คัดลอกจากบางส่วน ของ จดหมายข่าว pharmacy network
จากร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่ ขณะนี้ขั้นตอนอยู่ที่กฤษฎีกาพิจารณาตีความและออกเป็นกฎหมาย
หลังจากนั้นจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อลงนามประกาศในราชกิจจา ซึ่งจะมีผลบังคบใช้หลังประกาศ 180 วัน
สาระที่สำคัญที่แตกต่างพอจะสรุปได้ดังต่อไปนี้
1.สถานที่
ต้องมีเป็นอาคารถาวรและมีพื้นที่ให้บริการไม่น้อยกว่า 8 ตารางเมตร มีป้ายแสดงประเภทร้านยาถูกต้องชัดเจน
ร้านยาต้องสะอาด สว่าง ถูกสุขลักษณะ จัดแบ่งให้มีบริเวณให้คำปรึกษาเป็นสัดส่วน
จัดวางยาแยกประเภทและแสดงป้ายประเภทยาให้ชัดเจน และจัดเก็บยาตามวิธีเพื่อรักษาคุณภาพยา
2.การจัดทำบัญชียา
ต้องทำบัญชีซื้อยา บัญชีขายยาควบคุมพิเศษ วัตถุออกฤทธิ์และยาเสพติด (ถ้ามี) เฉพาะร้านขายส่งและบริษัทผู้ผลิต จำหน่ายเท่านั้นต้องทำบัญชีขายยาอันตราย เก็บไว้เป็นหลักฐานที่สถานประกอบการ 3 ปี
3.ผู้ประกอบการ
มี 3 คนคือ ผู้รับอนุญาต, ผู้ดำเนินการ(เป็นเภสัชกร) ,ผู้ปฏิบัติการ (เภสัชกร)
ผู้ดำเนินการมีหน้าที่จัดให้มีเภสัชกรปฏิบัติงานตลอดเวลาที่เปิดทำการ มีหมุนเวียนไม่จำเป็นต้องแจ้งปฏิบัติการประจำ และรับผิดชอบงานปฏิบัติการของเภสัชกร ณ สถานที่นั้น
4.ผู้อนุญาต สามารถพิจารณาไม่ต่อใบอนุญาตถ้าผู้รับอนุญาตไม่ปฏิบัติตาม GPP
5.ถ้าตรวจพบว่าไม่มีเภสัชกร ปฏิบัติงาน เกินกว่า 3 ครั้งใน หรือปฏิบัติผิดกฎหมายยา 5 ครั้ง ใน 1 ปี อาจไม่ได้รับการต่อใบอนุญาตขายยา
กฎกระทรวงนี้มีผลบังคับใช้ในทันทีหลังประกาศในราชกิจจา 180วันกับร้านยาที่ขออนุญาตเปิดใหม่ แต่จะอนุโลมให้มีการปรับปรุง ตามข้อต่างๆ ภายในเวลา 1-8 ปีกับร้านยาที่ได้รับใบอนุญาตก่อนแล้ว โดยขณะนี้สมาพันธ์พัฒนาฯกำลังร่างบันได 8 ขั้นเพื่อเป็นร้านยา GPPโดยให้มีการพัฒนาปีละขั้น
ปีที่ 1 เรื่องสถานที่
ปีที่ 2 อุปกรณ์ การคัดเลือกยา การจัดเก็บ การแสดงแหล่งข้อมูลด้านยา
ปีที่ 3 แบ่งแยกหน้าที่ขอบเขตที่ชัดเจนของเภสัชกรและผู้อื่น
ปีที่4 ผู้ช่วยเภสัชกรต้องผ่านการอบรมอย่างน้อยปีละ 10 ชม
ปีที่5 การประกันคุณภาพยา
ปีที่6-7 เรื่องคุณภาพ ฯลฯ
ปีที่ 8 เภสัชกรผู้ให้บริการต้องอยู่ปฏิบัติการในร้านยาตลอดเวลาทำการ และผู้ปฏิบัติการต้องผ่านการรับรองความพร้อมในการให้บริบาลทางเภสัชกรรมจากสภาเภสัชกรรมหรือหน่วยงานที่สภารับรอง