New Document









ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

ห้องเภสัชกร

ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย blacksmithday » 09 เม.ย. 2011, 19:06

เมื่อ วันที่ 8 เม.ย. ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการอภิปรายและนำเสนอทางวิชาการ"สิงห์ดำ-สิงห์แดงสัมพันธ์ (โครงการนักบริหาร)" ครั้งที่ 1 มีการนำเสนองานศึกษาวิจัยของนิสิต-นักศึกษาป.โท คณะรัฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 4 ผลงานด้วยกัน


นาวาอากาศเอก นพ. จักรกริช สีห์สุรไกร นิสิตป.โท คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นำเสนอหัวข้อ "ผลกระทบของนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่มีต่อสถานะการคลังของโรงพยาบาลรัฐ : กรณีศึกษาโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช" หัว ข้องานศึกษาดังกล่าวมีที่มาจากสภาพปัญหาที่นโยบายนี้ทำให้ประชากรผู้มีราย ได้น้อยเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีราคาแพงอย่างทั่วถึง แต่รัฐบาลกลับมีรายจ่ายงบประมาณสุขภาพเพิ่มมากขึ้น บางโรงพยาบาลไม่สามารถแบกรับได้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าต่อ สถานะการคลังของโรงพยาบาล


การเก็บข้อมูลจากการสัมภาษณ์และสำรวจเอกสารจากหน่วยงานต่างๆในรพ.ภูมิพลอดุลยเดชพบว่า โดย รวมแล้วนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าทำให้โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดชมีแนว โน้มที่จะขาดดุลการคลังในอนาคตและทำให้ขีดความสามารถในการให้บริการด้าน สุขภาพลดลง


ทั้งนี้ นโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้เกิดการขาดดุลการคลัง ขาดดุลรายรับ-รายจ่าย เพราะ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จ่ายให้น้อยกว่าที่รพ.เบิกไป จากการเก็บข้อมูลยังพบอีกว่า รายจ่ายที่จ่ายจริงมีมากกว่ารายจ่ายที่เบิกได้ และยังเกิดค่าสาธารณูปโภคจากการให้บริการในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าอีก ด้วย


แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยในของรพ.ลดลง แต่ด้วยต้นทุนการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้นจึงทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ป่วยใน ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสูงขึ้น นอกจากนี้ ดุลการคลังในระบบประกันยังมีแนวโน้มที่จะขาดดุลการคลังมากขึ้นเรื่อยๆ


ในด้านดุลการคลังในการดำรงขีดความสามารถการให้บริการของโรงพยาบาล เมื่อดูจากผลการศึกษาแล้วพบว่า นโยบาย หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดผลกระทบต่อสถานะการคลังของโรงพยาบาลจริง แม้ว่าดุลการคลังในระบบการบริการโดยรวมจะเกินดุลก็ตาม จากรายจ่ายด้านบุคลากรทางการแพทย์ที่จ่ายประมาณ 60-100 ล้านบาทต่อปีมีแนวโน้มคงที่ แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ประกอบกับรายจ่ายด้านอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้รายจ่ายค้างจ่ายสำหรับการดำรงขีดความสามารถในการให้บริการมีแนวโน้ม ขาดดุลในอนาคต


ข้อสรุปจากการศึกษาผลกระทบของสถานะการคลังจากนโยบายหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสามารถสรุปได้ 3 ข้อคือ





หนึ่ง ดุลการคลังโดยรวมของโรงพยาบาลยังไม่ขาดดุลในปัจจุบันแต่มีความเสี่ยงว่าจะขาดดุลในอนาคต


สองคือ พบว่ารพ.ขาดดุลการคลังในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพราะ สปสช.ทำให้เกิดหนี้สูญ กล่าวคือ จ่ายให้น้อยกว่าที่รพ.เบิกไป, มีค่าสาธารณูปโภคที่เกิดจากคนไข้ที่เพิ่มขึ้นในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า และต้นทุนการรักษาพยาบาลที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตาม รพ.ยังมีขีดความสามารถทางการคลังในปัจจุบัน สามารถรองรับการขาดดุลการคลังในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าไปอีกระยะหนึ่ง จึงทำให้มองไม่เห็นการขาดดุลนั้น


สามคือ ปัจจุบันโรงพยาบาลอยู่ในภาวะขาดดุลการคลังในการดำรงขีดความสามารถการให้ บริการทางการแพทย์ กล่าวคือ บริการทางการแพทย์อยู่ต่ำกว่าความต้องการการใช้บริการโดยรวม ผู้ป่วยจำเป็นต้องรอเมื่อมาขอใช้บริการ


สาเหตุของปัญหาดังกล่าวมาจาก ผลกระทบจากการขาดดุลในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า และต้นทุนการให้บริการทางการแพทย์เพิ่มมากขึ้น


อย่างไรก็ดี ผู้วิจัยได้เสนอแนะว่าหากรัฐบาลยังต้องการดำเนินนโยบายนี้ต่อไปควรเพิ่ม จำนวนบุคลากรทางการแพทย์, เพิ่มจำนวนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้พอกับความต้องการ, ให้ทางสปสช. หรือกรมบัญชีกลาง จ่ายหนี้ให้ครบนั่นคือ ค่ารายหัวผู้ป่วยนอกเพิ่ม และจ่ายค่าผู้ป่วยในให้ครบเพื่อรักษาระดับการคลังในการดำรงขีดความสามารถการ ให้บริการทางแพทย์



สุดท้ายคือ อาจจำกัดผู้ได้รับการบริการสุขภาพฟรี โดยจำแนกผู้ป่วยในระบบประกันสุขภาพเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มรายได้น้อยให้รับบริการฟรี, กลุ่มรายได้ปานกลางให้ใช้ระบบร่วมจ่าย และกลุ่มรายได้สูงใช้ระบบจ่ายเองทั้งหมด


"จากที่วิจัยพบว่าโรงพยาบาลใหญ่มีแนวโน้มขาดดุลการคลัง แต่ก็ต้องมาเปรียบเทียบกับโรงพยาบาลขนาดเล็กกว่าว่ามีผลเป็นอย่างไรจึงจะ เข้าใจผลกระทบมากขึ้น" นพ.จักรกริชกล่าว
blacksmithday
 
โพสต์: 192
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2007, 19:21







Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย azzuri » 22 เม.ย. 2011, 22:08

ตอนให้รพ.ทำงานตามชุดสิทธิประโยชน์ให้ทำทุกมิติ
ทั้งซ่อม ทั้งสร้าง และส่งเสริมสุขภาพ
แต่พอเวลาจัดสรรเงินรายหัวมาให้
ทำไมมีแต่ซ่อม ซ่อม แล้วก้อซ่อม
ไม่ขาดทุนยังงั้ยไหวละครับ
ถ้าไม่ตั้งกองทุนมาอัดฉีดพันกว่าล้านเมื่ิอปลายปีที่แล้ว
รพ.เจ๊งกันเกือบเจ็ดสิบโรง ล่อแล่อีกเกือบสองร้อยโรง
เภสัชกร = เภสัชกรรม + กรรมกร
อยากให้โลกนี้ไม่มีโชคร้าย
Welcome to My Life
Casa di AzzurRi = บ้านของนาย อัซซูร์รี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
azzuri
Global Moderator
 
โพสต์: 777
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มี.ค. 2004, 16:22
ที่อยู่: สกลนคร

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย white-blue » 23 เม.ย. 2011, 10:50

ใช้คำว่า เสี่ยง ไม่ได้หรอกมั่ง เพราะมันขาดดุลมานานแล้ว
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย namwanrx » 23 เม.ย. 2011, 22:56

จริง
namwanrx
 
โพสต์: 150
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ต.ค. 2009, 23:14

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย Pharma_Name » 24 เม.ย. 2011, 00:16

ขาดทุนจริง ๆ ครับ
Pharma_Name
 
โพสต์: 357
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ย. 2007, 09:29
ที่อยู่: Bangkok

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย เภสัชกรขุนเขา » 29 เม.ย. 2011, 21:58

ไม่ต้องวิจัยก็น่าจะพอรู้อยู่แล้วล่ะ และอีกอย่างผลกระทบที่นอกเหนือจากเรื่องงบดุลที่ใครบางคนอาจนึกไม่ถึง
คนไข้ได้ยาและการบริการฟรี ไม่ค่อยรู้คุณค่าของยาและการดูแลสุขภาพตัวเอง ผู้ป่วยและญาติพึ่งพาแต่โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์
กลายเป็นว่าหน้าที่การดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง เพราะทุกอย่างได้ฟรี ไม่เคยรู้ว่ายาเม็ดละกี่บาท ไม่เคยรู้ว่าการไม่ดูแลตัวเอง
แล้วทำให้เกิดความเจ็บป่วยซ้ำซาก จะเป็นค่าใช้จ่ายของประเทศชาติเท่าไหร่ อาจต้องให้คนไข้ร่วมจ่ายบ้างอาจไม่มาก
แต่อย่างน้อยๆ ก็ให้รับรู้ว่าการมา ร.พ.เป็นค่าใช้จ่ายของประเทศ
...ทุกอย่างมี 2 ด้าน มีทั้งประโยชน์และโทษ...
เภสัชกรขุนเขา
 
โพสต์: 50
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ส.ค. 2008, 20:09

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย anan » 06 พ.ค. 2011, 09:54

เภสัชกรขุนเขา เขียน:ไม่ต้องวิจัยก็น่าจะพอรู้อยู่แล้วล่ะ และอีกอย่างผลกระทบที่นอกเหนือจากเรื่องงบดุลที่ใครบางคนอาจนึกไม่ถึง
คนไข้ได้ยาและการบริการฟรี ไม่ค่อยรู้คุณค่าของยาและการดูแลสุขภาพตัวเอง ผู้ป่วยและญาติพึ่งพาแต่โรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์
กลายเป็นว่าหน้าที่การดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ใช่หน้าที่ของตัวเอง เพราะทุกอย่างได้ฟรี ไม่เคยรู้ว่ายาเม็ดละกี่บาท ไม่เคยรู้ว่าการไม่ดูแลตัวเอง
แล้วทำให้เกิดความเจ็บป่วยซ้ำซาก จะเป็นค่าใช้จ่ายของประเทศชาติเท่าไหร่ อาจต้องให้คนไข้ร่วมจ่ายบ้างอาจไม่มาก
แต่อย่างน้อยๆ ก็ให้รับรู้ว่าการมา ร.พ.เป็นค่าใช้จ่ายของประเทศ
...ทุกอย่างมี 2 ด้าน มีทั้งประโยชน์และโทษ...


ถูกต้องคะ ...เป๊ะเลย ...
เหมือนคนขับรถปัจจุบัน ไม่ต้องระวังอะไรมาก จ่ายประกันแล้ว ชนเมื่อไรก็ประกันจ่าย
ส่วนเรื่องบัตรทองนี่แย่กว่าอีก เพราะไม่ต้องจ่ายเบี้ยประกันเอง จะว่าคนปกติไม่อยากเจ็บป่วยก็คงไม่ใช่หรอกคะ เพราะคนไทยทุกวันนี้อยู่ในสภาพสุ่มเสี่ยงต่อความเจ็บป่วยสูงมาก ทั้งจากสภาพแวดล้อมและจากพฤติกรรมของตนเอง
anan
 
โพสต์: 93
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 พ.ค. 2009, 09:54

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย azzuri » 16 พ.ค. 2011, 22:20

:evil:
แนบไฟล์
229622_10150170852705674_527780673_6681372_5788299_n.jpg
เภสัชกร = เภสัชกรรม + กรรมกร
อยากให้โลกนี้ไม่มีโชคร้าย
Welcome to My Life
Casa di AzzurRi = บ้านของนาย อัซซูร์รี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
azzuri
Global Moderator
 
โพสต์: 777
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มี.ค. 2004, 16:22
ที่อยู่: สกลนคร

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย apotheker » 17 พ.ค. 2011, 09:24

เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเค้าแก้ไขโดยบอกของหมด ให้ไปซื้อเอาข้างนอก ของบางอย่างหมดตลอดปีตลอดชาติ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: ผลวิจัยพบ "บัตรทอง" ทำโรงพยาบาลใหญ่เสี่ยงขาดดุลในอนาคต

โพสต์โดย PHARMA_GIRL » 17 พ.ค. 2011, 10:38

พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้ทั่วถึงเท่าเทียมกันทุกชนชั้น
เมื่อให้ประชาชนรับบริการฟรี การบริการจึงไม่ใช่ธุระกิจที่จะแสวงหาผลกำไรขาดทุน ทาง สนง.ก็มีการเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆตามความเหมาะสมที่เป็นจริง
ข้อเท็จจริง ทางสนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ สามารถของบประมาณจากทางรัฐได้อยู่แล้ว และยังมีเงินเหลือจากการตั้งงบอื่นเป็นจำนวนมาก อย่างเช่น


กองทุนช่วยเหลือคนไข้ปัจจุบันตาม มาตรา 41 ของ พรบ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ ที่มีข้อกำหนดให้กันเงินไว้ได้ปีละ 1% หรือราวหนึ่งพันล้านบาท นำมาช่วยชดเชยผู้เสียหายจาการรักษาพยาบาลซึ่งมีการจ่ายจริงเพียง 70 ล้านบาทในปี2552 (เหลือกว่า 900ล้านบาท) ทางสนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติฯ สามารถบริหารจัดการได้อย่างไม่มีอุปสรรคอยู่แล้วคะ
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
PHARMA_GIRL
 
โพสต์: 182
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2006, 15:35
ที่อยู่: PCU


ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document