New Document









วาระแห่งชาิติเรื่องเชื้อดื้อยา

ห้องเภสัชกร

วาระแห่งชาิติเรื่องเชื้อดื้อยา

โพสต์โดย anan » 06 พ.ค. 2011, 18:53

พี่ ๆ น้อง ๆ ดูข่าวช่อง 3 เย็นวันนี้กันไหมคะ... มีสกูปเรื่องเชื้อดื้อยาด้วยคะ
เขาไปสัมภาษณ์น้องเภสัชผู้หญิงคนหนึ่ง ... ประมาณว่าคนไข้กินยาไม่ถูกวิธี ทำให้เชื้อดื้อยาได้
ประมาณว่าน้องก็บอกว่าบางทีคนไข้ก็ไม่มีเงินที่จะใช้จ่ายสำหรับยาปฏิชีวนะเต็มคอร์สได้ ก็น่าเห็นใจนะคะ ทั้งเภสัช ทั้งคนไข้
...อันนี้เป็นมุมที่ดีคะ แสดงให้เห็นถึงบทบาทของเภสัชกรที่จะช่วยลดการดื้อยาได้...

ที่นี้น้องแอนจะมาชวนคิดเรื่องนี้กันให้จริงจังคะ โดยอยู่บนพื้นฐานชีวิตจริง พูดความจริง ในบริบทของสังคมไทย ..

1. ในภาคร้านยา คนที่ไม่ใช่เภสัชกรมีส่วนทำให้การดื้อยาของเชื้อเพิ่มขึ้นหรือไม่คะ อันนี้เป็นคำถาม ...เผื่อมีคนมาแชร์ ...ไม่อยากปรักปรำ...
ใครที่มีส่วนผลักดันให้คนที่ไม่ใช่เภสัชกรจ่ายยาให้ผู้อื่นโดยขาดความรู้ความเข้าใจก็เฉลี่ยรับความดีความชอบไปนะคะ ...อย่ามาโทษเภสัชกรชุมชนอีกว่าทำให้เกิดเชื้อดื้อยา

2. คนสั่งจ่ายยาในโรงพยาบาลน่ะคะ ควบคุมเขาได้หรือไม่คะ สำหรับการจ่ายยาปฏิชีวนะ ยาฆ่าเชื้อใหม่ ๆ ภาคส่วนนี้แหละคะที่ต้องรับผิดชอบการดื้อยา"ใหม่" ของเชื้อ เพราะที่อื่นคงไม่มี่ยาเหล่านั้นมากมายเท่าโรงพยาบาล เห็นคนไข้เอาตัวอย่างมาซื้อที่ร้านก็ยังงงเลยคะ ว่ายาอะไร เอาไว้ทำอะไร

3. ท่าน ๆ เคยทราบไหมคะว่าทำไมระยะหนึ่งเชื้อในเมืองไทยเคยดื้อยาแบคทริม เพราะช่วงนั้นมีการใช้ยานี้ในภาคเกษตรกรรมกันอยางแพร่หลายคะ ใครเป็นคนควบคุมเขาได้ละคะ .... ผลประโยชน์ออกจะมหาศาล ตรวจไม่เจอในสัตว์ก็ไม่แปลกหรอกคะ ไปตรวจในดิน ในน้ำ แถว ๆ นั้นดูสิคะ น้ำใต้ดินเอย แม่น้ำเอย มีใครได้ศึกษาบ้าง แล้วเชื้อจุลินทรีย์อะคะ วงจรชีวิตแสนสั้น วิวัฒนาการอย่างเร็ว แป๊บเดียวก็ทนต่อยาได้แล้ว แถมยังไม่รู้อีกว่าอันถ่ายสารพันธุกรรมระหว่างเชื้อในสิ่งแวดล้อมกับเชื้อก่อโรคได้ไหมอีก ..... อ้อ ในบ่อน้ำทิ้งของโรงพยาบาลน่ะคะ แหล่งของยาตกค้างเลย ...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างการบำบัด...

4. น่าสงสารประชาชนนะคะ เพราะในสกูปข่าวนั้นนำเสนอประมาณว่า เป็นเพราะคนใช้ยาใช้ไม่ถูกต้อง มันก็เลยมีเชื้อดื้อยา ...อพิโถ...มีบัตรทองก็เท่านั้น เจ็บป่วยก็ต้องทนก้นไปโรงพยาบาล ต้องหยุดงานทั้งวัน ได้ยาก็รักษาไม่ค่อยจะหาย บางทีก็ไม่ได้ ... หมอบอกเหมือนที่ร้านยาบางร้านบอก บอกว่า กลับไปพักผ่อน ดื่มน้ำเยอะ ๆ เดี๋ยวก็หาย ... อืมมมมมม .... คนหาเช้ากินค่ำ ถ้าเช้าไม่ได้หา แล้วค่ำจะกินอะไร อาการที่ควรจะทุเลาก็ไม่ไ้ด้ทุเลา ไม่ได้กินข้าว อาการก็กำเริบอีก เพราะร่างกายไม่แข็งแรง ...

ประเด็นนี้แหละคะที่น้องแอนอยากให้ช่วยกันคิดเยอะ ๆ ๆๆๆๆๆๆ ที่บอกว่าคนไทยใช้ยาเกินจำเป็นน่ะ จริงหรือไม่ ท่านเคยเห็นไหมคะเวลาที่เราบอกให้คนไข้กลับไปพักผ่อน โดยไม่ได้ให้ยาไปด้วยนั้น แววตาเขาเป็นอย่างไร เขาผิดหวังไหมว่าแทนที่จะได้รับการรักษาและไม่ได้ เขาหวังว่าครึ่งวันนี้น่าจะหาย เพื่อเวลาที่เหลือของวันจะไ้ด้ลุกขึ้นมาทำมาหาเลี้ยงคนอื่น ๆ ในครอบครัว ตอนที่ท่านชักแม่น้ำทั้งร้อยสายเพื่อจะบอกเขาว่าไม่ต้องใช้ยานั้น เขาพยักหน้าเข้าใจอย่างแท้จริงหรือเปล่า และหลังจากนั้น...ท่านเคยสงสัยไหมว่า เขาก็เดินเข้าไปร้านยาที่ให้ยาเขาง่าย ๆ ... สิ่งเหล่านี้เหล่าน่าจะวิจัยกันให้มาก เพราะนี่คือสังคมไทย ที่ความเป็นจริงคือประชาชนส่วนใหญ่ยังต้องหาเ้ช้ากินค่ำ เวลาเจ็บป่วยก็ควรจะได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด เพื่อให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว ... น้องแอนก็ยังคงตั้งคำถามกับตรรกะไม่ต้องใช้ยาอยุ่นะคะ ...ว่ามันใช้ได้จริงแค่ไหน ถ้าเป้าหมายในการดูแลสุขภาพของเรา คือ การมีคุณภาพชีวิตที่ดี

...ยังมีอีกคะ แต่ตอนนี้น้องแอนเมื่อยมือไปหมดแล้วละคะ....
anan
 
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 09:54







Re: วาระแห่งชาิติเรื่องเชื้อดื้อยา

โพสต์โดย anan » 15 พ.ค. 2011, 18:44

anan
 
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 09:54


ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document