป็นธรรมชาติของผู้ลงทุนอยู่แล้วที่จะหาทุกวิถีทางเพื่อให้ไปรอด
เราในฐานะเป็นเภสัชกรแม้ลึกๆแล้วอาจไม่อยากทำ (หรืออาจจะอยากทำ) แต่เพื่อความบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น ควรเดินสายกลางไว้ค่ะ เจ้าของร้านอาจอยากให้เอายาไปขายแบบเคาะประตูบ้านเลย เราก็ดูว่าอันไหนที่เราควรจะทำได้หรือไม่ได้ ทำไปแล้วเสียภาพพจน์เภสัชหรือไม่ ทำไปแล้วขัดกับความรู้สึกก็ไม่ต้องทำ แต่ถ้าทำแล้วก็ทำให้ดี ทำตามบทบาทหน้าที่ของเรา เช่น สำรวจว่าแต่ละบ้านใครมีโรคประจำตัวไรบ้าง ใช้ยาอะไรอยู่ ได้จากที่ไหน (เก็บประวัติเป็นแฟ้มข้อมูลไปเลย) ข้อมูลเหล่านี้เป็นช่องทางให้เราแสดงบทบาทได้เต็มที่ (ในฐานะเภสัชกรชุมชน) เช่น ให้ข้อมูลเรื่องโรค การปฏิบัติตัว การใช้ยาที่ถูกวิธี และเป็นการสำรวจไปในตัวด้วยว่าในท้องถิ่นนั้นคนหรือโรงพยาบาลนิยมใช้ยายี่ห้อใด หรือในช่วงที่มีโรคระบาด เช่น ไข้หวัด 2009 อาจไปให้ความรู้ด้วยก็ได้
ทีนี้ก็จะเป็นผลดีคือ
1. ทำให้คนรู้ว่า เออ ร้านนี้ดีเนอะ เภสัชแนะนำดี วันหลังไปปรึกษาบ้างดีกว่า
2. เมื่อเค้ามาร้านเราแล้ว แนะนำไปดี มีหรือที่จะไม่ซื้อยาหรือ refill ยาจากเรา (ก็เราสำรวจไว้แล้วหนิ)
3. บอกคนข้างๆบ้างดีกว่าร้านนี้ดีนะ มีเภสัชกรเก่ง ใครๆก็พากันมาซื้อ:razz:
4. ยอดพุ่ง เจ้าของแฮปปี้ คนในร้านแฮปปี้:lol:
5. ทำให้ชาวบ้านทั่วไปได้รู้จักเสียทีว่าเภสัชกรเป็นใคร (ไม่ใช่หมอตี๋) มีความสำคัญอย่างไร ประมาณว่าไปร้านยาต้องถามหาเภสัชกร
ประเด็นนี้ภูมิใจสุดๆไปเลย (อัดอั้นมานาน ขอทีเหอะค่ะ)
อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเพ้อฝันไปบ้าง และถ้าทำจริงแล้วคงเหนื่อยและใช้เวลาน่าดู แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาน่าจะคุ้มค่าควรแก่การรอคอยนะคะ ดีกว่านั่งจับเจ่าที่ร้าน หายใจทิ้งไปวันๆ สู้หาอะไรทำแก้เซ็งไปดีกว่าค่ะ ลุยกันให้สุดๆไปเลย
สู้สู้ค่ะ เป็นกำลังใจให้