PharmaCafe.com

11111111

เลือดย่อมข้นกว่าน้ำครับ ร้านยาแขวนป้ายส่วนใหญ่ก็เครือญาติสสจ.นั่นแหละครับ อีกอย่างกวดล้างไป สสจ.ก็เสียรายได้ที่จะได้รับแบบไม่มีใบเสร็จ แล้วเค้าจะยอมเสียผลประโยชน์เหรอครับ

เรื่องเภสัชแขวนป้ายฯเป็นปัญหาที่เกิดมานานมากแล้วครับ ซึ่งปัญหาเกิดมาจากตัวเภสัชกรเองที่ไม่รัก-หวงแหนในวชาชีพของตนเอง ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาในภายหลัง ยอมเสียศักดิ์ศรีและจรรยาบรรณเพื่อแลกกับผลประโยชน์ ยอมให้ผู้อื่นขายยาแทนเราได้ กฎหมายก็มีช่องโหว่ให้สามารถทำได้ การตรวจร้านไม่เข้มงวดเท่าที่ควร ร้านผมเปิดมาเกือบ10ปีแล้ว มาตรวจแค่ครั้งเดียวในปีแรกที่เปิด ทั้งๆที่ใจจริงอยากให้ตรวจทุกปี ไม่เคยกลัวครับ เพราะเป็นเภสัชเอง เอกสารพร้อม ถ้ามีธุระอะไรก็จะปิดร้านทันที ไม่ให้ใครขายแทนแน่นอน บทลงโทษต่ำเกินไปคนไม่เกรงกลัวกฏหมาย ทั้งๆที่รู้ว่าผิด...แต่ก็ยอมเสี่ยง...

เรื่องเภสัชแขวนป้ายนั้น ควรมุ่งไปที่ต้นเหตุของปัญหาคือผู้รับอนุญาตและผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ ตบมือข้างเดียวไม่ดังแน่นอนครับ ควรปลูกจิตสำนึกในวิชาชีพเภสัชกรรมตั้งแต่เป็นนิสิตให้มากๆๆ โดยเฉพาะใบประกอบโรคศิลป์ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ จะไม่ยอมให้ใครมาทำหน้าที่แทนเราได้ ร้านยาใดเป็นเภสัชแขวนป้าย? ก็ไม่อนุญาตให้ต่ออายุใบอนุญาตประจำปี ส่วนร้านที่กำลังจะเปิดใหม่ ผู้รับอนุญาตและผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการต้องเป็นคนเดียวกัน (ขออภัย...ถ้ากระทบจิตใจใคร...บางคน)

ให้แพทย์เลิกขายยาในคลีนิค ขายยาโดยมีใบสั่งแพทย์เท่านั้นคือคำตอบสุดท้าย

เห็นรุ่นพี่ที่แขวนป้ายแล้วบอกตรงๆรู้สึกแย่ค่ะ
เปิดร้านหลายๆสาขาจ้างผู้ช่วยเฝ้า
ได้แต่บอกตัวเองว่าจะไม่ทำแบบเค้าแน่ๆ
สำหรับรุ่นพี่ที่เป็นตัวอย่างดีๆเปิดร้านเองมีร้านยาเป็นร้านยาคุณภาพ
ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจในวิชาชีพ
หากมีร้านเองก็จะเดินตามตัวอย่างดีๆค่ะ
และหวังเหลือเกินว่าพี่ๆที่แขวนป้ายจะกลับมารักวิชาชีพรักที่จะดูแลผู้ป่วยมากกว่าเงินค่ะ

หากเปรียบใบประกอบโรคศิลป์ฯเป็นเหมือนอาวุธ โดยมีเภสัชกรเป็นเจ้าของอาวุธนั้น ซึ่งหากนำอาวุธไปใช้ในทางที่ถูกต้องก็จะเป็นประโยชน์มาก แต่ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะเกิดโทษได้เช่นกัน

ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้ครอบครองอาวุธนั้น และจะใช้ด้วยความระมัดระวังให้เกิดประโยชน์สูงสุด จะไม่ยอมให้ใครใช้แทนโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะขอซื้อด้วยเงินเท่าไหร่ก็ตาม ?

เรื่องของเภสัชแขวนป้าย เป็นความเสื่อมเสียของวิชาชีพอย่างใหญ่หลวง สภาเภสัชก็รู้ดีอยู่! อยากให้เอาจริงเอาจังกับปัญหานี้เช่นกันครับ อย่าปล่อยให้เภสัชกรดีๆหมดกำลังไจไปก่อนนะครับ

เราพอจะจัดการอย่างไรได้บ้าง เพื่อกระตุ้นหรือหามาตรการจัดการกับคนที่แขวนใบประกอบ ตอนนี้เพื่อนผมและรุ่นน่องที่แขวนใบ ผมได้ทำการบอกกล่าว และตักเตือนบ้างแล้ว แต่เค้ก็ไม่สนใจ พร้อมบอกว่าผลตอบแทนจากการแขวนใบเดือนละ 15,000฿ ซึ่งแสดงถึงความเห็นแก่ได้โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะเกิดในอนาคต หากผู้ใหญ่ในสภาเภสัชมองเห็ความสำคัญตรงนี้ ก็รบกวนจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง เพื่อแสดงศักยภาพของสภาเภสัชว่าเรามีความเข้มแข็งเหมือนสภาวิชาชีพอื่น

โอ้โห! ค่าแขวนป้ายตั้ง 15000 บาท/เดือน ได้ยินมาแค่ 5000-7000 บาทเอง ไม่ทราบว่าจังหวัดไหน ถึงให้ราคาสูงขนาดนั้น คงต้องขายดีมากๆถึงยอมให้มากขนาดนั้นได้ หรือไม่ก็ไม่มีใครยอมแขวนให้ก็เลยต้องให้ราคาพิเศษล่อใจ ขออนุญาตเช็ดปากก่อน...น้ำลายไหล...เออ แล้วขายอะไรบ้างหละ ? เคยไปดูบ้างหรือเปล่า ?

เรื่องเภสัชแขวนป้าย ผมว่าสภาเภสัชฯรู้ปัญหาและวิธีการแก้ปัญหานั้นดี เพียงแต่ขาดความกล้า ทำงานช้า และไม่เอาจริงเอาจังเท่าที่ควร

เฮ้อ เภสัชกรที่ใส่ใจเรื่องนี้จริงๆจังๆคิดว่ามีไม่มากนักคะ
หลายคนรู้อยู่แล้วว่าใครกำลังแขวนป้าย แต่เราก็ไม่กล้าทำอะไร
บางทีก็ด้วยความเกรงใจเพราะเป็นพี่หรือเพื่อนที่รู้จักกัน
จะให้ไปบอกกล่าวรุ่นพี่ให้กลับตัวกลับใจก็ไม่กล้า ไม่ก็กลัวอิทธิพลด้านมืดเขาอยู่เหมือนกัน...
...คงต้องทำใจให้วิชาชีพเราตกต่ำ(แต่คนทำร่ำรวย)ต่อไปค่ะ
แต่จะไม่ทำแบบนั้นแน่ค่ะ