การแบ่ง pregnancy category เป็นการจัดอันดับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
แต่ไม่ได้บ่งบอกว่าไม่ควรใช้ หรือห้ามใช้ แค่เป็นการเตือนว่าควรใช้ยาด้วยความระมัดระวัง หรือ มีการชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่ได้รับกับผลเสียที่เกิดขึ้น
เพราะไม่เช่นนั้นก็แบ่งยาไปเลยว่าตัวไหนใช้ได้ ตัวไหนใช้ไม่ได้ จะไม่ง่ายกว่าหรือ?? ไม่ต้องมาแบ่งกลุ่มให้ยุ่งยาก
ในร้านยาซึ่งเป็น primary health care ควรจ่ายยาที่อยู่ในกลุ่ม A และ B เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับเภสัชกรใน รพ ควรเฝ้าระวัง การสั่งจ่ายยาจากแพทย์สาขาอื่นๆที่อาจสั่งยาที่ทำให้เกิดความเสี่ยงสูงโดยไม่ตั้งใจ
ยาที่สั่งจ่ายจากสูตินารีแพทย์มักจะได้รับการประเมินจากแพทย์เป็นอย่างดีแล้ว ถ้ามีรายการที่แปลกไป ให้ซักรายละเอียดกับผู้ป่วยก่อนตีกลับไปพบแพทย์ เพราะท่านอาจจะหน้าแตกได้
ที่สำคัญเภสัชกรควรหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ ความรู้จากวรรณกรรมระดับตติยะภูมิอาจไม่เพียงพอและค่อนข้างล้าหลัง ควรหาความรู้จากวรรณกรรมระดับปฐมภูมิ
ในยุคนี้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ทันสมัยได้อย่างง่ายดายด้วยอินเตอร์เนต อย่าปล่อยให้ความทันสมัยนี้มาทำให้เราหูหนวกตาบอด หรือถามตอบในสิ่งที่ไม่เป็นสาระเลยจะดีกว่า
มีอะไรก็ถามอากู๋ได้ ไม่ต้องถามบนเวบบอร์ดให้เสียเวลา เพราะคำตอบที่ได้น่าเชื่อถือกว่ากันเป็นไหนๆ
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
http://www.chestjournal.org/cgi/reprint/119/2/466.pdfนี่คือหนึ่งในคำตอบที่ผมเอาไปถามอากู๋ คำตอบไม่ใหม่แล้ว (ปี 2001) ความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ "ดี" (ยอดเยี่ยม ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง แย่)
อย่างไรก็ตาม คำตอบยังเป็นแค่ N=1 ยังไม่ใช่ข้อมูลที่จะนำมาตัดสินใจทั้งหมด ถ้ามีคำตอบที่ไปในทางเดียวกันหลายๆคำตอบ ก็จะทำให้คำตอบนั้นมีน้ำหนักมากขึ้นตามหลักสถิติ
http://www.uspharmacist.com/index.asp?show=article&page=8_1708.htm อันนี้เอาไปอ่านกันเล่นๆ จริงๆเคยโพสไปแล้วรอบหนึ่งแล้วด้วย