หลังจากคิดอยู่นาน ก็เลยตัดสินใจว่าจะเปิดร้านยา อยู่ฝั่งตรงข้าม รพ. เนื่องจากมีอาคารให้เช่าได้ แต่แล้วปัญหาก็เกิด
เมื่อเจ้าตลาดเก่า ร้านคลินิกพยาบาล ที่ได้เปิดร้านอยู่มานาน (ร้านตั้งอยู่ในอาคารหน้า รพ. เช่นกัน) คนไข้ชุมชนนั้นก็เข้ามาใช้บริการสม่ำเสมอ มีการให้บริการฉีดยา ทำแผล จ่ายยา ฯลฯ
พอร้าน ภญ คนนี้ไปเปิดทำให้ลูกค้าเริ่มเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากต้องการได้รับยาผ่านมือเภสัชกร รวมถึงเข้ามาขอความรู้ด้านยา ส่งผลให้เจ้าตลาดเกิดความเดือดร้อน มีการส่งสัญญาณเตือนต่างๆนาๆ เพื่อให้ออกไปจากที่นี้ซะ แต่ ภญ ก็ยังมิได้หลบออกไปเนื่องด้วยเหตุผลนานับประการ
ปัญหายังไม่หมดแค่นั้น เมื่อ ภญ ในหน้าที่นั้นยังมัหมวกอีกใบเป็น เภสัชผู้ที่ต้องออกตรวจร้านยา คลีนิก ในชุมชนนั้น ไปพบว่าคลินิกนั้น มีการฉีดยาโดยบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พยาบาล ก็ได้ทำการตักเตือนและได้นำเรื่องแจ้งไปยังผู้ใหญ่ทั้งใน รพ และ จังหวัด (แต่เรื่องก็มิได้ถูกดำเนินการใด) ทำให้คลินิกเกิดความไม่พอใจอย่างมาก มีการขู่จะทำร้ายร่างกายด้วย ภญ ได้นำเรื่องไปแจ้งความไว้แล้ว
ภญ ได้ติดต่อ บริษัทยาในการสั่งยา ก็เกิดเหตุ ผู้แทนยาไม่เข้าเนื่องด้วยถูกคลินิก ห้ามเข้าร้าน ฯลฯ
น่าสงสาร ภญ คนนี้เลยเอามาเล่าให้ฟัง
กำลังช่วยคิดว่าจะแก้ไขปัญหากันยังไงดี ระหว่างเรื่องธุรกิจ และ บทบาทหน้าที่












น่ากลัวมาก ที่ร้านเจอแต่พวกมาขอเงิน เช่นจะไปอำเภอนี้ เป็นร้านยาขอตังหน่อยดิ เราก็บอกว่าวันนี้ยังขายไม่ได้เลย ไหนจะค่าเช่าอีก มันทำเสียงไม่พอใจมาก แต่ดีที่เดินหนีไป วันก่อนก้มีมาอีกอ้างว่ามาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอตังกินข้าวหน่อย เราก็ไม่ให้บอกไปร้านต่อไปได้เลย บางทีก็มาในรูปพระสงฆ์ หรือมูลนิธิต่างๆ บางทีมีใบรับรองมาอ้าง แล้วบอกตามจิตศรัธทราเราให้20บาทมองหน้าไม่พอใจ ไม่รู้ว่าใครจริงใครหรอกแต่มีแบบนี้เยอะมากทุกวันด้วย น่ากลัวไม่รู้จะทำร้ายเราหรือเปล่า เราก็ประชาชนตาดำๆ แถมพวกมาขอส่วนใหญ่ก็ร่างกายครบ 32 อยู่ในวัยทำงานได้ ยังไงขอเป็นกำลังใจให้พี่ภญ.นะคะ อย่า ท้อ พี่มีคนรู้จักเป็นคนมีสีเหมือนกันหรือเปล่าคะ สู้ๆๆ 

