Aspirin baby จะเป็นยาควบคุมพิเศษ !?!?

[PHARMA]

งี่เง่า เหตุผลคืออะไร

อ.ย.ใช้ไส้ติ่งคิดหรือไง

ผิดแล้วต้น ใช้_ั _ แ _่ _ี _คิด

555  ต่ำกว่าไส้ติ่งอีก

เข้ามาขำเลยนะเนี่ย ตอนแรกพี่แกโพสแบบนี้ เอามาให้น้องๆเช็คว่าสมควรไหมแรงไปไหม
แต่พอพี่หน่อย มาตอบแบบนี้ ทำให้คำแกเบาไปเยอะเลย ขำด้วย เท่ห์จริงๆ
ตอนแรกนั่งคิดคำแก้ต่างให้แกอยู่ แต่คิดไม่ออก 555

[3210037]

เอออออ   อันนี้ต้องถามคุณว... กองยาอะ

[nitnit]

มีบริษัทยา.....เข้าไปวิ่งเต้น..แก่เจ้าหน้าที่........???(ที่ขึ้นชื่อว่ามีวิชาชีพ)
เจ้าหน้าที่.......แล้วชงเรื่อง........
[b]แอบอ้าง..... อุบัติการณ์......ว่าทำให้เกิดอันตรายแก่ประชาชน..(บิดเบือนข้อมูล)
และวิ่งเต้นเข้าหาผู้เกี่ยวข้อง.....ทุกระดับ.
จึงเกิด...ประกาศฉบับนี้........
เจ้าหน้าที่คนนี้เลวจริงๆ...ทำได้ยังงัย
ไม่อยากเอ่ยหน่วยงาน..ชื่อเจ้าหน้าที่...
ที่กล่าวมาคือเบื้องหลัง..และ การให้ผลประโยชน์แก่วิชาชีพอื่นที่ไม่ใช่เภสัชกร รวมถึง บริษัทยาบางบริบัท
ส่วนเจ้าหน้าที่คนนั้นได้ทั้งรางวัลและผลงาน[/b]
เชิญเจ้าหน้าที่คนนั้น..?ที่ทำเรื่องนี้ชี้แจงได้นะ...และจะบอกว่า  "ฟ้ามีตา" ถ้าไม่กลัว

[OHOOO]

คนชงเรื่อง ASA คือ คุณว.... กองควบคุมยา
พอมติคณะกรรมการยาออกมาเห็นชอบตามที่เสนอ
กองควบคุมยา กลุ่มพัฒนานโยบายและสารสนเทศก็จัดทำประกาศเสนอ
(อันนี้ คุณน.... ทำ)
หมายความว่าบริษัทยาวิ่งที่คุณว....เหรอคุณ nitnit

[nitnit]

อยากให้เกิด การตรวจสอบข้อมูลเหตุผลที่เสนอ ในการประชุมกรรมการยา
อยากให้ เกิดการตั้งกรรมการสอบผู้เกี่ยวข้อง...
แล้ว..ถึงจะรู้ข้อเท็จจริง......
อยากให้คนส่วนใหญ่..ได้รู้ความจริง...
และลองตรวจสอบความสัมพันธ์ของผู้เกี่ยวข้อง...
จะรู้เบื้องหลัง....
เรื่องนี้สำคัญคือ...ข้อมูลที่บิดเบือน
อย่าไปเอ่ยชื่อเลยครับ...ไม่ยุติธรรม..
ลองเข้าไปดูข้อมูลเองครับ....

[apotheker]

ขอเซนเซอร์ชื่อนะครับ เดี๋ยวจะฟ้องร้องกัน

[ruralphar]

กองควบคุมยา ควรจะออกมาชี้แจงด้วย ว่าเรื่องราวเป็นมายังไง อย่าทำเฉย

[sting19]

ประกาศเป็นทางการรึยังครับ
จะมีผลกระทบยังไงครับ
เจตนารมย์จริงๆคืออะไร
แปลกๆ

[zartingtong]

กลัวเภสัชกรจะซี้ซั้วไปแนะนำคนไข้รับประทานไง

[azzuri]

ประกาศเป็นทางการรึยังครับ
จะมีผลกระทบยังไงครับ
เจตนารมย์จริงๆคืออะไร
แปลกๆ

เป็นทางการแล้วครับ ออกมาเป็นประกาศกระทรวงสาธารณสุข แล้ว

[Djoghoi]

ตกลงส่งเรื่องกันไปหรือยังครับ

หากยังไม่ได้ส่ง จับกลุ่มกันได้แล้วไม่ต้องรอการเป็นชมรมหรอกครับ ผมว่าน่ะ
เป็นกลุ่ม หรืออะไรก็ได้รวมกันได้สัก 20 ก็ได้ล่ะมั้งส่งเรื่องไปเลยครับแต่ประเด็น

1. หากจะส่งไปสภาเภสัชกรรม ก็อาจจะส่งไปเพื่อให้เค้าได้รับรู้ว่ามีกลุ่มหรือต่อไปจะเป็นชมรม ........ ( อะไรก้ตามแต่ ) แล้วน่ะ เจตนารมณ์ของกลุ่มหรือชมรมนี้ชัดเจน ว่า ...... แต่หากจะหวังผลเรื่องแก้ไขประกาศ น่าจะไม่มีผล หรืออย่างมากก็ 20 - 30%

เพราะสภาเภสัชกรรมไม่มี ไม่มีบทบาทหรือหน้าที่นี้โดยตรง

2. จ่าหัวหนังสือไปถึง ประธานคณะกรรมการยาแห่งชาติ โดยตรงน่าจะดีที่สุด และตรงประเด็นที่สุด  และต้องหาแนวร่วมในการกำกับติดตามในเรื่องนี้ เห็นมีคนบอกว่าในคณะกรรมการยามี อ. เภสัชกร และ เภสัชกรหลายท่านที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีนี้  ใครเป็นศิษย์เก่ามหิดล น่าจะพอประสานงานผ่าน อ.ท่านนี้ได้และเป็นพลังหรือback up หนุนอาจารย์ได้

3.ส่งไปผอ.กองยาด้วยอีกสักฉบับก็ไม่เสียหายอะไร

สรุปส่วนตัวผมเห็นว่า

1.หากกลุ่มนี้เห็นว่าเร่งด่วน ก็ไม่ต้องรอการเป็น การรวบรวมเป้นชมรม ทำกันไปก่อนได้เลย
2.ผ่าน สามหน่วยที่ว่า
3.มีระบบติดตามตรวจสอบ และมีคนประสานงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ในส่วนกลาง

อาจจะต้องใช้เวลาเพราะนี่คือระบบราชการไทยเห็นว่าเรื่องนี้มีการเสนอนานมาแล้วว่ากันเป็นปีๆ ผลเพิ่งออกมาเอาตอนนี้

[fda_come_in]

เรียนทุกท่าน
        เรื่องนี้สืบเนื่องมากจากปัญหาทางสื่อมวลชนที่ทุกคนก็พอรู้ กรรมการจึงมีความเห็นว่าต้องยกระดับยา ASA ในท้องตลาดขึ้นมา จากเดิมเคยมีเป็น ยาสามัญประจำบ้าน ด้วย ดังนั้นจึงปรับประเภทยา โดยยกเลิกยาสามัญประจำบ้านก่อน เสร็จแล้ว ตำรับใดแสดงสรพคุณนอกเหนือจาก บรรเทาปวด ลดไข้ ให้เป็น ยาควบคุมพิเศษหมด ซึ่งมีเหตุผลจาก กรรมการยาที่น่าฟัง คือ  ยา ASA ที่มีข้อบ่งใช้อื่นนั้น เช่น ป้องกันหลอดเลือดหัวใจ การประเมินความจำเป็นในการสั่งใช้ยอมควรเป็นแพทย์ เนื่องจาก ต้องทานติดต่อเป็นระยะเวลานาน (ถึงแม้มีขนาดน้อยแต่ก็มีความเสี่ยงเพราะต้องกินยาวๆ เคยมีรายงาน ผู้สูงอายุเกิดอาการข้างเคียง เกี่ยวกับระบบเลือดและระบบทางเดินทาง จนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้น การจ่ายยาตัวนี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์และเภสัชกร
      อย่างไรก็ดี นักวิชาการหลายท่านก็มองอีกมุมหนึ่ง ว่า ยา ASA ใรข้อบ่งใช้ป้องกันหลอดเลือดและหัวใจนั้น คนที่ควรได้รับกลับไม่ได้รับตามมาตรานการรักษา เป็นจำนวนมาก ยิ่งเป็นยาควบคุมพิเศษก็ยิ่งเข้าถึงยาก แต่เสียดายที่กรรมการท่านนั้น ไม่ได้เป็นกรรมการยา 55555 หากเป็นด้วยกับนักวิชาการท่านนี้ ควรมีหนังสือให้ อย ทบทวนนะครับ
      ส่วนเรื่องผลประโยชน์นั้น ผมยังคิดอยู่ว่า การทำให้ยาเขาเป็นยาควบคุมพิเศษ เข้มงวดการขายมากขึ้น แล้วบริษัทจะเอาเงินมาให้ทำไม จะว่าฝีมือคู่แข่งก็ไม่มี หาเหตุผลไม่ได้จริงๆ (ควรใช้วิจารญาณ) และ เรื่องนี้ ไม่มีอะไรในกอไผ่จริงๆ เป็นแค่ความเห็นของ คณะกรรมการยา ซึ่งก็มีนำหนักพอสมควร ใช่ว่าไร้สาระ หลายท่านก็เป็นครูบา อาจารย์พวกเรา (แม้ส่วนตัวผมจะไม่เห็นด้วย)
      จึงเรียนมาเพื่อทราบโดย ทั่วกัน กองยาคงต้องปรับปรุงระบบทำการสื่อสารกับท่านพี่ทั้งหลายใหม่ ซะที
     

[zartingtong]

ก็ที่เค้ายัวะ ก็เพราะเป็นยาควบคุมพิเศษ นั่นแหละให้หมอสั่งหมอก็ไม่ยอมสั่ง เภสัชจะสั่งเองก็ควบคุมพิเศษซะแล้วไง เพราะเภสัชโง่ๆไม่รู้จะแนะนำให้ใครกินได้ ตายช่างมัน (คนตายเพราะยาอาจจะน้อยกว่าคนเข้าไม่ถึงยา คนที่ไม่ได้เป็นโรคอะไรแต่มีความเสี่ยงบางประการใครเค้าจะไปเสียค่าหมอทุกเดือนๆเดี๋ยวนี้ทีละ 200 อย่างต่ำเพื่อรับแอสไพริน 80 มก.ไปรับประทาน)

เฮ้อ ม่ายเข้าใจ

[apotheker]

ถ้าด้วยเหตุผลที่อธิบายมานะครับ ผมว่าเป็นเรื่องของการ ขาดมาตรฐานในการพิจารณายาครับ
ยาcadiovascularอย่างอื่น ไม่ต้องเฝ้าระวังมากกว่าasa หรือครับ ทำไมถึงจัดเป็นยาอัตราย ทั้งนั้น

แล้วการจะให้ร้านยาโดยเฉพาะร้านยาคุณภาพ เป็นที่รีฟิลยาให้ผุ้ป่วย แต่กลับมีการกำหนดแบบนี้ออกมา เหมือนมันขัดกันในนโยบายนะครับ ทุกวันนี้ ร้านยาเหมือนถูกบีบให้ออกไปจากระบบไพรมารี่เฮลท์แคร์อยู่แล้ว โดยการใส่ข้อมูลจากแพทย์ว่า อย่าซื้อยากินเอง

บางคนบอกว่าเตรียมการให้ ร้านยาคุณภาพ สามารถขายยาได้นอกเหนือจากร้านยาทั่วไปได้ เช่นอาจจะขายยาควบคุมพิเศษ ได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์หรือ ยาบางตัวเช่นD2 D5 viagra ได้ (ได้ยินมาแบบนั้น) แต่อยากให้ดูให้ถี่ถ้วนนะครับ คงต้องมีการแก้กฎหมายกันอีกหลายข้อ เพราะร้านยาคุณภาพไม่ได้มีกำหนดไว้ มีแต่ขย.1หรือ ขย.2

ที่อยากให้พวกเราออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ เพราะ อยากให้ ถาม หรือทำเภสัชพิจารณ์ บ้างก่อนที่จะออกกฎระเบียบอะไรมาบังคับ แล้วมีผลต่อวิชาชีพเราโดยรวม asa เป็นแค่ตุ๊กตาที่หยิบยกขึ้นมาให้เห็นภาพชัดเจนเท่านั้น

[nitnit]

เรียนทุกท่าน
         เรื่องนี้สืบเนื่องมากจากปัญหาทางสื่อมวลชนที่ทุกคนก็พอรู้ กรรมการจึงมีความเห็นว่าต้องยกระดับยา ASA ในท้องตลาดขึ้นมา จากเดิมเคยมีเป็น ยาสามัญประจำบ้าน ด้วย ดังนั้นจึงปรับประเภทยา โดยยกเลิกยาสามัญประจำบ้านก่อน
       

ทราบ....