Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา
โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 13:40
เซเว่นน่ะ มันขายดีเฉพาะของกินนะ จะบอกให้ แล้วมันก็พยายามทำสินค้าเฉพาะเซเว่น ไม่มีขายในที่อื่น
Online Community For All Thai Pharmacists
http://www.pharmacafe.com/board/
will เขียน:ต้องตอบสิครับเพื่อแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ก่อนอื่นคงต้องขออภัยที่ได้ให้ความคิดเห็นด้วยภาษาที่แรงๆออกไปแต่ผมว่ามันตรงดีครับ
7-11 คุณเคยได้ยินสร้อยวลีหลังโฆษณา เค้ามั้ย ....หิวเมื่อไหร่ สะดวกที่ไหนก็แวะมา 7-11....
เน้น สถานที่ทําเลสะดวก สบาย ครบครัน แวะไปซื้อจับจ่ายใช้สอยได้ คลุมฐานลูกค้าตั้งแต่ 2 ขวบ คือเริ่มตั้งแต่มีความอยากไปจน
อายุ 6-70 ที่ยังพอเดินได้ด้วยตัวเอง สินค้าเน้นครบๆ ตั้งแต่ทิชชู่เช็ดก้น อาหาร ขนม ของกิน มาถึงหนังสือพิมพ์ ยา รวมถึงจ่ายเงินสารพัดแบบและ
เติมเงินมือถือ เนต สารพัด
แค่เนี้ยยยยย มีแต่คนบอกว่า ของเค้าขายแพงนะ แต่เข้าไปซื้อครับ แล้วเค้าจะลดราคาตัดราคาทําด๋อย อะไร...........
ทีนี้ มาต่อกันด้วยเคส โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู กัน
ถ้ามีคนบอกว่าพวกนี้ก็ขายถูกไง ตัดราคากันรุนแรง เลยขายกันดีแข่งกันเปิดสาขา ร้านยาเราน่าเอาอย่าง
ลองคิดดีๆ ว่าเราเหมือนหรือต่างกับเค้ายังไง ถึงไปทํากลยุทธ price leadership แบบเค้านะดีมั้ย
BEN10 เขียน:will เขียน:ต้องตอบสิครับเพื่อแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ก่อนอื่นคงต้องขออภัยที่ได้ให้ความคิดเห็นด้วยภาษาที่แรงๆออกไปแต่ผมว่ามันตรงดีครับ
7-11 คุณเคยได้ยินสร้อยวลีหลังโฆษณา เค้ามั้ย ....หิวเมื่อไหร่ สะดวกที่ไหนก็แวะมา 7-11....
เน้น สถานที่ทําเลสะดวก สบาย ครบครัน แวะไปซื้อจับจ่ายใช้สอยได้ คลุมฐานลูกค้าตั้งแต่ 2 ขวบ คือเริ่มตั้งแต่มีความอยากไปจน
อายุ 6-70 ที่ยังพอเดินได้ด้วยตัวเอง สินค้าเน้นครบๆ ตั้งแต่ทิชชู่เช็ดก้น อาหาร ขนม ของกิน มาถึงหนังสือพิมพ์ ยา รวมถึงจ่ายเงินสารพัดแบบและ
เติมเงินมือถือ เนต สารพัด
แค่เนี้ยยยยย มีแต่คนบอกว่า ของเค้าขายแพงนะ แต่เข้าไปซื้อครับ แล้วเค้าจะลดราคาตัดราคาทําด๋อย อะไร...........
ทีนี้ มาต่อกันด้วยเคส โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู กัน
ถ้ามีคนบอกว่าพวกนี้ก็ขายถูกไง ตัดราคากันรุนแรง เลยขายกันดีแข่งกันเปิดสาขา ร้านยาเราน่าเอาอย่าง
ลองคิดดีๆ ว่าเราเหมือนหรือต่างกับเค้ายังไง ถึงไปทํากลยุทธ price leadership แบบเค้านะดีมั้ย
บอกไว้ก่อนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จาก ประสปการณ์ ครับ
เซเว่น หรือ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู วัตสัน และหลายๆแบรนด์เนม เป็น แบรนด์ที่ขายชื่อ เพื่อทำการค้า ใครจะเอาสินค้าเข้าไปขาย ก็ต้องเสียเงิน เพื่อวางสินค้า หรือประมูลเพื่อให้ได้วางสินค้าขาย ไม่ได้วิ่งเข้าหาสินค้าเหมือนร้านค้าทั่วไป ร้านเหล่านี้มีโปรโมชั่นการขายทุกเดือนตลอดปี มีการวางสินค้าเป็นรูปแบบ พลาโนแกรม(planogram) มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เขาขายสินค้าแบบมีเทคนิคในการซื้อ มีกำลังซื้อและการต่อรองราคาสูง เพราะมีสาขามาก เขาขายถูกในบางตัวสินค้าที่มีการโปรโมชั่น บางตัวโปรโมชั่นแต่ก็ไม่มีสินค้าขาย แต่ก็เป็นการเชิญชวนให้ผู้ซื้อไปที่ห้างหรือสาขานั้น หรือโปรโมชั่นที่ถูกทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าถูก (เช่น มีส่วนลดเป็น แสตมป์ มีบัตรสมนาคุณเมื่อซื้อครบจำนวน) มีหลายแผนก ทำงานรวมกันเป็น เช่น ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบุคคล (รับสมัครพนักงาน และอบรม) ส่วนการสำรวจราคาสินค้าของร้านคู่แข่ง ก็จะมีทีม ไปเดินสำรวจ และดูอยู่อย่างเสมอ ราคาสินค้า ที่คู่แข่งมี อาจจะลดราคาให้ต่ำกว่า แล้วไปขายเอากำไรในสินค้าที่คู่แข่งไม่ได้ขาย เป็นต้น ปัจจัยด้านราคา เป็นปัจจัยที่ใช้เมื่อใหร่ ก็ได้ผลเมื่อนั้น แต่โดยจุดประสงค์ อาจใช้เพื่อให้ไปซื้อสินค้าอย่างอื่นด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้ว เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซี้อของเท่าที่จำเป็นต้องใช้มากขึ้น ทำให้การแข่งขันในด้านราคา เพื่อเพิ่มยอดขายเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พฤติกรรมของผู้ขายสินค้าจึงต้องปรับตัวตาม ทำให้่การบุกตลาดของแบรนด์หน้าใหม่ และ แบรนด์เดิม มีมากขึ้นครับ สินคาที่ทำกำไร ส่วนใหญ่ มาจากสินค้าที่ผลิตได้เอง หรือ จ้างผลิต มาจำหน่าย (เรียกว่า ผลิตเอง ขายเอง ทำตลาดเอง )อันนี้ กำไรแน่ครับ
will เขียน:BEN10 เขียน:will เขียน:ต้องตอบสิครับเพื่อแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ก่อนอื่นคงต้องขออภัยที่ได้ให้ความคิดเห็นด้วยภาษาที่แรงๆออกไปแต่ผมว่ามันตรงดีครับ
7-11 คุณเคยได้ยินสร้อยวลีหลังโฆษณา เค้ามั้ย ....หิวเมื่อไหร่ สะดวกที่ไหนก็แวะมา 7-11....
เน้น สถานที่ทําเลสะดวก สบาย ครบครัน แวะไปซื้อจับจ่ายใช้สอยได้ คลุมฐานลูกค้าตั้งแต่ 2 ขวบ คือเริ่มตั้งแต่มีความอยากไปจน
อายุ 6-70 ที่ยังพอเดินได้ด้วยตัวเอง สินค้าเน้นครบๆ ตั้งแต่ทิชชู่เช็ดก้น อาหาร ขนม ของกิน มาถึงหนังสือพิมพ์ ยา รวมถึงจ่ายเงินสารพัดแบบและ
เติมเงินมือถือ เนต สารพัด
แค่เนี้ยยยยย มีแต่คนบอกว่า ของเค้าขายแพงนะ แต่เข้าไปซื้อครับ แล้วเค้าจะลดราคาตัดราคาทําด๋อย อะไร...........
ทีนี้ มาต่อกันด้วยเคส โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู กัน
ถ้ามีคนบอกว่าพวกนี้ก็ขายถูกไง ตัดราคากันรุนแรง เลยขายกันดีแข่งกันเปิดสาขา ร้านยาเราน่าเอาอย่าง
ลองคิดดีๆ ว่าเราเหมือนหรือต่างกับเค้ายังไง ถึงไปทํากลยุทธ price leadership แบบเค้านะดีมั้ย
บอกไว้ก่อนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จาก ประสปการณ์ ครับ
เซเว่น หรือ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู วัตสัน และหลายๆแบรนด์เนม เป็น แบรนด์ที่ขายชื่อ เพื่อทำการค้า ใครจะเอาสินค้าเข้าไปขาย ก็ต้องเสียเงิน เพื่อวางสินค้า หรือประมูลเพื่อให้ได้วางสินค้าขาย ไม่ได้วิ่งเข้าหาสินค้าเหมือนร้านค้าทั่วไป ร้านเหล่านี้มีโปรโมชั่นการขายทุกเดือนตลอดปี มีการวางสินค้าเป็นรูปแบบ พลาโนแกรม(planogram) มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เขาขายสินค้าแบบมีเทคนิคในการซื้อ มีกำลังซื้อและการต่อรองราคาสูง เพราะมีสาขามาก เขาขายถูกในบางตัวสินค้าที่มีการโปรโมชั่น บางตัวโปรโมชั่นแต่ก็ไม่มีสินค้าขาย แต่ก็เป็นการเชิญชวนให้ผู้ซื้อไปที่ห้างหรือสาขานั้น หรือโปรโมชั่นที่ถูกทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าถูก (เช่น มีส่วนลดเป็น แสตมป์ มีบัตรสมนาคุณเมื่อซื้อครบจำนวน) มีหลายแผนก ทำงานรวมกันเป็น เช่น ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบุคคล (รับสมัครพนักงาน และอบรม) ส่วนการสำรวจราคาสินค้าของร้านคู่แข่ง ก็จะมีทีม ไปเดินสำรวจ และดูอยู่อย่างเสมอ ราคาสินค้า ที่คู่แข่งมี อาจจะลดราคาให้ต่ำกว่า แล้วไปขายเอากำไรในสินค้าที่คู่แข่งไม่ได้ขาย เป็นต้น ปัจจัยด้านราคา เป็นปัจจัยที่ใช้เมื่อใหร่ ก็ได้ผลเมื่อนั้น แต่โดยจุดประสงค์ อาจใช้เพื่อให้ไปซื้อสินค้าอย่างอื่นด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้ว เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซี้อของเท่าที่จำเป็นต้องใช้มากขึ้น ทำให้การแข่งขันในด้านราคา เพื่อเพิ่มยอดขายเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พฤติกรรมของผู้ขายสินค้าจึงต้องปรับตัวตาม ทำให้่การบุกตลาดของแบรนด์หน้าใหม่ และ แบรนด์เดิม มีมากขึ้นครับ สินคาที่ทำกำไร ส่วนใหญ่ มาจากสินค้าที่ผลิตได้เอง หรือ จ้างผลิต มาจำหน่าย (เรียกว่า ผลิตเอง ขายเอง ทำตลาดเอง )อันนี้ กำไรแน่ครับ
เห็นด้วยทั้งหมดครับ แล้วเราจะเป็นเหมือนเค้าได้มั้ยทั้ง เงินทุน รูปแบบ ศักยภาพ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องทําแบบความคิดเห็นด้านบนๆ ที่เป็น tactics
ที่ดี ร้านยาชุมชน ชื่อ ก็บอกว่าเราเน้นชุมชน เราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
ตัดราคา ขายถูกมากๆทําลายตัวเอง ทําลายวงการ สุดท้าย ปลาใหญ่ที่ปัจจุบันต้องไวด้วย กินเรียบครับ
แต่ที่เป็นประเด็นอีกอย่างคือ เรานะร้านเล็กๆ มีข้อได้เปรียบยังไงเมื่อเทียบกับ เชนสโตร์ เมก้าสโตร์ หรือ กระทั่งร้านข้างเคียง
ร้านเราอาจจะไม่ดีที่สุด สะอาดที่สุด เย็นนที่สุด หรือ กระทั่่งขายถูกที่สุด ผมขอเน้นว่า เรามีเพื่อน มีพี่ป้าน้า อา มากที่สุด ครอบครัวเราทั้งนั้น
ชุมชนของเราครับ
TDPharm เขียน:ปกติผมซื้อของก็ไม่เคยไปต่อใคร เพราะไม่อยากให้ใครมาต่อ
เป็นคนดี อยากได้อะไร ก็ให้แบบนั้น ก็เจอลูกค้าดี ก็คิดประมาณนี้มาตลอด
ลูกค้ามีหลายแนว บางคนก็อยากได้ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้แค่ของถูก
ผมเองก็ไม่ชอบของถูก แต่อยากได้อะไรที่มากกว่านั้นในการซื้ออะไรบางอย่าง
ปล.. ต่อไปใครต่อใครอาจต้องไปแข่งตัดราคากับยี่ปั้วป่าว คิคิ ดีจัง จะได้มีที่ซื้อยาเพิ่ม ยังไงก็ขอพื้นที่ 1 คนที่ไม่สนการตัดราคา ... ยังไงก็
เอาคุณภาพเภสัชสู้ต่อไป แล้วก็ขออวยพรให้ทุกคนที่เห็นคุณค่าวิชาชีพอยู่รอดในระยะยาว สวนอีกฝ่ายก็ขอให้......(เติมกันเอาเองนะครับ)
ไปทำงานต่อดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลา
: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา
BEN10 เขียน:TDPharm เขียน:ปกติผมซื้อของก็ไม่เคยไปต่อใคร เพราะไม่อยากให้ใครมาต่อ
เป็นคนดี อยากได้อะไร ก็ให้แบบนั้น ก็เจอลูกค้าดี ก็คิดประมาณนี้มาตลอด
ลูกค้ามีหลายแนว บางคนก็อยากได้ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้แค่ของถูก
ผมเองก็ไม่ชอบของถูก แต่อยากได้อะไรที่มากกว่านั้นในการซื้ออะไรบางอย่าง
ปล.. ต่อไปใครต่อใครอาจต้องไปแข่งตัดราคากับยี่ปั้วป่าว คิคิ ดีจัง จะได้มีที่ซื้อยาเพิ่ม ยังไงก็ขอพื้นที่ 1 คนที่ไม่สนการตัดราคา ... ยังไงก็
เอาคุณภาพเภสัชสู้ต่อไป แล้วก็ขออวยพรให้ทุกคนที่เห็นคุณค่าวิชาชีพอยู่รอดในระยะยาว สวนอีกฝ่ายก็ขอให้......(เติมกันเอาเองนะครับ)
ไปทำงานต่อดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลา
: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา
ไม่มีฝ่ายไหนหรอกครับ มีแต่คนไทยด้วยกันทั้งนั้น อย่าแบ่งฝ่ายเลยครับ ขอให้รวยๆครับ ทำดีได้ดี
TDPharm เขียน:ปกติผมซื้อของก็ไม่เคยไปต่อใคร เพราะไม่อยากให้ใครมาต่อ
เป็นคนดี อยากได้อะไร ก็ให้แบบนั้น ก็เจอลูกค้าดี ก็คิดประมาณนี้มาตลอด
ลูกค้ามีหลายแนว บางคนก็อยากได้ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้แค่ของถูก
ผมเองก็ไม่ชอบของถูก แต่อยากได้อะไรที่มากกว่านั้นในการซื้ออะไรบางอย่าง
ปล.. ต่อไปใครต่อใครอาจต้องไปแข่งตัดราคากับยี่ปั้วป่าว คิคิ ดีจัง จะได้มีที่ซื้อยาเพิ่ม ยังไงก็ขอพื้นที่ 1 คนที่ไม่สนการตัดราคา ... ยังไงก็
เอาคุณภาพเภสัชสู้ต่อไป แล้วก็ขออวยพรให้ทุกคนที่เห็นคุณค่าวิชาชีพอยู่รอดในระยะยาว สวนอีกฝ่ายก็ขอให้......(เติมกันเอาเองนะครับ)
ไปทำงานต่อดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลา
: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา