New Document









ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

ห้องเภสัชกร

ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย เภสัชทุง » 10 มี.ค. 2011, 17:28

ด้วยภาคประชาชนร่วมกับเครือข่ายวิชาชีพเภสัชกรรม ได้ร่วมกันเสนอ ร่าง พรบ.ยา ฉบับประชาชน เพื่อปรับปรุงกฎหมายยาในประเทศให้มีประสิทธิภาพ สามารถคุ้มครองความปลอดภัยการใช้ยาได้เต็มที่ โดยร่างฯ ดังกล่าว มีสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนแตกต่างจากร่างของ อย.หรือร่างของรัฐบาลที่เด่นชัด คือ

๑. มีมาตรการควบคุมราคายาให้เป็นธรรม ป้องกันการค้ากำไรเกินควร

๒. มีการกำหนดชื่อสามัญทางยาให้ประชาชนทราบ ต่างจาก พรบ.ยาปัจจุบัน ซึ่งไม่มีการกำหนด เมื่อประชาชนรู้ชื่อยา สามารถลดการใช้ยาซ้ำซ้อน การป้องกันได้รับยาที่แพ้ ได้รับยาราคาถูก

๓. เปลี่ยนร้านขายยาเป็นสถานบริการเภสัชกรรม ที่ให้บริการตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้บริโภคได้รับการส่งมอบ แนะนำการใช้ยา ส่งเสริมสุขภาพโดยเภสัชกร ลดปัญหาเภสัชกรแขวนป้าย ร้านหมอตี๋จะสูญพันธุ์ภายใน ๑๐ ปี

๔. กำกับการส่งเสริมการขายยาและการโฆษณายาอย่างเข้มงวด

๕. จัดระบบการทบทวนทะเบียนตำรับยาเพื่อปรับปรุงรายการยาให้มีประสิทธิภาพในการรักษามากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจ

๖. ประชาชนได้รับการชดเชยความเสียหายจากการใช้ยาอย่างรวดเร็วผ่านกลไกวิธีการพิจารณาคดีผู้บริโภค และการฟ้องกลุ่ม แทนการร้องสอดตาม พรบ.วิฯ แพ่งในปัจจุบัน ทำให้ศาลมีเครืองมือในการพิจารณาคดีกรณีผู้บริโภคได้รับความเสียหายเป็นกลุ่มใหญ่ได้รวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้เสียหายฟ้องทุกคนจึงได้รับการชดเชย

๗. ใช้มาตรการทางการปกครองเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาของผู้บริโภค โดยเพิ่มมาตรการ ตำหนิโดยเปิดเผยต่อสาธารณชน การปรับทางการปกครอง การจำกัดการประกอบการที่เสี่ยงต่อผู้บริโภค ต่างจากกฎหมายปัจจุบันที่มีเฉพาะการพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาต

ดังนั้น เพื่อความก้าวหน้าในการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยาของประเทศไทย จึงขอเชิญเภสัชกร ผู้ประกอบวิชาชีพ และประชาชนทุกท่าน ได้ร่วมลงชื่อในแบบฟอร์มลงชื่อตามลิงค์นี้ http://www.nkp.moph.go.th/fileupload/3/ ... s/Form.pdf แล้วส่งไปที่ แผนงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านสุขภาพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อาคารนวัตกรรม ชั้น ๒ ถ.พญาไท เขตปทุมวัน กทม. ๑๐๓๓๐ หรือ consumer_sss@yahoo.com

ขณะนี้ แผนงาน คคส.ได้ร่วมมือกับ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) รวบรวมรายชื่อได้ ๘.๐๐๐ รายชื่อแล้ว ขาดอีก ๒,๐๐๐ ชื่อ จะได้ครบ ๑๐,๐๐๐ ชื่อ ตามที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ ที่สามารถเสนอกฎหมายได้ และได้รับสิทธิเสนอชื่อกลุ่มเราไปร่วมในกรรมาธิการแปรญัตติกฎหมายได้

หากได้รายชื่อครบ จะยื่นให้รัฐสภาในวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย ๓๐ เมษายน ปีนี้ได้ครับ

*** ขอแรงพวกเราช่วยกัน เพื่อปฏิรูประบบยาในประเทศเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาของประชาชนครับ ***
แก้ไขล่าสุดโดย เภสัชทุง เมื่อ 10 มี.ค. 2011, 17:38, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
เภสัชทุง
 
โพสต์: 417
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2004, 23:57







Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย เภสัชทุง » 10 มี.ค. 2011, 17:35

จากการวิเคราะห์ร่าง พรบ.ยาของ อย.โดย คณะอนุกรรมการติดตามศึกษากฎหมายของสภาเภสัชกรรมปี ๒๕๕๑ พบว่า ร่างฯ ฉบับนี้ มีหลายประเด็นที่กระทบต่อเภสัชกร เนื่องจาก ร่าง พรบ.ยาฉบับนี้ เหมือนการแบ่งเค้กการขายยาให้แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล ขณะที่เภสัชกรที่รู้เรื่องยามากที่สุด มีสิทธิน้อยกว่าบางวิชาชีพ และมีการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการควบคุมการให้บริการเภสัชกรรมที่เข้มงวดที่สุด และมีบทลงโทษมากกว่าวิชาชีพอื่น ขณะที่ประโยชน์ที่จะเกิดกับประชาชนก็ไม่ชัดเจน ไม่มีประเด็นการตั้งกองทุนชดเชยความเสียหาย รายละเอียดการวิเคราะห์ ดูได้ที่ http://www.nkp.moph.go.th/fileupload/3/ ... impact.pdf

จากเหตุผลดังกล่าว การเสนอร่าง พรบ.ยาฉบับประชาชน จึงเป็นการถ่วงดุลผลกระทบต่อผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมจากร่าง พรบ.ยาของ อย. หรือของรัฐบาล อันจะทำให้เราได้ ร่าง พรบ.ยาที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของระบบยาในประเทศ มีสาระที่ก้าวหน้า เอื้อประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท่จริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
เภสัชทุง
 
โพสต์: 417
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2004, 23:57

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย winnwin » 10 มี.ค. 2011, 20:11

@@@@ ๓. เปลี่ยนร้านขายยาเป็นสถานบริการเภสัชกรรม ที่ให้บริการตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรม @@@@

เปลี่ยนอย่างไร เมื่อเปลี่ยนแล้ว เภสัชกรในร้านยาจะทำหน้าที่อะไรบ้าง ?

#### ร้านหมอตี๋จะสูญพันธุ์ภายใน ๑๐ ปี #####

สูญพันธุ์ในที่นี้ รวมทั้งร้านยาเภสัชด้วยหรือเปล่า

เพราะเมื่อคราวก่อนก็เห็นคุณออกมาสนับสนุนเรื่อง การแยกใบสั่งแพทย์ / การจ่ายยา ออกจากกันมาครั้งนึงแล้ว

ซึ่งมีหลายคนที่เค้าไม่ได้เห็นด้วยกับประเด็นนี้เหมือนคุณ

_______________________________________________________________________________________________________

การลงชื่อสนับสนุนร่าง พรบ ยา ใด ๆ ควรทำความเข้าใจกับคนอื่นก่อนให้ชัดเจน

ไม่อยากให้เป็นการ หนีเสือปะจระเข้ ครับ

ร่างของ อย ว่าไม่ดี / ร่างที่นำเสนอจะดีจริง ๆ อย่างคุณว่ามาหรือเปล่า ?

และทุกข้อที่เสนอ เภสัชกรร้านยา เค้าเห็นด้วยแน่หรือ ?
winnwin
 

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย เภสัชทุง » 10 มี.ค. 2011, 21:06

เรื่องการยกร่าง พรบ.ยาใหม่ เป็นสิ่งที่ยังไงก็ต้องเกิดในอนาคต เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน ส่วนใหญ๋กฎหมาย ๑ ฉบับจะมีอายุการใช้งานประมาณ ๔๐ ปี จึงยกร่างใหม่ อย่าง พรบ.เครื่องสำอาง เครื่องมือแพทย์ สถานพยาบาล ประกอบโรคศิลปะ ล้วนยกร่างใหม่แล้วทั้งนั้น พรบ.ยาก็เช่นกัน ทราบว่า ขณะนี้ ร่างของ อย. หรือ ฉบับรัฐบาล ก็พิจารณาในชั้นกฤษฎีกาใกล้จะเสร็จสิ้นแล้ว

สิ่งที่น่ากลัวของร่าง พรบ.ยาฉบับ อย. เป็นอย่างไร มีคณะทำงานของสภาเภสัชกรรมชุด อ.ภาวิช วิเคราะห์ให้แล้ว ตามลิงค์ที่ผมแจ้ง ดังนั้น ยุทธศาสตร์ในการเคลื่อนไหว หากเราไม่มีกฎหมายที่พวกเราได้ช่วยกันคิดไปประกอบ และมีส่วนของพวกเราไปร่วมเป็นกรรมาธิการแปรญัตติแล้ว ร่าง พรบ.ยาฉบับ อย.หรือ ของรัฐบาล จะไม่ถูกแก้ไขมาก และส่งผลต่อการประกอบวิชาชีพและการคุ้มครองผู้บริโภคด้านยา หรือเราก็ต้องไปปลุกม็อบมายับยั้ง ร่าง พรบ.ยา แบบเดียวกับที่กลุ่มแพทย์เคยคัดค้านการแยกใบสั่งยา กับ การขายยา ใน ม.๑๔(๓) ของ ร่าง พรบ.ยา เมื่อปี ๒๕๔๙

ดังนั้น การเข้าชื่อเสนอกฎหมายไปประกบ จึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะมีกลุ่มเภสัชและภาคประชาชนไปถ่วงดุลกับร่าง พรบ.ยาของ อย.ครับ และการต่อสู้คราวนี้ เราจะมีภาคประชาชนสนับสนุน เนื่องจากร่าง พรบ.ยาฉบับนี้ ได้เอื้อสิทธิผู้บริโภคในการได้รับความเป็นธรรมจากการพิจารณาคดีทางแพ่ง มีมาตรการทางปกครองที่หลากหลาย ซึ่งนักกฎหมายได้กล่าวว่า เป็นกฎหมายสมัยใหม่ ที่ศาลสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการอำนวยความยุติธรรมได้ดีมาก

ส่วนประเด็น การปรับร้านขายยา เป็น สถานบริการเภสัชกรรม นั้น ก็สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของสมาคมเภสัชกรรมชุมชนฯ ที่ได้นำเสนอในการประชุมสมัชชาเภสัชกรรมไทย ๙๗ ปี ซึ่งเน้นการประกอบวิชาชีพอย่างแท้จริง มากกว่า การขายยา ต่อไป ร้านขายยา จะเหลือแต่ ร้านขายส่ง และการขายปลีกจะไม่มี จะปรับเป็น การบริการเภสัชกรรมในสถานบริการเภสัชกรรม ซึ่งสร้างคุณค่าของเภสัชกรร้านยา ให้มีอัตลักษณ์ของวิชาชีพ เป็นการส่งมอบยาพร้อมคำแนะนำการใช้ การส่งเสริมสุขภาพ ทำให้เภสัชกรมีความจำเป็นต่อสถานบริการเภสัชกรรมมากขึ้น ลดปัญหาการแขวนป้าย ทีปัจจุบันหลายคนไม่ได้ไป สาเหตุหนึ่งมาจากระบบการขายยาที่ใครๆ ก็ทำได้ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องให้เภสัชไปอยู่ร้าน

สำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ปลีกย่อย ไม่ใช่สาระ เพราะเมื่อกฎหมายเข้าสภาฯ จะมีการแปรญัตติเพื่อให้ได้ข้อบัญญัติที่ทุกฝ่ายเห็นชอบ สำคัญคือ มีคนของเราเข้าไปมีส่วนในการพิจารณาจากการเข้าชื่อเสนอกฎหมายครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
เภสัชทุง
 
โพสต์: 417
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2004, 23:57

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย winnwin » 11 มี.ค. 2011, 09:41

##### การขายยา ต่อไป ร้านขายยา จะเหลือแต่ ร้านขายส่ง และการขายปลีกจะไม่มี ######

สรุป คือ เมื่อ พรบ ยา ที่คุณว่าดีออกมาแล้ว

ร้านยาตอนนี้จะสูญพันธุ์กันหมดเลยใช่ไม๊ครับ

ซึ่งเป็นผลงานของ สมาคมเภสัชกรรมชุมชนฯ !!!!!!!!

:eek: :eek: :eek: :eek: :eek: :eek: :eek: :eek: :eek:

แล้วแบบนี้เภสัชร้านยาตอนนี้ควรรีบ ๆ ลงชื่อสนับสนุนร่าง พรบ นี้ด้วยอีกหรือ ??????
winnwin
 

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย battyz » 11 มี.ค. 2011, 13:48

ผมเห็นด้วย ในแนวความคิดข้อ 2, 4 และ 7 ครับ

และสนับสนุนแนวความคิด การรับเสียงร้องเรียน ตรวจสอบ และการลงโทษทางสังคมโดยประชาชนครับ
เหตุผล

1. ระบบปัจจุบัน ข้าราชการ ที่มีอำนาจไม่ลงมือกระทำตามกฎหมายที่บัญญัติ
อาจเนื่องมาจากกลัวการสูญเสียอำนาจจากกลุ่มผลประยชนืที่ตนเองเกาะกินอยู่ (สสจ. หรือเภสัชรับราชการ
ที่หากินกะการหาเภสัชมาแขวนป้าย)

โดนข้าราชการการเมืองที่อิงกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่นดูแล (ชมรม ร้านขายยาประจำจังหวัดที่เป็นฐานเสียงเลือกตั้ง และคอยบริจาคเงินสนับสนุน ซื้อตั๋วงานการกุศล บริจาคเงินให้กลุ่มราชการ)

หรือตัวเองมีผลประโยชน์เข้าไปอยุ่เต็มปาก (สสจ. ที่แขวนป้ายซะเอง)

และขี้เกียจ ลอยไปวันๆ ก็เสมอตัวอยุ่แล้ว

2. อำนาจที่จะเปลี่ยนทิศทางการทำงานได้ คือข้าราชการการเมืองที่กุมอำนาจ ถอดถอน
ปลดย้าย สั่งการ ผ่านข้าราชการระดับสูงที่มัวแต่เกาะเก้าอี้

3. เสียงที่บอกสังคมถึงความผิดปกติที่ควรแก้ไข และชี้นำให้ข้าราชการการเมืองที่กุมอำนาจ วิ่งไล่ตาม
คือสื่อและอำนาจกลุ่มประชาชนครับ ยกตัวอย่างที่ง่ายที่สุด ก้อดูเหตุกาณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา ที่มีรายการเล่าข่าวคุย
ที่จัดการโดยกลุ่มเอกชน (แม้จะเป้นสื่อที่มีผลประโยชน์อื่นๆอยู่)
แต่มีผลกระทบให้ภาคประชาชนให้ความช่วยเหลืออย่างมีน้ำหนักและทันการ์ณครับ

หรือล่าสุดก้อกรณีไต้หวันบังคับสาวญวณอุ้มบุญ มีการแจ้งผ่านระบบไปนานแล้ว
แต่ไม่มีใครแตะ เพราะอ้างว่าสมยอมและมีโรงพยาบาลที่มีหมอแบ็คเงินหนาคอยสนับสนุน
แต่พอสื่อไปชีเป้าโรงพยาบาลตรงแยกมีนบุรีปุ้บ ก้อโดนล้างทั้งระบบ โดยกฏหมายและมือขยันอย่างที่เห็น
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย battyz » 11 มี.ค. 2011, 13:56

กลไกการทำงานเก่า ที่เห็นและเป็นอยุ่คือ

ข้าราชการการเมือง => ข้าราชการคนมือทำงาน

ก้อรุ้อยุ่ว่า อะไรคือแรงกระตุ้นให้จุงใจมาขับดัน
ไม่เช่นนั้นก้อจะมาอ้างแบบ ข้าราชการขี้เกียจ กลุ่มสภาหน้าสวยแต่ขี้เกียจ น่านแหละขอรับ
จนกว่าจะมีกระแสอะไร มาเล่น อย่างเช่น สอระยู้ดจอมเสี้ยม เขามาอ่าน นสพ เล่าเรื่อง ก้อเต้นกันไปแต่ละที

กว่า พรบยา ฉบับใหม่ ฉบับปี 2545 ที่กำลังจะ ถ้าอยุ่เฉยๆ ก้อกลับไปอ่านบันทัดบน
แต่ถ้าคดิว่าควรเปลี่ยนแปลง
กลไกการทำงานใหม่ จะเปลี่ยนไป คือ

ภาคประชาชน (ที่มีการวมกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ที่ทรงธรรม) => ข้าราชการการเมือง => ข้าราชการมือทำงาน
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย battyz » 11 มี.ค. 2011, 14:29

ภาคประชาชน ที่มีการวมกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ที่ทรงธรรม มาจากไหน
ก้อไหลรวมตัวมาจากการเป็น "เหยื่อ" ของระบบเดิมๆ น่านแหละครับ
ที่เรียกว่า กลุ่มกาฝากระบบเดิมๆ อันได้แก่

1. กลุ่มผลประโยชน์ดั้งเดิม ชมรม รขย, สมาคม รขย
ที่เสพเงินทรัพยกรชาวบ้านเข้ากระเป๋าจากการขายยาอย่างผิดๆ แต่กูก้อรวยเอ้า รวยเอา
พอกูรวย แทนที่กุจะพัฒนารูปแบบสาธารณสุข กูก้อรวมกลุ่มอำนาจจัดงานประชุมประจำปี
เพื่อแจกยาและเชิญอาจารย์เภสัชที่ขายตัวมาเป็นที่ปรึกษานั่งกินโต็ะกัน หม่ำๆ

2. ข้าราชการการเมืองที่ต้องอิงกลุ่มเดิมๆนี่แหละ เพราะมีสิทธิ์มีเสียงมีกระตังค์เลือกกูเข้าสภามาได้นิ
ทุกปีใหม่ต้องมีไอ้กลุ่มแรกๆที่เอากระเช้ามาอวยพรเก้าอี้ของกู
ไอ้พวกเภสัชกรชุมชนมานไม่เคยมาซูฮกกู กูเลยม่ายรุ้จัก
ในเขตเลือกตั้งกูมีพวกมึงอยู่ด้วยเหรอ

3. ข้าราชการระดับปฎิบัติการ เฉพาะที่ขี้เกียจเดิมๆ ไม่ยอมทำหน้าที่ที่ตนเองต้องทำ
ที่เพื่อนๆได้นำพฤติกรรมมาแฉถ้วนทั่วไปจนเอียนกันหมดแล้ว แต่กุก้อไม่ทำอะไร
ก้อไอ้พวกเภสัชกรชุมชนไม่ใช่นายกูนิ สั่งกูไม่ได้
ฟ้องมา กูก้อหมก

4. กลุ่มผลประโยชน์อื่นๆ
ได้แก่
บริษัทยาที่ขายยาเยอะให้กะกลุ่มแรกๆ เภสัชชุมชนซื้อน้อยนี่หว่า
เอาแค่ปากกากะ gimmicks ไป ปีใหมที ก้อรอพวกชมรมยามาจิ้มก้อง

สื่อตาบอดที่หากินกะค่าโคดสะนาจากบริสัตว์ยา อาหารเสริมแหกตาทั้งหลาย
เภสัชชุมชนที่ทำหน้าที่ไม่ขายอาหารเสริม กูไม่รุ้จัก

กลุ่มสภาเภสัชที่เราหลงเลือกเข้าไปแล้ว ทั่นผู้ทรงเกลียดประสงค์จะเอาหน้า แต่ไม่ประสงค์จะทำอะไร
(ก้อเสือกเลือกกุมาแล้วนี่ กุไม่มีอะไรทำเพราะไม่กล้าทำและขี้เกียจ
กูก้อไปสมัครตำแหน่งเอาหน้า อื่นๆ อันต่อไป มีอะไรป่่ะ)

ที่พบเห็นกันทุกวันนี้ก้อคือ พอชาวบ้านเดือดร้อน
เภสัชกรชุมชนตัวจิงที่อยุ่หน้าร้านทั้งวัน
มีปัญหากันที ก้อต้องรอให้สื่อมากระทุ้ง
หรือเอากองกำลังหลากสีมาปิดถนนประท้วง
จะปล่อยให้เป้นอย่างนี้ อีกต่อไปเหรอ

ภาคประชาชนที่มีการวมกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ที่ทรงธรรม จะเป็นจริงแค่ไหน มาจากไหน
ตรวจสอบอย่างไร เภสัชชุมชนคนที่รุ้เรื่องชาวบ้าน รุ้เรื่องยา รู้ปัญหาสาธารณสุขพื้นฐาน จะไปช่วยชาวบ้าน
และดำรงบทบาทให้ชาวบ้านพึ่งได้จริงๆ เป็นอย่างไร
รออ่านตอนหน้าเน้อ ขอไปเฝ้าร้านก่อน :lol:
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย zartingtong » 11 มี.ค. 2011, 20:31

winnwin เขียน:@@@@ ๓. เปลี่ยนร้านขายยาเป็นสถานบริการเภสัชกรรม ที่ให้บริการตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรม @@@@

เปลี่ยนอย่างไร เมื่อเปลี่ยนแล้ว เภสัชกรในร้านยาจะทำหน้าที่อะไรบ้าง ?


แล้วก็เข้าทางกับ พรบ.คุ้มครองที่จะออกมาเก็บเงินร้านขายยา พอดี :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย winnwin » 12 มี.ค. 2011, 10:07

การขายยา ต่อไป ร้านขายยา จะเหลือแต่ ร้านขายส่ง และการขายปลีกจะไม่มี

Hilight ของ พรบ. ยา ที่นำมาเสนออยู่ตรงนี้ต่างหาก

ประเด็นอื่น ๆ มันยังเป็นเรื่อง จิ๊บ ๆ

ดูท่ามันจะเป็น ยาฆ่ามะเร็ง ทีฆ่าทุก ๆ เซลล์

สุดท้ายนอกจากมะเร็งไม่เหลือแล้ว

ชีวิตก็ไม่เหลือเหมือนกัน
winnwin
 

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย battyz » 12 มี.ค. 2011, 10:48

มาต่อเนอะ ในฐานะเภสัชกรชุมชน ข้อเสนอ 1,5 และ 6 พอจะเข้าใจในวัตถุประสงค์
ของการยื่น แต่วิธีการ ข้อมุลที่นำมาใช้ STAKEHOLDERS ที่จะมามีส่วนร่วม
อันนี้ ต้องตามติดไปดุใน ฉบับร่างและแนวคิดของผู้เสนอต่อไป

โดยเฉพาะข้อ 1 คิดว่ายากสุดๆ เพราะมันไม่มีดัชนีชี้วัดอย่างแจ่มแจ้ง
เหมือน RDA ของวิตามินซี ที่เราควรได้รับในแต่ละวัน
แต่คิดแล้วก้อน่าสนุก เพราะอยากรุ้ว่าต้นทุนยาจริงๆแล้วมันมีอะไรบ้าง
อย่างนี้ต้องขอสมัครเข้าไปเป็นคณะกรรมมาธิการติดตามเรื่องนี้ดีกว่า
สนุกกว่าเรียน MBA ตั้งเยอะ เพราะมันเป็นสถานการ์ณจริง

สรุปแล้ว ในฐานะเภสัชกรชุมชนคนหนึ่ง เด๋วขอไปดุแบบฟอร์ม แล้วจะไปลงชื่อครับ

การเปลี่ยนแปลงคือนิรันดรครับ
เราไม่เปลี่ยน โลกก้อเปลี่ยน
รับฟัง รับรุ้ ทำความเข้าใจ เตรียมรับการเปลี่ยนแปลงที่ (อาจจะ) เกิดขึ้น
จะได้เท่าทันอย่างมีความสุขได้ในระดับหนึงหน่ะครับ

เหมือน TSUNAMI ที่เกิดจาก RING OF FIRE ที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นเมื่อวานนี้
จะปิดตา ปิดหุ ไม่รับรุ้ก้อได้
จะไม่ย้ายบ้าน ก้อได้ ถ้าคิดว่าจะต้องตายเหมือนกัน
แต่ถ้าได้มีส่วนร่วม สวม WETSUIT ใส่ SCUBA TANK ออกไปดำน้ำสร้างระบบเตือนภัย
วางแผนป้องกันและอพยพ
มันสนุกกว่าเยอะ เพราะเราได้ทำหน้าที่ของมนุษย์เล็กคนนึงได้ดีที่สุดแล้ว

:razz:
[/color ][color=#0040BF]
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย zartingtong » 12 มี.ค. 2011, 10:55

ฟังชื่อ เท่ๆ เหมือนตอนหลอกเด็กให้เรียกร้องผลักดันให้เภสัชกรจบใหม่ใช้ทุนเข้าไปเป็น "พนักงานของรัฐ"เพื่อประชาชน

แล้วก็เหมือนเดิมกลายเป็น "ลูกจ้างชั่วคราว" ของรัฐ

สิ่งที่ไปเชื่อและช่วยกันเรียกร้องก็กลายเป็นประเด็นช้ำเลือดช้ำหนองอย่างในปัจจุบัน

เอากันง่ายๆ ต่อไปจะต้องทำบัญชีซื้อยาเพื่อให้รู้ราคาทุนแล้วกำหนดราคาขายแบบกำไรขั้นต้น 10% เพื่อควบคุมราคาให้เหมาะสมเพื่อประชาฃน แล้วร้านเภสัชก็ไม่ต้องเหลือ
:mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย เภสัชทุง » 13 มี.ค. 2011, 01:20

winnwin เขียน: การขายยา ต่อไป ร้านขายยา จะเหลือแต่ ร้านขายส่ง และการขายปลีกจะไม่มี

Hilight ของ พรบ. ยา ที่นำมาเสนออยู่ตรงนี้ต่างหาก

ประเด็นอื่น ๆ มันยังเป็นเรื่อง จิ๊บ ๆ

ดูท่ามันจะเป็น ยาฆ่ามะเร็ง ทีฆ่าทุก ๆ เซลล์

สุดท้ายนอกจากมะเร็งไม่เหลือแล้ว

ชีวิตก็ไม่เหลือเหมือนกัน


หากมองในกรอบเดิมๆ ของร้านยาวันนี้ที่เน้นการขายยา ก็จะรู้สึกกังวลตามที่เห็นครับ แต่มองในมุมมองปฏิรูปที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างมูลค่าของเภสัชกรในการประกอบวิชาชีพที่ร้านยา รวมทั้งผลประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับบริการที่ได้มาตรฐานมากกว่า การซื้อขายยาในปัจจุบัน ก็จะเป็นอีกแบบครับ มองว่าเป็นโอกาสในการพัฒนาวิชาชีพให้มีที่ยืนอย่างมั่นคง และกำจัดปัญหาแขวนป้ายจากมาตรฐานที่มีเพิ่มขึ้น ร้านยาต้องจัดเภสัชกรทำหน้าที่ตลอดเวลา

ในการประชุมเสวนาเมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๔ ที่คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ตัวแทนจากภาคประชาชน ผู้บริโภค ภาคการศึกษา สภาเภสัชกรรม สมาคมเภสัชกรรมชุมชนฯ ก็เห็นด้วยที่จะปรับบทบาทร้านยาจากการขายยาเป็นการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมในร้านยาครับ

โดยสรุปแล้ว ร่าง พรบ.นี้มีลักษณะ win-win ระหว่างเภสัชกร กับ ประชาชน ในวันที่นำเสนอในเวที คบส.ภาคอีสาน ก็มีตัวแทนนอกวิชาชีพ เช่น สาธารณสุขอำเภอ เห็นด้วยและจะรวบรวมรายชื่อ อสม. ผู้นำชุมชน มาสมทบ ในส่วนจังหวัดผม ก็จะนำไปล่ารายชื่อประชาชนผ่าน อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเช่นกัน คิดว่า ๒,๐๐๐ ชื่อไม่น่ามีปัญหาครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
เภสัชทุง
 
โพสต์: 417
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2004, 23:57

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย เภสัชทุง » 13 มี.ค. 2011, 01:23

zartingtong เขียน:สิ่งที่ไปเชื่อและช่วยกันเรียกร้องก็กลายเป็นประเด็นช้ำเลือดช้ำหนองอย่างในปัจจุบัน

เอากันง่ายๆ ต่อไปจะต้องทำบัญชีซื้อยาเพื่อให้รู้ราคาทุนแล้วกำหนดราคาขายแบบกำไรขั้นต้น 10% เพื่อควบคุมราคาให้เหมาะสมเพื่อประชาฃน แล้วร้านเภสัชก็ไม่ต้องเหลือ
:mrgreen:


โดยหลักการ ร่าง พรบ.นี้ เน้นการกำกับราคาในภาคการผลิตและการตลาดครับ มีการระบุราคาวัตถุดิบที่ชัดเจน ป้องกันราคาโอน หรือ ราคาผูกขาดที่กำหนดตามอำเภอใจของบริษัทยาข้ามชาติ จนทำให้เราต้องเหนื่อยมาทำ CL ยา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
เภสัชทุง
 
โพสต์: 417
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2004, 23:57

Re: ขอ ๒,๐๐๐ ชื่อเพื่อเสนอร่าง พรบ.ยาโดยภาคประชาชน

โพสต์โดย blacksmithday » 13 มี.ค. 2011, 09:09

๑. มีมาตรการควบคุมราคายาให้เป็นธรรม ป้องกันการค้ากำไรเกินควร
ควบคุมที่ไหนบ้างละ ร้านยา โรงพยาบาลเอกชน แล้วโรงพยาบาลรัฐละ กำไรแทบจะไม่พอค่าบริหารจัดหารแล้ว อย่างนี้จะมาควบคุมด้วยไหม ยังเจ๊งไม่พออีกเหรอ

๒. มีการกำหนดชื่อสามัญทางยาให้ประชาชนทราบ ต่างจาก พรบ.ยาปัจจุบัน ซึ่งไม่มีการกำหนด เมื่อประชาชนรู้ชื่อยา สามารถลดการใช้ยาซ้ำซ้อน การป้องกันได้รับยาที่แพ้ ได้รับยาราคาถูก
ประชาชนจะรู้ชื่อยาไหม ในเมื่อคนไข้ที่เจอแต่ละวัน อ่านหนังสือไม่ออกเกือยบร้อยละ 70 คนที่อ่านออกร้อยละ 30 ก็ไม่อ่าน เรียกว่าไม่ใช้สิ่งที่มีให้เป็นประโยชน์ รู้แล้วมีประโยชน์อะไร มันจะเพิ่มประโยชน์มากขึ้นเท่าไร ในเมือ่เวลาดูยา ก็กลับแผงไปดูในส่วนที่มันไม่มีตัวอักษร ดูส่วนที่มันเป็นสีขาวๆ ถ้าวันใดบริษัทเปลี่ยนรูปแบบแผง ก็บอกไม่เคยกิน ทั้งที่อ่านหนังสืออก

๓. เปลี่ยนร้านขายยาเป็นสถานบริการเภสัชกรรม ที่ให้บริการตามมาตรฐานวิชาชีพเภสัชกรรม ผู้บริโภคได้รับการส่งมอบ แนะนำการใช้ยา ส่งเสริมสุขภาพโดยเภสัชกร ลดปัญหาเภสัชกรแขวนป้าย ร้านหมอตี๋จะสูญพันธุ์ภายใน ๑๐ ปี
GPP 8 ปี ไปไหนแล้ว เอาให้ผ่านก่อนทั้งประเทศ ทุกวันนี้ ขย 2 เพียบ แล้วก็มาพูดกันว่า ไม่ใช่หน้าที่ความรับผิดชอบ ฟังแล้วปวดตับ

๔. กำกับการส่งเสริมการขายยาและการโฆษณายาอย่างเข้มงวด
โลกทุกวันนี้เป็น world wide ไปแล้ว การส่งเสริมการขายบนโลก internet แน่ใจเหรอว่าเข้มงวดได้อย่างจริงจัง

๕. จัดระบบการทบทวนทะเบียนตำรับยาเพื่อปรับปรุงรายการยาให้มีประสิทธิภาพในการรักษามากกว่าผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ทบทวนทำไม ในเมื่อทุกวันนี้แจกยาฟรี มีประโยชน์เหรอ ส่วนข้าราชการบีบต่างๆๆนานา

๖. ประชาชนได้รับการชดเชยความเสียหายจากการใช้ยาอย่างรวดเร็วผ่านกลไกวิธีการ พิจารณาคดีผู้บริโภค และการฟ้องกลุ่ม แทนการร้องสอดตาม พรบ.วิฯ แพ่งในปัจจุบัน ทำให้ศาลมีเครืองมือในการพิจารณาคดีกรณีผู้บริโภคได้รับความเสียหายเป็น กลุ่มใหญ่ได้รวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องให้ผู้เสียหายฟ้องทุกคนจึงได้รับการชดเชย
ผมว่าหันมาดูแลผู้ให้บริการจะดีกว่ามั้ย ทุกวันนี้เหมือนโดนรุมสหบาทา

๗. ใช้มาตรการทางการปกครองเพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาของผู้บริโภค โดยเพิ่มมาตรการ ตำหนิโดยเปิดเผยต่อสาธารณชน การปรับทางการปกครอง การจำกัดการประกอบการที่เสี่ยงต่อผู้บริโภค ต่างจากกฎหมายปัจจุบันที่มีเฉพาะการพักใช้ เพิกถอนใบอนุญาต
ผมว่าหันมาดูแลผู้ให้บริการจะดีกว่ามั้ย ทุกวันนี้เหมือนโดนรุมสหบาทา คำตอบเดียวกับข้อ 6 ครับ
blacksmithday
 
โพสต์: 192
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 ก.ย. 2007, 19:21

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document