New Document









เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

เภสัชกรร้านยา

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย vic » 28 ก.ค. 2009, 12:09

เข้ามาดูใหม่ ถ้าจะยาวแฮะกระทู้นี้ ล่อเป้าจริงๆ
vic
 
โพสต์: 145
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ค. 2009, 16:49







Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย LeMmOy » 29 ก.ค. 2009, 00:47

ฮ่าๆๆ อ่านแล้วน่าสงสารคนมีเมียเป็นเภสัช

ที่ต้องมานั่งเฝ้าร้านมันคือคำสั่งจากเบื้องบนใช่ไหม ฮ่าๆๆๆ เรารู้นะ


ขายยาดม ยาหม่อง ยาขมใบห่อ อุทัยทิพ เดทตอล กุมารกาไก่ ยาสีฟัน สมูทอี พวกยาเรียกหาไปพลางๆก่อนดีกว่านะ
พอเมียมาค่อยบอกรายงานว่าตอนตะเองออกไป ลูกค้าไม่ค่อยมีเลยอ่ะ เลยขายได้แค่นี้เอง อิอิ

ส่วนพวกยาแอดวานซ์ หรือเจอเคสที่นอกเหนือจากนี้ บอกคนไข้ให้ไปเซเว่น ไปซื้อนม ซื้อซาลาเปา หรือจ่ายค่ามือถือไปพลางๆก่อน รอเมียมาแล้วค่อยให้เมียขายดีกว่า


จริงๆแล้วตามหลักก็ผิดดังที่น้าๆในบอร์ดเค้าว่ากันนั่นแหล่ะ แต่เราเข้าใจเรื่องชีวิตคุ่ ทำมาหากินก็ต้องช่วยกัน แบ่งเบาภาระกันไป
ไอ่พวกยาเรียกหาพวกนั้น นายขายได้ ไม่ผิดกฎหมายหรอก บางร้านมีตู้แช่น้ำ นายก็ขายเก๊กฮวย หรือเป็บซี่ระหว่างรอเมียก็ได้ อย่าให้ถึงต้องปิดร้านรอเมียมาเลย แค่ออกไปรับลูก เศรษฐกิจแบบนี้ เราเข้าใจ แล้วมันจะมีซักกี่คน ที่ยอมปิดร้านยาไปรับลูก ทั้งๆที่แฟนตัวเองก็นั่งหัวโด่ว่างๆอยู่ในร้าน ฮ่าๆๆ เอาตามจริงดิ อย่าเอาตามหลักการ

เท่าที่เห็นคนมีเมียเป็นเภสัช พอเมียไม่อยู่ ส่วนใหญ่ก็หาเรื่องปิดร้านกันทั้งนั้นแหล่ะ ใครจะอยากขาย น่าเบื่อ เที่ยวดีกว่า สนุกกว่าเป็นไหนๆ
ยกเว้นเคสที่เมียเป็นเภสัชที่มีบารมีล้นเหลือ อันนี้จำเป็นต้องยอมจำนน เพราะมันดุ เด๋วได้ตายก่อนลูกโต


แต่อย่าให้เมียเถลไถลนะ รีบไปรีบกลับ เผื่อมีเคส คนไข้เค้าจะได้ไม่รอนาน

ถ้าโดนตรวจ บอกตามจริงว่าเมียไปรับลูก แต่เชื่อได้เลย สสจ. เค้าไม่มาตรวจหรอก ตอนเย็นๆน่ะ สบายใจได้



ปล. สสจ.ก็ต้องไปรับลูกเหมือนกัน ฮ่าๆๆ
- เภสัช LeMmOy : อร่อยแท้แม้ไม่ทาอะไร -[/color]
ภาพประจำตัวสมาชิก
LeMmOy
 
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 05:01

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย somasaka100 » 01 ต.ค. 2009, 18:13

ให้เจ้าของกระทู้อ่านนะคับ :biggrin:
กรุณาอ่านทุกข้อ และทำความเข้าใจ นะคับ :lol:


ร้านยา เป็นหน่วยหนึ่งของระบบ สุขภาพ ที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ด้านการกระจายยาเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญเปรียบเสมือนเป็น "ที่พึ่งด้าน สุขภาพ ของชุมชน" เป็นทางเลือกหนึ่งของประชาชนในการใช้บริการเมื่อมีอาการหรือเจ็บป่วยเบื้องต้น (common illness) นอกเหนือจากการ จำหน่ายยา ร้านยา ยังเป็นแหล่งที่สามารถให้คำแนะนำในการดูแล สุขภาพ ตนเอง ตลอดจนการแนะนำและส่งต่อไปยัง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตามความเหมาะสม สถานการณ์ประเทศไทยมี ร้านยา จำนวนมาก และกระจายในเขตต่างๆทั่วประเทศ เป็นส่วนหนึ่งของระบบสาธารณสุข โดยส่วนมากจะเปิดบริการตลอดทั้งวัน ทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการ สุขภาพ จาก ร้านยา ได้โดยง่าย ประกอบกับ ร้านยา เป็นหน่วยหนึ่งในภาคเอกชน การบริหารจัดการหรือการดำเนินการต่าง ๆ จึงสามารถช่วยประหยัดงบประมาณการคลังของรัฐในการดูแล สุขภาพ ของคนไทยซึ่งมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นมาโดยตลอดได้
ร้านยา แผนปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีรูปแบบการให้บริการที่หลากหลายแตกต่างกัน ไม่ว่าจะพิจารณาจากทำเลที่ตั้ง การตกแต่งร้าน ราคายา การมีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นต้น ความแตกต่างของคุณภาพการบริการของ ร้านยา เป็นประเด็นหนึ่งที่สาธารณชนให้ความสนใจ ทั้งนี้เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค หรือ ผู้ป่วย มาตรฐาน ร้านยา จึงถูกพัฒนาขึ้นจากข้อมูลหลักฐาน และรูปแบบ ร้านยา ที่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคตที่มีการปรับรื้อ ระบบ สุขภาพ ของประเทศโดยรวม ทั้งนี้โดยมีความมุ่งหมายที่สำคัญในการพัฒนา ร้านยา ให้สามารถเป็นหน่วยบริการหนึ่งในเครือข่าย ระบบบริการ สุขภาพ ปฐมภูมิ ภายใต้การสร้าง หลักประกัน สุขภาพ ถ้วนหน้า ซึ่งประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงบริการด้าน สุขภาพ ได้ตามความจำเป็น และมีเสรีในการเลือกใช้บริการได้ตามความพึงพอใจ อย่างไรก็ตามประเด็นสำคัญในการดำเนินการคือ ระบบตรวจสอบและควบคุมคุณภาพบริการ ซึ่งนับเป็นสิ่งจำเป็นที่ก่อให้เกิดบริการที่ดีมีคุณภาพ

วัตถุประสงค์
1. เพื่อใช้เป็นแนวทางการบริบาลทางเภสัชกรรมของร้านยา โดยมุ่งหวังให้เกิดการบริการที่มีคุณภาพ ก่อให้เกิดผลลัพท์ที่ดีต่อสุขภาพ เป็นที่ยอมรับและเกิดความเชื่อถือจากประชาชน และสังคมโดยรวม
2. เพื่อเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการประเมิน ติดตาม ตรวจสอบเพื่อการพัฒนาและรับรองคุณภาพการบริการของ ร้านยา
3. เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาความพร้อมของ ร้านยา เพื่อเข้าสู่การเป็นหน่วยบริการของเครือข่ายระบบบริการสุขภาพ ภายใต้การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า

พันธกิจ
ร้านยา จะเป็นที่พึ่งด้าน สุขภาพ ของชุมชนโดยการจัดหาและให้บริการ ด้านยา และ ผลิตภัณฑ์ สุขภาพ ให้คำแนะนำปรึกษาเพื่อการรักษา การป้องกัน และ การสร้างเสริม สุขภาพ รวมถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องเหมาะสม บนพื้นฐานของการจัดการที่มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับจริยธรรม โดยมีเป้าหมายให้ประชาชนและสังคมได้มีการใช้ ยา และ ผลิตภัณฑ์ สุขภาพต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และเกิดความปลอดภัย

มาตรฐานร้านยา ร้านยา เสมือนหนึ่งเป็น "ที่พึ่งด้าน สุขภาพ ของชุมชน" เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการให้บริการสุขภาพตามวัตถุประสงค์ จักต้องประกอบด้วยมาตรฐานต่าง ๆ ดังนี้

มาตรฐานที่ 1 สถานที่ อุปกรณ์ และสิ่งสนับสนุนบริการ
มาตรฐานที่ 2 การบริหารจัดการเพื่อคุณภาพ
มาตรฐานที่ 3 การบริการเภสัชกรรมที่ดี
มาตรฐานที่ 4 การปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ และจริยธรรม
มาตรฐานที่ 5 การให้บริการและการมีส่วนร่วมในชุมชนและสังคม

มาตรฐานที่ 1 สถานที่ อุปกรณ์ และสิ่งสนับสนุนบริการ

ความมุ่งหมายของมาตรฐานนี้เพื่อให้มีองค์ประกอบทางกายภาพที่เหมาะสมและสนับสนุนให้เกิดการบริการที่มีคุณภาพ โดยมีการจัดแบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนที่เพียงพอและเหมาะสมสำหรับการให้บริการ แสดงให้เห็นอย่างเด่นชัดระหว่างพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติการโดยเภสัชกร และพื้นที่บริการอื่น ๆ มีการจัดหมวดหมู่ของยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และการเก็บรักษาที่เอื้อต่อการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนต้องจัดหาอุปกรณ์ และสิ่งสนับสนุนการให้บริการที่ดีแก่ประชาชน โดยมีรายละเอียดของมาตรฐานดังนี้

1.1 สถานที่

1.1.1 ต้องเป็นสถานที่มั่นคง แข็งแรง มีพื้นที่เพียงพอแก่การประกอบกิจกรรม มีอาณาบริเวณแยกจากสถานที่แวดล้อมเป็นสัดส่วน
1.1.2 มีความสะอาด มีแสงสว่างเหมาะสม อากาศถ่ายเท รวมถึงมีระบบหรืออุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย
1.1.3 มีการจัดการควบคุมสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์
1.1.4 มีบริเวณที่จัดวางยาที่ต้องปฏิบัติการโดยเภสัชกรเท่านั้น และเป็นที่รับรู้ของผู้รับบริการอย่างชัดเจน
1.1.5 มีบริเวณให้คำแนะนำปรึกษาที่เป็นสัดส่วน
1.1.6 มีบริเวณแสดงสื่อให้ความรู้เรื่องสุขภาพ ในกรณีจัดวางเอกสารหรือติดตั้งสื่อที่มุ่งการโฆษณาให้มีพื้นที่จัดแยกโดยเฉพาะ
1.1.7 มีป้ายสัญญลักษณ์ต่าง ๆ ดังนี้
ก. ป้ายแสดงว่าเป็น "ร้านยา"
ข. ป้ายแสดงชื่อ รูปถ่าย เลขที่ใบประกอบวิชาชีพ และเวลาปฏิบัติการของเภสัชกรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ไว้ในที่เปิดเผย
ค. ป้ายสัญลักษณ์ที่เป็นไปตามข้อกำหนดของใบอนุญาตและประเภทของยา
ง. ป้าย "จุดบริการโดยเภสัชกร แสดงบริเวณที่ปฏิบัติงานโดยเภสัชกร และกิจกรรมอื่น ๆ ตามความเหมาะสม เช่น "รับใบสั่งยา" "ให้คำแนะนำปรึกษาโดยเภสัชกร"

1.2 อุปกรณ์

1.2.1 มีอุปกรณ์ในการให้บริการสุขภาพที่เหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการติดตามผลการใช้ยา เช่น

- เครื่องชั่งน้ำหนัก
- ที่วัดส่วนสูง
- ที่วัดอุณหภูมิร่างกาย
- เครื่องวัดความดันโลหิต
- ชุดวัดระดับน้ำตาลในเลือด ฯลฯ

1.2.2 มีอุปกรณ์นับเม็ดยา จำแนกตามกลุ่มยาที่จำเป็นในการให้บริการ เช่น ยาปฏิชีวนะกลุ่มเพนนิซิลิน ยาซัลโฟนาไมด์ ฯลฯ
1.2.3 มีอุปกรณ์เครื่องใช้ในการให้บริการที่สะอาด และไม่เกิดการปนเปื้อนในระหว่างการให้บริการ
1.2.4 มีตู้เย็นเก็บเวชภัณฑ์ที่เป็นสัดส่วนเพียงพอ และมีการควบคุมและบันทึกอุณหภูมิ อย่างสม่ำเสมอ
1.2.5 มีภาชนะบรรจุยา โดยที่

ก. ยาที่มีไว้เพื่อบริการ ควรอยู่ในภาชนะเดิมที่มีฉลากครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด ไม่ควรมีการเปลี่ยนถ่ายภาชนะ
ข. ภาชนะบรรจุยาที่เหมาะสมสำหรับการให้บริการต่อประชาชน ต้องคำนึงถึง ปริมาณบรรจุ การป้องกันยาเสื่อมคุณภาพ เป็นต้น

1.3 สิ่งสนับสนุนบริการ

1.3.1 มีแหล่งข้อมูล ตำรา ที่เหมาะสมในการใช้อ้างอิงและเผยแพร่
1.3.2 มีฉลากช่วย เอกสารความรู้ สนับสนุนการบริการอย่างเหมาะสม
1.3.3 มีอุปกรณ์พิเศษที่ช่วยเพิ่มความร่วมมือในการใช้ยา (ในกรณีจำเป็น)

มาตรฐานที่ 2 การบริหารจัดการเพื่อคุณภาพ

ความมุ่งหมายของมาตรฐานนี้เพื่อเป็นการประกันว่า กระบวนการบริหารจัดการจะเป็นไปตามกระบวนการคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้รับบริการ และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการประกอบวิชาชีพ มาตรฐานนี้ครอบคลุม บุคลากร กระบวนการคุณภาพที่มุ่งเน้นให้ร้านยามีกระบวนการและเอกสารที่สามารถเป็นหลักประกันคุณภาพบริการ โดยมีรายละเอียดของมาตรฐานดังนี้

2.1 บุคลากร

2.1.1 ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ก. เป็นเภสัชกรที่สามารถประกอบวิชาชีพ ตามใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โดยอยู่ปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ
ข. ต้องแสดงตนให้สาธารณชนทราบว่า เป็นเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ โดยสวมเครื่องแบบตามข้อกำหนดของสภาเภสัชกรรม
ค. มีมนุษยสัมพันธ์ และมีทักษะในการสื่อสารที่เหมาะสม
ง. มีสุขภาพอนามัยดี ไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อแก่ผู้รับบริการ

2.1.2 ผู้ช่วยปฏิบัติการ (ถ้ามี)

ก. แสดงตนและแต่งกายให้สาธารณชนทราบว่าเป็น ผู้ช่วยเภสัชกร
ข. ปฏิบัติงานภายใต้การกำกับดูแลของเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ
ค. มีสุขภาพอนามัยดี ไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อแก่ผู้รับบริการ

2.2 กระบวนการคุณภาพ

2.2.1 มีเอกสารคุณภาพที่จำเป็นและเหมาะสม เช่น ใบสั่งยา กฎหมายข้อบังคับที่เกี่ยวข้องแยกเป็นหมวดหมู่ตามประเภท มาตรฐานหรือแนวทางการดูแลผู้ป่วยที่น่าเชื่อถือ (standard practice guidelines) เป็นต้น
2.2.2 มีระบบการจัดการเอกสารคุณภาพและข้อมูลที่จำเป็นและเหมาะสม
2.2.3 มีการประกาศสิทธิผู้ป่วยที่ควรได้รับจากการบริการ
2.2.4 มีการวิเคราะห์และระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งแนวทางการบริหารจัดการที่เป็นรูปธรรม เช่น ความปลอดภัยของการให้บริการ การจ่ายยาผิด เป็นต้น
2.2.5 มีการค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า เช่น
ก. ระบุผู้รับบริการที่แท้จริง
ข. ระบุความต้องการและความคาดหวัง
2.2.6 มีบันทึกการให้บริการสำหรับผู้รับบริการที่ต้องติดตามต่อเนื่อง เช่น แฟ้มประวัติการใช้ยา หรือ เอกสารคุณภาพ เช่น รายงานอุบัติการณ์ รายงานการเฝ้าระวังอาการ อันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
2.2.7 มีการตรวจสอบซ้ำ (double check) ในแต่ละขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับผู้รับบริการเพื่อลดความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดขึ้น
2.2.8 มีตัวชี้วัดคุณภาพที่สำคัญ เช่น ความยอมรับหรือความพึงพอใจของผู้รับบริการ ร้อยละของการค้นหาหรือระบุปัญหาที่แท้จริงของผู้รับบริการที่เรียกหายา จำนวนผู้ป่วยที่มีการบันทึกประวัติการใช้ยา เป็นต้น
2.2.9 มีการเพิ่มเติมความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน

มาตรฐานที่ 3 การบริการเภสัชกรรมที่ดี

ความมุ่งหมายของมาตรฐานนี้เพื่อให้ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการให้บริการเภสัชกรรมบนพื้นฐานมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรมอย่างมีคุณภาพ และก่อให้เกิดความพึงพอใจเกินความคาดหวังของผู้รับบริการ โดยมีรายละเอียดของมาตรฐานดังนี้

3.1 การจัดหา การควบคุมยาและเวชภัณฑ์
การบริหารเวชภัณฑ์ทุกขั้นตอน นับตั้งแต่การจัดหา การเก็บ การควบคุม และการกระจาย จะต้องดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัย

3.1.1 มีเกณฑ์ในการเลือกสรรยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพที่นำมาจำหน่าย เช่น การจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP) และมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
3.1.2 มีการเก็บรักษาซึ่งมีเป้าหมายให้ยาคงประสิทธิภาพในการรักษาที่ดี และปลอดภัยตลอดเวลา
3.1.3 มีบัญชีควบคุมและกำกับยาหมดอายุ
3.1.4 ต้องมีระบบควบคุมยาเสพติดให้โทษ วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท และยาควบคุมพิเศษอื่น ๆ ที่รัดกุมและสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา
3.1.5 มีการสำรองยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นต่อการปฐมพยาบาลเบื้องต้น การช่วยชีวิต ยาต้านพิษที่จำเป็น หรือ การสำรองยาและเวชภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความจำเป็นของชุมชน

3.2 แนวทางการให้บริการทางเภสัชกรรม

3.2.1 มีการส่งเสริมให้มีการใช้ยาอย่างเหมาะสม เช่น การไม่จำหน่ายยาชุด การคำนึงถึงความคุ้มค่าในการใช้ยา
3.2.2 ต้องระบุผู้รับบริการที่แท้จริง และค้นหาความต้องการและความคาดหวังจากการซักถามอาการ ประวัติการใช้ยา รวมถึงศึกษาจากแฟ้มประวัติการใช้ยา(ถ้ามี) ก่อนการส่งมอบยาทุกครั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับผู้ป่วยเฉพาะรายตามมาตรฐานการดูแลผู้ป่วย
3.2.3 มีแนวทางการประเมินใบสั่งยา
ก. ต้องมีความสามารถในการอ่าน วิเคราะห์ และประเมินความเหมาะสมของใบสั่งยา
ข. มีการสอบถามและได้รับความเห็นชอบจากผู้สั่งจ่ายยาทุกครั้ง เมื่อมีการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไข หรือ การปรับเปลี่ยนใบสั่งยา
3.2.4 แนวทางการส่งมอบยา
ก. มีเภสัชกรเป็นผู้ส่งมอบยาให้แก่ผู้มารับบริการโดยตรง
ข. มีฉลากยาซึ่ง ประกอบด้วย ชื่อสถานบริการ ชื่อผู้ป่วย วันที่จ่าย ชื่อการค้า ชื่อสามัญทางยา ข้อบ่งใช้ วิธีใช้ ข้อควรระวัง และวันหมดอายุ
ค. ต้องอธิบายการใช้ยาและการปฏิบัติตัวของผู้มารับบริการอย่างชัดเจน ทั้งโดยวาจาและลายลักษณ์อักษร เมื่อส่งมอบยา
ง. ไม่ควรส่งมอบยาให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี โดยไม่ทราบวัตถุประสงค์ ในกรณีจำเป็นควรมีแนวทาง และวิธีปฏิบัติที่ชัดเจนและเหมาะสม
จ. ห้ามส่งมอบยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ให้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีในทุกกรณี
3.2.5 จัดทำประวัติการใช้ยา (patient's drug profile) ของผู้รับบริการที่ติดตามการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง
3.2.6 ติดตามผลการใช้ยาในผู้ป่วย ปรับปรุงและแนะนำกระบวนการใช้ยา ตามหลักวิชาและ ภายใต้ขอบเขตของจรรยาบรรณ ทั้งนี้เพื่อมุ่งให้ผลการใช้ยาเกิดขึ้นโดยสูงสุด
3.2.7 กำหนดแนวทางและขอบเขตการส่งต่อผู้ป่วยที่เป็นรูปธรรม
3.2.8 มีแนวทางการให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับผู้ป่วยที่ติดตามอย่างต่อเนื่อง
3.2.9 เฝ้าระวังอาการอันไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ และรายงานอาการอันไม่พึงประสงค์ที่พบไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ
3.2.10 ร่วมมือกับแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุขอื่น ๆ เพื่อเป้าหมายสูงสุดในการรักษา

มาตรฐานที่ 4 การปฏิบัติตามกฎ ระเบียบและจริยธรรม
ความมุ่งหมายของมาตรฐานนี้เพื่อเป็นการควบคุมกำกับให้ร้านยาเกิดการปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมุ่งหมายให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ โดยมีรายละเอียดของมาตรฐานดังนี้
4.1 ต้องไม่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรืออยู่ในระหว่างการพักใช้ใบอนุญาตที่เกี่ยวข้อง
4.2 ต้องมีการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ (laws and regulations) รวมถึงการจัดทำรายงานเอกสารในส่วนที่เกี่ยวข้อง
4.3 ต้องไม่มียาที่ไม่ตรงกับประเภทที่ได้รับอนุญาต ไม่มียาที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
4.4 ต้องเก็บใบสั่งยา และเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานที่จ่ายยาเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี และทำบัญชีการจ่ายยาตามใบสั่งยา
4.5 ต้องให้ความเคารพและเก็บรักษาความลับ ข้อมูลของผู้ป่วย (patient confidentiality) โดยจัดระบบป้องกันข้อมูลและรายงานที่เป็นของผู้ป่วย
4.6 ไม่จำหน่ายยาที่อยู่ในความรับผิดชอบของเภสัชกร ในขณะที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่
4.7 ต้องไม่ประพฤติปฏิบัติการใด ๆ ที่ส่งผลกระทบในทางเสื่อมเสียต่อวิชาชีพเภสัชกรรมและวิชาชีพอื่นๆ

มาตรฐานที่ 5 การให้บริการและการมีส่วนร่วมในชุมชนแลสังคม
ความมุ่งหมายของมาตรฐานนี้เพื่อให้ร้านยาให้บริการแก่ชุมชน ตลอดจนให้เกิดการมีส่วนร่วมกับชุมชนในการดำเนินการค้นหา และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องด้านยาและสุขภาพของชุมชนโดยตรง โดยมีรายละเอียดของมาตรฐานดังนี้

5.1 มีบริการข้อมูลและให้คำแนะนำปรึกษาเกี่ยวกับ สารพิษ ยาเสพติด ทั้งในด้านการป้องกัน บำบัด รักษา รวมทั้งมีส่วนในการรณรงค์ต่อต้านยาและสารเสพติด
5.2 ให้ความร่วมมือกับราชการในการแจ้งเบาะแส หรือให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับยาและสารเสพติด
5.3 มีบริการข้อมูลและให้คำแนะนำปรึกษาเรื่องยาและสุขภาพให้กับชุมชน เพื่อประโยชน์ในการป้องกันโรค การรักษาสุขภาพ การสร้างเสริมสุขภาพ และบทบาทอื่น ๆ ในการส่งเสริมสุขภาพ และสุขศึกษาของชุมชน
5.4 ส่งเสริมการใช้ยาอย่างเหมาะสมในชุมชน เช่น การร่วมในโครงการรณรงค์ด้านสุขภาพต่างๆ
5.5 มีส่วนร่วมในการป้องกันปัญหาที่เกิดจากการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมในชุมชน
5.6 จะต้องไม่มีผลิตภัณฑ์ที่บั่นทอนต่อสุขภาพ เช่น บุหรี่ สุรา เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เป็นต้น อยู่ในบริเวณที่รับอนุญาต

:wink: :roll: :twisted: :smile: :biggrin: :lol: :mrgreen: idea:
somasaka100
 
โพสต์: 50
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2009, 17:50

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย treedk » 02 ต.ค. 2009, 10:11

ดีแล้วครับที่ " เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋ " ถ้า " เขาหาว่าผมเป็นเกร์ " ยุ่งเลยครับ
เสียเวลามาแก้ข่าวแบบ ดาราอีก อิอิอิ.................แซวเล่นนะครับ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
treedk
 
โพสต์: 366
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 มิ.ย. 2009, 08:53
ที่อยู่: ลำปางครับ

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย ร้านยาคุณภาพ » 04 ต.ค. 2009, 22:21

ให้อ่าน "มาตรฐานร้านยา" ก็ดี แต่ร้านนี้คงไม่ได้เป็น "ร้านยาคุณภาพ" หรอกค่ะ
เขายังคงเป็น "ร้านขายยา" ทั่วไป
มาตรการกำกับผู้รับใบอนุญาตน่าจะออกมาเร็วๆ การขายยานอกเวลาที่รับอนุญาตไว้ผิดอาญาด้วยนะ
ที่จริง สสจ.ลำปางน่าจะส่งเรื่องไปที่สภาเภสัชกรรม
การขายยาโดยไม่มีเภสัชกรกำกับดูแล ก็เหมือนกับว่า "เภสัชกรไม่ทำหน้าที่ และผิดจรรยาบรรณ"
ที่สำคัญ "หมอตี๋" ไม่น่ามีที่เมืองไทย - เราใช้ยากันฟุ่มเฟือย ใช้ยากันไม่สมเหตุสมผล ก็เพราะเราหยวนกัน และไม่รับผิดชอบบทบาทหน้าที่ อย่างที่ควรเป็น
ร้านยาคุณภาพ
 
โพสต์: 38
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2009, 02:15

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย apotheker » 05 ต.ค. 2009, 09:53

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมามีพี่เภสัชคนนึงโทรมาปรึกษาผมว่า มีปัญหา โดนร้านยาใหญ่ซึ่งมีหลายสาขา มาเปิดสาขาใหม่ใกล้บ้าน แล้วขายตัดราคา
เรียกว่าแทบจะติดทุน ทุกตัว เป็นร้านที่ไม่มีเภส้ชกรอยู่(แขวนป้ายนั่นแหละ)
จากที่เค้าเคยขายได้วันละหมื่น ลดลงเหลือวันละ2000 แกไม่รู้จะทำยังไง ก็เลยบากหน้าไปที่ร้านนั้นแล้วบอกว่า
"อย่าขายยาถูกนักเลย ขอที่ให้ผมได้ยืนบ้าง"

คำตอบที่เค้าตอบกลับมาคือ
"มันไม่เกี่ยวกัน ผมกับคุณน่ะทำคนละอาชีพ"
"คุณก็จัดยาขายไปสิ เป็นเภสัชกรไม่ใช่เหรอ"

เรื่องประมาณนี้ บางคนอาจจะคิดว่าไกลตัว หรือ แหมเป็นเภสัชประสาอะไรทำไมขายยาสู้ตี๋ไม่ได้ แต่คุณลองนึกถึงร้านขายยาแบบ คลังยาบางมะอึก มาเปิดห่างจากร้านคุณไปสัก2-3ห้อง แล้วก็ขายยาแบบที่เค้าขาย บางตัวต่ำกว่าทุนของเราซะอีก ด้วยความที่ว่าทุนหนา ค่าใช้จ่ายน้อย และมีหลายสาขา เอากำไรแต่ละสาขาไม่ต้องมาก แถมได้ยาถูกเพราะซื้อปริมาณมาก รวมกันซื้อหลายๆสาขา

ถ้าเจอแบบนี้ จะปรับตัวสู้เค้าอย่างไร
เรื่องนี้เป็นเหตุที่เกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้เกิดกับผม มีคนโทรมาถาม ผมก็ตอบไม่ได้ว่าจะทำยังไง แล้วก็คิดว่า ถ้าเกิดขึ้นกับเราล่ะจะทำยังไง
คิดไม่ออกเหมือนกัน
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย calcium » 05 ต.ค. 2009, 16:21

เป็น การต่อสู้ของร้านยา เครือข่าย ทีมีกำลังมหาศาล ในการซื้อ และต่อรอง เทียบได้ กับ เซเว่น และ ร้านโชว์ห่วย ถ้าใช้สมอง และปัญญา ไม่มีปัญหา แต่ถ้าใช้ ราคา ใช้เงิน เข้าแลก คงต้องคิด ร้านเล็กๆจะหันไปทางไหน ว่า ถ้าเภสัชกร ทั่วไทย ร่วมกัน สร้างระบบร้านยาเครือข่าย ใหม่ ที่กำเหนิดมาบนพื้นฐาน มาตรฐานทุกอย่างที่ควรมี รวมสมอง รวมปัญญา และกำลังจากผู้ถือหุ้นที่เป็นเภสัชกร ก็จะมีรายได้จาก เงินปันผล แทนการ แขวนป้ายก็จะหมดไป แล้ว จะสามารถยืนหยัดได้ไหม ใครจะเริ่ม idea: พูดถึงร้านสร้างใหม่ แบรนด์ใหม่ นะครับ เป็นระบบ แบบ network .แบรนด์ไม่ขาย แฟรนซ์ไชน์ บริหาร แบบมืออาชีพ คิดแบบนักธุรกิจ + ความรู้ของเภสัชกร มีสาขาทั่วประเทศ บริหารแบบองค์กร ไม่ต่างคนต่างทำ แค่ คิดเล่นๆครับ.ใครคิดได้มากกว่านี้ บอกผมด้วยครับ
calcium
 
โพสต์: 13
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2009, 12:42

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย vic » 07 ต.ค. 2009, 09:00

น้า calcium นี่ เภสัชกรตัวจริงครับ เห็นด้วยอย่างแรง แต่ในทางปฏิบัติทำยากมาก แค่ในชุมชนหนึ่งๆยังแข่งกันเลย
vic
 
โพสต์: 145
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 พ.ค. 2009, 16:49

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย ohayo » 07 ต.ค. 2009, 09:25

เห็นด้วยกับคุณcalciumค่ะ ทำยากก็ไม่ไดด้หมยความว่าทำไม่ได้นะคะ สำคัญที่ว่าจะมีใครเริ่มทำรึปล่าว นี่อาจเป็นทางออกของพวกเราก็ได้ เพราะจริงๆแล้วเคยคิดแบบนี้เหมือนกัน
ohayo
 
โพสต์: 219
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2009, 14:41

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย BEN10 » 07 ต.ค. 2009, 14:06

ถ้าคุณจะทำการค้า หรือทำธุรกิจ คุณต้องไม่กลัวการแข่งขัน ธุรกิจใด ถ้าไร้คู่ต่อสู้ อย่าเข้าไปครับ อันตราย มีแนวโน้มว่าจะ ไม่รอดสูง ผมเห็นด้วยกับแนวทางนี้ครับ อาจมี แบรนด์ เนทเวอรค์ใหม่ หลายแบรนด์ เกิดขึ้น จากกลุ่มเภสัชกร ไฟแรงหลายกลุ่ม มาแข่งขันกัน ในด้านที่ดี ที่ถูกต้อง ร้านยาที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องเริ่มปรับตัว โดยธรรมชาติ เพื่อการแข่งขัน คุณจะมานั่งรอ เปิดร้านก่อน ปิดร้านทีหลัง ขายเวลาที่เขาไม่ขาย นั่งหน้าหล่อ สวย แต่ภายในใจเศร้าหมอง ว่างมากก็จัดร้านเรื่อยๆ จน กรอบแล้ว ก็หมดไฟ ไปในที่สุด แต่ถ้าคุณรวม พล คนมีไฟ เปรียบเสมือน รวมส่วนที่ได้เปรียบและ เสริมส่วนเสียเปรียบ ก็จะ win-win เป็นประโยชน์ ต่อวิชาชีพ แล้วถ้ามีร้าน network มาเปิดใกล้ๆ ถ้าคุณเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ เข้าร้านคุณ หรือร้าน ไหน คุณก็ได้ จริงไหมครับ อย่างที่มีคนบอก ถ้าสู้ไม่ได้ ก็ต้องเข้าร่วม แต่คุณจะร่วมแบบไหนครับ เป็นส่วนหนึ่งของ ร้านยาเครือข่ายกำเนิด เภสัชกรไทยแท้ๆ หรือ ถ้าคุณอยากมีส่วนร่วมในการบริหาร ก็เข้ามาร่วมประกอบวิชาชีพในร้าน และบริหาร ร้านใช้ในสิ่งที่คุณมี คุณก็จะเป็นทั้ง ผู้ถือหุ้น เป็นผู้ส่งเสริม การประกอบวิชาชีพ อะไรอีกหลายอย่างได้ นี่แค่แนวคิดเพิ่มเติม ครับ ส่วนที่เหลือ คงต้องช่วยกันคิดครับ เอาเป็นว่าผมขอเปิด กระทู้ใหม่นะครับ....
BEN10
 
โพสต์: 67
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2009, 09:46

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย TDPharm » 07 ต.ค. 2009, 17:23

เห็นด้วยมากมาย อ่านแล้วได้กำลังใจมากมายว่าเราต้องสู้ครับ


ขอให้พระคุ้มครอง...
ภาพประจำตัวสมาชิก
TDPharm
 
โพสต์: 344
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2009, 09:36

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย kero » 09 ต.ค. 2009, 10:29

ไปนั่ง ค้น physiology กับ Kinetic ของยา ที่มีผลกับทาง Gyne

ไม่พบแฮะว่า "องค์ความรู้ มันสามารถถ่ายทอดทางเพศสัมพันธ์"


ปล. ขำๆ จะได้ไม่ตกกระทู้ ตามเจตนา จขกท
ภาพประจำตัวสมาชิก
kero
 
โพสต์: 71
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2008, 18:31

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย brufen » 09 ต.ค. 2009, 10:59

ลองเข้าไปอ่านในเวบบอร์ดของสมาคมร้านขายยา

ซึ่งส่วนมากก็เป็นร้านหมอตี๋ ร้านแขวนป้ายนี่แหละ

เห็นประกาศรับสมัครเภสัชแขวนป้ายกันเกือบทุกจังหวัดเลย

เค้าก็ออกความเห็นกันว่า พวกเค้าเปิดร้านขายยามาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ

อยู่ๆ จะให้เค้าปิดร้านเพราะเภสัชไม่ยอม บอกว่าไปแย่งอาชีพเภสัช ทั้งๆ ที่เค้าเปิดกันมาก่อนซะอีก

บ้างก็ว่าอยากเรียนต่อเภสัชเหมือนกัน แต่เรียนสายศิลป์มา บ้างก็จบแค่ ม.6 (แต่ขายยานี่นะ!!)

บางคนบอกค่าเรียนแพง กว่าจะเรียนจบอีกล่ะ หลายปีเลย

หลายคนเลยที่บอกว่าค่าจ้างเภสัชแพง เดือนละ 2-3 หมื่น สู้ไม่ไหว

แถมบอกอีกว่า ต่อให้เป็นเภสัเองก็เหอะ เปิดร้านแล้วก็ใช่ว่าจะไปรอดกันทุกราย (ง่า _ _")

หลายร้านก็โจมตีเภสัชที่แขวนป้ายให้ตัวเองว่า เดือนๆ นึงนี่ไม่โผล่ศีรษะมาเลย

มีแต่โทรมาถามว่า พี่โอนตัง รึยังๆๆ

เข้าเวบนี้แล้ว เซ็งจิต รู้สึกว่าเค้าก็รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งเหมือนกันนะ
brufen
 
โพสต์: 248
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ส.ค. 2008, 20:47

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย sakon » 19 พ.ย. 2009, 10:34

ถ้าท่านไปรพ หมอปวดขี้ ให้เจ้าหน้าที่เข็นเตียงมาผ่าตัดท่านแทน ก็ได้นิ เพราะไม่ได้เรียนมาแต่เห็นทุกวันจนทำได้เก่งกว่าหมอแล้ว
ก็หยวนๆๆน่า ปวดขี้ทำไงได้ 55555555555555555555
sakon
 
โพสต์: 40
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ย. 2009, 18:41

Re: เขาหาว่าผมเป็นหมอตี๋

โพสต์โดย inonnp » 20 พ.ย. 2009, 09:03

ร้านยาแฟรนไชน์และสาขาเน้นการเปิดสาขาใหม่เพื่อลดต้นทุน เปิด 60 สาขา อาจจะมีเภสัชไม่ถึง 10 คน เอาไว้กัน สสจ.พื้นที่ๆตรวจบ่อย
ถ้ามาตรวจที่กรุงเทพ จะพบว่ามีแต่ผู้ช่วยเภสัชกรทั้งนั้น ผมเคยโดนบอกว่า ไม่รู้จะมีเภสัชกรไว้ทำไม มีไว้ก็ขายไม่ได้ยอด(ผมไม่เคยโอเวอร์เคลม) อ้าว..เคยก็ต้องแขวนป้าย 2 สาขา รู้สึกผิดมากๆ ตอนนี้สบายใจที่มีป้ายอยู่ในสาขาที่ตัวเองทำงานแล้ว (มองป้ายแ้ล้วคิดถึงว่่ากว่าจะได้มาลำบากแค่ใหน)
ภาพประจำตัวสมาชิก
inonnp
 
โพสต์: 29
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 21:18
ที่อยู่: ร้านรวมยาเภสัช 164/1 ม.13 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี 84170

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ลาเต้

ผู้ใช้งานขณะนี้

cron
New Document