กลยุทธ์ หรือเคล็ดลับ ดึงลูกค้าร้านยา

[Piggy Bunny]

ตัดราคา เป็นวิธีที่ดูไม่เป็น smart pharmacist เลยค่ะ
แถวนี้ก็ตัดราคากันเยอะ มีรูปแบบที่ว่า ให้คนมาสืบราคา หรือโทรศัพท์มาถามราคา เลย 5555
ก็ขำนะ เป็นเอามาก ... ลดราคา บางตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเรียกหา กำไรไม่เยอะ เพื่อดึงคนเข้าร้าน คิดว่าได้ผลนะคะ แต่ไม่ทั้งหมดหรอก

ต้องหาจุดเด่น และความแตกต่างให้กับร้านตัวเอง ตัวเภสัชเองสำคัญที่สุดเลย !!!
ให้ลูกค้า รู้สึกว่า ไม่มีใคร แทนที่เราได้ ให้เค้าจงรักภักดีต่อเรา แนวๆ นิดนึง อิอิ

[will]

ไม่ได้โกรธ หรือ เกลียด ขนาดนั้นครับ ที่อธิบายหรือ คุยกันมาตั้งนาน นะ ประเด็น คือ
1 ตัดราคาไม่ได้ตัดแต่ตัวเองแต่ตัดวงการร้านยา
2 ตัดราคา คือ ตัดตัวเองเพราะ
2.1 เรานะเก็บค่าวางสินค้าไม่ได้
2.2ขายดีให้ตายก็ไม่ได้ปริมาณขนาดไปต่อรองกับsupplyer ได้เท่าๆกับที่ big c, lotus, carfoure, 7-11จนได้ราคาถูกมากๆได้
2.3อีกอย่างสินค้าด้านเวชภัณท์ ไม่เหมือนสินค้าอุปโภค บริโภคที่ขายตามสโตร์ทั่วไป มันมีผลต่อ คนใช้ยา มากกว่า
2.4อีกทั้งถ้าเป็นยา original ใหม่ๆ มันเป็นสินค้าทางปัญญาชั้นสูงบริษัทยาคงไม่เอามาขายเลถูกๆ หรือ ให้ส่วนลดมากๆ จนต้นทุนตํ่าจัดๆจนสามารถไปต่อรองได้ถูกมากๆ แล้วเอามาตัดราคาโดยไม่ตัดตัวเองไปได้ ถ้าจะบอกว่าก็เล่นแต่ยา local made สิอันนี้ยิ่งน่าคิด คือ ถ้ามีบริษัทยาเล่นด้วยมากๆ แล้วยังไงมันก็ลามไปตัดราคายาตั้งแต่ต้นทาง ทีนี้ละ ลดต้นทุนสิ จะได้ขายมากๆถูกๆ สุดท้ายก็มีข่าวอึ ออกมาเป็นเม็ดยาให้เห็นอีก

ลองชั่งผลดีผลเสียกันดู แรกๆนะผู้บริโภคได้ไปเต็มๆ แล้วก็บอกว่า แค่ประโยชน์คนกลุ่มหนึ่งจะไปเทียบกับผลประโยชน์ของผู้บริโภคตั้ง60ล้านคนได้ยังไง ถ้าเป็นอย่างนี้ได้เลยครับ ขายถูก แล้วก็ไปผลิตถูกๆ สุดท้ายก็ ออกแนวไข่เมลามีน นั่นละครับทีนี้ 60 ล้านคนก็ ได้นับเม็ดอึเหมือนนับเม็ดยา หรือ etcccccc..............

ลองพิจารณากันดูนะครับ ตัดราคาน่าจะยอมรับได้ในกรณีที่รู้จักขอบเขต แต่ใครละจะกําหนด แล้วไม่ก้าวข้ามขอบเขตนั้นๆ(วินัยของคน ความพอเพียงของคน )

[omegaboy]

ผมทำทั้ง2อย่าง ทั้งตัดราคาและสร้างฐานลูกค้า

ลูกค้าบางคนต้องใช้ราคาเป็นเครื่องสร้างมิตรภาพในช่วงแรก ถึงดึงดูดใจใด

บางคนสนิทมากไป ต่อราคาแหลก เรียกร้องนั่นนี่

หลังจากนั้นจึงใช้ความรู้ด้านเภสัชควบคู่ไป

ส่วนราคาที่ตัด ถ้ากำไรยังมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร เป็นอันใช้ได้ ขำขำ

สำหรับผม การอยู่ร้านขายยา ครึ่งหนึ่งต้องเป็นพ่อค้า ครึ่งหนึ่ง ต้องเป็นเภสัช

[TDPharm]

บอกตามตรง............................ "เพลียอ่าน" ... ติดตามทู้นี้แล้ว..... "เพลียสายตา"



เห็นด้วยกับทุกกระทู้นะครับ เอาเป็นว่า ชอบแบบไหนทำแบบนั้น ปล. เราเป็นเภสัชนะ
เคยคิดมาตลอด ว่าคนที่ตัดราคามักเป็นร้านหมอตี๋ ไม่มีศักยภาพอะไร ก็ต้องทำแบบนี้ หรือเป็นเพราะผม
ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ หรือโลกการแข่งขันของร้านยามันน่ากลัวขนาดนี้.... แต่ก็แปลก
เด็กรุ่นใหม่ ก็ยังขอรายการยาไปเปิดร้านทุกวัน จนต้องหยุดรีพาย แต่อีกห้องก็มีคนมาให้เซ้งร้าน หรือหยุดกิจการร้านยาเยอะมากกกก

ต่างคนต่างความคิด ต่างคนต่างไปทำงานละกัน แต่อย่ามาเบียดเบียนกันทางอ้อมเลย
ไปถือศิล 227 ข้อก่อนนะ...


ทีดีฟาร์มไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์เรา

[BEN10]

ผมทำทั้ง2อย่าง ทั้งตัดราคาและสร้างฐานลูกค้า

ลูกค้าบางคนต้องใช้ราคาเป็นเครื่องสร้างมิตรภาพในช่วงแรก ถึงดึงดูดใจใด

บางคนสนิทมากไป ต่อราคาแหลก เรียกร้องนั่นนี่

หลังจากนั้นจึงใช้ความรู้ด้านเภสัชควบคู่ไป

ส่วนราคาที่ตัด ถ้ากำไรยังมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร เป็นอันใช้ได้ ขำขำ

สำหรับผม การอยู่ร้านขายยา ครึ่งหนึ่งต้องเป็นพ่อค้า ครึ่งหนึ่ง ต้องเป็นเภสัช

ครับ เราจะอยู่รอดได้ ต้องทำให้ได้ครับ ทำในขอบเขตที่ตัวเรายอมรับได้ และเป็นเราครับ เหมือนที่บางคนเคยกล่าวว่า เป็นศิลป์ แต่จริงๆ คือ การยอมรับในความจริง และเป็นไปของโลก ที่สีดำนี่เป็นเรื่องจริง นะครับ ต้องยอมร้บเลย เจอมามาก ดังนั้น ส่วนทีบอกว่าเขาเสร็จน่ะ ไม่แน่เขาอาจคิดแบบเราก็ได้ ครับ ขำๆ ครับ

[will]

ขออณุญาตินะครับ

ตามเกมนะอ่านง่ายๆ ถามว่าใครเสร็จ ง่ายๆเลยครับ สัตว์กินพืชนะเสร็จก่อนแน่ๆ ตัดราคานะไงก็รอดก่อน แต่สุดท้ายจะเหลือแต่สัตว์ กินเนื้อ
แล้วมันก็กินเนื้อกันเอง รวมถึงสัตว์เล้กสัตว์น้อยอื่นๆ เละเทะไปหมดครับ

ทุกคนก็คงหวังเป็น สัตว์ที่กินได้ทั้งเนื้อและผัก กันทั้งนั้นละครับ อยู่รอดง่ายที่สุด

แต่โลกนี้ ถ้าทุกคนเป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งเนื้อและผักทั้งหมด ไม่มีใคร มอง หรือ ออกมามองโลกทั้งใบ(ถึงแม้จะอุดมคติ)ก็คงไม่ดี เหมือนโลกร้อน
ที่แต่ก่อนก็คงไม่มีใครพูดถึงมองถึง พอออกมาพูด มามองกันมากๆขึ้นจากไม่มีอะไรเลย ก็เริ่มมีถุงผ้า แทนถุงพลาสติกบ้าง เป็นยังไง ผมเองก็เผื่ือๆ
ไปแบบนี้ ทั้งๆที่ผมเองก็สารภาพว่าคงเป็นทั้ง กินเนื้อและผักแน่ๆครับ

[BEN10]

มีเรื่องจะเล่าให้ฟังครับ มีพี่เภสัช คนหนึ่ง อายุท่าน มากแล้วครับ ท่านเล่าให้ฟังว่า คนเราคิดไม่เหมือนกัน มีเพื่อนที่ท่านรู้จัก เคยบอกกับท่าน ว่าที่เพื่อนท่านทำร้านยา มีหลายสาขา หลายร้าน จุดประสงค์หลัก คืออะไร ผมก็ตอบท่านว่าก็ต้องหวังกำไรครับ แต่ท่านบอกว่าจริงๆแล้วไม่ได้หวังกำไรจากการทำธุรกิจครับครับ แค่คิดว่าดีกว่าดอกเบี้ยธนาคาร แต่ที่จริงแล้วคือ ขายตึก ขายทำเลครับ ได้เป็นก้อนเลยครับ แต่ร้านเพื่อนท่านก็ทำถูกต้องนะครับ มีเำภสัชประจำ ทำทุกอย่างถูกต้อง พี่ท่านนี้บอกในมุมที่ผมไม่เคยคิดถึงเลย ครับ นี่แหละครับ ประสปการณ์ ผมถึงได้รู้จากคำบอกเล่าของพี่ และเพื่อนๆครับ ฟังไว้เป็นความรู้ครับ เลือกเอาแต่สิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์ครับ

[pmc]

เลิกเถียงกันเถอะ ร้านใครร้านมัน ใครอยากขายถุูกก็ขายไป ใครอยากขายแพงก็ขายไป เดี๋ยวกำไรหรือความเจริญรุ่งเรืองของร้านก็เป็นตัวตัดสินเอง

[TDPharm]

เคยได้ยินร้านยาศิริราช ขายถุกกกกกกกกกกกกกกกมาก วันหนึ่งขายได้เป้นแสนๆๆ เฉียดล้าน หรือล้านกว่านี่แหระ


เห้ออออออ

[will]

เลิกเถียงกันเถอะ ร้านใครร้านมัน ใครอยากขายถุูกก็ขายไป ใครอยากขายแพงก็ขายไป เดี๋ยวกำไรหรือความเจริญรุ่งเรืองของร้านก็เป็นตัวตัดสินเอง

แลกเปลี่ยนมุมมอง ความรู้ ประสบการณ์ ขอรับ มิบังอาจเถียง
แค่นี้คนอ่านก็คงพอได้ประโยชน์แล้ว อ๊อด อ๊อด

[somasaka100]

บอกตามตรง............................ "เพลียอ่าน" ... ติดตามทู้นี้แล้ว..... "เพลียสายตา"



เห็นด้วยกับทุกกระทู้นะครับ เอาเป็นว่า ชอบแบบไหนทำแบบนั้น ปล. เราเป็นเภสัชนะ
เคยคิดมาตลอด ว่าคนที่ตัดราคามักเป็นร้านหมอตี๋ ไม่มีศักยภาพอะไร ก็ต้องทำแบบนี้ หรือเป็นเพราะผม
ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ หรือโลกการแข่งขันของร้านยามันน่ากลัวขนาดนี้.... แต่ก็แปลก
เด็กรุ่นใหม่ ก็ยังขอรายการยาไปเปิดร้านทุกวัน จนต้องหยุดรีพาย แต่อีกห้องก็มีคนมาให้เซ้งร้าน หรือหยุดกิจการร้านยาเยอะมากกกก

ต่างคนต่างความคิด ต่างคนต่างไปทำงานละกัน แต่อย่ามาเบียดเบียนกันทางอ้อมเลย
ไปถือศิล 227 ข้อก่อนนะ...


ทีดีฟาร์มไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์เรา

เห็นด้วยเช่นกันคับ
เภสัชกร เรายืนจุดไหน ในสายตาประชาชน เรียนมา5-6ปีเพื่ออะไร น่าคิด

[TDPharm]

บอกตามตรง............................ "เพลียอ่าน" ... ติดตามทู้นี้แล้ว..... "เพลียสายตา"



เห็นด้วยกับทุกกระทู้นะครับ เอาเป็นว่า ชอบแบบไหนทำแบบนั้น ปล. เราเป็นเภสัชนะ
เคยคิดมาตลอด ว่าคนที่ตัดราคามักเป็นร้านหมอตี๋ ไม่มีศักยภาพอะไร ก็ต้องทำแบบนี้ หรือเป็นเพราะผม
ยังอ่อนด้อยประสบการณ์ หรือโลกการแข่งขันของร้านยามันน่ากลัวขนาดนี้.... แต่ก็แปลก
เด็กรุ่นใหม่ ก็ยังขอรายการยาไปเปิดร้านทุกวัน จนต้องหยุดรีพาย แต่อีกห้องก็มีคนมาให้เซ้งร้าน หรือหยุดกิจการร้านยาเยอะมากกกก

ต่างคนต่างความคิด ต่างคนต่างไปทำงานละกัน แต่อย่ามาเบียดเบียนกันทางอ้อมเลย
ไปถือศิล 227 ข้อก่อนนะ...


ทีดีฟาร์มไม่แคร์สื่อ เพราะสื่อต้องแคร์เรา

เห็นด้วยเช่นกันคับ
เภสัชกร เรายืนจุดไหน ในสายตาประชาชน เรียนมา5-6ปีเพื่ออะไร น่าคิด

ขอบคุณนะครับคุณ somasaka 100 ที่ยังเห็นด้วยกับความคิดของผม ซึ่งที่มหาลัยไม่เคยสอน เพราะคิดว่าเภสัชกรคงไม่ต้องทำแบบนั้น แบบ

คิดเองได้ ดีใจที่ยังมีคนเห็นด้วย 1คน ใน ล้านก็ยังดี

[apotheker]

เปิดร้านใหม่ๆก็คิดแบบหลายๆคนในนี้แหละ หยิ่งในศักดิ์ศรีเภสัชกรยิ่งเมื่อก่อนมีไม่กี่ร้านหรอกที่เป็นเภสัชเปิดเอง
อยู่ไปอยู่ไปได้เห็นความเป็นจริงในโลก

เภสัชนี่แหละตัวตัดราคาเลย เพราะคิดว่าตัวเองหายาได้ถูกกว่า ที่บอกว่ายิ่งซื้อเยอะยิ่งถูก นั้นก็ไม่ได้จริงเสมอไปหรอก ยาบางตัวมันก็มีช่องทางพิเศษของมัน ยิ่งพวกคุณออริจินัลทั้งหลายนั่นแหละ

ปัจจุบันเห็นด้วยกับการเดินสายกลาง คือ ต้องดูให้ออกว่าตัวไหนต้องเล่นราคา ตัวไหนไม่ต้อง เรียกว่ามีตัวล่อ ตัวชน
ยังไงคุณก็เลี่ยงสงครามราคาไม่พ้นหรอก ไม่อยากแข่งก็ต้องแข่ง เพราะยาหลายตัวคนซื้อเค้าไม่ได้ต้องการการแนะนำอะไรจากเภสัช แม้เราจะพยายามยัดเยียดให้ เขาก็ไม่สน สนแค่ว่า มีหรือเปล่าและ ราคาเท่าไหร่

สุดท้ายก็หลักการตลาดเบื้องต้น 4P price place product promotion เลือกให้ถูกว่าจะใช้ตัวไหนกับสินค้าอะไร เรามีข้อได้เปรียบในเรื่องของอะไรพยายามดึงขึ้นมาให้เด่น เช่นหายาตัวนี้ได้ถูกอย่าแอบถูกไว้ในหลืบ ต้องประกาศให้รู้ว่าตัวนี้กรูขายถูก เป็นร้านเภสัชกร มีProduct knowledge ก็พยายามทำให้มันเด่นขึ้นมา ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เป็นอันนึงที่ผมยังทำใจยอมรับไม่ค่อยได้กับสินค้าประเภทยา เช่นมาถามหาซื้อยาที่ผิดกฎหมาย พอเราไม่มี เค้าไม่สนหรอกครับว่าเราทำตามกฎหมายมีจรรยาบรรณ เค้ารู้แต่ร้านนี้ไม่สนองneed แล้วพวกนี้เค้าก็มักจะมีสังคมของเค้าเช่นพวกกระเทยที่กินยาปรับฮอโมน พวกผู้หญิงที่อยากผอมอยากขาว ชายสูงอายุที่มีปัญหาเรื่องอิมโพเทนซ์ คำพูดของเขามีค่ากว่าการโฆษณาผ่านสื่อเสียอีก บางทีก็ต้องชั่งน้ำหนักเหมือนกันว่าจะเลือกอะไรระหว่าง เงินหรือความภูมิใจในตัวเอง

มีคนพูดถึง7/11 พอดีมีโอกาสคุยกับฝ่ายพัฒนาของเค้า เล่าให้ฟังว่า 7/11ไม่ลงทุนซื้อตึกเพราะทำเลเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ควบคุมไม่ได้ เค้าจะเช่าเอา และให้ค่าเช่าสูงกว่าราคาตลาด เพราะเค้าใช้สถานที่ทำเงินได้คุ้มกว่าคนอื่นคือ24ชม.และการเปิด24ชม.นี่แหละเป็นจุดแข็งที่เค้าเหนือกว่าคนอื่น คนที่ไม่ชอบ7/11เลยไม่ว่าด้วยเหตุอะไร แต่เมื่อหิวขึ้นมาตอนตี3 แถวบ้านไม่ร้านเปิดเลยก็ต้องเข้า7/11 และเมื่อเข้าไปแล้วก็เป็นโอกาสที่จะเป็นลูกค้าประจำของ7/11ต่อไป เพราะจุดขายของเค้าคือ ความสะดวกสบายแบบคอนวีเนี่ยนสโตร์ ไม่ใช่แข่งราคาแบบดิสเคาท์สโตร์ เค้าจึงไม่พยายามรบในสงครามที่เขาไม่ถนัด ด้วยการสร้างสินค้าที่เป็นhousebrand พวกของกินทั้งหลายนั่นแหละครับกำไรเกิน100%ทั้งนั้น

[BEN10]

เลิกเถียงกันเถอะ ร้านใครร้านมัน ใครอยากขายถุูกก็ขายไป ใครอยากขายแพงก็ขายไป เดี๋ยวกำไรหรือความเจริญรุ่งเรืองของร้านก็เป็นตัวตัดสินเอง

แลกเปลี่ยนมุมมอง ความรู้ ประสบการณ์ ขอรับ มิบังอาจเถียง
แค่นี้คนอ่านก็คงพอได้ประโยชน์แล้ว อ๊อด อ๊อด

เป็นความรู้สึกที่ดีๆ ที่เราเภสัชกร ใหประเทศไทยมีให้กันครับ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น กับ ท่าน will และ อีกหลายท่าน เป็นสิ่งที่ดีครับ เป็นการสร้างสรรค์ให้เกิดแนวทางในการคิดให้มากขึ้น แต่ต้อง ขอโทษ เจ้าของกระทู้ครับที่ใช้พื้นที่ตรงนี้มาใช้ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน คงไม่ใช่การเปิดประเด็นใหม่ แต่เป็นการมองในหลายหลายมุมมอง เป็น แบบรู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะทุกครั้ง ครับ บางอย่างอาจไม่ถูกใจ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ครับ คงจะไม่เกี่ยวของกับการเรียนในมหาวิทยาลัยสักเท่าใหร่ ครับ มหาวิทยาลัยไม่ได้สอนให้คนโกง ไม่ได้สอนให้คนเป็นคนไม่ดี แต่การอยู่รอดได้ในสังคมนี้ยาก การรู้เท่าทัน เป็นสิ่งที่จำเป็น ครับ เราจะมาเรียนรู้ เทคนิค และวิธีการที่เขาใช้ และทำอย่างไร และอยู่ร่วมกับคนในสังคม เช่น โีรงพยาบาล, ชุมชน,ร้านยา ได้อย่างไร มีประโยชน์ แค่ไหน คงต้องอยู่ที่นำไปใช้คิด และ ทำได้แค่ไหน ครับ เำภสัชกรทุกคนรู้ครับ ว่าเรามีเกียรติ มีศักดิศรี อยากทำและแข่งขัน ในด้านคุณภาพ ไม่อยากแข่งด้านราคา แต่ในความเป็นจริง ก็คือความจริงครับ ผมคงไม่อาจเอื้อมไปสอนสั่งใครได้ แค่แลกเปลี่ยน ความเห็น ในอีกด้านเท่านั้น สุดท้ายนี้ คงต้องขอโทษ ถ้ามีคำพูดอะไร ที่เขียนไปแล้วไม่ถูกใจใครหลายๆท่าน ครับ เห็นด้วยกับคุณapo ครับ ทางสายกลาง และ ถ้าใครคิดว่ายอมหัก แต่ไม่ยอมงอ ก็แล้วแต่ครับ ขอบคุณครับ สำหรับความเห็นดีๆ และ ข้อคิดดีๆ ขอบคุณจากใจ จริงๆ ครับ

[will]

ขอบคุณด้วยอีกคนครับ

แต่ขอบอกว่า 7-11 ท่านไม่ได้ให้ค่าเช่าที่สูงกว่าท้องตลาดครับ เคยไปดูตึกราคา 10 ล้านบาท ท่านให้ค่าเช่าแค่ 45000 บาทสําหรับ
2 คูหาเท่านั้นแถมเราต้องรับภาระด้านภาษีโรงเรือนอีกด้วย ทั้งๆที่แถวนั้นน่าจะได้ราคาค่าเช่าที่ 60000 บาท แบบผู็เช่าต้องจ่ายภาษีเอง
ใครมีตึกแล้วให้ทาง ซีพี เช่ากรุณาดูสัญญาดีๆ จะมีเรื่องประกันอัคคีภัยที่เรานะต้องออกให้ + อื่นๆ