ทำอย่างไรให้เภสัชกรประจำร้าน ทำงานอย่างมีความสุข

[PATHOM]

ผมว่าเราลองมาเสนอความคิดเห็นกันดีกว่าครับ สำหรับพี่ๆน้องๆเจ้าของร้านที่มีเภสัชประจำร้าน และต้องการให้น้องๆเภสัชอยู่กับเราให้นานที่สุด เท่าที่ทำได้ หรือน้องๆเภสัชประจำร้านที่เข้ามาในกระทู้นี้ ช่วยบอกพวกพี่เภสัชเจ้าของร้านว่าต้องการอะไรเพิ่มอีก

ร้านขายยาของผม อนุญาตให้เปิดTVดูได้ตลอด ตามความต้องการ แต่ต้องใช้สติก่อนเปิด ไม่ใช้มาถึงงานยังไม่เคลียก็เปิดซะแล้ว
เปิดแอร์ ประมาณ 11 โมง จนปิดร้าน อาหารการกินเต็มที่ ปรับเงินเดือนให้อย่างน้อย ปีละครั้ง มีน้องที่ขยันมากก็ครึ่งปีครั้ง
แต่ทุกอย่างต้อง Confidential หากใครรู้เงินเดือนของคนอื่นปรับ 500 บาท ของคนที่บอก

เข้าสายไม่มาก ไม่บ่น แต่สายบ่อยๆๆก็เรียกมาคุย แจ้งวันหยุดก่อน หากใครแจ้งหยุดวันไหน ห้ามเภสัชคนอื่นหยุด วันเดียวกัน แนะนำให้หาน้องเภสัช จาก รพ มาช่วย part time ที่ร้าน ช่วงเย็น หรือ เสาร์อาทิตย์

เคยมีน้องผู้ช่วยที่่ร้าน ที่เราคิดว่าน้องคนนี้ต้องอนู่กับเรานานมากๆแต่มาออก เพราะวันที่เขาป่วย หยุดไป 1 วัน ผมไม่ได้ถามเขาว่าป่วยเป็นอะไร อาการน้อยใจ ก็เลยเกิด .......กรรมของผม ช่วงนั้นงานก็เยอะเหลือเกิน เห็นกลับมาทำงานวันรุ่งขึ้นก็เลยไม่ได้สนใจ ทุกวันนี้เวลาสัมภาษณ์งานเลยถามว่าขี้น้อยใจหรือเปล่า ก่อนเสมอ...

มีใครให้วันหยุดราชการบ้างไหมครับ ช่วยบอกหน่อย แต่ผมก็เข้าใจนะครับว่าควรมี แต่บางทีก็เกินไปหน่อย เพราะตกลงกันแล้วว่าทำงานหยุดกี่วันต่อเดือน มีน้องที่ร้านทำงานครบ2 ปี เลยเสนอปรับเงินเดือนให้ แล้วจะให้วันหยุดเพิ่ม น้องกลับไม่เอาวันหยุดเพิ่ม บอกแค่ปรับเงินเดือนให้ก็พอแล้ว.... ฉลาดตอบและทำให้มีแสงออรารอบหัว น่าปลื้มจริงๆที่น้องมีน้ำใจ

งานประชุมหรือเที่ยว ตจว ของบริษัทยา ก็ส่งน้องๆให้เวียนกันไป ทั้งน้องผู้ช่วยและเภสัช บางปีขอบริษัทไปเที่ยวกันเอง ก็สนุกดี

[apotheker]

ผมว่าน้องเภสัชแต่ละคนก็มีความต้องการแตกต่างกันไป บางคนไม่ต้องการวันหยุดเพราะหยุดแล้วก็ไม่รู้จะไปไหน แต่บางคนก็ต้องการ บางคนต้องการเงิน แต่บางคนต้องการการให้เกียรติมากกว่า บางคนต้องการคำชม หรือกำลังใจ แต่บางคนต้องการคำแนะนำตรงไปตรงมามากกว่า

การให้ดูทีวีหรือเล่นอินเตอร์เนตได้บางทีก็ต้องระวัง ให้แล้วเอาคืนลำบาก ดูร้านที่เป็นโปรเฟสชันแนล อย่างบูท วัตสัน มีที่ไหนที่เค้าให้ตรงนี้บ้างไม่มีเลย แต่ก็ไม่เห็นขาดเภสัช ผมว่าสิ่งหนึ่งที่ร้านเชนเค้าให้ได้มากกว่าร้านสแตนอโลนคือโอกาสทางการก้าวหน้า และความมั่นคงในงาน

[rinko]

เคยอยู่ร้าน chain store มาค่ะ และเลือกเองว่าจะไม่อยู่ร้านยาทั่วไป เหตุผลก็เหมือนพี่อโปบอก คือความก้าวหน้า การได้อบรม เรียนรู้การทำงานอย่างเป็นระบบ ถ้าถามตัวเองจริงๆคือ เราชอบทำงาน ชอบฝึกอบรม หยุดได้พอดีๆ เช่น วันนี้จำเป็นต้องการหยุดจริงๆ ตอนที่เป็นลูกจ้างแจ้งหัวหน้า กลับได้รับคำตอบว่า หยุดได้ยังไง นั่นเป็นวันขายดีนะ สรุปเลยไม่ได้หยุด พอเราแจ้งว่าวันนี้ติดสอบสัมภาษณ์ปริญญาโท กลับได้รับคำตอบว่า จ้างมาทำงานไม่ได้จ้างมาเรียน หรือเช่นติดงานรับปริญญา กลับบอกเราว่า ไม่ต้องไปรับได้มะ มันเป็นวันขายดีพอดี จริงๆการให้ option ก็ต้องพอประมาณค่ะ แต่ที่สำคัญคือน้ำใจระหว่างเพื่อนร่วมงานกัน เคยเจอหัวหน้ามาหลายคน หนึ่งในหัวหน้าที่ชอบที่สุดคือคนที่สามารถอธิบายเราอย่างมีเหตุมีผล เช่น ต้องสลับวันกันหยุด เราก็เลือกวันเสาร์เพราะจะไปงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ พอแจ้งหัวหน้าคนนี้หัวหน้าก็ยินดีสลับวันให้ทันที บอกว่าเป็นงานมีสาระ น่าไป อนุญาตให้ไป หรือเราอธิบายคนไข้อย่างมึนๆ เนื่องจากวิชาการในสมองชั้นต่ำมาก หัวหน้าคนนี้เห็นก็ถาม แล้วบอกว่างั้นไปอ่านหนังสือมา วันจันทร์พี่จะมาถามว่าเข้าใจหรือยัง บางทีอาจไม่ได้เกี่ยวกับ option ที่ได้รับจากบริษัทมากนักค่ะ แต่เกี่ยวกับคนร่วมงานและน้ำใจ บางที่อาจมีทางให้เราก้าวไปได้น้อย แต่เภสัชยินดีอยู่ ก็ต้องรักษาน้ำใจให้มากค่ะ เวลาทำงานกับน้องที่เป็นเภสัชหรือไม่ใช่เภสัช ก็ต้องสอนให้เขาเข้าใจบทบาทเขา เช่น ดูแล้วน้องคนนี้มีแวว นิสัยดี ซื่อสัตย์ ขยัน ก็ต้องกระตุ้นให้เขาได้เข้าอบรม เรียนหนังสือต่อ อย่าไปหวงว่า วันนึงเขาจะไปทำงานที่อื่น หรือไปเปิดร้านเอง เพราะวันนึงเขาจะกลับมาขอบคุณเรา ที่ให้โอกาส และคอยเป็นแรงหนุนในเรื่องอื่นๆให้เราในอนาคตได้ค่ะ HRM เป็นงานศิลปะค่ะ อย่าทำตามกฎเกณฑ์มากนัก

[Nan]

ขอ Share ประสบการณ์ค่ะ ที่ลาออก จากร้านยาเพราะว่า ขอไปเรียนต่อโท ต้องหยุด 2 วันต่อสัปดาห์เดิม ทำ 6 หยุด 1 และตอนนั้นเจ้าของร้านก็ไม่ได้ขาดเภสัชสามารถมีเภสัชกรแทนช่วงเวลาที่ไม่อยู่ แต่ได้รับการปฎิเสธค่ะ ซึ่งก็ทำงานกับเจ้าของร้านมานานเหมือนกันเรารู้สึกว่าเจ้าของร้านไม่มีเหตุผลและไม่ให้โอกาสค่ะ ประกอบกับได้งาน ร.พ. พี่หัวหน้าให้ไปเรียนได้ตอนนี้ เรียนโทจบแล้วแต่ก็ยังทำที่เดิมอยู่ค่ะ (ความรู้สึกคล้าย Comment ข้างบนค่ะ)

[LeMmOy]

ไม่ยากนะ สำหรับผู้ประกอบการ ผมขอตอบในฐานะเภสัชกรร้านยาที่เคยเป็นลูกจ้างมาก่อน

อย่างแรกเลย ให้เกียรติเค้าก่อนเลย ไม่ต้องไปลองภูมิ ไม่ต้องไปจับผิดว่าเค้าจะจ่ายยาอะไร ไม่ต้องไปบังคับหรือชี้นำให้ปล่อยแต่ยาที่ได้กำไรเยอะๆๆๆ ปล่อยเค้าทำตามหน้าที่และจรรยาบรรณของเค้าไปอย่างอิสระเถอะ ส่วนเรื่องผู้ช่วย พวกปีกกล้าขาแข็งเนี่ยก็เป็นส่วนนึงที่ทำให้เภสัชไม่อยากทำงานนะครับ ฝากถึงเจ้าของร้านถ้าเด็ดปีกได้ก็เด็ดเลยครับ ไอ่พวกนี้ชอบกัดจิกครับ ยังไงก็เอาเภสัชไว้ก่อนครับ คุ้มกว่าเยอะ


อย่างที่สอง เรื่องเงิน จ่ายให้ตรง เอะอะก็หักตังอย่างงี้ เตรียมหาเภสัชใหม่ได้เลย อย่าลืมว่าเภสัชก็เป็นคน ต้องกินต้องใช้ มาหักตังทีละนิดทีละหน่อยอย่างงี้ถึงแม้ปากเภสัชจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่ผมตอบได้เลยว่า เตรียมหาคนใหม่มาได้เลย เพราะคุณได้สร้างรอยร้าวเล็กๆให้เกิดขึ้นในใจเภสัชกรคนนั้นแล้ว ว่ะฮ่ะฮ่า ๆๆ ขึ้นเงินเดือนยังไงก็ได้ แล้วแต่ สำหรับผม เรื่องเงินผมว่าผมคุยให้เคลียร์ตั้งแต่ขั้นต้นแล้ว ผมค่อนข้างจะเรียกเงินเดือนสูง ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาเรื่องการขึ้นเงินเดือน


อย่างที่สาม เรื่องวันหยุด กำหนดวันหยุดให้เดือนละ 4 วัน ในฐานะคนทำงาน ผมตอบได้เลยว่า เป็นงานที่โคตรโหด ถ้าไม่เงินดีจริงๆ หรือไม่ก็สบายใจจริงๆ ผมว่าหาคนมาทำงานด้วยได้ยาก อย่าไปขี้เหนียววันหยุดครับ ซื้อใจไว้ก่อนดีกว่าครับ เดือนนึงมีวันมาฆะ วันแม่ ก็ให้เค้าหยุดไปเถอะครับ เล็กๆน้อยๆอย่างงี้ผมว่าทำไปแล้วเค้าก็จะรู้และเกรงใจเองครับ ทีนี้พอถึงวันหยุด ถ้าเค้าไม่มีธุระที่จะต้องไปไหน เด๋วเค้าก็ขอมาเปิดร้านเองแหล่ะครับ เชื่อผมสิ หาคนใหม่มาเทรนงานจนเป็นเนี่ยปวดหัวนะครับ



เรื่องนิดๆหน่อยๆ เช่นทีวี อินเตอร์เน็ต ถ้ามีก็ให้เค้าไปเถอะครับ ดีกว่าปล่อยให้เค้านั่งเซ็งๆ ง่วงๆ ถ้าขายดีสิ้นเดือนมีโบนัสเป็นเงินมั่ง เป็นพาไปกินข้าวมั่ง ไปเที่ยวมั่ง่ อะไรอย่างงี้เล็กๆน้อยๆ ก็จะทำให้เค้าสนิทใจที่จะอยู่กับเราไปนานขึ้นนะครับ

[ธวัชชัย วรรณสว่าง]

1.ให้สิ่งที่เขาชอบ
2.พูดกับเขาเพราะๆ
3.ทำดีรีบชมทันที ต่อหน้าคนอื่นยิ่งดี
4.บางครั้งเขาทำผิดบ้าง วางเฉย ให้โอกาสลองทำใหม่แก้ตัว

[ladymoon]

นึกถึงใจเขา ใจเราค่ะพี่ นึกว่าเราเป็นลูกน้อง อยากมีเจ้านายแบบไหนก็ทำแบบนั้นไปเลยค่ะ

[Giftsee_a]

จากที่เคยทำงานเป็นลูกจ้างมาน่ะค่ะ ที่บริษัท(บริษัทแฟรนไชด์)ให้เกียรติมากๆ ให้เราตัดสินใจด้วยตนเองทุกอย่าง ติก็ติอย่างมีเหตุผล ส่วนเรื่องผู้ช่วยเภสัชก็มีความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้างแต่เค้าให้เกียรติเรา แต่ที่ลาออกเพราะรู้สึกล้าจากการทำงานมากกว่าค่ะ เพราะเด็กจบใหม่เกือบทุกคนยังไม่ชินกับการทำงานเช้าเลิกดึก ถ้าเทียบกับตอนเรียน ซึ่งจะชินกับการใช้ชีวิตช่วงเย็น อย่างที่ร้านที่เคยทำงานเนี่ยเข้างาน 9 โมงเช้า เลิก 4 ทุ่มน่ะค่ะ แล้วทางร้านขอความร่วมมือจากเภสัชว่าไม่ควรหยุดเสาร์-อาทิตย์เพราะเป็นช่วงที่ลูกค้าเยอะ แต่อาทิตย์นึงให้หยุด 2 วันแต่ไม่ให้หยุดติดกัน ซึ่งความจริงบริษัทก็ให้วันหยุดมากน่ะค่ะ แต่ด้วยความที่มีวันหยุดแต่ไม่มีสังคมอยู่ดีก็เลยอาจจะรู้สึกว่าชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับงาน โดยไม่สามารถมีสังคมกับครอบครัวได้เลย เพราะที่บ้านทำราชการทุกคนหยุดวันเสาร์-อาทิตย์หมดเลยค่ะ ดังนั้นก็เลยออกเพราะอยากใช้เวลากับครอบครัวน่ะคะ เพราะเวลาเลิก 4 ทุ่มกลับบ้านทุกคนก็เข้านอนหมดแล้ว เวลาไปทำงานที่บ้านก็ออกทำงานเช้า ฉะนั้นพี่ๆ เภสัชไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะที่เจอปัญหาแบบนี้ ต่อให้ให้สิทธิประโยชน์มากมายแต่เราก็ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของมนุษย์แต่ละคนได้หรอกค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าการเลือกคนเข้ามาทำงานกับเรามากกว่า ว่าเราสามารถเลือกคนที่เค้าสามารถตอบสนองต่อทางร้าน และทางร้านสามารถตอบสนองต่อน้องเภสัชในรูปแบบไหนมากกว่า เหมือนที่ร้านที่ทำอยู่ เราก็ตกลงกันว่าช่วยทำงานกันให้ดีสัญญาใจกันอย่างน้อย 1 ปี เพราะพี่เค้ากว่าจะเทรนเราได้กว่าหลายเดือน โดยตอนทำงานก็ทำงานให้เต็มที่ พอเราจะออกพี่เค้าก็เปิดโอกาสและยังมีมิตรภาพที่ดีต่อกันค่ะ

[winds]

เคยทำงานร้านยา มีวันหยุดปีละ 52 วัน ไม่มีวันลาป่วย/ลากิจ
ถ้าลาป่วยจะนับเป็นวันหยุดทันทีค่ะ
เข้า 8.00 am ออก 7.30 pm

ถามว่าที่ทำงานให้เกียรติเภสัชไหม ก็ไม่ได้ให้เกียรติอะไรมาก
บางทีแอบเคืองเพราะเขายุ่งกับการจ่ายยาเรามากเกินไป มีจิกกัดด้วย 555 เช่น ทำไมไม่ขายไรแฟม...
อ้าว...ก็ไม่อยากขาย... คุณอยากขายก็ขายเองสิ ชั้นไม่สน ไม่อยากทำบาป
แต่ก็ทำยอดให้เขาได้นะ เพราะฉะนั้นเรารอดตัวไป

ถ้าถามว่าลำบากใจไหม งานหนักหรือไม่ ผู้ช่วยจิกกัดแค่ไหน มันเป็นเรื่องที่ทนได้อยู่แล้ว แต่ลาออกเพราะว่าเบื่อความจำเจ...

ปัจจุบันทำร้านยาเอง ก็เริ่มเบื่ออีกแล้ว เพราะไม่ได้ขยับขยายร้าน อยู่แบบเดิมๆ เรื่อยๆ เฉื่อยๆ

ที่ี่เล่า(พิมพ์)ให้ฟัง เพราะอยากบอก จขกท. ว่า...
บางครั้งสาเหตุของการลาออกหรือเปลี่ยนงานไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ
แต่ชีวิตคนเราต้องมีการเปลี่ยนแปลง มีความท้าทาย มีอะไรใหม่ๆ

โลกหมุนไป ไม่มีใครอยู่กับเราตลอดการ ลูกจ้างก็เหมือนกัน

ขออวยพรให้น้องๆอยู่กับ จขกท. ไปนานๆค่ะ
ถ้าเราเจอเจ้าของร้านแบบนี้ จะทำงานด้วยนานๆเลย

[Rx64]

1. ก็ต้องให้วันหยุดมั่งค่ะ หยุดเดือนละ 4 วันเนี่ย ขอเดือนละ 5หมื่นได้ป่ะ ชาตินี้จะไม่ต้องหยุดเกิน 4 วัน อ่ะ ล้อเล่น
2. พนักงานคนอื่นให้เกียรติเภสัชกรบ้าง เป็นหมอยานะ ไม่ใช่เพื่อนเล่น อย่างน้อยเคารพวิธีการจ่ายยาเรามั่ง ทีหมอรักษาคนไข้ไม่เห็นพยาบาลต้องมาเตือนเลย
3. พาไปออกงานมั่งค่ะ สัมมนา ซัก 3 เดือนครั้งยังโอนะคะ จะได้รู้สึกว่าชีวิตมีสังคมบ้าง และยังมีความรู้update
4. ขึ้นเงินเดือนตามอัตภาพ ปีละครั้ง ไม่ใช่ใกล้จะลาออกแล้วให้เพิ่มอีก 500 คงจะอยู่หรอก
5.พาไปเที่ยวต่างประเทศมั่งเหอะ ใกล้ๆเนี่ยสิงคโปร์หรือฮ่องกงก็ได้ช่วงโลว์ ซีซั่น ตั๋วถูกโคตรๆ จะได้เอาไปเล่าให้เพื่อนอิจฉามั่งว่าร้านนี้สุดยอด
6.อย่าหน้าเลือดบีบบังคับให้เภสัชขายยาหรืออาหารเเสริมที่ได้กำไรเยอะๆ ลำบากใจนะคะไม่อยากBias
ขอแค่เนี้ยถ้าร้านไหนทำได้จะไปสมัครมันคนแรกเลย เหอๆๆๆๆ

[Rx64]

http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=539371
เอาไปอ่านกันพอหอมปากหอมคอค่ะ

[PATHOM]

ดีใจนะครับที่หัวข้อนี้ ทำให้ได้รับรู้ข้อคิดเห็นจากพี่ๆน้องๆเภสัช ทำให้ได้เห็นบางมุมที่นึกไม่ถึง และบางข้อก็ไม่ค่อยได้ใส่ใจ 2 ways communicate เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆๆ สำหรับเภสัชกรเจ้าของร้าน และเภสัชกรผู้ปฎิบัติงาน ให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีการแบ่งปัน และเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน จะทำให้การทำงานในร้านมีประสิทธิภาพ และมีความสุข

อยากให้การทำงานในร้านเหมือนอยู่ที่บ้าน อนุญาตให้ใช้ internet เมื่อว่าง อยากดู DVD ก็ไปเช่ามาดูช่วงบ่าย เพราะลูกค้าไม่ค่อยมี ค่ายา อาหารเสริม ปัดขึ้นแค่เศษบาท ไม่เคยเก็บเต็มจำนวน ทุน 63 คิด 65 หรือ 70 บ เพราะถือว่าให้น้อง แต่ขอว่าต้องให้ตัวเอง กับพ่อ แม่ได้ใช้เท่านั้น

น้องเภสัช กลับช่วยเปิดขาย อาหารเสริม ทาง internet ให้ บางคนช่วยล้างตู้ปลา ช่วยขายของให้ญาติๆเขาโดยให้เราคิดราคาเต็มตามป้าย ช่วยสอนน้องผู้ช่วยโดยไม่ต้องขอ รักษาผลประโยชน์ให้ร้าน

วันไหนน้องขอกลับเร็วเพราะติดธุระด่วน ก็ยินดีให้ไปด้วยความเต็มใจ ซึ่งน้องก็มาทำงานชดเชยเวลาให้ บางวันขาดคนก็อาสาอยู่ต่อให้ แล้วเราก็ให้เลิกเร็วหรือเข้าช้าชดเชยกันไป ถ้อยทีถ้อยอาศัย ซึ่งตอนนี้ผมมีน้องเภสัช 3 คน ที่มีน้ำใจมาก โดยน้อง 2 คนเป็นน้องที่ฝึกงานที่ร้านเมื่อปีที่แล้ว และผมให้ช่วยมาทำ parttime ตอนเลิกเรียน หรือ ว่าง หลังจากจบก็ชวนให้มาทำงานด้วยกัน จะเรียกชื่อน้องๆๆ ตามด้วยคำว่า ...น้องรัก

ให้เสนอความคิดเห็นได้ แล้วก้ชี้แจงว่าดี ไม่ดี อย่างไร เภสัชเจ้าของร้านก็ควรส่งน้องๆๆ เพิ่มเติมความรู้เสมออย่างที่ต้องการ งานประชุมบริษัทยามีเยอะมาก ไปเองไม่ได้ก็ให้น้องๆๆไป ยิ่งถ้าร้านไหนเป็นแหล่งฝึกแล้วเซ็น MOU กับมหาวิทยาลัยไหน ก็สามารถมีงบส่งน้องๆๆ เภสัชไปประชุมวิชาการได้อย่างที่ต้องการ และในงบที่ได้

เคยคิดเรื่องเที่ยวต่างประเทศ ฮ่องกง หรือสิงค์โปร์ นะครับ เพราะทำบริษัททัวร์ ขายตั๋วเองด้วย ( อาชีพเสริม ) ค่าตั๋วถูกแต่ ค่า land จะแพง ก็น่าสนใจที่จะทำ แต่ต้องไปรวมกับกลุ่มใหญ่อยู่ดี

Take and Give จะต้องไปด้วยกัน เท่าๆกัน ก็ขอให้พี่ๆๆน้องๆๆมีเภสัชเพื่อนร่วมงาน ที่ทำงานดี อยู่ด้วยกันนานๆๆ พยายามถามว่าอยากให้ปรับปรุงส่วนไหน บ้าง อยากได้อะไรบ้าง ข้อไหนที่ทำให้ได้ ทำเลยนะครับ ถ้าไม่ได้ก็คุยกันด้วยเหตุผล อย่าเก็บไว้ในใจแล้วรอวันระเบิด ไม่พอใจอะไร แจ้งเลยครับ จะได้ทำงานด้วยความสบายใจ ทุกคน ...