หน้า 2 จากทั้งหมด 4

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 13:40
โดย pmc
เซเว่นน่ะ มันขายดีเฉพาะของกินนะ จะบอกให้ แล้วมันก็พยายามทำสินค้าเฉพาะเซเว่น ไม่มีขายในที่อื่น

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 13:57
โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง
ขอถามว่า ร้านที่ขายถูก ขายยาดีนั้น
1. เวลาลูกค้าเข้าไปซื้อนั้น ลูกค้ามีความสะดวกไหม หรือต้องยืนรอ
2. เวลาลูกค้าเข้าไปซื้อ ลูกค้าได้รับข้อมูลของการใช้ยาอย่างครบถ้วนหรือไม่
3. เวลาลูกค้าเข้าไปซื้อมากๆ เขามีเวลาจัดสภาพร้านให้ดูดีเสมอหรือไม่
4. เวลาลูกค้าเข้าไปซื้อ คนขายมีเวลามาสนใจ มาพูดคุยกับลูกค้าอย่างสนิทสนมได้นานๆหรือไม่
การขายถูกแท้ที่จริงเป็นกลยุทธ์ทางการค้าที่ต้องการเอาเปรียบร้านเล็กๆ และมองว่ายาเป็นสินค้าธรรมดาเหมือนสินค้าอุปโภค บริโภคทั่วไป ย่อมเป็นที่ไม่พอใจของร้านเล็กๆทั่วไปซึ่งมีมากกว่า รวมทั้งบริษัทยาบางบริษัทที่มองการณ์ไกล เห็นว่าทำให้สินค้าของเขาผู้ขายกำไรน้อยลง เป็นเหตุให้ไม่อยากขายมาก(เพราะกำไรน้อย)
กลยุทธ์ในการแก้เกมร้านที่ขายยาถูก
? ให้ความรู้เรื่องยากับลูกค้าอย่างถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม
? เปิดขายในเวลาที่เหลื่อมกับเขา(เช่น เปิดเช้ามืด ปิดดึก กลางวันพักผ่อน)
? สภาพร้านต้องดูดีเสมอ ไม่ว่าเวลาไหน
? ผู้ให้บริการต้องมีบุคลิกดีตลอดเวลา
? ผู้ให้บริการต้องมีความรู้เรื่องสินค้าดี มีเวลาว่างให้ศึกษา
? สินค้าเลือกสรรแต่สินค้าดีๆ(สินค้าที่ลูกค้าเรียกหาบางอย่างอาจไม่ดีก็ได้ ขายก็กำไรน้อย)
? การบริการต้องรวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วนและสร้างความประทับใจ
? ราคาสินค้าสมเหตุ สมผล แพงกว่าแต่ไม่แพงมาก
? ถ้าลูกค้าบางคนไม่สนใจเรื่องการให้บริการของเรา และต่อสินค้าร้านเราจะเอาราคาเดียวกับร้านที่ขายถูก และเราเห็นว่าลูกค้าเรายังน้อยอยู่ เราอยากมีลูกค้ามากกว่านี้ก็อาจจะลดราคาให้ก็ได้
การทำธุรกิจค้าปลีกต้องคิดเสมอว่าเราเป็นที่พึ่งของลูกค้ามากน้อยแค่ไหน จุดเด่นของเราคนอื่นสามารถทำเลียนแบบได้ง่ายๆหรือไม่ และทำอย่างไรจึงจะทำให้ลูกค้าอยากให้เราเป็นที่พึ่งมากๆ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 14:01
โดย BEN10
will เขียน:ต้องตอบสิครับเพื่อแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ก่อนอื่นคงต้องขออภัยที่ได้ให้ความคิดเห็นด้วยภาษาที่แรงๆออกไปแต่ผมว่ามันตรงดีครับ

7-11 คุณเคยได้ยินสร้อยวลีหลังโฆษณา เค้ามั้ย ....หิวเมื่อไหร่ สะดวกที่ไหนก็แวะมา 7-11....

เน้น สถานที่ทําเลสะดวก สบาย ครบครัน แวะไปซื้อจับจ่ายใช้สอยได้ คลุมฐานลูกค้าตั้งแต่ 2 ขวบ คือเริ่มตั้งแต่มีความอยากไปจน
อายุ 6-70 ที่ยังพอเดินได้ด้วยตัวเอง สินค้าเน้นครบๆ ตั้งแต่ทิชชู่เช็ดก้น อาหาร ขนม ของกิน มาถึงหนังสือพิมพ์ ยา รวมถึงจ่ายเงินสารพัดแบบและ
เติมเงินมือถือ เนต สารพัด

แค่เนี้ยยยยย มีแต่คนบอกว่า ของเค้าขายแพงนะ แต่เข้าไปซื้อครับ แล้วเค้าจะลดราคาตัดราคาทําด๋อย อะไร...........

ทีนี้ มาต่อกันด้วยเคส โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู กัน

ถ้ามีคนบอกว่าพวกนี้ก็ขายถูกไง ตัดราคากันรุนแรง เลยขายกันดีแข่งกันเปิดสาขา ร้านยาเราน่าเอาอย่าง
ลองคิดดีๆ ว่าเราเหมือนหรือต่างกับเค้ายังไง ถึงไปทํากลยุทธ price leadership แบบเค้านะดีมั้ย

บอกไว้ก่อนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จาก ประสปการณ์ ครับ
เซเว่น หรือ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู วัตสัน และหลายๆแบรนด์เนม เป็น แบรนด์ที่ขายชื่อ เพื่อทำการค้า ใครจะเอาสินค้าเข้าไปขาย ก็ต้องเสียเงิน เพื่อวางสินค้า หรือประมูลเพื่อให้ได้วางสินค้าขาย ไม่ได้วิ่งเข้าหาสินค้าเหมือนร้านค้าทั่วไป ร้านเหล่านี้มีโปรโมชั่นการขายทุกเดือนตลอดปี มีการวางสินค้าเป็นรูปแบบ พลาโนแกรม(planogram) มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เขาขายสินค้าแบบมีเทคนิคในการซื้อ มีกำลังซื้อและการต่อรองราคาสูง เพราะมีสาขามาก เขาขายถูกในบางตัวสินค้าที่มีการโปรโมชั่น บางตัวโปรโมชั่นแต่ก็ไม่มีสินค้าขาย แต่ก็เป็นการเชิญชวนให้ผู้ซื้อไปที่ห้างหรือสาขานั้น หรือโปรโมชั่นที่ถูกทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าถูก (เช่น มีส่วนลดเป็น แสตมป์ มีบัตรสมนาคุณเมื่อซื้อครบจำนวน) มีหลายแผนก ทำงานรวมกันเป็น เช่น ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบุคคล (รับสมัครพนักงาน และอบรม) ส่วนการสำรวจราคาสินค้าของร้านคู่แข่ง ก็จะมีทีม ไปเดินสำรวจ และดูอยู่อย่างเสมอ ราคาสินค้า ที่คู่แข่งมี อาจจะลดราคาให้ต่ำกว่า แล้วไปขายเอากำไรในสินค้าที่คู่แข่งไม่ได้ขาย เป็นต้น ปัจจัยด้านราคา เป็นปัจจัยที่ใช้เมื่อใหร่ ก็ได้ผลเมื่อนั้น แต่โดยจุดประสงค์ อาจใช้เพื่อให้ไปซื้อสินค้าอย่างอื่นด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้ว เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซี้อของเท่าที่จำเป็นต้องใช้มากขึ้น ทำให้การแข่งขันในด้านราคา เพื่อเพิ่มยอดขายเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พฤติกรรมของผู้ขายสินค้าจึงต้องปรับตัวตาม ทำให้่การบุกตลาดของแบรนด์หน้าใหม่ และ แบรนด์เดิม มีมากขึ้นครับ สินคาที่ทำกำไร ส่วนใหญ่ มาจากสินค้าที่ผลิตได้เอง หรือ จ้างผลิต มาจำหน่าย (เรียกว่า ผลิตเอง ขายเอง ทำตลาดเอง )อันนี้ กำไรแน่ครับ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 14:48
โดย will
BEN10 เขียน:
will เขียน:ต้องตอบสิครับเพื่อแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ก่อนอื่นคงต้องขออภัยที่ได้ให้ความคิดเห็นด้วยภาษาที่แรงๆออกไปแต่ผมว่ามันตรงดีครับ

7-11 คุณเคยได้ยินสร้อยวลีหลังโฆษณา เค้ามั้ย ....หิวเมื่อไหร่ สะดวกที่ไหนก็แวะมา 7-11....

เน้น สถานที่ทําเลสะดวก สบาย ครบครัน แวะไปซื้อจับจ่ายใช้สอยได้ คลุมฐานลูกค้าตั้งแต่ 2 ขวบ คือเริ่มตั้งแต่มีความอยากไปจน
อายุ 6-70 ที่ยังพอเดินได้ด้วยตัวเอง สินค้าเน้นครบๆ ตั้งแต่ทิชชู่เช็ดก้น อาหาร ขนม ของกิน มาถึงหนังสือพิมพ์ ยา รวมถึงจ่ายเงินสารพัดแบบและ
เติมเงินมือถือ เนต สารพัด

แค่เนี้ยยยยย มีแต่คนบอกว่า ของเค้าขายแพงนะ แต่เข้าไปซื้อครับ แล้วเค้าจะลดราคาตัดราคาทําด๋อย อะไร...........

ทีนี้ มาต่อกันด้วยเคส โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู กัน

ถ้ามีคนบอกว่าพวกนี้ก็ขายถูกไง ตัดราคากันรุนแรง เลยขายกันดีแข่งกันเปิดสาขา ร้านยาเราน่าเอาอย่าง
ลองคิดดีๆ ว่าเราเหมือนหรือต่างกับเค้ายังไง ถึงไปทํากลยุทธ price leadership แบบเค้านะดีมั้ย

บอกไว้ก่อนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จาก ประสปการณ์ ครับ
เซเว่น หรือ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู วัตสัน และหลายๆแบรนด์เนม เป็น แบรนด์ที่ขายชื่อ เพื่อทำการค้า ใครจะเอาสินค้าเข้าไปขาย ก็ต้องเสียเงิน เพื่อวางสินค้า หรือประมูลเพื่อให้ได้วางสินค้าขาย ไม่ได้วิ่งเข้าหาสินค้าเหมือนร้านค้าทั่วไป ร้านเหล่านี้มีโปรโมชั่นการขายทุกเดือนตลอดปี มีการวางสินค้าเป็นรูปแบบ พลาโนแกรม(planogram) มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เขาขายสินค้าแบบมีเทคนิคในการซื้อ มีกำลังซื้อและการต่อรองราคาสูง เพราะมีสาขามาก เขาขายถูกในบางตัวสินค้าที่มีการโปรโมชั่น บางตัวโปรโมชั่นแต่ก็ไม่มีสินค้าขาย แต่ก็เป็นการเชิญชวนให้ผู้ซื้อไปที่ห้างหรือสาขานั้น หรือโปรโมชั่นที่ถูกทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าถูก (เช่น มีส่วนลดเป็น แสตมป์ มีบัตรสมนาคุณเมื่อซื้อครบจำนวน) มีหลายแผนก ทำงานรวมกันเป็น เช่น ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบุคคล (รับสมัครพนักงาน และอบรม) ส่วนการสำรวจราคาสินค้าของร้านคู่แข่ง ก็จะมีทีม ไปเดินสำรวจ และดูอยู่อย่างเสมอ ราคาสินค้า ที่คู่แข่งมี อาจจะลดราคาให้ต่ำกว่า แล้วไปขายเอากำไรในสินค้าที่คู่แข่งไม่ได้ขาย เป็นต้น ปัจจัยด้านราคา เป็นปัจจัยที่ใช้เมื่อใหร่ ก็ได้ผลเมื่อนั้น แต่โดยจุดประสงค์ อาจใช้เพื่อให้ไปซื้อสินค้าอย่างอื่นด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้ว เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซี้อของเท่าที่จำเป็นต้องใช้มากขึ้น ทำให้การแข่งขันในด้านราคา เพื่อเพิ่มยอดขายเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พฤติกรรมของผู้ขายสินค้าจึงต้องปรับตัวตาม ทำให้่การบุกตลาดของแบรนด์หน้าใหม่ และ แบรนด์เดิม มีมากขึ้นครับ สินคาที่ทำกำไร ส่วนใหญ่ มาจากสินค้าที่ผลิตได้เอง หรือ จ้างผลิต มาจำหน่าย (เรียกว่า ผลิตเอง ขายเอง ทำตลาดเอง )อันนี้ กำไรแน่ครับ


เห็นด้วยทั้งหมดครับ แล้วเราจะเป็นเหมือนเค้าได้มั้ยทั้ง เงินทุน รูปแบบ ศักยภาพ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องทําแบบความคิดเห็นด้านบนๆ ที่เป็น tactics
ที่ดี ร้านยาชุมชน ชื่อ ก็บอกว่าเราเน้นชุมชน เราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
ตัดราคา ขายถูกมากๆทําลายตัวเอง ทําลายวงการ สุดท้าย ปลาใหญ่ที่ปัจจุบันต้องไวด้วย กินเรียบครับ

แต่ที่เป็นประเด็นอีกอย่างคือ เรานะร้านเล็กๆ มีข้อได้เปรียบยังไงเมื่อเทียบกับ เชนสโตร์ เมก้าสโตร์ หรือ กระทั่งร้านข้างเคียง
ร้านเราอาจจะไม่ดีที่สุด สะอาดที่สุด เย็นนที่สุด หรือ กระทั่่งขายถูกที่สุด ผมขอเน้นว่า เรามีเพื่อน มีพี่ป้าน้า อา มากที่สุด ครอบครัวเราทั้งนั้น
ชุมชนของเราครับ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 15:25
โดย BEN10
will เขียน:
BEN10 เขียน:
will เขียน:ต้องตอบสิครับเพื่อแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้ แต่ก่อนอื่นคงต้องขออภัยที่ได้ให้ความคิดเห็นด้วยภาษาที่แรงๆออกไปแต่ผมว่ามันตรงดีครับ

7-11 คุณเคยได้ยินสร้อยวลีหลังโฆษณา เค้ามั้ย ....หิวเมื่อไหร่ สะดวกที่ไหนก็แวะมา 7-11....

เน้น สถานที่ทําเลสะดวก สบาย ครบครัน แวะไปซื้อจับจ่ายใช้สอยได้ คลุมฐานลูกค้าตั้งแต่ 2 ขวบ คือเริ่มตั้งแต่มีความอยากไปจน
อายุ 6-70 ที่ยังพอเดินได้ด้วยตัวเอง สินค้าเน้นครบๆ ตั้งแต่ทิชชู่เช็ดก้น อาหาร ขนม ของกิน มาถึงหนังสือพิมพ์ ยา รวมถึงจ่ายเงินสารพัดแบบและ
เติมเงินมือถือ เนต สารพัด

แค่เนี้ยยยยย มีแต่คนบอกว่า ของเค้าขายแพงนะ แต่เข้าไปซื้อครับ แล้วเค้าจะลดราคาตัดราคาทําด๋อย อะไร...........

ทีนี้ มาต่อกันด้วยเคส โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู กัน

ถ้ามีคนบอกว่าพวกนี้ก็ขายถูกไง ตัดราคากันรุนแรง เลยขายกันดีแข่งกันเปิดสาขา ร้านยาเราน่าเอาอย่าง
ลองคิดดีๆ ว่าเราเหมือนหรือต่างกับเค้ายังไง ถึงไปทํากลยุทธ price leadership แบบเค้านะดีมั้ย

บอกไว้ก่อนว่าเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ จาก ประสปการณ์ ครับ
เซเว่น หรือ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู วัตสัน และหลายๆแบรนด์เนม เป็น แบรนด์ที่ขายชื่อ เพื่อทำการค้า ใครจะเอาสินค้าเข้าไปขาย ก็ต้องเสียเงิน เพื่อวางสินค้า หรือประมูลเพื่อให้ได้วางสินค้าขาย ไม่ได้วิ่งเข้าหาสินค้าเหมือนร้านค้าทั่วไป ร้านเหล่านี้มีโปรโมชั่นการขายทุกเดือนตลอดปี มีการวางสินค้าเป็นรูปแบบ พลาโนแกรม(planogram) มีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลา เขาขายสินค้าแบบมีเทคนิคในการซื้อ มีกำลังซื้อและการต่อรองราคาสูง เพราะมีสาขามาก เขาขายถูกในบางตัวสินค้าที่มีการโปรโมชั่น บางตัวโปรโมชั่นแต่ก็ไม่มีสินค้าขาย แต่ก็เป็นการเชิญชวนให้ผู้ซื้อไปที่ห้างหรือสาขานั้น หรือโปรโมชั่นที่ถูกทำให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าถูก (เช่น มีส่วนลดเป็น แสตมป์ มีบัตรสมนาคุณเมื่อซื้อครบจำนวน) มีหลายแผนก ทำงานรวมกันเป็น เช่น ฝ่ายจัดซื้อ ฝ่ายโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ฝ่ายบุคคล (รับสมัครพนักงาน และอบรม) ส่วนการสำรวจราคาสินค้าของร้านคู่แข่ง ก็จะมีทีม ไปเดินสำรวจ และดูอยู่อย่างเสมอ ราคาสินค้า ที่คู่แข่งมี อาจจะลดราคาให้ต่ำกว่า แล้วไปขายเอากำไรในสินค้าที่คู่แข่งไม่ได้ขาย เป็นต้น ปัจจัยด้านราคา เป็นปัจจัยที่ใช้เมื่อใหร่ ก็ได้ผลเมื่อนั้น แต่โดยจุดประสงค์ อาจใช้เพื่อให้ไปซื้อสินค้าอย่างอื่นด้วย แต่ปัจจุบันนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้ว เพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซี้อของเท่าที่จำเป็นต้องใช้มากขึ้น ทำให้การแข่งขันในด้านราคา เพื่อเพิ่มยอดขายเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พฤติกรรมของผู้ขายสินค้าจึงต้องปรับตัวตาม ทำให้่การบุกตลาดของแบรนด์หน้าใหม่ และ แบรนด์เดิม มีมากขึ้นครับ สินคาที่ทำกำไร ส่วนใหญ่ มาจากสินค้าที่ผลิตได้เอง หรือ จ้างผลิต มาจำหน่าย (เรียกว่า ผลิตเอง ขายเอง ทำตลาดเอง )อันนี้ กำไรแน่ครับ


เห็นด้วยทั้งหมดครับ แล้วเราจะเป็นเหมือนเค้าได้มั้ยทั้ง เงินทุน รูปแบบ ศักยภาพ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องทําแบบความคิดเห็นด้านบนๆ ที่เป็น tactics
ที่ดี ร้านยาชุมชน ชื่อ ก็บอกว่าเราเน้นชุมชน เราเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
ตัดราคา ขายถูกมากๆทําลายตัวเอง ทําลายวงการ สุดท้าย ปลาใหญ่ที่ปัจจุบันต้องไวด้วย กินเรียบครับ

แต่ที่เป็นประเด็นอีกอย่างคือ เรานะร้านเล็กๆ มีข้อได้เปรียบยังไงเมื่อเทียบกับ เชนสโตร์ เมก้าสโตร์ หรือ กระทั่งร้านข้างเคียง
ร้านเราอาจจะไม่ดีที่สุด สะอาดที่สุด เย็นนที่สุด หรือ กระทั่่งขายถูกที่สุด ผมขอเน้นว่า เรามีเพื่อน มีพี่ป้าน้า อา มากที่สุด ครอบครัวเราทั้งนั้น
ชุมชนของเราครับ


ครับ ถ้ามองในแง่เป็นชุมชน แต่ ชุมชนในปัจจุบันเปลี่ยนไปเยอะ เด็กรุ่นใหม่ ค่านิยมใหม่ ทัศนคติแบบใหม่ การดำเนินชีวิตที่ปัจจุบัน เข้าห้างสรรพสินค้าเป็นหลัก เราจะยึดวิธีคิดแบบเดิมไปตลอด ก็คงไม่เหมาะกับเวลาเท่าใหร่ คิดอย่างไร เราคิดได้ครับ แต่พอทำจริงๆ ทำได้อย่างที่คิดหรือเปล่านั่นอีกเรื่อง เหมือน บอกให้ผู้ป่วยเบาหวาน คุมอาหาร ไม่ทานเค็ม ไม่ทานหวาน ออกกำลังกาย แค่นี้ก็คิดได้ครับ แต่ทำจริงๆ ยากนะครับ ถ้าไม่ได้ทำอาหารเอง หรือ ไม่มีแม่บ้าน ทำให้ ทำอะไรก็คงจะต้องเลือกปรับให้เข้ากับชุมชน และ สภาพแวดล้อมของตนเป็นหลักครับ และข้อสำคัญ ต้องทำได้จริงด้วย แค่นี้ก็สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้วครับ เราจะประสปความสำเร็จได้ ไม่ใช่เพราะแค่คิดอย่างเดียว แต่คนที่ลงมือทำ และ รู้จัก แก้ใขปัญหา ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เป็นอยู่ มีอยู่ ในปัจจุบัน อย่าใช้ตัวเองเป็นหลัก แล้วคิดว่าคนอื่นคิดเหมือนกับตนเองอยู่เสมอ ก็คงไม่ใช่ครับ หันกลับมาพิจารณาดีๆ แล้วเราจะมองออกครับ ว่าเราควรจะทำอย่างไรต่อไป เหมือนกับเราคิดว่าเราจะให้อะไรกับเขา จนลืมคิดว่า เขาอยากได้อะไรจากเรากันแน่ครับ ครับ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 15:39
โดย will
ลองนึกถึงฐานลูกค้านะครับ แต่ละร้านหรือ แต่ละ ละแวกอาจจะไม่เหมือนกัน
ลูกป่วย เด็กป่วย ใครมาซื้อยาครับ นานๆ จะเป็นวัยรุ่นที่เข้ามาซื้อยาใช้เองจริงๆ ส่วนใหญ่ก็ สิว ยาคุมฉุกเฉิน
อาหารเสริม เป็นเพื่อนกับน้องเค้าไปสิครับ คุยภาษาวัยรุ่น บิ๊กอาย ซูเปอร์จูเนียร์ ไม่ใช่ขายแล้วห้ามคุยเรื่องอื่นนี่ครับ

กลุ่ม พ่อบ้านแม่บ้าน ก็ พี่น้องกัน เศรษฐกิจ ชุมชน

รุ่น ตา ยาย ปู่ย่า เรื่องเยอะแยะ จะเรื่อง ราชการ ข่าวสารบ้านเมือง เรื่องทําถนนในซอยทําให้เดินลําบากนะครับ

แค่เนี้ยยยยยยยยยย หาเรื่องผูกมิตรเข้าไป ยาก็ขาย ความรู้ก็ให้ กินยาแรกๆก็ไม่ตรง เป็นเพื่อนเป็นหลานเค้าไปสิครับ
อีกหน่อยก็ คุยทางเดียวกัน

แล้วทําไมจะทําจริงไม่ได้

แค่เดินเข้าร้านก็ จําได้แล้วว่าเค้านะ ใช้ยาไรประจํา มาถึงคุณตายื่นตังค์ให้ 21 บาท ไม่ต้องสั่งเด๋วจัดให้ แล้วเรื่องที่เหลือก็ห่วงใยดูแล

เข้าใจธรรมชาติของคน แล้วปรับไปตามนั้น ไม่น่ายากมากนะครับ

เคยขายยาเสร็จแล้ว รู้สึกได้มั้ยว่า เสร็จชั้นละ คนนี้ คือ ลูกค้าประจําของชั้นแล้ว ยิ่งผู็สูงอายุ ยิ่งดี ให้ลูกหลานเหลน มาซื้อให้ แล้วเค้าก็
ซื้อของตัวเค้าเองไปด้วย เพราะเราเป็นหนึ่งในชุมชนไงครับ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 15:59
โดย BEN10
ร้านค้า ขาย บางที กลุ่มลูกค้าอาจไม่ใช่ชุมชนคนพื้นที่อย่างเดียว บางแห่งอาจจะไม่มีมากมาย ระดับตายาย ไม่มีเลยก็เยอะ มีแต่นักท่องเที่ยว แวะมาเยี่ยม เจ็บไข้ได้ป่วยก็มี บางแห่ง มี สวัสดิการดี คนใช้บริการประกันสังคมเยอะ คลีนิคอบอุ่น ก็แยะ คนก็ใช้ร้านยาน้อยลง บางแห่งอยู่ติดกับที่ขายยาราคาถูก ไม่ปรับลดราคาลงมา ก็คงไม่รอด ก็คงต้องปรับใช้ให้เหมาะสม ว่าอยู่ใกล้กับอะไร แหล่งไหน ขอเพียง แค่คิด แล้วทำ ถ้าไม่ถูก ก็ปรับเปลี่ยน ทำให้เหมาะสมแบบว่า มีแผน 1 ทำอย่างไร ถ้าไม่ได้ แผน 2 อย่างไร อย่างเลวร้ายที่สุดใช้แผน 3 เท่านี้ก็น่าจะอยู่รอดได้ ครับ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 16:53
โดย will
[quote="BEN10"]ร้านค้า ขาย บางที กลุ่มลูกค้าอาจไม่ใช่ชุมชนคนพื้นที่อย่างเดียว บางแห่งอาจจะไม่มีมากมาย ระดับตายาย ไม่มีเลยก็เยอะ มีแต่นักท่องเที่ยว แวะมาเยี่ยม เจ็บไข้ได้ป่วยก็มี บางแห่ง มี สวัสดิการดี คนใช้บริการประกันสังคมเยอะ คลีนิคอบอุ่น ก็แยะ คนก็ใช้ร้านยาน้อยลง บางแห่งอยู่ติดกับที่ขายยาราคาถูก ไม่ปรับลดราคาลงมา ก็คงไม่รอด ก็คงต้องปรับใช้ให้เหมาะสม ว่าอยู่ใกล้กับอะไร แหล่งไหน ขอเพียง แค่คิด แล้วทำ ถ้าไม่ถูก ก็ปรับเปลี่ยน ทำให้เหมาะสมแบบว่า มีแผน 1 ทำอย่างไร ถ้าไม่ได้ แผน 2 อย่างไร อย่างเลวร้ายที่สุดใช้แผน 3 เท่านี้ก็น่าจะอยู่รอดได้ ครับ[/quot

เห็นด้วยครับ แต่ขอให้พิจารณาให้ดีๆ เช่น นักท่องเที่ยว ฝรั่งนี่ของหวานสําหรับ การผูกมิตรครับ แค่เราสื่อสารดีๆ อย่าตื่นแล้วจะร้อง อ๊อด อ๊อด
ลูกค้าต่างชาติ ผมเป็น นักเพาะกาย สตั๊นแมน เด็กอินเตอร์ ฟิลิปปินส์ อินโด กระทั่งเซลขายเครื่องมือแพทย์ เราเป็นเพื่อนกันได้เลยครับ

ประกันสังคม นี่ก็บริการช้ามากไปแล้วก็มีแต่ พารา จังหวะนี้เราก็ได้ใจคนไข้ได้
คลินิคอบอุ่น ถ้าออกแนวใช้บัตรประกันสังคม หรือ 30 บาทเดิมๆ ก็ ออกแนวพารากับรายได้น้อยไม่อยากรักษา( หรือเป่า)อันนี้ก็เราพอมีโอกาส
แต่ขายยาราคาถูกละคับ ไม่สู้กันตายไปข้างหนึ่ง ก็ ใจซื้อใจละคับ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 17:14
โดย BEN10
เรื่องราคาถูก ผมว่า แล้วแต่จะคิดนะครับ นโยบายของแต่ละที่แต่ละแห่ง ก็แตกต่างกันไปตามผู้บริหาร เอาเป็นว่า ใครอยากขายถูก ก็เชิญ ใครอยากขายแพงก็ได้ แล้วกัน เสรีทางการค้า ครับ แต่ทำอย่างไรก็ได้ ให้คุณประสบความสำเร็จ อยู่รอด ใช้เป็นหลักได้นานๆ ครับ แต่อย่ายึดมั่นกับมันมากนะครับ มันมีอยู่ได้ แล้วมันก็จากไปได้ครับ เป็นอนัตตา ของแบบนี้มันจะอยู่ได้ จะต้องถูกใจทั้งคนซื้อ และคน ขายด้วยครับ โชคดีครับ

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 17:30
โดย TDPharm
ปกติผมซื้อของก็ไม่เคยไปต่อใคร เพราะไม่อยากให้ใครมาต่อ

เป็นคนดี อยากได้อะไร ก็ให้แบบนั้น ก็เจอลูกค้าดี ก็คิดประมาณนี้มาตลอด

ลูกค้ามีหลายแนว บางคนก็อยากได้ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้แค่ของถูก

ผมเองก็ไม่ชอบของถูก แต่อยากได้อะไรที่มากกว่านั้นในการซื้ออะไรบางอย่าง

ปล.. ต่อไปใครต่อใครอาจต้องไปแข่งตัดราคากับยี่ปั้วป่าว คิคิ ดีจัง จะได้มีที่ซื้อยาเพิ่ม ยังไงก็ขอพื้นที่ 1 คนที่ไม่สนการตัดราคา ... ยังไงก็

เอาคุณภาพเภสัชสู้ต่อไป แล้วก็ขออวยพรให้ทุกคนที่เห็นคุณค่าวิชาชีพอยู่รอดในระยะยาว สวนอีกฝ่ายก็ขอให้......(เติมกันเอาเองนะครับ)

ไปทำงานต่อดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลา



: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา :razz: :razz:

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 17:51
โดย BEN10
TDPharm เขียน:ปกติผมซื้อของก็ไม่เคยไปต่อใคร เพราะไม่อยากให้ใครมาต่อ

เป็นคนดี อยากได้อะไร ก็ให้แบบนั้น ก็เจอลูกค้าดี ก็คิดประมาณนี้มาตลอด

ลูกค้ามีหลายแนว บางคนก็อยากได้ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้แค่ของถูก

ผมเองก็ไม่ชอบของถูก แต่อยากได้อะไรที่มากกว่านั้นในการซื้ออะไรบางอย่าง

ปล.. ต่อไปใครต่อใครอาจต้องไปแข่งตัดราคากับยี่ปั้วป่าว คิคิ ดีจัง จะได้มีที่ซื้อยาเพิ่ม ยังไงก็ขอพื้นที่ 1 คนที่ไม่สนการตัดราคา ... ยังไงก็

เอาคุณภาพเภสัชสู้ต่อไป แล้วก็ขออวยพรให้ทุกคนที่เห็นคุณค่าวิชาชีพอยู่รอดในระยะยาว สวนอีกฝ่ายก็ขอให้......(เติมกันเอาเองนะครับ)

ไปทำงานต่อดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลา


: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา :razz: :razz:


ไม่มีฝ่ายไหนหรอกครับ มีแต่คนไทยด้วยกันทั้งนั้น อย่าแบ่งฝ่ายเลยครับ ขอให้รวยๆครับ ทำดีได้ดี :lol:

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 08 ก.พ. 2010, 18:04
โดย TDPharm
BEN10 เขียน:
TDPharm เขียน:ปกติผมซื้อของก็ไม่เคยไปต่อใคร เพราะไม่อยากให้ใครมาต่อ

เป็นคนดี อยากได้อะไร ก็ให้แบบนั้น ก็เจอลูกค้าดี ก็คิดประมาณนี้มาตลอด

ลูกค้ามีหลายแนว บางคนก็อยากได้ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้แค่ของถูก

ผมเองก็ไม่ชอบของถูก แต่อยากได้อะไรที่มากกว่านั้นในการซื้ออะไรบางอย่าง

ปล.. ต่อไปใครต่อใครอาจต้องไปแข่งตัดราคากับยี่ปั้วป่าว คิคิ ดีจัง จะได้มีที่ซื้อยาเพิ่ม ยังไงก็ขอพื้นที่ 1 คนที่ไม่สนการตัดราคา ... ยังไงก็

เอาคุณภาพเภสัชสู้ต่อไป แล้วก็ขออวยพรให้ทุกคนที่เห็นคุณค่าวิชาชีพอยู่รอดในระยะยาว สวนอีกฝ่ายก็ขอให้......(เติมกันเอาเองนะครับ)

ไปทำงานต่อดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลา


: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา :razz: :razz:


ไม่มีฝ่ายไหนหรอกครับ มีแต่คนไทยด้วยกันทั้งนั้น อย่าแบ่งฝ่ายเลยครับ ขอให้รวยๆครับ ทำดีได้ดี :lol:




มาแถลงไข : พอดีมีเวลานิดหน่อย มาเติมให้ที่เว้นวรรค ซึ่งก็คือ ขอให้ประสบความสำเร็จ กินข้าวอร่อยๆๆ นะครับ ...

: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา (สโลแกนคุ้นๆ จะเสียค่าลิขสิทธิ์ไหม )

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 09 ก.พ. 2010, 08:50
โดย olive_green
TDPharm เขียน:ปกติผมซื้อของก็ไม่เคยไปต่อใคร เพราะไม่อยากให้ใครมาต่อ

เป็นคนดี อยากได้อะไร ก็ให้แบบนั้น ก็เจอลูกค้าดี ก็คิดประมาณนี้มาตลอด

ลูกค้ามีหลายแนว บางคนก็อยากได้ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่ทุกคนที่อยากได้แค่ของถูก

ผมเองก็ไม่ชอบของถูก แต่อยากได้อะไรที่มากกว่านั้นในการซื้ออะไรบางอย่าง

ปล.. ต่อไปใครต่อใครอาจต้องไปแข่งตัดราคากับยี่ปั้วป่าว คิคิ ดีจัง จะได้มีที่ซื้อยาเพิ่ม ยังไงก็ขอพื้นที่ 1 คนที่ไม่สนการตัดราคา ... ยังไงก็

เอาคุณภาพเภสัชสู้ต่อไป แล้วก็ขออวยพรให้ทุกคนที่เห็นคุณค่าวิชาชีพอยู่รอดในระยะยาว สวนอีกฝ่ายก็ขอให้......(เติมกันเอาเองนะครับ)

ไปทำงานต่อดีกว่า ไม่ค่อยมีเวลา



: ทีดีไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์ เรา :razz: :razz:


ดีใจมากๆที่มีคนคิดแบบนี้เป็นที่ตั้ง ขอให้เภสัชกรคิดแบบนี้กันทั้งประเทศไทยเลยนะคะ

จะได้มีอะไรดีๆเกิดขึ้นในร้านยาเมืองไทยที่ไม่ใช่การตัดราคา

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 09 ก.พ. 2010, 10:58
โดย Pimano
คนเราต้องเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองครับ ไม่ใช่มานั่งลดคุณค่าของตัวเองของวิชาชีพเยี่ยงการตัดราคา ครับ :lol:

Re: กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

โพสต์โพสต์แล้ว: 09 ก.พ. 2010, 11:28
โดย BEN10
เคยสงสัยไหมครับ ทำไม บริษัทยาถึงต้องมีส่วนลด ส่วนแถมไม่เท่าำกัน เช่น 10 แถม 1 20 แถม3 หรือ 100 แถม 15 ทำไมไม่ออกมามันราคาเดียวแล้ว คิดเนท เลย จะได้ไม่มี่ส่วนแตกต่าง เป็นราคามาตรฐานเดียวกัน ใครซื้อก็ได้ ไม่แตกต่างด้านราคา จะได้ไม่มีคนต่อรอง จะได้ไม่มีการลดราคา เพราะต้นทุนเท่ากัน นั่นย่อมแสดงว่ามีคนที่คิดต่าง จากที่คุณคิด คุณชอบอยู่ ไม่แปลกครับ คุณชอบอะไร ก็เป็นสิทธิของคุณ แต่จะมาบังคับให้คนอื่น ทำเหมือนคุณ หรือคิดเหมือนคุณ คงลำบากครับ อย่าด่วนสรุปอะไร ง่ายๆ ครับ ผมไม่เห็นด้วย กับการตัดราคา แต่ก็ไม่ใส่ใจกับมันมากจนเกินไป ใครจะว่าแพง ก็แพง ผมพอใจที่จะขายราคานี้ ไม่โกรธเขานะครับ เขาอาจจะเคยซื้อถูกจริง แต่ผมไม่ขาย ก็เป็นสิทธิของเราครับ ทำใจดีๆ ใจเย็นๆ ครับ ลูกค้าผมก็ไม่เคยต่อว่าเช่นกัน เพราะเขารู้ครับ ว่าเราให้อะไรที่ดีกว่าครับ