New Document









เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

เภสัชกรร้านยา

เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย pugghub » 21 ก.ค. 2010, 00:34

วันก่อนไปอบรมกับสภาเภสัชกรรมมาค่ะ
(ที่ตอนนี้เค้ามีบังคับแล้วว่าเภสัชกรร้านยาต้องมาอบรม)
เค้าก็มีถามคำถามนี้ด้วยก็เลยอยากจะมาถามพี่ๆ เพื่อนๆ ในบอร์ดว่า
เราจะแก้ปัญหานี้อย่างไรดี?
ใครขี้เกียจอ่านเยอะก็อ่านเฉพาะตัวสีเขียวก็ได้ค่ะ


อบรมก็ได้ความรู้มาพอสมควร เช่น
-มีอบรมจรรยาบรรณ จริยธรรม กฎหมาย บางอย่างถูกกฎหมายแต่ไม่ถูกจริยธรรม บางอย่างถูกจริยธรรมแต่ผิดกฎหมาย.......
โปรดใช้วิจารณญาณเอง.........หลบเลี่ยงกันเอง.........อย่าให้จับได้แล้วกัน
-เภสัชกรแขวนป้ายเขาผ่อนผันให้ถึงสิ้นสุดตั้งแต่ปี 2529 แล้ว...............แต่ตอนนี้ 2553 ก็ยังมีอยู่?
-เภสัชกรชั้น 2 เหลืออยู่ 1 คน----> ก็เลยต้องคงชื่อไว้ในพรบ.อยู่
-แผ่นพับโฆษณาที่เป็น ฆศ. ให้โฆษณาได้สำหรับผู้ประกอบโรคศิลปะเท่านั้น....อย่าเผลอเอาไปแจกคนไข้ล่ะ เพราะบางทีพวกเซลล์ก็มาแจกเภสัชกรร้านยาคนเดียวตั้ง 300 แผ่น เพื่อ...........? ส่วนโฆษณาที่เป็น ฆท. ถึงเผยแพร่ได้ทั่วไปได้
-สภาเภสัชกรรม มีหน้าที่กำกับดูแลและปกป้องสิทธิเภสัชกรเท่านั้น ไม่มีสิทธิที่จะไปทำอะไรกับคนที่ที่แอบอ้างเป็นเภสัชกรนะจ๊ะ.....
-ร้านยาทั่วประเทศมีประมาณ 10000 กว่าร้าน ในกรุงเทพประมาณ 3000 ร้านมั้ง ตารางข้างล่างโดยละเอียดค่ะ
รูปภาพ
-เภสัชกรที่แขวนมากกว่า 1 ป้าย ตรวจพบประมาณ 18 คน เค้าบอกว่าเอาชื่อเภสัชกรร้านยาทั่วประเทศมา pool รวมกันแล้วก็เจอค่ะ
-ต่อไปจะไม่ให้มีเภสัชกรลงเวลาปฏิบัติการ 3 ชั่วโมงแล้ว......อาจจะเป็น 4 ชั่วโมงแทน...อิอิอิ

มาถึงที่หัวข้อกระทู้เราดีกว่า

ในความคิดเห็นของเรานะ จากประสบการณ์ตรงของคนเคยแขวนป้ายมา 2 รอบอย่างเรา (ที่พูดไม่ได้จะโทษว่าเป็นความผิดของใครถ้าจะโทษก็ต้องโทษตัวเราเองที่เอาชนะตัวสีดำที่อยู่ในใจไม่ได้) ก็อยากจะแชร์สาเหตุของการแขวนป้ายของเราก็คือรุ่นพี่ชวน เพราะพี่จะย้ายที่ทำงานไปต่างจังหวัดต้องเอาป้ายไปด้วย ไม่มีใครแทนต้องหาคนแทนก่อนถึงจะไปได้ ตอนแรกเราก็ไม่เอาหรอก บอกว่าไม่อยากมีปัญหา (ประมาณว่าเด็กจบใหม่ จรรยาบรรณยังเข้มข้นอยู่) แต่สุดท้ายก็ต้องไหลไปตามกระแส เงินซื้อเราไม่ได้หรอก.......ถ้าไม่มากพอ พี่บอกว่าคิดดูเดือนละ 4000 ปีนึงก็ 48000 อยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร "ใครๆเค้าก็ทำกัน" สรุปก็แขวนไปเกือบๆปี แต่ถ้าถามตรงๆ อยากได้เงินไหม เงินใครๆก็อยากได้ ความรู้สึกผิดก็มีอยู่นิดนึงแต่อาจจะแปรผกผันไปตามกาลเวลา พอไม่โดนอะไรมันก็เลยรู้สึกว่าที่ทำอยู่ก็ไม่ได้ผิดมาก "ใครๆเค้าก็ทำกัน" ตอนหลังจะย้ายที่ทำงานเหมือนกันเลยเลิกแขวนและหารุ่นน้องมาสืบทอดทายาทอสูรต่อไป....หุหุหุ
ตอนที่แขวนป้ายอยู่มันก็เป็นความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอยู่ว่าอย.จะมาตรวจเจอไหม ตอนไปเอาเงินที่ร้านเค้าทุกเดือนก็รู้สึกเหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้ มันคงดูไร้ค่าสุดๆ (คิดเอาเอง.....ก็เรามารับค่าจ้างแขวนป้ายหนิ) แค่จะมองดูยาเค้ายังไม่กล้าเลย ทำหน้าปั้นจิ้มปั้นเจ๋อไป เวลาผ่านไปกลับไปอยู่บ้านสักพักกลับมากรุงเทพอีกครั้ง มีรุ่นพี่จะเปิดร้านยาสาขา 2 มาขอให้ไปแขวนให้อีก เราก็อ่ะนะ ปฏิเสธคนไม่เป็น อยากพูดเรื่องจรรยาบรรณก็ต้องปีนบันได้ไปพูดโน่น พูดแถวนี้เดี๋ยวเค้าหาว่าบ้า แต่ในใจก็คิดอยู่เสมอว่าต้องมีร้านยาของตัวเองและอยู่ปฏิบัติการเองให้ได้สักวัน ตอนนี้มีร้านของตัวเองแล้วค่ะ "เลิกแล้วค่ะ หนูเลิกแขวนป้ายแล้วค่ะ!!" ร้านเล็กๆ ขายเวลาเลิกงานประจำตอนเย็น ยังไม่รู้เลยว่าจะหมู่หรือจ่า แต่ก็จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด...เย่ๆๆ ขนาดเราตั้งใจว่าจะขายแค่ตอนเย็น และเสาร์-อาทิตย์ ก็ยังมีผู้หวังดีคอยปลอบประโลมอยู่เรื่อยๆว่าจะดีเหรอตอนกลางวันก็ให้น้องมาช่วยขายดิ ลูกค้าเค้าไม่เอาอะไรหรอก ยาดมยาหม่อง ขายๆ ไป....น้องก็เพิ่งออกจากงานอยากขายเต็มที่เราก็บอกว่าแกไปเรียนเภสัชมาก่อนแล้วค่อยมาขายนะ ก็ทำเป็นปากดีไปแหละ แต่ก็ยังไม่รู้เลยว่าอุดมการณ์มันจะกินได้ไหม แต่ก็จะพยายามค่ะ^^

ที่พล่ามมาทั้งหมดก็อยากจะสรุปว่า
1.จรรยาบรรณและจริยธรรมที่อยู่ในใจของเรา บางทีมันก็ต้านกระแสน้ำไม่ไหว.....มันก็ต้องไหลไปตามน้ำ....ไปเป็นบางเวลา เค้าบอกว่าตัวอย่างที่ดีมีค่ากว่าคำสอน ถามว่ารุ่นพี่ที่นับถือ, อาจารย์ที่เคารพ, เจ้าหน้าที่รัฐ (อันนี้พูดทั่วๆไปนะคะ)........ก็ยังแขวนกันอยู่ แล้วเราล่ะก็ "ใครๆเค้าก็ทำกัน"

-อยู่แต่พอดี ทำแต่พอเพียง อาจจะไม่ใช่วันนี้แต่ถ้าสักวันเรามีโอกาสและศักยภาพพอ เราก็ควรจะมีจรรยาบรรณ จริยธรรม และศีลธรรมที่ดี ปฏิบัติตัวเป็นพลเมืองดีของประเทศ ถึงอาจจะไม่มีใครรู้แต่เราก็รู้ตัวเราเองและความรู้สึกภาคภูมิใจและเคารพต่อตัวเองมันก็จะมาเอง

2.กฎหมายเด็ดขาดพอหรือยังกับผู้เป็นเจ้าของที่ร้านที่ไม่ใช่เภสัชกร ที่ไม่ใช่แค่มาเปลี่ยนชื่อเภสัชกร และก็ทำร้านได้ต่อไป มาต่ออายุทุกปีๆ และก็ทำร้านได้ต่อไป ทั้งๆที่อย.รู้อยู่เต็มอกว่าร้านไหนแขวนป้ายบ้าง แค่ดูเวลาปฏิบัติการก็รู้แล้ว แต่ก็ยังทำอะไรไม่ได้ (กฎหมายก็บอกอยู่แล้วว่าห้ามขายนอกเหนือจากเวลาที่ระบุ, ป้ายระบุ 17.00-20.00น. แต่เปิดขายตั้งแต่เช้ายันเย็น.......อย.ทำอะไรได้บ้าง) อย.บอกว่าคุณก็ร้องเรียนมาสิ เรามันคนไทยใจดี ไม่ชอบมีเรื่องกับใคร คนทำมาหากินเหมือนกันคงไม่มีเวลามานั่งจับผิดคนอื่นตลอดเวลาหรอกค่ะ ทำไปเดี๋ยวเค้ารู้ว่าเป็นเราอาจจะแค้นฝังจิตฝังใจตามไปชาติหน้าด้วย หรือไม่ก็อาจจะเอาอึมาปาร้านเราจะทำยังไงคะ ดีไม่ดีร้องเรียนไปกลายเป็นไปเหยียบตาปลาใครเข้าแล้วจะซวยเราอีก เพราะยังไงก็ทำอะไรก็ทำไม่ได้อยู่ดี รอให้กรรมตามสนองเค้าได้อย่างเดียวค่ะ

-เภสัชกรในประเทศไทยมีประมาณเกือบๆ 30000 คน เภสัชกรร้านยามีประมาณ 10000 กว่าคน ถามว่าสภาเภสัชกรรม/อย./สสจ. ควบคุมเป็นรายคนได้ไหม อย่างน้อยควบคุมคนที่เป็น big ๆ ก่อน ในอย./สสจ./รพ.รัฐ/อาจารย์ มีคนแขวนป้ายไหม.......แล้วถามกลับหน่อยว่าแขวนได้อย่างไร? กลางวันปิดร้านไว้แล้วมาเปิดขายตอนเย็นเหรอ? ถ้าควบคุมจัดการขั้นเด็ดขาดกับกลุ่มนี้ได้ 100% ก็ไม่ต้องกลัวว่าตัวเล็กๆมันจะกล้า.......คงรีบไปเอาป้ายออกกันจ้าละหวั่นแน่......................................

3.การเกิดใหม่ของเภสัชกรแขวนป้าย ส่วนใหญ่คิดว่าน่าจะเป็นการสืบทอดทายาทอสูรนะคะ รุ่นพี่เลิกทำ ชวนรุ่นน้องแขวนต่อ เราเชื่อแน่ว่าเด็กจบใหม่ทุกคน คงไม่มีใครตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อให้ได้เอาป้ายเพื่อมาแขวนแล้วได้ 5000 หรอก แต่เมื่อผู้คุมกฎหมายยังทำอะไรไม่ได้ สิ่งแวดล้อมก็เอื้ออำนวย ต่อมความละอายและเกรงกลัวต่อความผิดก็จะตายด้าน จนมันมีวิวัฒนการกลายมาเป็นสิ่งที่ถูกต้องในสังคม "ใครๆเค้าก็ทำกัน"

-การขออนุญาตเปิดร้านยาใหม่ ไม่ใช่ว่าต้องมีป้าย มีร้าน มีตู้ แล้วค่อยถ่ายรูปมาขอ เค้าลงทุนไปแล้วตั้งเท่าไหร่แล้ว จะไม่ให้เค้าเหรอ ยังไงเค้าก็จะทำให้ได้อยู่แล้ว มันก็เป็นปัญหาซ้ำๆ เดิมๆ ไปไม่สุดสิ้น เพราะคุณรับเขาเข้ามาในระบบเอง อย./สสจ.ก็รู้ ว่าร้านไหนแขวนป้าย ก็อาจจะเตะถ่วงเวลาให้นานหน่อยสำหรับร้านที่เภสัชกรกับเจ้าของไม่ใช่คนๆเดียวกัน แต่ถามหน่อยเหอะว่ามีร้านไหนที่ไม่ได้บ้าง ส่วนร้านที่รอใบอนุญาตเค้าก็ขายกันไปตั้งแต่ยังไม่ได้ไปขอใบอนุญาตแล้ว อย.มาตรวจก็ขนยาลง ควรจะแก้ปัญหาตั้งแต่ต้นเหตุเลย ง่ายๆใครจะเปิดร้าน ให้กรอกข้อมูลลงในกระดาษแผ่นเดียวมาเลย ใครเป็นเจ้าของ? ใครเป็นเภสัชกร? เภสัชกรทำงานประจำที่ไหนหรือเปล่า? เวลาเปิดร้าน? เวลาปฏิบัติการ? อย./สสจ.พอได้ขอมูลแค่นี้ก็น่าจะ screen ได้ว่า ร้านไหนได้ ร้านไหนไม่ได้ พวกที่ไม่ได้ก็จะได้เอาเงินก้อนนั้นไปทำอย่างอื่น ไม่ต้องเสียเวลาเฝ้าฝันว่าจะมีร้านยาเป็นของตัวเอง

-อย./สสจ. มีมาตรการควบคุมร้านยาที่แขวนป้ายแค่ไหน ทั้งๆที่รู้อยู่ว่าร้านไหนแขวนร้านไหนไม่แขวน (หรือว่าไม่รู้?) แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันเด็ดขาดอย่างชัดเจน เค้ามาต่อใบอนุญาตก็ให้เค้าต่อไป เค้ามาเปลี่ยนเภสัชก็ให้เค้าเปลี่ยนไปตามกระบวนการ ควรจะลงดาบไปเลยว่าจะตรวจสอบแล้วนะว่าใครแขวนป้ายจะจัดการขั้นเด็ดขาด (ตรวจสอบจากเวลาปฏิบัติการที่ขออนุญาต หรือ หน่วยงานต้นสังกัด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อย่างน้อย สภาเภสัชกรรม/อย./สสจ.ก็น่าจะมีข้อมูลอยู่) ให้เวลาไปเลย 3 เดือนสำหรับเภสัชกร ใครแขวนอยู่ก็ให้ไปยกเลิกออกมาซะ และไม่ต้องไปเป็นธุระจัดหาเภสัชใหม่ให้เค้า ให้ทางอย./สสจ.ออกหน้าทำหน้าที่ไปจัดการเองกับร้านเอาเป็นร้านๆเลย ส่วนใหญ่ที่ออกไม่ได้เพราะ แขวนมานานแล้ว และไม่มีปัญหา รับเงินเค้ามาตั้งนานแล้ว อยู่ดีๆจะออกมันก็คงไม่ดีสำหรับเจ้าของร้าน คนทำมาหากินกันทั้งนั้น แต่ถ้าอย./สสจ. ช่วยออกหน้าให้ มันก็น่าจะช่วยแก้ปัญหาได้ ส่วนเจ้าของร้านเมื่อไม่มีเภสัชกร ก็ไม่ใช่จะไม่ให้เค้าขายเลย อันนี้มันก็เถรตรงเกินไป ทำได้แต่เขียนไว้บนกระดาษ คุยกันได้ไหม ให้เวลากันบ้าง
------->ร้านไหนขายดีมากๆ ก็ควรจะให้จ้างเภสัชกรมาเป็นเวลาๆ ตลอดเวลาที่เปิดร้าน ไหนๆคุณก็ฉกฉวยผลประโยชน์จากสังคมมาตั้งนานจนรวยแล้วรวยอีกก็ควรจะทำให้มันถูกต้องซะ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ให้เลิกไปทำอย่างอื่นเสีย
------->ร้านไหนขายพออยู่ได้แต่มันเป็นอาชีพที่เลี้ยงทั้งครอบครัว คุยกันว่าคุณจะทำอย่างไร เพราะมันผิดกฎหมาย และอย./สสจ.ก็อลุ้มอล่วยมาตั้งนานแล้ว ให้เวลาไปเลย 6 เดือน/1 ปี/5 ปี/6 ปี จะเลิกไปทำอย่างอื่น ให้เซ้ง หรือว่าจะส่งลูก ส่งเมียที่เฝ้าร้านอยู่ หรือให้ทุนเด็กเรียนดีไปเรียนเภสัชต่อแล้วก็กลับมาปฏิบัติการที่ร้าน ก็ว่ามาเอาสักอย่างหนึ่ง ไหนๆก็หย่อนยานกันมา 20 กว่าปีแล้วแต่การแก้ปัญหาอย่างนี้ เราว่าไม่เกิน 7 ปีจะไม่มีเภสัชกรแขวนป้ายอยู่เลย แต่ในระหว่างนี้ทางรัฐก็ต้องมีการช่วยดูแลเค้าด้วย อย่างเช่นใครจะเซ้งร้านก็เป็นสื่อกลางช่วยในการประชาสัมพันธ์ ใครจะไปเรียนก็ให้ทำไปจนครบ 6 ปีแล้วได้ปริญญากลับมาเปิดร้าน แต่ถ้าครบเวลาที่ตกลงกันแล้วยังไม่มาเปิดร้านก็ปิดมันไปเลย ในระหว่างที่รออยู่ก็อาจจะให้เป็น ขย.3 (อันนี้คิดเองนะ) อาจจะขายได้เหมือนเดิมเหมือนขย.1 แต่ต้องมีการควบคุมดูแลโดยเภสัชกรอย./สสจ.(ให้เภสัชกรอย./สสจ.ไปแขวนป้ายแทนไปก่อน)


เภสัชกรจริงๆก็โดนจ้ำจี้จำไช ตะบี้ตะบันทำร้านยาคุณภาพกันเข้าไปเพื่อให้เข้าเกณฑ์มาตรฐาน เหนื่อยไหม? ทำดีมันเห็นผลช้า แต่ไอ้พวกร้านหมอตี๋รวยกันไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ต้นทุนก็น้อยกว่า เราทำอะไรไม่ได้เลย "คนชั่วได้ดี คนดีมันก็มีท้อถอยกันบ้าง"
เราทำดีมันก็ดีอยู่แล้วแหละแต่มันจะดีกว่านี้ไหมถ้ารัฐ/ผู้มีอำนาจช่วยส่งเสริมป้องกันไม่ให้คนที่ไม่มีคุณสมบัติเข้ามาอยู่ในระบบ และออกกฎให้เข้มเพื่อไม่ให้คนกล้าทำความผิด (นอกเหนือจากจริยธรรมในจิตใจ) ไม่ใช่ว่าต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างอยู่ รอดตัวก็แล้วไป อย่าให้จับได้ก็แล้วกัน จะพูดอะไรก็พูดได้ไม่เต็มปาก ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอก ลูบหน้าปะจมูก บอกว่าทำไม่ได้ อ้างโน่นอ้างนี่ จรรยาบรรณวิชาชีพมีกันอยู่ทุกคนแหละ แต่เมื่ออะไรๆมันเอื้อให้สามารถทำได้ มันก็ย่ามใจ ได้ใจ สุดท้ายคิดว่ามันคือสิ่งที่ถูก และกลายมาเป็นบรรทัดฐานของสังคมไปซะงั้น


ตอนหลังมีอารมณ์ออกแนวเหวี่ยงเล็กน้อย....อุอุอุ^^ ก็อยากจะขอแสดงความคิดเห็นจากคนตัวเล็กๆที่ผ่านโลกมายังไม่มาก ถ้าทำได้ก็น่าจะดี แต่ไม่รู้ทำไมทำไม่ได้สักที อาจจะมีตอเยอะ มันก็เป็นข้อจำกัดของสังคมไทย ที่เราก็รู้ๆกันอยู่ ก็เป็นกำลังใจให้คนที่คิดดีทำดี แล้วกันค่ะว่าทำดียังไงก็ได้ดี ไม่เห็นผลในชาตินี้ก็ในชาติหน้าแน่นอนค่ะ พูดจากใจจริงค่ะ :biggrin:
ORDINARY GUY TRIES TO BE BETTER
ภาพประจำตัวสมาชิก
pugghub
 
โพสต์: 20
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2010, 11:09







Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย TDPharm » 21 ก.ค. 2010, 17:03

ไงก็แต้งกุ้ยมากเลยนะครับ สำหรับข้อมูลดี...


ออกกฏหมายไปสิ มาตรวจร้านยาแล้วไมเจอเภสัชกรตามที่แขวน ปรับเภสัชกร 5 แสนบาท ปรับเจ้าของร้าน 5 แสน

รวมทั้งพักใบอนุญาติ 5 ปี 10 ปี หรือตลอดชีวิต....จะหาไม่..

กฏหมายทำไรไม่ได้เลย คนก็เลยงี่เงา ทำไรง่าย....ชุ่ย..

จะว่าไปหลายๆเรื่องที่ง่าย มันก็ต่างกับคำว่ามักง่าย ทำให้อะไรดูแย่ แก้ยาก

จริงๆ ประเทศเราเรียกว่ากำลังพัฒนา ก็แค่เรียกให้มันงาม...จากคำเดิมว่าด้อยพัฒนา ทั้งที่เราพัฒนาได้ แต่ไม่ทำ (หรือทำก็แค่อีกหลักอีเหลือก น่าเบื่อ)
แก้ไขล่าสุดโดย TDPharm เมื่อ 21 ก.ค. 2010, 17:35, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
TDPharm
 
โพสต์: 344
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2009, 09:36

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย Piggy Bunny » 21 ก.ค. 2010, 17:30

ง่าย

แก้ที่คนมีสิทธิบังคับใช้กฏหมาย ให้ใช้กฏหมายอย่างจริงจัง (สักที)
ตอนนี้แทนที่จะ ยึดใบอนุญาติตลอดชีพ ก็มัวแต่ผ่อนปรนตลอดชีพ .................................................................

ในการเปลี่ยนแปลงบางครั้งก็ต้องมีคนที่ต้องเจ็บปวด
ถ้าปรับตัวได้เร็ว ก็ไม่ต้องเจ็บนาน ..................... เกี่ยวไม๊ค่ะ แหะๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Piggy Bunny
 
โพสต์: 113
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 17:44

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย apotheker » 21 ก.ค. 2010, 17:50

ต้องบอก อย. สสจ.เลิกขอสปอนเซอร์และสร้างสัพันธ์กับชมรมร้านยาต่างๆ จะได้ไม่ลำบากใจเวลาต้องทำงานจริงจัง
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย TDPharm » 21 ก.ค. 2010, 17:56

apotheker เขียน:ต้องบอก อย. สสจ.เลิกขอสปอนเซอร์และสร้างสัพันธ์กับชมรมร้านยาต่างๆ จะได้ไม่ลำบากใจเวลาต้องทำงานจริงจัง


อยากให้อธิบาย ยังไง อยากรู้.... เขาขอกันไปทำไม ในเมื่อก็มีเงินจากรัฐบาล กระทรวงใคร กระทรวงมัน..
ภาพประจำตัวสมาชิก
TDPharm
 
โพสต์: 344
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2009, 09:36

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย Wiz@rd. » 21 ก.ค. 2010, 17:56

เคยได้ยินว่ามีกรณีที่ สสจ.เป็นคนหาเภสัชแขวนป้ายให้เสร็จสรรพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Wiz@rd.
Global Moderator
 
โพสต์: 942
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 มี.ค. 2004, 20:15
ที่อยู่: โลก

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย TDPharm » 21 ก.ค. 2010, 18:34

Wiz@rd. เขียน:เคยได้ยินว่ามีกรณีที่ สสจ.เป็นคนหาเภสัชแขวนป้ายให้เสร็จสรรพ


คนดูแลกฏหมาย ดูแลข้อบังคับใช้ ทำเอง ... เล___ แว๊กกกกกกกกกกกก แหวนที่ใส่มาหายไปในท่อน้ำเหรอ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
TDPharm
 
โพสต์: 344
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2009, 09:36

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย apotheker » 21 ก.ค. 2010, 19:20

ขอไปทำไรเหรอ ก็บัตรคอนเสริ์ทการกุศล งานกาชาด ทอดผ้าป่า เลี้ยงต้อนรับแพทย์ใหญ่ ผู้บริหารอย.มาตรวจงาน ที่พูดๆไปนี่ ไม่รู้จังหวัดไหนนะ :lol: :lol: :lol:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย anan » 28 ก.ค. 2010, 19:00

ไล่ออกจากวิชาชีพค่ะ สำหรับเภสัชกรแขวนป้าย พักทำไมใบอนุญาต ไม่ได้รู้สึกรู้สมอะไรกันหรอกค่ะ
เจ้าของร้านที่รู้เห็นเป็นใจก็สมควรโดนด้วย ระงับใบอนุญาตขายยาไปเลย 3 เดือน 6 เดือน ทำอีกก็ตลอดชีวิต

ทำได้ไหมล่ะคะ เอาแค่กวดขันหรือตรวจตราให้โปร่งใส ก็ทำให้ได้ซะก่อนเถอะ ...
น้องแอนไม่ทราบเหมือนกันว่าหลวงเขาจ้างไว้ทำไม .... หรือใช้เป็นหนังหน้าไฟก็ไม่รู้ เสียดายภาษีประชาชน ... คงรู้นะคะว่าแอนหมายถึงใคร

น้องแอนฟันธง เป๊ะ เป๊ะ เป๊ะ ตรงนี้เลยก็ได้ว่า ชาตินี้พวกเราจะได้เห็นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ปลอดเภสัชกรแขวนป้าย เหอ เหอ

น้องแอนฝากด้วยนะค้าาาาาาาาา..

เภสัชกรแขวนป้าย เจ้าหน้าที่ที่ละเลยหน้าที่ เจ้าของร้านที่เอาเปรียบ

แมงดา เจ้าของซ่อง กะหรี่แก่ ๆ

ว่าง ๆ นั่งเรียงลำดับกันเองนะคะ จุ๊บ ๆ
anan
 
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 09:54

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย white-blue » 28 ก.ค. 2010, 22:02

TDPharm เขียน:ไงก็แต้งกุ้ยมากเลยนะครับ สำหรับข้อมูลดี...


ออกกฏหมายไปสิ มาตรวจร้านยาแล้วไมเจอเภสัชกรตามที่แขวน ปรับเภสัชกร 5 แสนบาท ปรับเจ้าของร้าน 5 แสน

รวมทั้งพักใบอนุญาติ 5 ปี 10 ปี หรือตลอดชีวิต....จะหาไม่..

กฏหมายทำไรไม่ได้เลย คนก็เลยงี่เงา ทำไรง่าย....ชุ่ย..

จะว่าไปหลายๆเรื่องที่ง่าย มันก็ต่างกับคำว่ามักง่าย ทำให้อะไรดูแย่ แก้ยาก

จริงๆ ประเทศเราเรียกว่ากำลังพัฒนา ก็แค่เรียกให้มันงาม...จากคำเดิมว่าด้อยพัฒนา ทั้งที่เราพัฒนาได้ แต่ไม่ทำ (หรือทำก็แค่อีกหลักอีเหลือก น่าเบื่อ)


กฎหมายมันมีอยู่แล้วครับ จริงๆมันมี ส่วนที่ระบุชัดเจนอยู่แล้วว่า "ต้องมีเภสัชกรอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ"
แต่ทุกวันนี้ระบบราชการมันก็งี้เง่า เห็นแก่ตัวกันแบบนี้แหละ ถาวว่าพวกที่อยู่ สสจ เอง ก็มีร้าน ร้านตัวเองจ้างคนอื่นอยู่กลางวัน
เย็นถึงไปอยู่เอง มันก็ผิดอยู่ดีละ หรือพวกที่ อยู่รับราชการ กลางวันทำงานราชการ เย็นไปอยู่ร้านเอง พวกนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกแขวนป้ายเลย
ดีกว่าก็ตรงที่เป็นร้านเภสัชเอง ไม่จ่ายยามั่วซั่วมาก แต่ดูแล้วก็ไม่ตางกับแขวนป้ายซักเท่าไร หรืออย่างบางร้านนะ เป็นร้ายใหญ่ มีเภสัชอยู่ในร้านแต่เป็นลุงแก่ๆ นังเก็บกะตังค์ และมีลูกจ้าง ในร้านสัก 10 คนได้ คนไข้เดินมาซื้อยา ถามว่ามันจะได้เจอเภสัชมั้ย พวกเภสัช สสจ ก็ดีแต่
มารังแก วางกามกะร้านเล็กๆ เปิดใหม่ ที่เภสัชกรเป็นเจ้าของ ส่วนร้านใหญ่ๆที่ เปิดมานานไม่ใช้เภสัชเป็นเจ้าของ ไม่กล้าหือหรอก พวกนี้เส้นใหญ่กันทั้งนั้น พวกใน สสจ มั่กไม่กล้ายุ่งด้วย
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย Mr.Tong Deemak » 14 ม.ค. 2011, 19:39

ผมเป็นคนนึงที่เปิดร้านยาเต็มเวลาครับ แนวทางที่ดี น่าจะเป็น
1.คนที่ไม่ใช่เภสัชหากอยากมีร้านยาต้องมีเงินจ้างเภสัชมาอยู่ตลอดเวลาทำการ หากอยากขายยาเองก็ขายได้เฉพาะยาพื้นๆหรือยาสามัญประจำบ้าน ของใช้บริโภคทั่วไป
2.เภสัจสสจ.ต้องเป็นกลาง เอาผิดอย่างจริงจังกับเภสัชปลอม และเข้มงวดกับการขอเปิด/ต่ออายุใบอนุญาต ได้คือได้ ไม่ได้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้
3.ตัวเภสัชเองก็ต้องไม่โลภ มีชีวิตอยู่เพื่อทำความดี ไม่ใช่อยากได้เงินจนเกินงาม เอาดีๆทางใดทางหนึ่ง เช่น เป็นอาจารย์ก็เป็นไป(มีร้านก็ต้องจ้างเภสัชPT), เภสัชโรงพยาบาลอยากมีร้านยาก็เปิดเฉพาะเวลาที่ตัวเองว่าง, เป็นผู้แทนยารวยจะตายอยู่แล้ว อยากมีร้านก็ต้องจ้างเภสัช ฯลฯ, คนที่ทำร้านยาเต็มเวลาแล้วไม่รวยก็หาช่องทางใหม่ๆในการทำการตลาดเพื่อเพิ่มยอดขายจะได้ไม่อดตาย
4.สำคัญสุดๆต้องมีศูนย์ร้องเรียนจากประชาชนที่เป็นสายตรง ที่รับเรื่องร้องเรียนเรื่องร้านยาต่างๆที่ทำผิดกฏกับ อย. เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

ตอนนี้สสจ.ขอนแก่นก็ทำงานดีมาก ได้ออกประกาศเตือนร้านยาทั่วจ.ขอนแก่น เรื่องเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค ร้านยาต้องมีเภสัชกรประจำตลอดวันที่เปิดทำการ หากไม่มีเภสัชกรก็ขายได้เฉพาะยาพื้นๆ หากร้านใดทำผิดจะมีโทษตามกฏหมายตามมาตรา...ผมก็เลยคิดว่าประชาชนควรจะเป็นกลุ่มคนต้องทราบและมีส่วนในการผลักดันนโยบายนี้ ก็เลยแปะหนังสือราชการนี้ไว้หน้าร้าน ใกล้ๆที่เปิดประตูทางเข้า ถึงแม้ว่าจะช่วยให้สังคมดีขึ้นไม่ได้มาก แต่ก็ดีใจที่คนไข้90% ได้ทราบ และรู้สึกอุ่นใจว่า เมื่อก้าวเข้ามาในร้านนี้แล้ว อุ่นใจได้เลยว่ามีเภสัชกรคอยแนะนำตลอดเวลา
เพราะจุดแข็งของร้านก็คือ "มีเภสัชกรอยู่ตลอดเวลาทำการ" หรือ "Pharmacist stationed all the time" แปะไว้หน้าร้านครับ
แนบไฟล์
DSC04754d;glk.jpg
Mr.Tong Deemak
 
โพสต์: 21
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ม.ค. 2011, 18:16

Re: เราจะแก้ปัญหาเภสัชกรแขวนป้ายอย่างเป็นรูปธรรมได้อย่างไร

โพสต์โดย Piggy Bunny » 14 ม.ค. 2011, 19:58

ู^
^
ไม่เกี่ยวกับกระทู้ แต่ชื่อร้านน่ารักจัง ได้ไอเดียเลย ^ ^
ภาพประจำตัวสมาชิก
Piggy Bunny
 
โพสต์: 113
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 17:44


ย้อนกลับไปยัง ลาเต้

ผู้ใช้งานขณะนี้

cron
New Document