หลังจากเกิดเหตุการณ์ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
1. เราต้องให้ความสำคัญกับการทำ preventive maintainance เครื่องจักรให้เยอะขึ้น ต้องวางมาตรการที่แตกต่างกันเนื่องจากความถี่ในการผลิตแต่ละสายการผลิตไม่เท่ากัน ไม่ใช่วางการกำหนดความถี่เป็นช่วงเวลาเพียงอย่างเดียว
2. การทำ process validation ไม่เพียงต้องทำกับเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ในขณะที่บางเครื่องมือเช่น metal detector deduster หรือ filter ต่างๆ ก็ต้องทำต่อเนื่องให้เหมาะสมกับความเร็วในการ feed ผลิตภัณฑ์
3. ระบบการตรวจสอบการชำรุดของอุปกรณ์ในการผลิตยาของเรายังไม่ดีพอ ทำให้ไม่รู้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมหลุดไปในยา
4. ถึงแม้ว่ามันจะเป็นแค่อุบัติเหตุที่มีโอกาสเกิดขึ้น 1 ใน 1.2 ล้าน แต่ทางพี่ๆ ผู้บริหารก็ทำทุกวิถีทางเพื่อให้เกิดการแก้ไข ปรับปรุงระบบ เยียวยาสภาพจิตใจน้องๆ ทำให้กลับมาทำงานคุณภาพกันให้ดีขึ้น
ความผิดพลาดมันเกิดไปแล้วค่ะ มันก็เป็นโอกาสอันดีที่โรงงานจะได้ปรับปรุง (ได้เครื่องมือใหม่อีกเพียบ เท่าที่เราจะอยากได้เพี่อป้องกันเหตุการณ์นี้) และก็เป็นอุทาหรณ์ให้โรงงานอื่นๆ ต้องทำการระมัดระวังค่ะ

แม้เหตุการณ์นี้จะไม่กระทบงานที่ทำมากนัก ต้องขอบคุณพี่ๆน้องๆ ใน cafe แห่งนี้ที่ไม่ซ้ำกันค่ะ แต่ที่แน่ๆ ถ้าเปลี่ยนตะแกรงแบบลวดเป็นแบบเจาะรูใหม่ งาน process validation เพียบแหงมๆ คงยุ่งไปอีกสักพัก
