ว่าด้วยยาสูตรผสม ซูโด..........

[zartingtong]

เห็นว่าถ้ารู้จักที่ซื้อก็มีของเยอะไปนี่นา???

[Wiz@rd.]

ตร.ภูเก็ตร่วมตร.ออสเตรเลียยึดสารตั้งต้นผลิตยาไอซ์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2551 16:31 น.

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ตำรวจภูเก็ต ร่วมตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย ตรวจยึดสารตั้งต้นผลิตยาไอซ์ซุกในรูปหล่อบรอนซ์เตรียมส่งออสเตรเลีย 192 กิโลกรัม ผลิตยาไอซ์ได้ 200-300 ล้านบาท


วันนี้ (21 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมชั้น 4 สภ.เมืองภูเก็ต นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.ปปส พล.ต.ต.อภิรักษ์ หงส์ทอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต นายไมเคิล แม็คคาย ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) ประจำประเทศไทย ร่วมกันแถลงข่าว การตรวจยึด ยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน น้ำหนัก 192 กิโลกรัม

สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.ปปส. กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ระหว่างเดือน ก.ค-ส.ค 51 ศุลกากรประเทศออสเตรเลีย ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติออสเตรเลียเชื้อสายเลบานอล พร้อมของกลางยาที่มีส่วนผสมซูโดอีเฟดรีน น้ำหนักประมาณ 1,500 กิโลกรัม ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจากการสอบสวนพบว่าส่วนหนึ่งของยาที่ตรวจยึดได้มีต้นทางออกไปจากจังหวัด ภูเก็ต ทาง ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย (AFP) ประจำประเทศไทย จึงได้ขอความร่วมมือมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ของไทย

การออสเตรเลียมีมาตรการควบคุมการจำหน่ายยา ที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ทำให้กลุ่มผู้ลักลอบผลิตยาไอซ์ เดินทางมากว๊านซื้อยาประเภทดังกล่าวในประเทศแถวเอเชีย โดยเฉพาะประเทศจีน อินเดีย และไทย โดยจะลักลอบนำเข้ากลับไปผลิตในประเทศออสเตรเลียและนำกลับมาจำน่ายอีกครั้งใน ประเทศไทยอีกครั้งในราคาที่สูงมาก

หลังจากที่ได้รับประสานงาน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดและตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ได้ทำการสืบจนทราบว่า มีการซุกซ่อนยาดังกล่าวไว้ในรูปหล่อบรอนซ์ สิงโต เจ้าแม่กวนอิม ที่บ้านเช่าไม่มีเลขที่แห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เตรียมจะจัดส่งไปยังประเทศออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปทำการตรวจค้นและสามารถตรวจยึดยาที่มีส่วนผสมซู โดอีเฟดรีนน้ำหนักประมาณ 192 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการจับกุมได้ตัวผู้ต้องหา คือ นายชื่น ทาทอง อยู่บ้านเลขที่ 49/47 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่วนผู้ต้องหาอีกราย คือ นายเดวิด ยูเซฟ ซึ่งขณะนี้ได้หลบหนีออกจากประเทศไทยแล้ว โดยตั้งข้อหาร่วมกันค้ายาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต

สำหรับการจับกุมกระทำผิดดังกล่าว อาจทำให้ต่างประเทศเข้าใจว่าประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของสารตั้งต้น ทางภาครัฐ ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงได้บูรณาการร่วมกัน เพื่อป้องปรามและเฝ้าระวังตามมาตรการควบคุมซูโอโดอีเฟดรีนของสำนักงานคณะ กรรมการอาหารและยา จัดชุดปฏิบัติการเข้าตรวจสอบร้านยาที่จำหน่ายยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมซูโดอี เฟดรีนโดยจะต้องรายงานยอดการจำหน่ายยาแก่สาธารณสุขประจำจังหวัดต่างๆ ด้วย ซึ่งจะมีการเชิญผู้ประกอบการร้านขายยาเข้าร่วมประชุมเพื่อให้ความร่วมมือใน การจำหน่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนต่อไป

สำหรับสารตั้งต้นที่ตรวจยึดได้ในครั้งนี้ เมื่อนำไปสกัดจะได้สารตั้งต้นผลิตยาไอซ์ประมาณ 2-3 กิโลกรัม ราคาประมาณ 200-300 ล้านบาท

ขณะที่นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จากนโยบาย 90 วันพ้นภัยยาเสพติดของรัฐบาล ทำให้การเข้มงวดกวดขันผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพิ่มขึ้น การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เป็นการแสดงความพร้อมและความตั้งใจของเจ้าหน้าที่ตำรวจของจังหวัดภูเก็ต ในการกำจัดยาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่ สร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาจังหวัดภูเก็ตในช่วงไฮซีซั่น ที่จะถึงนี้

ที่มา : http://www.manager.co.th/Local/ViewNews ... 0000138145

ยังไม่หมดสิ้นอีกแฮะ...

[mos]

มีคนมาถามหาเหมือนกันครับ แต่ผมไม่ขายให้ เพราะรู้ว่าเขาเอาไปสกัดทำสารเสพตืด ซึ่งต่อไปจะทำลายอนาคตของชาติ แล้วสักวันอาจตกถึงลูกหลานเราในอนาคต ครับ

[rinko]

1 เดือนนี้ มีเคสที่ซื้อยานี้แปลกๆเยอะเลย เช่น ทำท่าทางเป็นหวัด ขอซื้อยาลดน้ำมูก เราก็ลีลานิดนึง หยิบ antihistamine เดี่ยว มันก็รู้ด้วยนะ บอกว่าขอแบบง่วงๆ ก็เลยหยิบของยี่ห้อประหลาดๆ จะนับเม็ดให้ ดันบอกว่าอยากได้แบบแผง เราก็โอเค หยิบให้ 1 แผง ดันบอกว่าขอ 5 แผง เลยบอกไปเลยว่า ห้ามเกิน 10 เม็ดต่อ 1 คน ทำเสียงโหดๆไปเลย มันเลยรีบหนีไป ต่อมาเจอป้าแก่ๆ มาซื้อนาโซลินทุก 3 วัน ครั้งละ 5 แผง ล่าสุดไม่ขายให้ ซักอาการไปมา ป้าแกก็คงงง ไม่รู้แกป่วยจริงหรือเปล่า ไม่เห็นน้ำมูกไหล บอกว่าซื้อติดๆไว้ เกิดป่วยมาจริงๆฉันจะกล้าขายให้ไหมเนี่ย ที่เจอบ่อยสุดคือ ขอนาโซลิน 3 แผง 5 แผง 6 แผง แบบนี้เจอบ่อย แล้วเราจะไปรู้ได้ไง ว่าป่วยจริงหรือเอาไปทำยาเสพติดเนี่ย แจ้งอย.ไป ก็บอกว่าทำไรไม่ได้ เพราะมันไม่ผิดกฎหมาย เฮ้อ เซ็งเว้ย

[mono]

[zartingtong]

เอา.... 6 แผง หรืออะไรก็ได้สูตรเดียวกัน
(รู้ได้ไงว่าซื้อได้แค่ 6 แผง)
แผงเดียวก็เอา จ่ายตังค์ พรื่ด ไปร้านโน้น แล้วเดี๋ยวก็พรื่ดต่อไปอีกร้าน
(สงสัยต้องตั้งกฎใครมาซื้อต้องถ่ายรูปไว้แล้วมั้งแล้วเอากล้องถ่ายบัตรประชาชนด้วย)

[cm]

test 2-3 แผง ขอจดเลขบัตร ให้ เพราเขาใช้จริง
1 กล่อง ..ไม่ขอจด บอก ไม่มีเลย แถม บอกว่า ตำรวจกำลังตามหาผู้ซื้อ (มาก) อยู่

[wilai-jom]

เวลามีcaseที่น่าสงสัยเช่นลูกค้าแปลกหน้าให้ซักอาการอย่างละเอียดอย่ารีบหยิบขายง่ายๆ
ให้ขายแค่แผงเดียว
ถ้าเซ้าซี้ให้ยืนยันว่าขายแค่ได้แผงเดียวแล้วบอกว่าที่ขายให้ไม่ได้เพราะมีพวกเลวๆมากว้านซื้อไปทำไม่ดี
ทำให้คนที่จำเป็นต้องใช้พลอยเดือดร้อนไปด้วย (หลอกด่าพวกนี้ซะเลย)
ถ้าเป็นคนไข้จริงๆก็เค้ามักผสมโรงบ่นไปด้วยไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นเป้าหมายที่ถูกด่า
ต่อไปถ้าไม่สามารถสกัดพวกนี้ได้ ยากลุ่มนี้อาจเปลี่ยนประเภชก็ได้

[นิวัช]

อย.หาทางสกัดขบวนการไล่ซื้อ"ยาแก้หวัด"เอาไปสกัดทำ"ยาบ้า" ถ้าไม่ได้ผลต้องขึ้นบัญชีให้หมอสั่งจ่าย

อย.สั่งคุมเข้มจ่ายยาแก้หวัด-อัลฟาโซแลม ขบวนการค้ายาลักลอบตระเวนซื้อยาแก้หวัดไปสกัดสารทำยาบ้าส่งขายต่างประเทศ ล้อมคอก บริษัทยาทำแพ็คเกจใหม่ ขายยกแผงสำหรับร้านขายยาทั่วไป ทำให้มีราคาแพงขึ้น ส่วนโรงพยาบาลขายยกขวดเหมือนเดิม ขอเวลา 1-2 เดือน หากไม่ได้ผลย้ายไปอยู่บัญชียาควบคุมพิเศษต้องให้หมอสั่งจ่าย "สุเทพ"ย้ำปราบยาเสพติดไม่มีการอุ้มฆ่า-ฆ่าตัดตอน



ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ถึงการเฝ้าระวังจำนวนการใช้ยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของสารสูโดเอฟรีดีน (Pseudoephedrine) ที่อาจมีคนลักลอบนำไปเป็นสารผลิตยาบ้า โดยมีการควบคุมบริษัทผู้ผลิตยาที่สั่งนำเข้าสารดังกล่าว รวมถึงให้รายงานยอดการจำหน่ายยาทุกครั้ง เพื่อให้ทราบว่ามีเส้นทางการซื้อขายที่ถูกต้องหรือไม่ โดยที่ผ่านมาอย.ตรวจพบว่าผู้ผลิตบางรายแจ้งข้อมูลเท็จ โดยอ้างว่ามีการจำหน่ายยาดังกล่าวจำนวนมากให้กับคลินิก และร้านขายยาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย แต่เมื่ออย.ตรวจสอบไปยังร้านขายยาและคลินิกที่ถูกกล่าวอ้างกลับพบว่าไม่มี การสั่งยาดังกล่าวมาจำหน่าย แต่อย่างใด


ทั้งนี้ ยาแก้หวัดมี 2 ประเภท คือ ชนิดที่เป็นยาสูโดเอฟรีดีน 100% ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น แต่หากเป็นยาสูตรผสม หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปแต่ต้องไม่เกินครั้งละ 60 เม็ด ซึ่งอย.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่แต่ละจังหวัดตรวจสอบอย่างเข้มข้น หากมีการสั่งยาทั้ง 2 ชนิดไปขายในพื้นที่ในปริมาณที่ค่อนข้างสูง ก็ให้รีบเช็คข้อเท็จจริงว่า นำยาไปใช้ในลักษณะใด มีการแอบลักลอบนำไปผลิตเป็นยาบ้าหรือเสพเป็นยาเสพติดหรือไม่


ภญ.วีรวรรณ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาเรื่องนำยาคลายเครียดหรืออัลฟาโซแลม ไปผสมแอลกอฮอล์เพื่อเสพ ทำให้รู้สึกสนุกสนาน เคลิบเคลิ้ม มึนงง เวียนศรีษะ ไม่รู้สึกตัว เพราะประสาทส่วนกลางถูกกด เช่นเดียวกับการนำยาแก้ไอหรือยาลดน้ำมูกไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ดื่ม ซึ่งเดิมเคยตรวจพบเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นภาคใต้ แต่ปัจจุบัน มีการตรวจพบส่งขึ้นไปยังพื้นที่ภาคเหนือมากขึ้น


ภก.วินิต อัศวกิจวีรี ผู้อำนวยการกองควบคุมยา กล่าวว่า อย. ได้ประสาน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ปปส.) ให้เฝ้าระวังปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด โดยเฉพาะการตระเวนซื้อยาแก้หวัดเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ โดยจะนำไปสกัดสารบางชนิดไปเป็นส่วนผสมยาบ้า ซึ่งที่ผ่านมา มีการจับกุมครั้งใหญ่มาแล้ว โดยนำยาแก้หวัดที่ตระเวนซื้อส่งออกไปจำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย เพราะสารในยาแก้หวัดมีสรรพคุณออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ประกอบมีราคาถูก ราคาต้นทุนเม็ดละ 30 สตางค์ หรือ 1 ขวด มียา 1,000 เม็ด ราคา 300 กว่าบาทเท่านั้น ที่สำคัญวิธีสกัดสารออกจากยาก็ทำได้ง่าย ใช้วิธีละลายเท่านั้น ในการแก้ปัญหาเบื้องต้น อย. ได้ประชุมร่วมกับบริษัทผู้ผลิตยา และผู้จำหน่ายยาทั้งส่งและปลีก ขอความร่วมมือให้จัดทำบรรจุภัณฑ์ยาแก้แพ้และยาแก้หวัดสำหรับร้านขายปลีกทั่ว ไปใหม่ ซึ่งจากเดิมจะขายเป็นเม็ด หรือขายยกขวด ให้เปลี่ยนเป็นขายเป็นแผงแทน แต่จะทำให้ยามีราคาแพงขึ้น ส่วนการขายให้สถานพยาบาลต่างๆ ให้ขายยกขวดตามปกติ ที่สำคัญให้ระมัดระวังหากมีผู้มาซื้อยาแก้หวัดจำนวนมากจนผิดปกติ ให้แจ้งเบาะแสมายังอย. หรือปปส. ได้ทันที และไม่ควรขายยาให้กับคนเหล่านี้


?หากภายใน 1-2 เดือนนี้ ปัญหาการลักลอบซื้อยาแก้แพ้และแก้หวัดไปผลิตยาบ้าระบาดหนักขึ้น จนทำให้ยาขายตลาดทำให้ผู้ป่วยไม่มียารับประทาน อย. จะพิจารณาเพิ่มการควบคุมโดยกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษ ต้องให้แพทย์ เป็นผู้สั่งจ่ายยาเท่านั้น จากเดิมที่เป็นเพียงยาอันตราย ซึ่งไม่มีการควบคุม ประชาชนสามารถซื้อยาได้จากร้านขายยาทั่วไป ซึ่งเป็นวิธีแก้ปัญหาเดียวกับต่างประเทศ? ภก.วินิต กล่าว


ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการใช้ยาแก้แพ้ และยาแก้หวัดในประเทศไทย คิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาทต่อปี จากรายการยาที่มีการขึ้นทะเบียนตำรับยาและจำหน่ายในท้องตลาดกว่า 100 รายการ

ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 0&catid=04

ผมว่าอีกไม่นาน เราคงไม่ได้ขายยาพวกนี้แล้ว แล้วจะจ่ายอะไรนิ

[DrugCenter]

คิดได้แค่นี้แหละ เอะอะก็จัดเป็น ยาควบคุมพิเศษ แล้วจะมีเภสัชไว้ทำห่...อะไร

ทำไมไม่ไปจัดการกับร้านที่ไม่มีเภสัชอยู่ประจำ ปัญหามันอยู่ตรงนี้

โยนไปให้หมอ แล้วหมอไม่ทำผิดเหรอ แล้วที่จับได้คาไปรษณีย์กำลังส่ง cytotec นั่นอะไร

แล้วจะผลิตเภสัชกรมาทำอะไรไม่ทราบ ร้านยาคุณภาพทำมาทำไม

แล้วคลินิก กับสถานพยาบาล คุณควบคุมได้ดีพอหรือยัง

อะไรก็โยนความผิดให้ร้านยาตลอด ลองคิดดูใหม่ดีกว่า...

[apotheker]

คนข้างบน วันนี้มาแนวโหดนะ
ผมว่าถ้าแก้ไขไม่ได้ก็ให้เป็นยาที่ขายได้เฉพาะสถานพบาบาลครับ แต่ถ้าจะห้ามร้านยาขายก็ไม่ควรให้คลีนิคหมอขายได้
เพราะมันก็รั่วอยู่ดี หมอไม่ขายเซลล์ก็ลอยไปแล้วไปเอาออกมาขายได้ทั้งตัวเลขได้ทั้งเงิน

ในโรงพยาบาลมีปัญหาแล้วนะครับ ไม่มียาใช้ ช่วงหน้าหนาวที่ผ่านมาก็เดือดร้อนกันมาก ตอนนี้ดีขึ้นหน่อย

[ruralphar]

สุดท้ายก็เข้าทางแพทย์ตามเคย

[DrugCenter]

มีข่าวทุกวัน...

พกยาแก้หวัดเกิน 6 แผง คุก 15 ปี อย.สั่งสอบร้านขายยา 200 กว่าแห่ง ขายยาแก้หวัด แก้ไอมากผิดปกติ ป.ป.ส.ขู่ฟัน

นายชาติชาย สุทธิกลม ที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า ข้อมูลของ ป.ป.ส. เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมาพบว่าขบวนการค้ายาเสพติดมีการเปลี่ยนแปลงแหล่งที่มาของสารตั้งต้นผลิตยาบ้า โดยนำสารสูโดเอฟรีดีน ซึ่งเป็นส่วนผสมในยาลดน้ำมูกหรือยาแก้หวัดไปเป็นสารตั้งต้นแทนสารชนิดเดิม
นายชาติชาย กล่าวอีกว่า ยาแก้หวัดมี 2 ประเภท คือ ชนิดที่เป็นยาสูโดเอฟรีดีน 100% ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์ ชนิดนี้ไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีมาตรการควบคุมจากแพทย์ หากไม่มีใบสั่งจากแพทย์ก็ไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา ส่วนยาสูตรผสม หรือประเภทยาลดน้ำมูก จะหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

ทั้งนี้ เมื่อสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกมาตรการควบคุมการซื้อยาชนิดดังกล่าวโดยกำหนดให้ซื้อได้ไม่เกินครั้งละ 60 เม็ด หรือครั้งละ 6 แผง ดังนั้นหากเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าประชาชนทั่วไปครอบครองยาชนิดดังกล่าวเกิน 6 แผง จะถูกดำเนินคดีเป็นความผิดมีวัตถุประเภทสารออกฤทธิ์ ประเภท 2 ไว้ในครอบครองเกินกำหนด มีโทษจำคุก 15 ปี

นายชาติชาย กล่าวอีกว่า สำหรับขบวนการดังกล่าวจะตระเวนซื้อยาลดน้ำมูกตามร้านขายยาทั่วประเทศตั้งแต่ภาคเหนือจนถึงภาคใต้ และที่ผ่านมาป.ป.ส. เคยจับกุมได้มากถึง 9 แสนเม็ด นอกจากนี้ยังพบว่ามีการซื้อยาลดน้ำมูกจากพื้นที่ภาคใต้จำนวนมากเพื่อไปส่งทางภาคเหนือ

สำหรับยาแก้หวัดประเภทยาลดน้ำมูกที่ขายโดยทั่วไปตามร้านขายยามีสารสูโดเอฟรีดีนประมาณ 20-30%

ด้าน ภก.วินิต อัศวกิจวิรี ผู้อำนวยการกองควบคุมยา อย. กล่าวว่า ที่ผ่านมาอย. ได้สั่งตรวจสอบร้านขายยาทั่วประเทศที่ขายยามีส่วนผสมของสารสูโดเอฟรีดีนจำนวนมากผิดปกติ หรือขายยาเกิน 5 หมื่นเม็ดต่อเดือน โดยพบว่ามีร้านขายยามากถึง 200 กว่าแห่งที่ขายยาชนิดดังกล่าวมากผิดปกติ

ทั้งนี้ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งขณะนี้อย. ได้ส่งข้อมูลให้แต่ละจังหวัดตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะทราบผลในเร็วๆ นี้

?เมื่อมีการกว้านซื้อยาแก้หวัด แก้ไอจำนวนมาก จะส่งผลให้ยาขาดตลาดได้ ซึ่งอย. ได้รับแจ้งจากบริษัทยาเจ้าของสิทธิบัตรสองแห่งว่าพบการปลอมยาของบริษัทมาจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไปในภาคอีสานบ้างแล้ว? ภก.วินิต กล่าว

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีโควตานำเข้ายาแก้หวัดชนิดนี้ได้เพียงปีละ 35 ตันเท่านั้น ซึ่งสารจำนวนนี้ก็จะนำไปจำหน่ายต่อให้กับบริษัทผู้ผลิตยาอีกทอดหนึ่ง ซึ่งแต่ละบริษัทจะได้ตามโควตาที่กำหนดไว้เช่นกัน ซึ่งการควบคุมลักษณะนี้ทำให้ไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตยาได้มากขึ้น

[apotheker]

ตีข่าวกันแบบนี้ ผมว่าใกล้แล้วหละ

[sukanya_rx19]

เฮ้อประเทศไทย
ไอ้จำนวน 5 หมื่นเม็ดต่อเดือน --- แยกยี่ห้อ จำนวนเท่านี้ระดับร้านขายส่งไม่ได้เเปลกเลย
(ถ้าไม่เเยกยี่ห้อ ก็เยอะนะ อิอิ)

อ้อยว่าโครงการร้านข้าวมันไก่อ้อยใกล้เป็นจริงละ