New Document









ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

เภสัชกรร้านยา

ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 09 ก.ค. 2010, 20:00

ร้านยาอย่างไรถึงจะดี
ประเภทของร้านยาในประเทศไทยในปัจจุบัน
ประเภทที่ 1 เป็นร้านยาที่มุ่งเน้นเพื่อเป้าหมายไปสู่การจ่ายยาให้กับคนซื้อยาอย่างมีอุดมคติของวิชาชีพเภสัชกรรม โดยคาดหวังผลระยะยาวว่าประชาชนจะให้เภสัชกรเป็นที่พึ่งในเรื่องยาในอนาคต
ประเภทที่ 2 เป็นร้านยาที่มุ่งเน้นเพื่อเป้าหมายไปสู่การสร้างกำไรสูงสุดมากกว่าการจ่ายยาอย่างมีอุดมคติ แม้แต่ร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นเจ้าของร้านยาบางร้านก็ตาม เป็นการหวังผลในระยะสั้น เพราะในที่สุดคุณค่าของความเป็นเภสัชกรของตนจะไม่เหลือ ใครๆก็สามารถจ่ายยาแบบนั้นได้ไม่จำเป็นต้องเป็นเภสัชกร
ลักษณะร้านยาที่ดี
1. ต้องมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติการในร้าน คอยแนะนำการใช้ยา และข้อควรปฏิบัติในระหว่างการใช้ยา ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2. ต้องมีการซักถามที่ดีก่อนจ่ายยา ไม่จ่ายยาชุดที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
3. ไม่จ่ายยาที่ทำให้หายชั่วคราว แต่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงกับผู้ป่วยในระยะยาว
4. มีการคัดสรรยาที่ดี และเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ไม่จ่ายยาด้อยคุณภาพที่ราคาถูก
5. มีการเขียนบนฉลากยาที่ภาชนะบรรจุยาที่จะให้กับผู้ป่วย ให้มีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
6. มีบริการจัดทำข้อมูลข่าวสารทางยา หรือเอกสารเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เห็นว่ามีประโยชน์กับประชาชนเป็นระยะๆ
7. กรณีซักถามแล้วเห็นว่าเกินความสามารถของตน ให้แนะนำผู้ป่วยให้เข้ารับการตรวจ และรับการรักษาในโรงพยาบาล
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35







Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย Pimano » 10 ก.ค. 2010, 17:31

อยากให้สภามาอ่านจัง :geek:
Pimano
 
โพสต์: 90
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ต.ค. 2006, 14:42

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย ShioMi » 10 ก.ค. 2010, 19:39

ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:ร้านยาอย่างไรถึงจะดี
ประเภทของร้านยาในประเทศไทยในปัจจุบัน
ประเภทที่ 1 เป็นร้านยาที่มุ่งเน้นเพื่อเป้าหมายไปสู่การจ่ายยาให้กับคนซื้อยาอย่างมีอุดมคติของวิชาชีพเภสัชกรรม โดยคาดหวังผลระยะยาวว่าประชาชนจะให้เภสัชกรเป็นที่พึ่งในเรื่องยาในอนาคต
ประเภทที่ 2 เป็นร้านยาที่มุ่งเน้นเพื่อเป้าหมายไปสู่การสร้างกำไรสูงสุดมากกว่าการจ่ายยาอย่างมีอุดมคติ แม้แต่ร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นเจ้าของร้านยาบางร้านก็ตาม เป็นการหวังผลในระยะสั้น เพราะในที่สุดคุณค่าของความเป็นเภสัชกรของตนจะไม่เหลือ ใครๆก็สามารถจ่ายยาแบบนั้นได้ไม่จำเป็นต้องเป็นเภสัชกร
ลักษณะร้านยาที่ดี
1. ต้องมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติการในร้าน คอยแนะนำการใช้ยา และข้อควรปฏิบัติในระหว่างการใช้ยา ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2. ต้องมีการซักถามที่ดีก่อนจ่ายยา ไม่จ่ายยาชุดที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
3. ไม่จ่ายยาที่ทำให้หายชั่วคราว แต่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงกับผู้ป่วยในระยะยาว
4. มีการคัดสรรยาที่ดี และเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ไม่จ่ายยาด้อยคุณภาพที่ราคาถูก
5. มีการเขียนบนฉลากยาที่ภาชนะบรรจุยาที่จะให้กับผู้ป่วย ให้มีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
6. มีบริการจัดทำข้อมูลข่าวสารทางยา หรือเอกสารเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เห็นว่ามีประโยชน์กับประชาชนเป็นระยะๆ
7. กรณีซักถามแล้วเห็นว่าเกินความสามารถของตน ให้แนะนำผู้ป่วยให้เข้ารับการตรวจ และรับการรักษาในโรงพยาบาล


จุดนี้ทำให้ลูกค้าติดร้านยาหมอตี๋มากกว่า ส่วนใหญ่ชาวบ้านมักบอกว่ากินแล้วดี ชอบมาก หายไว ผลข้างเคียงเหรอ..ไม่มี :redface:

เภสัชกรประจำ รพ. มักคุ้นเคย Danzen 1x3 แต่ร้านยาบางร้านจ่าย 2x3 จ่ายยาคลายกล้ามเนื้อ+NSAIDs 2 ตัว
เภสัชกล้าจ่ายไหม :roll:
ภาพประจำตัวสมาชิก
ShioMi
 
โพสต์: 88
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.พ. 2007, 14:34

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย ผัดหมี่ » 11 ก.ค. 2010, 12:18

ของดี ราคาถูกมีมั้ยนะ

ร้านยาอย่างไรถึงจะดี อันนี้แล้วเป็นมุมมองของใคร
ถ้าเป็นของลูกค้าผู้รับบริการละ
generation ลูกค้ายุคนี้อาจบอกว่าดี
แล้วลูกค้าใน generation ต่อๆไป ที่มีความรู้ในการเลือกบริการมากขึ้น แค่เภสัชกรอาจจะไม่พอมั้ง

น่าจะได้ทั้ง บริการดี สะอาดสะดวกซื้อ ราคาประหยัด มีดีไซน์ มิตรกับสิ่งแวดล้อม...

ถ้าเภสัชกรบริการดี แล้ววินัยคลังไม่ดี มีสินค้าหมดอายุมากเพื่อรอเปลี่ยนบริษัทหรือทำลายละ
(อันนี้ไม่ดีในแง่ ไม่ดีกับกระเป๋าตัวเองหรือของผู้อื่นแล้ว ยังสร้างขยะต่อสิ่งแวดล้อมอีก)
การทำป้ายยื่นบังภูมิทัศน์บ้าง อันนี้มองแล้วไม่ค่อยไม่สบายตาเวลาที่เห็น(ในบางที่)
...
ร้านยาดียุคนี้...ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยซิ ( to be green pharmacy)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ผัดหมี่
 
โพสต์: 231
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 22:22

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย ยุ่งยิ่ง » 11 ก.ค. 2010, 19:49

โดยส่วนตัวเวลาจะจัดยาหรือหยิบยาจ่ายออกไปจะถามตัวเองเสมอว่า ถ้าเป็นยาที่จะให้กับพ่อแม่เรา หรือ ตัวเราเองแบบนี้จะเอาให้กินมั๊ย
(ถ้าแบบนี้พ่อแม่เรากินได้ คนอื่นก็กินได้ เพราะของที่ให้พ่อแม่ เราให้ของที่ดีที่สุดเสมอ)
ยุ่งยิ่ง
 
โพสต์: 35
ลงทะเบียนเมื่อ: 05 พ.ค. 2010, 11:11

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย TDPharm » 11 ก.ค. 2010, 21:19

ยุ่งยิ่ง เขียน:โดยส่วนตัวเวลาจะจัดยาหรือหยิบยาจ่ายออกไปจะถามตัวเองเสมอว่า ถ้าเป็นยาที่จะให้กับพ่อแม่เรา หรือ ตัวเราเองแบบนี้จะเอาให้กินมั๊ย
(ถ้าแบบนี้พ่อแม่เรากินได้ คนอื่นก็กินได้ เพราะของที่ให้พ่อแม่ เราให้ของที่ดีที่สุดเสมอ)




เห็นด้วย ... ถ้าทำแบบนี้ได้ ยอดคงเป็นแสนต่อวันเลยนะครับ เพราะผมเลือกยาให้ตัวเอง หรือพ่อแม่แบบดี... แต่ก็ต้องยอมรับ หลายๆ ปัจจัย เงินสำคัญที่สุด... คนมีรายได้น้อย บางทีก็เลือกอะไรได้น้อย...
ภาพประจำตัวสมาชิก
TDPharm
 
โพสต์: 344
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2009, 09:36

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย apotheker » 12 ก.ค. 2010, 12:00

ร้านยาอย่างที่พี่ธวัชชัยว่า และทำได้100% เห็นจะมีตัวอย่างก็คือร้านยาของคณะเภสัชต่างๆ
แต่ลองไปดูสิครับว่ามีสักกี่แห่งที่อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินงบประมาณ พูดง่ายๆว่าถ้าไม่ใช่ระบบราชการอุปถัมภ์ ก็ขาดทุนกันถ้วนหน้า
จะมีกำไรก็เห็นจะเป็นของโอสถศาลาของจุฬาที่ทำเลAAA+++

บางทีควาถูกต้องก็ไม่ถูกใจผู้บริโภค ยิ่งผู้บริโภคที่ถูกสปอยล์โดยร้านหมอตี๋มา40ปีแล้วด้วยจะเปลี่ยนแปลงก็คงยาก
ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้ร้านยาทำในสิ่งที่ถูกต้องนะครับ แต่ ถ้าไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง คนทำถูกต้องคงลำบากในการอยู่รอดทางธุรกิจ ก็หวังอย่างเดียวว่าคนที่มีอำนาจและมีหน้าที่จะทำหน้าที่ของเขาอย่างเคร่งครัดตรงไปตรงมา

เหมือนเตะบอลถ้ากรรมการไม่ทำหน้าที่ คนชนะก็คงเป็นคนที่เล่นตุกติกนั่นแหละครับ ด้วยความเคารพ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย cannabis » 12 ก.ค. 2010, 16:39

apotheker เขียน:ร้านยาอย่างที่พี่ธวัชชัยว่า และทำได้100% เห็นจะมีตัวอย่างก็คือร้านยาของคณะเภสัชต่างๆ
แต่ลองไปดูสิครับว่ามีสักกี่แห่งที่อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินงบประมาณ พูดง่ายๆว่าถ้าไม่ใช่ระบบราชการอุปถัมภ์ ก็ขาดทุนกันถ้วนหน้า
จะมีกำไรก็เห็นจะเป็นของโอสถศาลาของจุฬาที่ทำเลAAA+++

บางทีควาถูกต้องก็ไม่ถูกใจผู้บริโภค ยิ่งผู้บริโภคที่ถูกสปอยล์โดยร้านหมอตี๋มา40ปีแล้วด้วยจะเปลี่ยนแปลงก็คงยาก
ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้ร้านยาทำในสิ่งที่ถูกต้องนะครับ แต่ ถ้าไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง คนทำถูกต้องคงลำบากในการอยู่รอดทางธุรกิจ ก็หวังอย่างเดียวว่าคนที่มีอำนาจและมีหน้าที่จะทำหน้าที่ของเขาอย่างเคร่งครัดตรงไปตรงมา

เหมือนเตะบอลถ้ากรรมการไม่ทำหน้าที่ คนชนะก็คงเป็นคนที่เล่นตุกติกนั่นแหละครับ ด้วยความเคารพ


ตอบได้เจ๋งมาก อ่านแล้วโดน ตอนนี้สภาคงอยู่นอกประเทศไทยครับ ตอนนี้ยังไม่เคลียเลยเรื่องเดิมๆ หลายสิบปีแล้ว คงต้องรอให้วิชาชีพเภสัชล่มจมก่อนถึงจะขยับ
cannabis
 
โพสต์: 288
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.พ. 2009, 11:35

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย nukvomika » 12 ก.ค. 2010, 19:22

ความเห็นของคุณ apothekerโดนใจจริงๆเลยผมขอเพิ่มนิดนึง[/b]
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมจากประสบการณ์ที่อยู่ร้านยาใหญ่ๆในเชียงใหม่มา 6ปีซึ่งเจ้าของเป็นรุ่นพี่เภสัชทั้งสองคนเลยซึ่งทำเลจะอยู่ในชุมชนที่พอจะมีระดับการศึกษาสูงเป็นส่วนใหญ่ ร้านยาจะเ้ป็นแบบ60%ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา 20%ยาเรียกหาจากสื่อต่างๆ และอีก 20%จะเป็นยาโรคเรื้อรังและยาที่เคยทานเป็นประจำเวลาไม่สบาย แต่พอออกมาทำร้านเองที่อำเภอสันทรายห่างจากเขต อ.เมืองแค่ 2กิโลทำต่อจากน้องเภสัชคนเก่าซึ่งเดิมขายยาแบบลูกทุ่งคือตามใจลูกค้าซึ่งน้องก็ขายดีแต่ผมเอารูปแบบร้านที่เคยอยู่มาปรับปรุงเน้นให้ความรู้ไม่ตามใจลูกค้าผ่านมา 1 ปีผลปรากฏว่ายอดขายลดลงพอสมควร เดิมคนเก่าได้กำไร 40%ตอนนี้ผมได้แค่ 30% (และตอนนี้ค่าใช้จ่ายเดือนชนเดือนบางเดือนติดลบแถมเจ้าของตึกหาเรื่องขึ้นค่าแป๊ะเจี๊ยทุกปีเพราะสัญญาปีต่อปี ปีแล้วจ่าย 50000 ปีนี้โดนไป 55000 ปีหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะต้องจ่ายอีกเท่าไหร่ รายเดือน 3000อันนี้ขอระบายนิดนึงครับ)
ผมเลยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า
-ชุมชนแถวนี้ 70%เป็นชาวบ้านและชาวเขาที่มาทำงาน 30%เป็นหมู่บ้านจัดสรร ส่วนใหญ่จามาถามซื้อยาประเภท แก้อักเสบดำ-แดง 3เม็ดบ้าง 2เม็ดบ้างเพราะกำลังซื้อมีแค่นั้น ยาลดความอ้วน ยาน้ำเหลืองเสียเป็นต้นและอีกหลายๆยี่ห้อที่โฆษณาตามสื่อต่างๆแรกๆก็ไม่ขายจะอธิบายให้ฟังก่อนตอนหลังๆผมจาไม่มีกินแล้วเลยต้องลดจรรยาบรรณลงบ้างตามใจลูกค้าบ้างแต่ก็ยังบอกให้ซื้อทานเพิ่มให้ครบโดยเฉพาะยาแก้อักเสบ ถ้าเป็นยาเรียกหาตัวอื่นอยากได้ตัวไหนยี่ห้อไหนถ้าร้านมีก็ขายแต่ก็ยังมีให้ความรู้บ้างแบบว่าคุณรับได้แค่ไหนผมก็ให้แค่นั้น

[b]การศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นควรจะให้เด็กๆรู้จักเภสัชกรอย่างแท้จริงตั้งแต่ประถมเลยเพราะเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า
:biggrin: :biggrin: :biggrin: :biggrin: :biggrin: :biggrin:
nukvomika
 
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 เม.ย. 2010, 17:46

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย BEN10 » 15 ก.ค. 2010, 12:14

apotheker เขียน:ร้านยาอย่างที่พี่ธวัชชัยว่า และทำได้100% เห็นจะมีตัวอย่างก็คือร้านยาของคณะเภสัชต่างๆ
แต่ลองไปดูสิครับว่ามีสักกี่แห่งที่อยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งเงินงบประมาณ พูดง่ายๆว่าถ้าไม่ใช่ระบบราชการอุปถัมภ์ ก็ขาดทุนกันถ้วนหน้า
จะมีกำไรก็เห็นจะเป็นของโอสถศาลาของจุฬาที่ทำเลAAA+++

บางทีควาถูกต้องก็ไม่ถูกใจผู้บริโภค ยิ่งผู้บริโภคที่ถูกสปอยล์โดยร้านหมอตี๋มา40ปีแล้วด้วยจะเปลี่ยนแปลงก็คงยาก
ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้ร้านยาทำในสิ่งที่ถูกต้องนะครับ แต่ ถ้าไม่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างถูกต้อง คนทำถูกต้องคงลำบากในการอยู่รอดทางธุรกิจ ก็หวังอย่างเดียวว่าคนที่มีอำนาจและมีหน้าที่จะทำหน้าที่ของเขาอย่างเคร่งครัดตรงไปตรงมา

เหมือนเตะบอลถ้ากรรมการไม่ทำหน้าที่ คนชนะก็คงเป็นคนที่เล่นตุกติกนั่นแหละครับ ด้วยความเคารพ
nukvomika เขียน:ความเห็นของคุณ apothekerโดนใจจริงๆเลยผมขอเพิ่มนิดนึง[/b]
ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมจากประสบการณ์ที่อยู่ร้านยาใหญ่ๆในเชียงใหม่มา 6ปีซึ่งเจ้าของเป็นรุ่นพี่เภสัชทั้งสองคนเลยซึ่งทำเลจะอยู่ในชุมชนที่พอจะมีระดับการศึกษาสูงเป็นส่วนใหญ่ ร้านยาจะเ้ป็นแบบ60%ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา 20%ยาเรียกหาจากสื่อต่างๆ และอีก 20%จะเป็นยาโรคเรื้อรังและยาที่เคยทานเป็นประจำเวลาไม่สบาย แต่พอออกมาทำร้านเองที่อำเภอสันทรายห่างจากเขต อ.เมืองแค่ 2กิโลทำต่อจากน้องเภสัชคนเก่าซึ่งเดิมขายยาแบบลูกทุ่งคือตามใจลูกค้าซึ่งน้องก็ขายดีแต่ผมเอารูปแบบร้านที่เคยอยู่มาปรับปรุงเน้นให้ความรู้ไม่ตามใจลูกค้าผ่านมา 1 ปีผลปรากฏว่ายอดขายลดลงพอสมควร เดิมคนเก่าได้กำไร 40%ตอนนี้ผมได้แค่ 30% (และตอนนี้ค่าใช้จ่ายเดือนชนเดือนบางเดือนติดลบแถมเจ้าของตึกหาเรื่องขึ้นค่าแป๊ะเจี๊ยทุกปีเพราะสัญญาปีต่อปี ปีแล้วจ่าย 50000 ปีนี้โดนไป 55000 ปีหน้ายังไม่รู้เลยว่าจะต้องจ่ายอีกเท่าไหร่ รายเดือน 3000อันนี้ขอระบายนิดนึงครับ)
ผมเลยได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า
-ชุมชนแถวนี้ 70%เป็นชาวบ้านและชาวเขาที่มาทำงาน 30%เป็นหมู่บ้านจัดสรร ส่วนใหญ่จามาถามซื้อยาประเภท แก้อักเสบดำ-แดง 3เม็ดบ้าง 2เม็ดบ้างเพราะ[b]กำลังซื้อมีแค่นั้น
ยาลดความอ้วน ยาน้ำเหลืองเสียเป็นต้นและอีกหลายๆยี่ห้อที่โฆษณาตามสื่อต่างๆแรกๆก็ไม่ขายจะอธิบายให้ฟังก่อนตอนหลังๆผมจาไม่มีกินแล้วเลยต้องลดจรรยาบรรณลงบ้างตามใจลูกค้าบ้างแต่ก็ยังบอกให้ซื้อทานเพิ่มให้ครบโดยเฉพาะยาแก้อักเสบ ถ้าเป็นยาเรียกหาตัวอื่นอยากได้ตัวไหนยี่ห้อไหนถ้าร้านมีก็ขายแต่ก็ยังมีให้ความรู้บ้างแบบว่าคุณรับได้แค่ไหนผมก็ให้แค่นั้น

การศึกษาเป็นสิ่งจำเป็นควรจะให้เด็กๆรู้จักเภสัชกรอย่างแท้จริงตั้งแต่ประถมเลยเพราะเด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า :biggrin: :biggrin: :biggrin: :biggrin: :biggrin: :biggrin:


ตอบได้เห็นภาพเลยครับ ทั้งสองท่านเลย เอาใจช่วยครับ มีโจทย์ และ หาคำตอบไ้ด้แล้ว สู้ๆ นะครับ
BEN10
 
โพสต์: 67
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2009, 09:46

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 15 ก.ค. 2010, 21:18

ความจริงวันนี้ผมยังเป็นผู้ฝึกตนอยู่ แต่ก็อยากจะแชร์ความรู้กับเพื่อนๆร่วมวิชาชีพเดียวกัน
ประมาณปี ค.ศ.2000 ผมเริ่มรู้จักเครื่องคอมพิวเตอร์ พบว่ามันมีความสามารถน่าทึ่งจริงๆ สามารถจดจำอะไรได้หมด สามารถประเมินผลได้ด้วย และสามารถนำเสนอผลการประเมินได้ภายในเวลาที่รวดเร็ว นอกจากนั้นมนุษย์ยังสามารถหาความรู้ต่างๆได้จากมันได้ทางอินเตอร์เน็ท ทำให้ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเรียนรู้ ท่องจำ มาตั้งแต่เด็กๆมันจะมีความหมายน้อยลง เพราะเมื่ออยากจะรู้อะไร ใครๆก็สามารถเปิดดูได้ทางอินเตอร์เน็ท ทำอย่างไรเราจะมีความสามารถเหนือคนอื่น มีคำอยู่ 2 คำ ไอคิว กับ อีคิว
ไอคิว(Intelligence Quotient) คือความสามารถในการใช้ ความจำ ตรรกะ เหตุผล ภาษา สัญญาลักษณ์ การคิดแบบแยกย่อย ลงไปในรายละเอียด ซึ่งในปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำแทนได้หมด
อีคิว(Emotional Intelligence) คือความฉลาดทางอารมณ์ ทำอย่างไรเราจึงจะมีอารมณ์ดีตลอดเวลา มีความรู้สึกดีๆ มีจินตนาการ การหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคต การรำลึกได้ถึงอดีต และการวิเคราะห์ปัญหาแบบองค์รวม
การทำธุรกิจร้านยาในปัจจุบันผู้ชนะคือผู้ที่มีการฝึกฝนตนในเรื่องของ อีคิว
สมมุติว่าผมทำธุรกิจร้านยา ผมจะตั้งใจว่า ลูกค้าของผมทุกคน จะต้องได้รับยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างเหมาะสมและปลอดภัย จากนั้นผมก็จะคิดแตกแยกย่อยไปอีกว่า ทำอย่างไรจึงจะให้ผลออกมาเช่นนั้น และที่ผมคิดได้ในขณะนี้ก็คือ
1. ต้องมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติการในร้าน คอยแนะนำการใช้ยา และข้อควรปฏิบัติในระหว่างการใช้ยา ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2. ต้องมีการซักถามที่ดีก่อนจ่ายยา ไม่จ่ายยาชุดที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
3. ไม่จ่ายยาที่ทำให้หายชั่วคราว แต่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงกับผู้ป่วยในระยะยาว
4. มีการคัดสรรยาที่ดี และเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ไม่จ่ายยาด้อยคุณภาพที่ราคาถูก
5. มีการเขียนบนฉลากยาที่ภาชนะบรรจุยาที่จะให้กับผู้ป่วย ให้มีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
6. มีบริการจัดทำข้อมูลข่าวสารทางยา หรือเอกสารเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เห็นว่ามีประโยชน์กับประชาชนเป็นระยะๆ
7. กรณีซักถามแล้วเห็นว่าเกินความสามารถของตน ให้แนะนำผู้ป่วยให้เข้ารับการตรวจ และรับการรักษาในโรงพยาบาล
แน่นอนผมอาจจะยังทำไม่ได้ 100% ในแต่ละข้อ แต่การทำธุรกิจของผมจะมีเป้าหมายที่แน่นอน เต็มไปด้วยความสุข มีอารมณ์ดี มีจิตนาการ สมองปลอดโปร่ง ซึ่งถ้าผมมีแต่ความโกรธ ความกลัว ความโลภ ความหลงผิด ลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง ฯลฯ มันจะไปยับยั้งสมองของผมไม่ให้คิดอะไรที่เป็นความคิดดีๆ ความคิดใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจชองผม
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย BEN10 » 16 ก.ค. 2010, 12:56

ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:ความจริงวันนี้ผมยังเป็นผู้ฝึกตนอยู่ แต่ก็อยากจะแชร์ความรู้กับเพื่อนๆร่วมวิชาชีพเดียวกัน
ประมาณปี ค.ศ.2000 ผมเริ่มรู้จักเครื่องคอมพิวเตอร์ พบว่ามันมีความสามารถน่าทึ่งจริงๆ สามารถจดจำอะไรได้หมด สามารถประเมินผลได้ด้วย และสามารถนำเสนอผลการประเมินได้ภายในเวลาที่รวดเร็ว นอกจากนั้นมนุษย์ยังสามารถหาความรู้ต่างๆได้จากมันได้ทางอินเตอร์เน็ท ทำให้ผมคิดว่าสิ่งที่ผมเรียนรู้ ท่องจำ มาตั้งแต่เด็กๆมันจะมีความหมายน้อยลง เพราะเมื่ออยากจะรู้อะไร ใครๆก็สามารถเปิดดูได้ทางอินเตอร์เน็ท ทำอย่างไรเราจะมีความสามารถเหนือคนอื่น มีคำอยู่ 2 คำ ไอคิว กับ อีคิว
ไอคิว(Intelligence Quotient) คือความสามารถในการใช้ ความจำ ตรรกะ เหตุผล ภาษา สัญญาลักษณ์ การคิดแบบแยกย่อย ลงไปในรายละเอียด ซึ่งในปัจจุบันเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำแทนได้หมด
อีคิว(Emotional Intelligence) คือความฉลาดทางอารมณ์ ทำอย่างไรเราจึงจะมีอารมณ์ดีตลอดเวลา มีความรู้สึกดีๆ มีจินตนาการ การหยั่งรู้เหตุการณ์ในอนาคต การรำลึกได้ถึงอดีต และการวิเคราะห์ปัญหาแบบองค์รวม
การทำธุรกิจร้านยาในปัจจุบันผู้ชนะคือผู้ที่มีการฝึกฝนตนในเรื่องของ อีคิว
สมมุติว่าผมทำธุรกิจร้านยา ผมจะตั้งใจว่า ลูกค้าของผมทุกคน จะต้องได้รับยา และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างเหมาะสมและปลอดภัย จากนั้นผมก็จะคิดแตกแยกย่อยไปอีกว่า ทำอย่างไรจึงจะให้ผลออกมาเช่นนั้น และที่ผมคิดได้ในขณะนี้ก็คือ
1. ต้องมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติการในร้าน คอยแนะนำการใช้ยา และข้อควรปฏิบัติในระหว่างการใช้ยา ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2. ต้องมีการซักถามที่ดีก่อนจ่ายยา ไม่จ่ายยาชุดที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
3. ไม่จ่ายยาที่ทำให้หายชั่วคราว แต่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงกับผู้ป่วยในระยะยาว
4. มีการคัดสรรยาที่ดี และเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ไม่จ่ายยาด้อยคุณภาพที่ราคาถูก
5. มีการเขียนบนฉลากยาที่ภาชนะบรรจุยาที่จะให้กับผู้ป่วย ให้มีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
6. มีบริการจัดทำข้อมูลข่าวสารทางยา หรือเอกสารเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เห็นว่ามีประโยชน์กับประชาชนเป็นระยะๆ
7. กรณีซักถามแล้วเห็นว่าเกินความสามารถของตน ให้แนะนำผู้ป่วยให้เข้ารับการตรวจ และรับการรักษาในโรงพยาบาล
แน่นอนผมอาจจะยังทำไม่ได้ 100% ในแต่ละข้อ แต่การทำธุรกิจของผมจะมีเป้าหมายที่แน่นอน เต็มไปด้วยความสุข มีอารมณ์ดี มีจิตนาการ สมองปลอดโปร่ง ซึ่งถ้าผมมีแต่ความโกรธ ความกลัว ความโลภ ความหลงผิด ลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง ฯลฯ มันจะไปยับยั้งสมองของผมไม่ให้คิดอะไรที่เป็นความคิดดีๆ ความคิดใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจชองผม


ครับ คุณธวัชชัย ความจริงมันก็น่าจะเป็นอย่างที่ท่านเขียนเป็นข้อ ๆ เป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ผมเห็นต่างจากท่าน ในเรื่องคอมพิวเตอร์ ผมเห็นว่าเป็นเพียงแค่เครื่องมือชนิดหนึ่ง ที่สามารถ พาเราไปเที่ยวใน โลกของอินเตอร์เนท หาความรู้ และ ความบันเทิง รวมทั้งยังสามาถใช้งาน เป็นห้องสมุด ตู้เอกสาร หรือเป็นเครื่องมืออรรถประโยชน์ ที่เราจะสั่งและใช้งานเท่านั้น มิอาจเปรียบเทียบ กับ มนุษย์ หรือสัตว์ได้แม้แต่น้อย คอมพิวเตอร์ ประมวลผล ตามคำสั่ง หรือโปรแกรมที่มนุษย์เขียนและต้องทำตามคำสั่งที่มนุษย์เขียนขึ้น คอมพิวเตอร์นปัจจุบันที่ใช้กันตามบ้าน สำนักงาน ก็ทำตามโปรแกรมที่มนุษย์คิดเท่านั้น ไม่สามารถที่จะคิดได้เอง ทำงานได้เองตามใจ อย่างมนุษย์หรือสัตว์ ทำงานแบบตรรกกะ คือมีเลข 01 เท่านั้นครับ คอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ มนุษย์ หรือสัตว์ ที่คิดเองได้ ทำงานเองได้ ไปไหนมาไหนได้ (แต่ในอนาคต อาจเป็นไปได้) เพราะมนุษย์ ก็อยากสร้างสิ่งที่เหมือนกับตนเองขึ้นมาเช่นกัน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ครับ ส่วนอีกเรื่องที่ไม่เห็นด้วยคือ ยาราคาถูก ไม่จำเป็นต้องด้อยคุณภาพนะครับ เพราะราคาเป็นสิ่งที่เรากำหนดเอง ครับ พี่คิดดี คิดแต่จะให้สิ่งดีๆ กับลูกค้าของพี่ เป็นสิ่งที่ดีครับ เป็นประโยชน์ และไม่ควรละเลย แต่ก็อย่าลืมว่า คนเราเป็นสิ่งมีชีวิต คิด มีความโกรธ โลภ หลงผิด ลุ่มหลงในสิ่งหลากหลาย มีรัก มีเกลียด มีชอบ มีไม่ชอบ มีควากลัว เป็นพื้นฐานแต่สิ่งเหล่านี้ ก็เป็นสิ่งกระตุ้น และ ทำให้ หลายๆ คน มีชีวิตอยูได้ในโลกใบนี้นะครับ ผมว่าสิ่งที่ น่าจะเพิ่มอีกข้อ ควรเป็น คุณธรรม และความรู้รับผิดชอบ ต่อสังคมส่วนรวมด้วยครับ เพราะว่าถ้าแต่ละคน มองแต่จะหาประโยชน์แก่ตน ก็จะทำให้มีแต่คนที่ก้าวร้าว เห็นแก่ตัว ใครไม่ใช่พวกของตน หรือตนไม่รู้จัก ก็ไม่ส่งเสริม ไม่สนับสนุน แบ่งพรรคแบ่งพวก ทั้งๆที่ทุกคนก็อยู่บนโลกใบเดียวกันแท้ๆ ด้วยความเคารพครับ
BEN10
 
โพสต์: 67
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2009, 09:46

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย dr_paojinda » 17 ก.ค. 2010, 09:43

BEN10 เขียน:1. ต้องมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติการในร้าน คอยแนะนำการใช้ยา และข้อควรปฏิบัติในระหว่างการใช้ยา ให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ
2. ต้องมีการซักถามที่ดีก่อนจ่ายยา ไม่จ่ายยาชุดที่จัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว
3. ไม่จ่ายยาที่ทำให้หายชั่วคราว แต่เป็นอันตรายอย่างร้ายแรงกับผู้ป่วยในระยะยาว
4. มีการคัดสรรยาที่ดี และเหมาะสมสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย ไม่จ่ายยาด้อยคุณภาพที่ราคาถูก
5. มีการเขียนบนฉลากยาที่ภาชนะบรรจุยาที่จะให้กับผู้ป่วย ให้มีรายละเอียดครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
6. มีบริการจัดทำข้อมูลข่าวสารทางยา หรือเอกสารเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่เห็นว่ามีประโยชน์กับประชาชนเป็นระยะๆ
7. กรณีซักถามแล้วเห็นว่าเกินความสามารถของตน ให้แนะนำผู้ป่วยให้เข้ารับการตรวจ และรับการรักษาในโรงพยาบาล
แน่นอนผมอาจจะยังทำไม่ได้ 100% ในแต่ละข้อ แต่การทำธุรกิจของผมจะมีเป้าหมายที่แน่นอน เต็มไปด้วยความสุข มีอารมณ์ดี มีจิตนาการ สมองปลอดโปร่ง ซึ่งถ้าผมมีแต่ความโกรธ ความกลัว ความโลภ ความหลงผิด ลุ่มหลงในรูป รส กลิ่น เสียง ฯลฯ มันจะไปยับยั้งสมองของผมไม่ให้คิดอะไรที่เป็นความคิดดีๆ ความคิดใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจชองผม

พวกพี่ ๆ เป็นจะแบบอย่างของผมนะ (ไม่ว่าจะเป็นพี่ธวัชชัย หรือคุณAPO..คุณผัดหมี่ และทุกท่าน) และผมคิดว่าถึงแม้สภาฯ จะช้าเป็นเต่า ระบบไม่ขยับเขยื้อนนานเป็นชาติ ในการแก้ปัญหากฎหมายต่าง ๆ ไม่เอื้อต่อการปฏิบัติงานของเภสัชกร แต่ในทั้ง 7 ข้อนี้ เภสัชฯสามารถทำได้เลยทุกข้อ แต่ต้องรู้เขารู้เรา คนไข้แบบนี้จ่ายถูกหน่อย คนไข้แบบนี้จ่ายแพงหน่อย ต้องทำให้ร้านอยู่รอดให้ได้กับการทำความดีตามจรรยาบรรณ ข้อแลกเปลียนของพี่ ๆ มีประโยชน์สำหรับผู้ที่รู้สึกท้อแท้ในการปฏิบัติงานเภสัชของผมในขณะนี้เป็นอย่างยิ่ง ขอบคุณนะครับ
dr_paojinda
 
โพสต์: 146
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2009, 21:57

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย dr_paojinda » 17 ก.ค. 2010, 09:46

แก้ไขการโค๊ตข้อความข้างบนของผมครับ ผม quote มาจากของคุณธวัชชัย ครับ แต่ไหงเป็นของคุณ Ben 10 หละนี่ :roll:
dr_paojinda
 
โพสต์: 146
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ส.ค. 2009, 21:57

Re: ร้านยาอย่างไรถึงจะดี

โพสต์โดย omegaboy » 20 ก.ค. 2010, 11:06

ร้านยาที่เข้ากับชุมชนได้

ถ้าเข้ากับชุมชนไม่ได้ เราจะไม่มีฐานลูกค้า

ผมทำแบบนี้ครับ

การปฏิเสธลูกค้า ทำด้วยความเนียน

การตามใจลูกค้า ทำบนพื้นฐาน ที่แบบว่าเราเอาเงินเขามาแล้ว

เขาต้องได้รับประโยชน์จากเราไม่มากก็น้อย

แต่ถ้าเขาเลือกที่จะไม่เอาประโยชน์จากเราเลย อันนี้ก็ห้ามมิได้ กรณีที่พยายามสุดความสามารถแล้ว

ไม่งั้นเวลาเอาเงินเขามากินมาจ่าย มันไม่สนิทใจ(กินเหล้าไม่มันส์)

สุดท้ายแล้ว มนุษย์มีความหลากหลายเกินไปที่เราจะควบคุมด้วยกฎใดกฎหนึ่ง

บางทีอาจเป็นเพราะความหลากหลาย ที่ทำให้เราอยู่รอดได้
omegaboy
 
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2006, 15:47

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ลาเต้

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document