New Document









เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

เภสัชกรร้านยา

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย klang-ya » 19 มี.ค. 2010, 16:51

ดีครับ
"..ทำดีไว้ แล้วจะดี.."
ภาพประจำตัวสมาชิก
klang-ya
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 11:30
ที่อยู่: ร้าน คลังยาเภสัชกร 139/6 หมู่ 1 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา 30190







Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย klang-ya » 19 มี.ค. 2010, 16:54

ส่วนใหญ่ถ้าฝากเด็กวัด หรือมอเตอร์ไซรับจ้างมาบอกว่าพระฝากซื้อ บางทีก็เก็บเหมือนกันครับ
"..ทำดีไว้ แล้วจะดี.."
ภาพประจำตัวสมาชิก
klang-ya
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 11:30
ที่อยู่: ร้าน คลังยาเภสัชกร 139/6 หมู่ 1 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา 30190

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย lukmoo35 » 19 มี.ค. 2010, 18:48

ที่ร้านอยู่หน้าวัดพอดีก มีพระเข้ามาใช้บริการบ้าง
บางทีก็เก็บบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้เก็บค่ะเพราะถือโอกาสทำบุญไปเลยค่ะ :mrgreen: :lol:
lukmoo35
 
โพสต์: 126
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ธ.ค. 2008, 13:49

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย Mheeflash » 19 มี.ค. 2010, 20:05

สาธุ ทำดีด้วยศรัทธาย่อมส่งผลดีครับ
Mheeflash
 
โพสต์: 51
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ต.ค. 2009, 00:33

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย klang-ya » 20 มี.ค. 2010, 13:23

Mheeflash เขียน:สาธุ ทำดีด้วยศรัทธาย่อมส่งผลดีครับ


เห็นด้วยครับ...ทุกอย่างต้องเริ่มจากใจมีศรัธทา
ถ้ายังไม่มีศรัธทา..ก็ทำไปเรื่อยๆ ..เป็นการฝึกใจไปในตัว และผู้รับก็็ได้ประโยชน์ด้วย..ก็โอเคนะผมว่า
"..ทำดีไว้ แล้วจะดี.."
ภาพประจำตัวสมาชิก
klang-ya
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 11:30
ที่อยู่: ร้าน คลังยาเภสัชกร 139/6 หมู่ 1 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา 30190

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย omegaboy » 21 มี.ค. 2010, 12:19

ผลของการปฏิบัติมีจริงนะครับ

เริ่มแรกลองศึกษา การ โยนิโสนมสิการ

www.nkgen.com

โยนิโสมนสิการ
โยนิโสมนสิการ คือ การใช้ความคิดถูกวิธี คือ การกระทำในใจโดยแยบคาย มองสิ่งทั้งหลายด้วยความคิดพิจารณาสืบค้นถึงต้นเค้า สาวหาเหตุผลจนตลอดสายแยกแยะออกพิเคราะห์ดูด้วยปัญญาที่คิดเป็นระเบียบและโดยอุบายวิธีให้เห็นสิ่งนั้นๆ หรือปัญหานั้นๆ ตามสภาวะและตามความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย และเป็น ฝ่ายปัญญา
?ภิกษุทั้งหลาย เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยอยู่ ย่อมมีแสงอรุณขึ้นมาก่อน เป็นบุพนิมิต ฉันใด ความถึงพร้อมด้วยโยนิโสมนสิการ ก็เป็นตัวนำ เป็นบุพนิมิต แห่งการเกิดขึ้นของอารยอัษฎางคิกมรรค แก่ภิกษุ ฉันนั้น?
?เราไม่เล็งเห็นองค์ประกอบภายในอื่นแม้สักอย่างเดียว ที่มีประโยชน์มากสำหรับภิกษุผู้เป็นเสขะ เหมือนโยนิโสมนสิการ ภิกษุผู้มีโยนิโสมนสิการ ย่อมกำจัดอกุศลได้ และย่อมยังกุศลให้เกิดขึ้น?
?เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่น แม้สักข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นเหตุให้สัมมาทิฏฐิที่ยังไม่เกิดก็เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เจริญยิ่งขึ้น เหมือนโยนิโสมนสิการเลย?
?เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่น แม้สักข้อหนึ่ง ซึ่งจะเป็นเหตุให้ความสงสัยที่ยังไม่เกิด ก็ไม่เกิดขึ้น ที่เกิดขึ้นแล้ว ก็ถูกขจัดเสียได้ เหมือนโยนิโสมนสิการเลย?
?โยนิโสมนสิการ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์ยิ่งใหญ่, เพื่อความดำรงมั่นไม่เสื่อมสูญ ไม่อันตรธานแห่งสัทธรรม? ฯลฯ
องฺ.เอก. ๒๐/๖๐/๑๓,๑๘๖/๔๑
"เราไม่เล็งเห็นธรรมอื่นแม้สักอย่างเดียว ที่เป็นเหตุให้กุศลกรรมที่ยังไม่เกิด เกิดขึ้น หรือให้อกุศลธรรมที่เกิดขึ้นแล้ว เสื่อมไป เหมือนโยนิโสมนสิการเลย เมื่อมีโยนิโสมนสิการ กุศลธรรมที่ยังไม่เกิด ย่อมเกิดขึ้น และอกุศลกรรมที่เกิดขึ้นแล้ว ย่อมเสื่อมไป"
(องฺ.เอก
omegaboy
 
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2006, 15:47

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย klang-ya » 22 มี.ค. 2010, 01:36

"ผลของการปฏิบัติมีจริงนะครับ" ...ช่วยขยายความให้หน่อยครับ
ผล = ผลบุญ ???
การปฏิบัติ = ให้ทาน , ปฏิบัติธรรม(วิปัสนา) ???
"..ทำดีไว้ แล้วจะดี.."
ภาพประจำตัวสมาชิก
klang-ya
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 11:30
ที่อยู่: ร้าน คลังยาเภสัชกร 139/6 หมู่ 1 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา 30190

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย omegaboy » 22 มี.ค. 2010, 07:52

พระพุทธศาสนา มุ่งแต่พ้นทุกข์ ดับทุกข์ ทุกข์ในที่นี้คือทุกข์ในใจครับ หรือ คือ อุปทานทุกข์

ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าอะไรคือ อุปทานทุกข์

ส่วนมาก คนเข้าใจผิดคิด ระหว่าง ทุกข์ และอุปทานทุกข์ และมุ่งหวังแต่จะดับทุกข์

ซึ่งเป็นมิได้เพราะของเหล่านี้มีเป็นธรรมดาโลกที่ต้องมี

การปฏิบัติธรรมที่จริงแล้วแล้วง่ายมาก คือ แค่ทำความเข้าใจ ในเรื่องของ อุปทานทุกข์ และการปฏิบัติตัวเมื่อได้สัมผัสกับอุปทานทุกข์


ซึ่งยกตัวอย่าง เช่น เวลาที่คุณไม่สบายใจ คุณจะร้อนอกร้อนใจ คิดวนไปวนมา

บางคนต้องใช้ยานอนหลับ บางคน ถึงกับไปฆ่าคนอื่นตาความคิดเพราะคิดว่าทำแล้วจะทำให้หายอาการเหล่านี้

บางคนต้องใช้เหล้า เพราะต้องการให้หาย บางคนผูกคอตัว บางคนดูหนัง ฟังเพลง บางคน วิ่งไปหาพระรดน้ำมนต์

บางคนวิ่งเข้าวัดทำสมาธิ วิปัสสนา

ความจริง วิธีที่จะแก้สิ่งเหล่านี้ได้ คือ การใช้ปัญญาทำความเข้าใจ ถึง กระบวนการเกิด และการปฏิบัติตัวเมื่อเจอเท่านั้นเอง

เหมือนเวลา เรากินยาแก้แพ้เรารู้ว่ากินแล้วจะง่วง ปากแห้ง คอแห้ง ใจสั่น

เรามีความรุ้เรื่องยาแก้แพ้ว่ามันเป็นอาการข้างเคียงเราก็มิได้ร้อนใจอะไร

แต่ถ้าคนที่ไม่รู้จักยาแก้แพ้ ก็จะวิตก กังวลใจกลัวว่าจะเป็นการแพ้ยา เป็นการกินยาผิดหรือเปล่า

จึงไปพยายามไปแก้ไขที่ยาที่กิน โดยจะไม่กินยา ซึ่งไม่ใช่เพราะการใช้ยาเป้นสิ่งที่จำเป็นต้องใช้

แต่การทำความเข้าใจในตัวยา ต่างหากเป็นสิ่งที่เราต้องทำ

ยาก็คือ ทุกข์
อุปทานทุกข์ คือ การไม่เข้าใจในทุกขืและการปฏิบัติตัวต่อทุกข์

การทำความเข้าในอาการข้างเคียงของยา คือ การปฏิบัติธรรม

ปล เวบที่ผมโพสไปไม่ใช่เวบของผมนะครับเจ้าของเวบคือ คุณ พนมพร
omegaboy
 
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2006, 15:47

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย klang-ya » 22 มี.ค. 2010, 11:16

ขอบคุณครับ...
บางทีผมก็คิดว่าเข้าใจ ในอุปทานทุกข์
แต่จริงๆแล้วมันแค่เข้าสมองเท่านั้น คือมื่อมีสติเราจดจำได้ และเข้าใจความเป็นไป
แต่เมื่อเราไร้สติ หรือโกรธอยู่ เหมือนกับว่าไม่สามารถจดจำ คำสอนต่างๆได้
คล้ายๆเซนเซอร์ดักจับตัวก่อทุกข์ในใจ..มันไม่ไวพอนะครับ (คงต้องฝึกให้มากขึ้น)
"..ทำดีไว้ แล้วจะดี.."
ภาพประจำตัวสมาชิก
klang-ya
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 11:30
ที่อยู่: ร้าน คลังยาเภสัชกร 139/6 หมู่ 1 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา 30190

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย omegaboy » 22 มี.ค. 2010, 12:47

แต่จริงๆแล้วมันแค่เข้าสมองเท่านั้น คือมื่อมีสติเราจดจำได้ และเข้าใจความเป็นไป
แต่เมื่อเราไร้สติ หรือโกรธอยู่ เหมือนกับว่าไม่สามารถจดจำ คำสอนต่างๆได้
คล้ายๆเซนเซอร์ดักจับตัวก่อทุกข์ในใจ..มันไม่ไวพอนะครับ (คงต้องฝึกให้มากขึ้น)

ตรงนี้อธิบายยาก

คุณไม่ผิดหรอกครับ นั่นเป็นธรรมชาติของใจ ที่จะเคลื่อนไหวผลิตทุกอย่างอย่างไม่หยุดนิ่ง

เพราะว่าเราไม่สามารถสั่งให้ใจ มีสติ มีติ มีสติ มีสติ มีติ อยู่ทุกขณะ

คุณแทบไม่ต้องทำอะไรด้วยซ้ำ ขอแค่คุณเข้าใจว่า ธรรมชาติของใจมันจะทำหน้าที่ของมันเอง

โดยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ จะเห็นไหมครับว่าเราไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง

ถ้าใจเป็นของเราจริงทำไมเราถึงสั่งใจเราไม่ได้

เขาถึงบอกงัย มันเป็นเช่นนั้นเอง


แต่คนส่วนมากพยายามจะทำอะไรกะผลผลิตของใจ ซึ่งก็คืออุปทานแห่งทุกข์นั่นเอง

ผลผลิตของใจก็ยกตัวอย่างง่ายก็คือ ความคิดที่บอกคุณว่า คุณไร้สติ
คุณมีทุกข์ คุณจึงต้องดิ้นรน ทำอะไรซักอย่างแม้การศึกษาธรรมะ

เพื่อค้นหาปัญญา และสติมาดับทุกข์ พวกนี้อย่างเช่นนักบวชบางลัทธิ เป็นต้น ซับซ้อนมะครับ

สรุปคือ การพยายามจะทำอะไรกะผลผลิตกะใจคือสาเหตุของทุกข์ทั้งปวงครับ

ขอแค่คุณค่อยๆสังเกตเข้าใจไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง
omegaboy
 
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2006, 15:47

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย ผู้สังเกตการณ์ » 23 มี.ค. 2010, 01:54

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกท่าน
ผู้สังเกตการณ์
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.ค. 2009, 10:07

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย bongsoon » 23 มี.ค. 2010, 22:45

ปกติเราเก็บนะคะ แต่คิดราคาพิเศษ และจัดยาคุณภาพดีที่ราคาไม่แพงให้ เพราะเคยไม่คิดเงินแล้วถูกพระท่านดุึ้ึ้ค่ะ

ส่วนเคสที่เราไม่เก็บเงินคือ พวกขอทาน แม่ขอทานที่อุ้มลูกเข้ามาขอยา
เราไ่ม่ใช่เจ้าของร้านน่ะ่ค่ะ เป็นเภสัชกรที่เป็นพนักงานคนนึง เราก็ใช้เงินส่วนตัวของเราจ่ายแทน
และเรามีลูกค้าที่เป็นศูนย์ดูแลเด็กแบบเด็กจรจัด เราก็ซื้อยาบริจาึุคเป็นครั้งๆไปค่ะ
bongsoon
 
โพสต์: 12
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ก.ค. 2008, 10:51

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย naproxen » 24 มี.ค. 2010, 00:39

ผมถือว่าพระเข้าร้านยาเรา ถือเป็นมงคล
พระภิกษุไม่สบายมาขอซื้อยาถึงร้าน เราเป็นอุบาสกที่เป็นเภสัชกรเจ้าของร้านยาควรถวายยาแด่ท่าน
ที่ร้านเมื่อพระภิกษุท่านมาซื้อยา จะจัดยาที่คิดว่าดีมีคุณภาพสูงเสมอและถวายยาแด่พระคุณเจ้าทุกรูป
ส่วนใหญ่ท่านก็จะให้พร
แม้ให้ผู้อื่นมาซื้อให้ ก็ขอถวาย ด้วยความสุขใจเช่นกัน

ผู้ที่ถวายยารักษาโรคแด่ภิกษุผู้อาพาธ ด้วยความเต็มใจ จะได้ผลบุญและความสุขมาก
ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมถวายยารักษาพระภิกษุที่อาพาธ อย่าไปเก็บเงินท่านเลย ผลบุญที่ท่านจะได้รับจะมากกว่าเงินค่ายาเพียงเล็กน้อยอย่างมหาศาล
ภาพประจำตัวสมาชิก
naproxen
 
โพสต์: 223
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 ก.ค. 2006, 16:38

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย klang-ya » 25 มี.ค. 2010, 23:24

"ถวายยารักษาโรคแด่ภิกษุผู้อาพาธ ด้วยความเต็มใจ จะได้ผลบุญและความสุขมาก
ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมถวายยารักษาพระภิกษุที่อาพาธ อย่าไปเก็บเงินท่านเลย ผลบุญที่ท่านจะได้รับจะมากกว่าเงินค่ายาเพียงเล็กน้อยอย่างมหาศาล"
:biggrin: :biggrin: สุดยอดครับ ผมร่วมด้วยและจะพยายามเชิญชวนทุกร้านที่รู้จัก ร่วมด้วยเช่นกัน
"..ทำดีไว้ แล้วจะดี.."
ภาพประจำตัวสมาชิก
klang-ya
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 เม.ย. 2009, 11:30
ที่อยู่: ร้าน คลังยาเภสัชกร 139/6 หมู่ 1 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา 30190

Re: เคยเก็บเงินพระที่มาซื้อยากันไหม..

โพสต์โดย py106 » 28 มี.ค. 2010, 00:18

ขออนุโมทนาครับ

ในอนาคตถ้าเปิดร้ายาเป็นของตัวเองเมื่อไหร่ จะรับคำแนะนำจากกระทู้นี้ไปปฏิบัติแน่นอนครับ
แวะไปเยี่ยมชมกันได้ครับ
http://py106travel.blogspot.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
py106
 
โพสต์: 103
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2005, 11:16
ที่อยู่: FDA, Thailand

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ลาเต้

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document