PharmaCafe.com

เภสัชฯ มีภาคพิเศษ ภาคพิสดารเกิดมาตั้งมากมาย รอบสอบ OSPE ก็น่จะมีรอบพิเศษ รอบพิสดารด้วย เหมือนแพทย์ ที่ปีนี้เขาจัด OSCE ปีละ 3 ครั้ง ซึ่งปกติจัดปีละ 2 ครั้ง แล้วแต่ความเหมาะสม http://www.cmathai.org และในอดีต เภสัชก็เคยจัดสอบปี 2550 ก็เคยจัดปีละ 3 ครั้งด้วย มาบัดนี้ก็มีเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ???

หมายถึง ขึ้นตอน รึเปล่าครับ

ถ้าเภสัชฯ มี ทฤษฏี (MCQ) และ ปฏิบัติ (OSPE)
แต่ของแพทย์ มี วิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน, วิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก และ ทักษะและหีตการทางคลินิก

ของเภสัชฯ ถ้าจะเพิ่มเป็น 3 อย่าง... แนะนำให้สอบ จริยธรรม 555+ (ผลใบประกอบออกได้ 2 วัน มาประกาศแขวนป้ายกะเวปไซด์เราซะแล้ว 555+)

ไม่ใช่ ปีละ 3 ครั้งจริงๆ ดูเว็บของคณะแพทย์เชียงใหม่ดิ http://www.med.cmu.ac.th/secret/meded/J ... 5B1%5D.pdf ขั้นตอนที่ 3 บางทีก็มีปีละ 3 ครั้ง โดยเฉพาะปี 54 นี้ (เรียกว่ารอบพิเศษ) ส่วนขั้นตอนที่ 1 และที่ 2 มีปีละ 2 ครั้ง

ไม่ใช่ตัวแทนของสภาเภสัชกรรมนะครับ แต่ตอบจากความคิดเห็นส่วนตัว ผสมกับความจริงที่ตนเองเข้าใจ

ก่อนอื่นขอทำความเข้าใจก่อนว่า การสอบใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม (ใบประกอบโรคศิลป์ของแพทย์)

การสอบขั้นที่ 1 หมวดวิทยาศาสตร์การแพทย์พื้นฐาน
รอบที่ 1 สำหรับผู้ที่เรียนจบชั้นปีที่ 3 ประมาณเดือนมีนาคมของทุกปี
รอบที่ 2 สำหรับผู้ที่เรียนจบชั้นปีที่ 3 ประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี

การสอบขั้นที่ 2 หมวดวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก
รอบที่ 1 สำหรับผู้ที่เรียนจบชั้นปีที่ 5 ประมาณเดือนมีนาคมของทุกปี
รอบที่ 2 สำหรับผู้ที่เรียนจบชั้นปีที่ 5 ประมาณเดือนตุลาคมของทุกปี

การสอบขั้นที่ 3 หมวดทักษะและหัตถการทางคลินิก สอบตอนเรียนจบชั้นปีที่ 6
ผู้สมัครต้องสอบขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ให้ผ่านก่อนจึงจะสามารถเข้าสอบขั้นที่ 3 ได้

ซึ่งในการสอบขั้นที่ 3 นั้น แพทยสภาจัดสอบเดือนพฤศจิกายน ทำให้นักศึกษา/นิสิตแพทย์ที่จบช้า (เก็บเคสไม่ครบ สอบขั้นสองยังไม่ผ่าน สอบอายุรศาสตร์ 2 ไม่ผ่าน ตกรุ่น) เข้าสอบไม่ทัน จึงต้องจัดสอบ 2 ในเดือนมกราคมต่อมา และเดือนกุมภาพันธ์ต่อมา สังเกตนะครับจะเป็นเดือนติด ๆ กันเลย ไม่เหมือนของสภาเภสัชกรรมจัด คือ จัดสอบ MCQ ก่อน รออีกประมาณเดือนถึงจะสอบ OSPE

ข้อดีของการสอบแบบที่แพทยสภาจัด คือ สามารถเก็บตกเด็กที่จบช้าได้เกือบทั้งหมด ข้อเสียคือ สอบทฤษฏีกับปฏิบัติติด ๆ กัน ทำให้เด็กเตรียมตัวไม่ทัน

ของสภาเภสัชกรรมจัดมีข้อดีคือ เราสอบเดือนมกราคม เก็บตกเด็กจบช้าได้หมดอยู่แล้ว สมัยก่อนสอบปีละสามรอบ รอบสองก็มีคนสอบผ่านจำนวนน้อยมาก จนไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่ลงไป

แต่ข้อเสียก็คือ ผลสอบออกช้าจัง

justicestats เขียน:เภสัชฯ มีภาคพิเศษ ภาคพิสดารเกิดมาตั้งมากมาย รอบสอบ OSPE ก็น่จะมีรอบพิเศษ รอบพิสดารด้วย เหมือนแพทย์ ที่ปีนี้เขาจัด OSCE ปีละ 3 ครั้ง ซึ่งปกติจัดปีละ 2 ครั้ง แล้วแต่ความเหมาะสม http://www.cmathai.org และในอดีต เภสัชก็เคยจัดสอบปี 2550 ก็เคยจัดปีละ 3 ครั้งด้วย มาบัดนี้ก็มีเพียงปีละ 2 ครั้งเท่านั้น ???

ผมว่าตรรกะของคุณเจ้าของกระทู้แลปก ๆ นะ
เภสัชมีภาคพิเศษ จึงควรมีสอบรอบพิเศษ
เหมือนแพทย์
แพทย์ไม่มีภาคพิเศษ แต่มีสอบรอบพิเศษ

ถ้าจะให้เหมือนแพทย์จริง ๆ ต้องไม่มีภาคพิเศษ แต่มีสอบรอบพิเศษ จริง ๆ เภสัชภาคพิเศษ ไม่น่าจะมีผลอะไรในการสอบรอบภาคพิเศษนะ

เพราะเรากับแพทย์ต่างกัน

ที่สำคัญ เรื่องใบประกอบยังเถียงไปจนวันตายแหละ ว่าจะบังคับสอบทำไม

ไม่ขายข้อสอบเหมือน ตำรวจ
ไม่ซื้อใบป.บัณฑิตเหมือนครู

สำหรับผม ยังอยู่ในขั้นน่าพอใจครับ

OSCE ใช้บุคลากรจำนวนมากในการคุมสอบ อีกทั้งรับผู้สอบได้จำนวนจำกัดในแต่ละสนาม ไหนคนที่ตกจากรอบแรกๆแล้วก้อสอบไม่ผ่านจากปีก่อนๆสะสมมาอีก จึงต้องเปิดสอบมากรอบหน่อย

internist เขียน:OSCE ใช้บุคลากรจำนวนมากในการคุมสอบ อีกทั้งรับผู้สอบได้จำนวนจำกัดในแต่ละสนาม ไหนคนที่ตกจากรอบแรกๆแล้วก้อสอบไม่ผ่านจากปีก่อนๆสะสมมาอีก จึงต้องเปิดสอบมากรอบหน่อย

คงเคลียร์กันแล้ว ไม่ต้องมาเถียงกันวุ่นวาน

สอบให้ผ่านก็เเก้ปัญหา จขกท ถามได้เเล้วครับ เห็นคนสอบได้ไม่มีปัญหาอะไรเลยนิ่

น่าจะมีทดสอบความรับผิดชอบต่อหน้าที่ด้วยนะ เด็กฝึกงานบางคนไม่ค่อยมีความรับผิดชอบ (คงจะบางคน)