ผมว่าหลายคนอยากทำร้านยาเพราะ
1. อยากทำธุรกิจ เพราะคิดว่าเป็นงานที่มีรายได้ดี
2. อยากทำ service หรือไม่ก็อยากเป็น prescriber เอง (ไม่อยากจ่ายยาตามใบสั่ง)
3. งานอื่นอิ่มตัวแล้ว ตกงาน อายุมากแล้ว ไม่อยากเป็นลูกน้อง
4. ทำตามแฟชั่น คิดไม่ออกก็เปิดร้านยา (เหมือนคนกทม. คิดไม่ออกก็ไปเดินห้างสรรพสินค้า)
etc.
แต่สุดท้ายก็ต้องพิจารณาถึงหลายปัจจัยด้วย
1. เป็นธุรกิจที่มีกำไรก็จริง แต่เป็นการค้าเสรี ไม่มีโควต้า แต่ต้องอาศัยระยะเวลา ดังนั้นกว่าจะได้กำไร (จนกระทั่งออกจากงานประจำ หรือได้ผลตอบแทนเท่างานประจำอาจต้องใช้เวลานานนับปี) จึงมีตัวอย่างร้านยาที่ต้องปิดตัวไปในระยะเวลาอันสั้นเนื่องจากเภสัชกรรอผลกำไรไม่ได้ (เคยเห็นมาสั้นสุด 1 เดือนก็ปิด) โดยเฉลี่ยผมแนะนำน้องๆ ว่าร้านยาที่ไปเช่าที่คนอื่นทำต้องทำสัญญานานสัก 3 ปี เพราะปีที่ 3 จึงจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ เพื่อเตรียมเสียค่าเช่าที่เพิ่มในปีที่ 4
2. ปัจจุบันเป็นตลาดของผู้ซื้อ เปลี่ยนร้านยา-คลินิกไปเรื่อย ร้านยาต้องพัฒนาตนเองมากกว่าเดิม (ทั้งในเรื่องบริการ และองค์ความรู้) ผู้ซื้อมีความรู้มากขึ้น เภสัชกรไม่สามารถกำหนดรูปแบบการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยทุกรายตามใจตนเอง (สังเกตดูจะมีเภสัชกร post เข้ามาบ่นเรื่องลูกค้าบ่นโน่นนี่ ไม่ว่าจะเป็นราคา การเปรียบเทียบกับร้านอื่น ไปหาหมอดีกว่ามั๊ย???)
3. เภสัชกรร้านยาเองอาจต้องทำงานอื่นนอกเหนือจากการขายยา เช่น การทำบัญชี การทำความสะอาด การออกแบบ-แผนพัฒนา โปรโมชั่น etc. ด้วยตนเอง น่าปวดหัว
4. ใครทำตามแฟชั่น เมื่อแฟชั่นเปลี่ยน เบื่อหน่ายการทำงานก็ปิดตัวไป ไม่เหมือนห้างที่ไม่อยากเดินก็ไม่ต้องไป ร้านยาถ้าปิดๆ เปิดๆ ก็ไม่รอด
etc.
ใครมีเหตุผลแบบที่ 5,6,7,8 ก็ลองเล่าดูให้ฟังบ้างครับ