http://www.komchadluek.net/detail/20100 ... B8%A7.html
คมชัดลึก :เสี่ยเจ้าของร้านยายัวะถูกเซลส์ทวงเงิน คว้าปืนยิงลากตัวเข้าบ้าน คลั่งหนักกราดยิงใส่เพื่อนบ้านถูกสาวใหญ่สาหัส เดินกลับเข้าบ้านปิดล็อกประตูขังตัวเอง ตำรวจปิดล้อมเอาค้อนทุบประตูหวังเห็นภาพภายในถูกยิงสวน กระสุนเจาะคอ ร.ต.ท.หนุ่มดับ ตำรวจยิงเอ็ม 16 เข้าใส่ยังไม่หมดฤทธิ์ มีเสียงปืนดังต่อเนื่องก่อนเงียบไป เกือบชั่วโมงบุกเข้าบ้านพบเสี่ยนอนตายแล้ว
เหตุเจ้าของร้านขายยาเมืองสกลนครยิงปืนกราดใส่เพื่อนบ้าน และตำรวจ จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนคลุ้มคลั่งยิงคนได้รับบาดเจ็บและปิดล็อกบ้านไว้ เหตุเกิดที่ร้านขายยาถาวรโอสถ เขตเทศบาลเมืองสกลนคร จึงนำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนหนึ่งเข้าระงับเหตุ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ
เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณหน้าร้านขายยา ประตูเหล็กด้านหน้าถูกปิดล็อก คนร้ายทราบว่าชื่อ นายสัมฤทธิ์ เวชมานิตย์ หรือ ปอ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1760/1 ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร เจ้าของร้านขายยาดังกล่าว โดยยิงเซลส์แมนแล้วลากเข้าไปไว้ในบ้าน นอกจากนี้ยังยิงเพื่อนบ้านเป็นหญิง อายุประมาณ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ญาตินำส่งโรงพยาบาลสกลนครก่อนหน้านี้แล้ว
สอบถามพยานเบื้องต้นทราบว่า ร้านขายยาแห่งนี้ปิดกิจการมานานแล้ว ก่อนเกิดเหตุมีเซลส์แมนที่เคยขายยาให้แก่เจ้าของร้าน ทราบชื่อภายหลังคือ นายวิบูลย์ กาญจนภูมิ อายุ 40 ปี เดินทางมาหา สันนิษฐานว่ามาทวงเงิน ระหว่างนั้นนายสัมฤทธิ์บอกให้ลูกน้องในบ้าน และแม่บ้านนำของไปส่ง หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงนายสัมฤทธิ์ทะเลาะวิวาทกับนายวิบูลย์ ก่อนที่นายสัมฤทธิ์จะบันดาลโทสะคว้าปืนยิงนายวิบูลย์จนล้มลง
พยานเล่าว่า เมื่อได้ยินเสียงปืนก็วิ่งออกมาดู ได้ยินเสียงนายวิบูลย์ร้องว่า "ยิงผมทำไม" ก่อนจะเห็นนายสัมฤทธิ์ลากนายวิบูลย์เข้าไปในบ้านและปิดล็อก จากนั้นไม่กี่อึดใจนายสัมฤทธิ์ก็ถือปืนวิ่งออกมาหน้าบ้านและกราดยิงใส่เพื่อนบ้านข้างเคียง กระสุนถูกเพื่อนบ้านเป็นหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นวิ่งกลับเข้าบ้าน ปิดล็อกประตูขังตัวเองและเหยื่อไว้ข้างใน เบื้องต้นไม่ทราบว่าในบ้านมีทั้งหมดกี่คน
หลังทราบเรื่อง กำลังตำรวจจึงกันประชาชนออกห่างจากจุดเกิดเหตุ และวางกำลังตำรวจเข้ารายล้อมด้านข้างและฝั่งตรงข้าม รวมทั้งจัดตำรวจอีกชุดพยายามหาทางเข้าด้านหลังร้าน พร้อมกับเกลี้ยกล่อมให้ผู้ก่อเหตุมอบตัว แต่ภายในบ้านยังเงียบ ไม่มีเสียงใดๆ ระหว่างนั้นตำรวจชุดที่อยู่ด้านหน้าสุดนำค้อนมาทุบประตูเหล็ก เพื่อเปิดช่องให้มองเห็นด้านใน โดยมี ร.ต.ท.ปรีชา เกลี้ยงไธสง ถือปืนลูกซองสั้นคอยคุ้มกันอยู่ พร้อมตำรวจในทีมอีกจำนวนหนึ่ง
เมื่อทุบประตูเปิดเป็นช่องขนาดเล็กพอมองเห็นด้านใน จู่ๆ ก็มีเสียงปืนจากในร้านยิงสวนออกมา กระสุนพุ่งใส่ต้นคอ ร.ต.ท.ปรีชาทะลุกกหู เลือดทะลักล้มทั้งยืน แต่ ร.ต.ท.ปรีชายังมีสติ เอามือกุมคอไว้และร้องว่า "ผมถูกยิง" ตำรวจที่อยู่ใกล้รีบเข้าช่วยเหลือนำขึ้นรถมูลนิธิส่งโรงพยาบาลสกลนคร หลังจากนั้นไม่นาน ร.ต.ท.ปรีชาซึ่งเสียเลือดมากทนพิษบาดแผลไม่ไหวก็เสียชีวิตลง
หลังตำรวจถูกยิง จึงกันประชาชนให้ออกห่างมากขึ้น พร้อมกับมีคำสั่งว่า ถ้าเห็นคนร้ายให้ยิงได้ ตำรวจที่ซุ่มอยู่อีกฟากของถนนได้ยิงปืนเข้าไปในบ้านประมาณ 3-4 นัด แล้วหยุดเพื่อรอเคลียร์ด้านใน แต่ปรากฏว่าอีกประมาณ 10 นาทีต่อมา มีเสียงปืนดังขึ้นภายในร้านอีกประมาณ 3-4 นัด ก่อนสิ้นเสียงลง แต่ตำรวจยังไม่วางใจสถานการณ์ จึงแบ่งกำลังกระจายออกเป็นชุดเพื่อหาทางเข้าไปในร้าน
กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 40 นาที ตำรวจที่ปีนเข้าด้านหลังอาคารส่งสัญญาณปลอดภัย ตำรวจด้านหน้าจึงทุบทำลายประตูและกรูกันเข้าไปตรวจสอบ พบศพนายวิบูลย์ เซลส์แมน ถูกยิงเข้าที่กะโหลกด้านซ้าย 1 นัด กระสุนทะลุ และโหนกแก้มซ้าย 1 นัด หัวไหล่ซ้ายอีก 1 นัด โดยเป็นอาวุธปืนขนาด.38 นอนคว่ำหน้าอยู่กลางร้านขายยา เลือดไหลนองพื้น
ใกล้กันพบศพนายสัมฤทธิ์ เจ้าของร้าน นั่งพิงฝาอยู่ทางขึ้นชั้น 2 ด้านหลังร้าน มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้านซ้ายทะลุออกด้านขวา และบริเวณช่องท้องมีรอยแผลถูกของมีคมกรีดเป็นทางยาว ใกล้กันมีคัตเตอร์ตกอยู่ ตรวจสอบภายในร้านพบปลอกกระสุนหลายสิบนัดทิ้งเกลื่อน ส่วนสาเหตุยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ล่าสุดตำรวจยังกันไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ
นางศิรินรา พรศิลปกุล เจ้าของร้านขายนาฬิกาที่อยู่ติดกับที่เกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. นายวิบูลย์มาทวงหนี้ค่าจ้างในการส่งยา ที่นายสัมฤทธิ์ว่าจ้างในช่วงที่เปิดร้านขายยาอยู่ แต่ขณะนี้ปิดร้านไป 1-2 ปี แล้ว ต่อมาทั้งสองคนเกิดการโต้เถียงกันก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น ตนจึงเดินเข้าไปดู
"ตอนที่ฉันเข้าไปดู นายสัมฤทธิ์เห็นเข้าจึงถือปืนเข้ามาหาฉัน พร้อมกับดุด่า และพยายามจะยกปืนยิงใส่ ฉันจึงรีบวิ่งเข้าบ้านไป แต่นายสัมฤทธิ์ยังวิ่งตาม ฉันเลยรีบวิ่งขึ้นห้อง ปิดประตูอย่างแน่นหนา แต่นายสัมฤทธิ์ก็ยังใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงเข้าที่ประตูห้องประมาณ 7 นัด โชคดีที่ฉันนั่งหลบอยู่อีกมุมห้องด้านหนึ่ง ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังจากนั้นนายสัมฤทธิ์ก็เดินกลับไปที่ร้านยา พร้อมกับปิดประตูอย่างแน่นหนา ฉันเลยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ก่อนจะเกิดเหตุร้ายดังกล่าว" นางศิรินรากล่าว
อ่านแล้วเศร้า ครับ