New Document









ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

เภสัชกรร้านยา

ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย WARAPORN » 02 มิ.ย. 2010, 07:42

ตั้งแต่ ใช้ซองยาใหม่ ที่มีข้อมูลครบถ้วนตาม มาตรฐานร้านยาคุณภาพ คือ มีชื่อผู้ป่วย วันที่จ่ายยา ชื่อสามัญทางยา ชื่อการค้า วันหมดอายุ
ข้อบ่งใช้ วิธีรับประทานยา ข้อควรระวัง รู้สึกผู้มารับบริการให้ความยอมรับในตัวเราที่เป็นเภสัชกรมากขึ้นนะ มันจึงรู้สึกว่า อะไรก็ตามที่คนอื่นไม่ได้เรียนมา แล้วทำไม่ได้ มันคือ ความเป็นวิชาชีพ เช่น หมอ ฉีดยา ผ่าตัด ตรวจร่างกาย หมอฟัน ทำฟัน พยาบาล คัดกรอง ทำแผล ฉีดยา ดูแลผู้ป่วย ถ้าอะไรที่คนทั่วไปทำได้เพียงฝึกหัดตามกันมา เช่น การเขียนซองยาแบบทั่วไป ที่มีข้อบ่งใช้ และวิธีการกิน มันก็ไม่ค่อยได้รับการยอมรับ ( การเขียนซองยาเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งที่ยกมาค่ะ)


เป็นความเห็นส่วนตัวค่ะ ว่า การสร้างวิชาชีพของเภสัชกรในร้านยาให้เป็นที่ยอมรับ ร้านยาคุณภาพเป็นแนวทางที่ดีเลยค่ะ เพราะมีการวัดความดันโลหิต การคัดกรองโรคเบาหวาน ที่เพิ่มขึ้นมา เพราะปกติเราก็ให้คำปรึกษาการใช้ยา กับผุ้มารับบริการอยู่แล้วค่ะ

พี่ๆเพื่อนๆๆน้องๆคนไหนมีความเห็นอย่างไรบ้างค่ะ หรือมีอะไรที่น่านำเสนอในร้านยาเพื่อสร้างความเป็นวิชาชีพของเภสัชกร
แก้ไขล่าสุดโดย WARAPORN เมื่อ 04 มิ.ย. 2010, 11:42, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
WARAPORN
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 11:23
ที่อยู่: 16/10 ม.1 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง 92180







Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกร

โพสต์โดย Awong » 02 มิ.ย. 2010, 10:02

1.มีจรรณยาบรรณในการจ่ายยา
2.service mind
3.ใจเขาใจเรา
4.วิชาการที่มีต้องเอามาใช้
5.คำอธิบาย คำแนะนำ
.
.
.
มีอะไรอีกเยอะแยะเลยครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Awong
 
โพสต์: 14
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2009, 17:20

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกร

โพสต์โดย KKU_rx » 03 มิ.ย. 2010, 07:00

ทำได้ก็ดี แต่ที่เขาไม่ทำก็แยะ หมอยังไม่ทำเลย
KKU_rx
 
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 14:30

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกร

โพสต์โดย WARAPORN » 03 มิ.ย. 2010, 08:00

อาจจะวิชาชีพเภสัชกร ไม่ออกมาเป็นรูปธรรมเหมือนอาชีพอื่นค่ะ เหมือนใครๆก็ทำได้
WARAPORN
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 11:23
ที่อยู่: 16/10 ม.1 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง 92180

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย ผัดหมี่ » 04 มิ.ย. 2010, 22:37

เราทำอะไรไป มีผลต่อเภสัชกรท่านอื่นๆเสมอ
การสร้างให้ผู้ป่วยหรือลูกค้าฉลาดบริโภคยาหรือดูแลสุขภาพดีขึ้น น่าจะเป็นหน้าที่ที่เภสัชกรทุกท่านทำด้วย ณ ร้านยา
หัวใจเภสัชกร ให้บริการโดยไม่ไปผูกขาดลูกค้า จนเป็นเหตุให้ลูกค้าเสียโอกาส
พี่(แก่แล้ว)ว่าการจ่ายยาแผง OKที่สุด มีความเป็นไปได้ในการทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเขียนชื่อยา วันหมดอายุให้วุ่นวาย
ลูกค้าสามารถนำไปรับบริการต่อได้ทั่วราชอาณาจักร อย่างน้อยเขาก็มีโอกาสได้ยาเดิมหรือใกล้เคียงเดิม หรืออาจเป็นประวัติ
ทั้งการใช้ยา หรือการแพ้ยา ได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น
ไม่รู้ว่าเภสัช ท่านอื่นๆเห็นเป็ฯอย่างไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
ผัดหมี่
 
โพสต์: 231
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 22:22

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย apotheker » 05 มิ.ย. 2010, 08:24

ทำอย่างคุณผัดหมี่ว่า แถมซองยายังเขียนซะละเอียด วันที่รับยา ยาสำหรับอากการอะไร กินอย่างไร ตามมาตรฐานร้านยาคุณภาพ
แต่กว่า90% กลับมาซองยาไม่อยู่แล้ว บางทีไม่เหลือแม้แต่แผง ชื่อยาก็ำจำไม่ได้ เอายาอย่างที่จัดให้วันนั้นอ่ะ
หรือบางทีกลับมาอีกทีเป็นยาร้านอื่นไปแล้ว ไม่มีแผง ยาทุกเม็ดมารวมกันอยู่ในซองยาเรา แต่เป็นยาร้านอื่นที่เราไม่เคยมีในร้าน

ผมว่าจะพัฒนาร้านายาให้มีคุณภาพ คงต้องทำให้คนซื้อยามีคุณภาพควบคู่กันไปด้วย
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย WARAPORN » 05 มิ.ย. 2010, 12:05

ส่วนใหญ่ถ้า ใช้ยาที่เป็นแผง จะเขียนชื่อการค้าเป็นภาษาไทยค่ะ กลัวลูกค้าสลับซองกันค่ะ
WARAPORN
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 พ.ค. 2010, 11:23
ที่อยู่: 16/10 ม.1 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน จ.ตรัง 92180

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย ผัดหมี่ » 06 มิ.ย. 2010, 14:14

การจัดยาแผง เป็นการทำให้ลูกค้าคุ้นเคยเหมือนการรับยาจากสถานบริการรัฐ หรือเอกชนที่มาตรฐาน
การเขียนชื่อยาแทบไม่จำเป็น
ไม่ค่อยอยากให้เปรียบเทียบ ลายมือกับสิ่งพิมพ์ที่ชัดเจน เพราะคุณภาพไม่เทียบเท่ากัน ไม่รู้ให้ใครอ่านออก เราหรือลูกค้า
หากเจอปัญหา การแกะเม็ดยา หรือการรวมซอง ก็เป็นสิ่งที่เภสัชกรจะต้องชี้แจงการใช้ยากับผู้ดูแลหรือผู้ใช้ยาต่อไป
ที่ร้าน แนะนำเกี่ยวกับ
1. การไม่ตวรแบ่งย่อยยาแผง เนื่องจากข้อมูลที่เวลานำมาสอบถามไม่ชัดเจน เก็บไว้ใช้ไม่ทราบอายุยา เวลาใช้ให้เพียงฉีกเพื่อนำเม็ดยาออก
โดยไม่ต้องแบ่งเป็นชิ้นๆ หรือฉีกแบ่งยาแผงวางหลายจุด
2. การนำยาแผงเข้าออกให้ถูกซอง อย่าออกมาทีละหลายซอง แล้วจะงงเอง
3. การหยิบยาใช้ต้องเปิดไฟ อย่าหยิบโดยความชิน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่หยิบยาใช้เอง ตัวอย่าง ยาแผง NORGESIC กับ AIR-X เจอปัญหา
นี้ เลยได้เปลี่ยนยา AIR-X เป็น DIOXYME แผงสีเขียวแทน ซึ่งก็ OK ลดปัญหาไปได้ระดับหนี่ง
4. การแกะเม็ดยาในแผง เพื่อแบ่งใส่กล่องยาย่อย เป็นสิ่งที่เจอบ่อย บางครั้งต้องเตือนให้แบ่งเพื่อพอใช้ไม่กี่วัน ยาไม่ปนรุ่น บางครั้งต้องห้าม
การแกะเม็ดยาบางอย่างที่ต้องมีการเก็บพ้นแสงความชื้น
5. หากคนไหนมีปํญหายาแผงเก่าไม่แน่ใจ มาถามยาแผงวันหลัง ก็เขียนฉลากหรือ mark ใส่แผงยาเลย ไม่ต้องซื้อยาเพิ่มก็ได้( good health at low cost )
6. ลูกค้าที่ใช้ยาแผง หากไม่สะดวกมารับยาต่อที่ร้าน ก็ให้หาซื้อได้ตามร้านยาโดยเฉพาะที่มีเภสัชกร คนละยี่ห้อก็ได้
เป็นต้น
ไม่เคยคิดว่าการจัดยาแผงแล้วมีปัญหาจะลงไปนับยา รู้สึกว่ามาตรฐานควรมีการพัฒนาขึ้นไปอีก
เคยได้ยินมั้ยที่ว่า ลูกค้าต่างชาติเรียกหา "foil only" แล้วทำไมคนไทยจะเรียกร้องบ้างไม่ได้ (ดีนะ สำหรับคนที่แพ้ยาบ่อย จะแนะนำให้เรียกหายาแผงเหมือนกัน)
ไม่เคยท้อ ไม่เคยหยุดเพราะเราคือเภสัชกร เราต้องคอย risk assessment ไปสู่ risk management and risk communication
ไม่ต้องอยู่โรงพยาบาล ไม่ต้องไปทำบุญ แต่การให้ความรู้ การสร้างกระแส เพื่อให้ผู้บริโภคคุ้นเคยกับมาตรฐานกับรับบริการจากร้านเภสัช
มีคำกล่าวว่า "ถ้าไปร้านยาที่มีเภสัชกร คุณจะได้อะไรมากกว่าที่คุณคิด"
แต่พี่กลับคิดว่าเป็น "ถ้าไปร้านยาที่มีเภสัชกร คุณอาจได้อะไรยากกว่าที่คุณคิด" เห็นด้วยมั้ย
ภาพประจำตัวสมาชิก
ผัดหมี่
 
โพสต์: 231
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 22:22

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย blacksmithday » 06 มิ.ย. 2010, 14:46

ผมหวังว่าสักวันมันคงไม่วัดด้วยวิธีนี้นะ

มูลค่าในจินตนาการ :razz: :lol:
http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2007q ... er13p1.htm
blacksmithday
 
โพสต์: 192
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2007, 19:21

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย ผัดหมี่ » 06 มิ.ย. 2010, 15:45

วิชาชีพเภสัชกรน่าจะวัดจากจิตสำนึกของผู้ให้บริการที่เป็นเภสัชกรเอง
ส่วนผู้รับบริการจะเป็นผู้ประเมินท่านเอง
"When it comes to the future,
There are three kinds of people :
those who let it happen,
those who make it happen, and
those who wonder what happened"
ภาพประจำตัวสมาชิก
ผัดหมี่
 
โพสต์: 231
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 22:22

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย ผัดหมี่ » 06 มิ.ย. 2010, 15:53

สำหรัีบผู้ที่เล่นคอมพิวเตอร์ประจำ คงรู้ว่า ถ้าเป็นเพียงuser ทุกอย่างจะตั้งตามที่เครื่องกำหนด (by default)
แต่สำหรับผู้ที่ชอบสร้างสรร หรือลองผิดลองถูก อาจได้ดีหรือแย่ลง แต่ก็มีการลงมือกระทำด้่วยตัวเอง (by design)
ฺํ
แล้วแต่เราจะชอบอย่างไร
แต่สำหรับพี่ BY DESIGN ..NOT BY DEFAULT
ภาพประจำตัวสมาชิก
ผัดหมี่
 
โพสต์: 231
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 22:22

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย Barrios » 07 มิ.ย. 2010, 19:35

สำหรับผมการผูกขาดลูกค้า
ผัดหมี่ เขียน:เราทำอะไรไป มีผลต่อเภสัชกรท่านอื่นๆเสมอ
การสร้างให้ผู้ป่วยหรือลูกค้าฉลาดบริโภคยาหรือดูแลสุขภาพดีขึ้น น่าจะเป็นหน้าที่ที่เภสัชกรทุกท่านทำด้วย ณ ร้านยา
หัวใจเภสัชกร ให้บริการโดยไม่ไปผูกขาดลูกค้า จนเป็นเหตุให้ลูกค้าเสียโอกาส
พี่(แก่แล้ว)ว่าการจ่ายยาแผง OKที่สุด มีความเป็นไปได้ในการทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องเขียนชื่อยา วันหมดอายุให้วุ่นวาย
ลูกค้าสามารถนำไปรับบริการต่อได้ทั่วราชอาณาจักร อย่างน้อยเขาก็มีโอกาสได้ยาเดิมหรือใกล้เคียงเดิม หรืออาจเป็นประวัติ
ทั้งการใช้ยา หรือการแพ้ยา ได้ข้อมูลที่ชัดเจนขึ้น
ไม่รู้ว่าเภสัช ท่านอื่นๆเห็นเป็ฯอย่างไร

นอกจากหมวกเภสัชกรแล้ว ผมยังต้องสวมหมวกพ่อค้าและหมวกของหัวหน้าครอบครัวด้วย แต่เมื่ออยู่หน้าเคาน์เตอร์จ่ายยาหมวกเภสัชจะใหญ่กว่าหมวกของพ่อค้าเสมอ ดังนั้นการผูกขาดลูกค้ายังมีความจำเป็นอยู่ ด้วยเหตุผลของหมวกใบอื่น ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Barrios
 
โพสต์: 714
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 08:41
ที่อยู่: ประเวศ กทม.

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย TDPharm » 07 มิ.ย. 2010, 20:11

ความเป็นวิชาชีพ จริงแล้วนะเรารู้หมดและครับ ว่ามันคืออะไร

ประเด็นคือทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด

เอาเป็นว่าไม่มีใครดี 100 % ทำถูกหมด 100 %

เอาเป็นว่าวิชาชีพอยู่ในใจ 100 % แต่มันจะออกมาแค่ไหนก็เป็นอีกเรื่อง
ภาพประจำตัวสมาชิก
TDPharm
 
โพสต์: 344
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2009, 09:36

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย ผัดหมี่ » 08 มิ.ย. 2010, 09:59

สมัยนี้ คงบริการแบบทื่อๆเหมือนสมัยก่อนไม่น้อย แม้่แต่คนร่วมวิชาชีพเดียวกันยังหากินกันมักง่ายขึ้น
เปิดร้านโดยอิงกับร้านรุ่นพี่เดิม การแอบอ้างเป็นญาติพื่น้อง พื่ว่าทุกวันนี้แล้วแต่พื้นฐานความคิดแต่ละคน
หากคิดจะหากินแบบเสือ จะทำอย่างไร จะหากินแบบสุนัขจิ้งจอกจะหากินกันอย่างไร หรือจะหากินแบบ...

ร้านเภสัชเองก็ยังไม่มีบริการ 24 ชั่วโมง เภสัชกรไม่ใช่ควายนะ ต้องการการพัก การหยุดบ้างเหมือนกัน
การบริหารความภักดีลูกค้าแล้วแต่เทคนิคของเภสัชแต่ละคน
พื่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับการนับยา แล้วลูกค้าต้องข้ามจังหวัดไปซื้อที่ร้านเดิม (มันหมายความว่าอะไร!)
แล้วการสั่งซื้อยาทางไปรษณีย์ โดยที่เก็บข้อมูลยาลูกค้า แล้วจัดส่งยาให้เมื่อมี order

เคยบ่น ลูกค้าที่ว่าต้องรักษาได้อยู่กับหมอท่านนี้ๆเท่านั้น รักษาท่านอื่นไม่หาย ว่าอีกหน่อยระวังจะตายคามือหมอเดียวนี่แหละ
เพราะเขาไม่ใช่คนพื่นที่ ไม่ได้เปิดบริการได้ทุกวันเวลา (หมายเหตุลูกค้าคนนี้ เสียชีวิตไปแล้ว)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ผัดหมี่
 
โพสต์: 231
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 22:22

Re: ความเป็นวิชาชิพของเภสัชกรวัดจากตรงไหน

โพสต์โดย ผัดหมี่ » 08 มิ.ย. 2010, 10:16

ที่แนะนำให้ใช้ยาแผง (ตัวเองก็ไม่ได้ใช้ 100%) เพราะไม่ต้องวุ่นวายเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับยาบางเรื่อง
แล้วไปเน้นๆในสิ่งที่ต้องการ เช่น การกินต่อเนื่อง หรือเฉพาะอาการ ข้อห้าม
อีกทั้งยังตอบคำถามในแง่ อายุการใช้งานของยา (ที่ร้านถ้าเป็นยานับ ให้เก็บใช้ได้ไม่เกิน 6 เดือน )
ให้คนไข้ยอมรับที่ตัวเภสัชกรเอง ดีกว่าให้เขายึดติดกับแผงยา (เท่ากับว่าเป็นลูกค้าบริษัทผู้ผลิตยานะซิ)

ถ้าเปิดร้านก็ต้องมีกำไร ใครจะตัดราคา(ก็ทำไป) ถ้าทำแล้วไม่มีกำไรทำไปทำไม
พี่ว่ามีคู่แข่งที่เป็นวิชาชีพเดียวกัน ยังดีกว่าไปสู้รบกับหมอตี๋นะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
ผัดหมี่
 
โพสต์: 231
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 22:22

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ลาเต้

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document