New Document









ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

ห้องเภสัชกร

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย SinWiSuth » 05 ก.พ. 2011, 01:11

ว่ากันว่า "หมอดูคู่กับหมอเดา" ผมควรทำอย่างไรดีครับ ??

^ ^
ส มั น ต ภั ท ร ::: เภ สัช ม อ นอ รุ่น เก้า
SinWiSuth
 
โพสต์: 319
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2009, 06:27
ที่อยู่: Phisanulok







Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย Sherlockophile » 05 ก.พ. 2011, 01:42

ในอนาคตถ้าร้านยาทุกร้านมีเภสัชกรอยู่ทำการตลอดเวลาผมจะออกจากงานแล้วไปเปิดร้านยาเลยคับ แต่รู้สึกว่าจะรออีกนาน
Sherlockophile
 
โพสต์: 72
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 มิ.ย. 2009, 21:59

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย Olive Green » 05 ก.พ. 2011, 06:47

Barrios เขียน:สุดท้ายมันจะแว้งเข้าหาคณะเภสัชนี่แหละ ที่อุตสาห์ผลิตกันออกมาเกิน (หมั่นไส้มานานแล้ว...)
พอ supply เกิน ก็ไม่มีคนไปเรียน


ต้นเหตุมาจากคณบดีคณะเภสัชที่เห็นแก่เงินจากพวกพ่อค้า จัดตั้งโครงการพิเศษผลิตเภสัชกร
เลยเป็นต้นแบบที่ไม่ดี เลียนแบบเอาอย่างกันไม่อายคะ
ต้องโทษคณบดีท่านนั้นนะคะ
Olive Green
 
โพสต์: 50
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ต.ค. 2010, 06:58

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย smartss » 05 ก.พ. 2011, 12:49

LeMmOy เขียน:มีกบสองตัวเป็นเพื่อนกัน เป็นกบอ้วนและกบผอม พากันไปกระโดดเล่นใกล้หม้อต้มยำ เผอิญพลัดตกลงไปในหม้อต้มยำ กบทั้งสองว่ายไปมารอบๆหม้อด้วยความทรมานก็ไม่สามารถกระโดดออกมานอกหม้อได้ กบอ้วนว่ายไปสักพักก็รำพึงว่า เราคงจะต้องตายแน่ๆเพราะอย่างไรก็คงไม่สามารถกระโดดออกพ้นหม้อต้มยำนี้ออกมาได้ ว่าแล้วกบอ้วนก็ไม่คิดที่จะว่ายอีกต่อไป ปล่อยตัวเองให้จมลงสู่ก้นหม้อ และก็ตายในที่สุด ส่วนกบผอมไม่ละความพยายาม พยายามว่ายประคองไม่ให้ตนเองต้องจมลงสู่หม้ออย่างทรมาน แต่ก็ทนไม่ไหว เพราะน้ำต้มยำก็เริ่มเดือดขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุด ต้มยำหม้อใหญ่ก็พร้อมเสิร์ฟ เสิร์ฟพร้อมกับมีโปรตีนจากเนื้อกบสองตัวอยู่ในนั้น

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ในสถานะการณ์ที่ยากเกินเยียวยา บางทีคนที่ยอมรับความจริงได้เร็ว ถึงแม้จะมีดีกรีความเจ็บเท่าๆกัน แต่อย่างน้อยก็ทรมานน้อยกว่าแน่ๆ


ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:มีกบสองตัวเป็นเพื่อนกัน เป็นกบอ้วนและกบผอม พากันไปกระโดดเล่นใกล้ถังนม เผอิญพลัดตกลงไปในถังนม กบทั้งสองว่ายไปมารอบๆถังก็ไม่สามารถกระโดดออกมานอกถังได้ กบอ้วนว่ายไปสักพักก็รำพึงว่า เราคงจะต้องตายแน่ๆเพราะอย่างไรก็คงไม่สามารถกระโดดออกพ้นถังนมออกมาได้ ว่าแล้วกบอ้วนก็ไม่คิดที่จะว่ายอีกต่อไป ปล่อยตัวเองให้จมลงสู่ก้นถัง และก็ตายในที่สุด ส่วนกบผอมไม่ละความพยายาม พยายามว่ายประคองไม่ให้ตนเองต้องจมลงสู่ก้นถัง วันหนึ่งกบผอมรู้สึกว่านมในถังมีความข้นมากขึ้น จนกบผอมสามารถกระโดดออกมานอกถังนมได้ ทั้งนี้เพราะขณะที่กบผอมว่ายในถังนม เท่ากับเป็นการคนนมอยู่ตลอดเวลาทำให้นมมีความข้นขึ้นจนในที่สุด กบผอมจึงสามารถกระโดดออกมาจากถังนมได้
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การทำอะไรก็ตามมันจะต้องมีการผิดพลาดกันได้ แต่ความผิดพลาดในอดีตคือบทเรียน คือประสพการ ที่ดีสำหรับอนาคต ถ้าเรามีความเพียร ไม่เลิกล้มความตั้งใจเสียก่อน หนทางที่จะประสพความสำเร็จย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

ทั้งสองกรณีกบที่รอด มันก็อาจต้องไปสร้างเวรกรรมให้ชาวโลกต่อไปอีกในใจคิดว่าตนแน่ หรืออาจไปถูกทรมานในรูปแบบต่างๆที่รุนแรงขึ้นอีกก็ได้

กบที่ตายมันอาจหลุดพ้นไม่ต้องทนทุกข์อีกต่อไป อาจไปเกิดเป็นเทพใดๆ โพธิสัตว์ หรือรอนิพพานก็เป็นได้
พูดความดีของเขาคือความดีของเรา
พูดความไม่ดีของเขาคือความไม่ดีของเรา
พึงทำความดี ยิ่งกว่าทำตนเป็นคนดี
ความดีมีไว้ทำ มิไช่แบกหามล่ามโซ่ตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
smartss
 
โพสต์: 320
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 18:46
ที่อยู่: กรุงเทพ


Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย white-blue » 05 ก.พ. 2011, 23:09

Olive Green เขียน:
Barrios เขียน:สุดท้ายมันจะแว้งเข้าหาคณะเภสัชนี่แหละ ที่อุตสาห์ผลิตกันออกมาเกิน (หมั่นไส้มานานแล้ว...)
พอ supply เกิน ก็ไม่มีคนไปเรียน


ต้นเหตุมาจากคณบดีคณะเภสัชที่เห็นแก่เงินจากพวกพ่อค้า จัดตั้งโครงการพิเศษผลิตเภสัชกร
เลยเป็นต้นแบบที่ไม่ดี เลียนแบบเอาอย่างกันไม่อายคะ
ต้องโทษคณบดีท่านนั้นนะคะ


ไม่แน่ใจว่ามหาลัยใหนเริ่มก่อน ระหว่าง มหาลัยมีชื่อเสียง แถวภาคเหนือ ที่หลินปิงพำนักอยู่ กับ มหาลัยมีชื่อเสียงแถวภาคอีสาน ที่ชอบซื่อหมูทุบ กับขนมตุ้บตั๊บ มาฝากเพื่อนๆเนี่ยล่ะ
แต่ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าเหนือเริ่มก่อนนะ ดีที่ตอนนี้รู้สึกตัว หยุดไปแล้ว :cool:
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย iampharmacist » 06 ก.พ. 2011, 00:32

ขอให้แสดงความคิดเห็นต่อท่านๆ ด้านล่างนี้ได้เลย ครับ ต่อเรื่องการเปิดคณะเภสัชศาสตร์ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น(แต่คุณภาพเพิ่มขึ้นหรือไม่...ยังตอบไม่ได้) และยังมีหลักสูตรเภสัชศาสตร์โครงการพิเศษต่างๆ ออกมาให้เห็นๆ กันอยู่

"ภก.ดร.วิรัตน์ ทองรอด" <freshwirat@yahoo.com>,
"ภก.ธีระ ฉกาจนโรดม" <teera.c@olic-thailand.com>,
"ภก.ผศ.ดร.ปรีชา มนทกานติกุล" <pypmt@mahidol.ac.th>,
"ภก.ผศ.ดร.มังกร ประพันธ์วัฒนะ" <mangkornp@gmail.com>,
"ภก.ภาณุโชติ ทองยัง" <parnuchote@yahoo.com>,
"ภก.รศ(พิเศษ)กิตติ พิทักษ์นิตินันท์" <kittipitak@gmail.com>,
"ภก.วรวิทย์ กิตติวงศ์สุนทร" <kworawit@gmail.com>,
"ภก.อำนวย พฤกษ์ภาคภูมิ" <amnouyppp@yahoo.com>,
"ภญ.ช้องมาศ นิติศฤงคาริน" <smartmas@hotmail.com>,
"ภญ.ดาริน จึงพัฒนาวดี" <darinaoy@gmail.com>,
"ภญ.นิภาพร บุญศรารักษพงศ์" <ni_boon@yahoo.com>,
"ภญ.ผศ.อภิฤดี เหมะจุฑา" <ajnue@hotmail.com>,
"ภญ.ยุพิน ลาวัณย์ประเสริฐ" <yupin589@hotmail.com>,
"ภญ.รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์" <jiraporn.l@chula.ac.th>,
"ภญ.รศ.ดร.จุฑามณี สุทธิสีสังข์" <pycst@mahidol.ac.th>,
"ภญ.รศ.ดร.จุไรรัตน์ นันทานิช" <jrr@su.ac.th>,
"ภญ.รศ.ดร.เฉลิมศรี ภุมมางกูร" <cpummangura@yahoo.com>,
"ภญ.รศ.ดร.บังอร ศรีพานิชกุลชัย" <bungorn@kku.ac.th>,
"ภญ.รศ.ดร.พิณทิพย์ พงษ์เพ็ชร" <pintip.p@chula.ac.th>,
"ภญ.รศ.ธิดา นิงสานนท์" <thida_n@yahoo.com>,
"ภญ.ศรีวิมล เสถียรทรัพย์" <sriwimol_ch@yahoo.com>,
"ภญ.อาภรณ์ จตุรภัทรวงศ์" <apornja@yahoo.com>,
"เลขานุการ_ภญ.รศ.ดร.เฉลิมศรี ภุมมางกูร" <phm2@siam.edu>
iampharmacist
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 12:39

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย KKU_rx » 06 ก.พ. 2011, 06:51

white-blue เขียน:
Olive Green เขียน:
Barrios เขียน:สุดท้ายมันจะแว้งเข้าหาคณะเภสัชนี่แหละ ที่อุตสาห์ผลิตกันออกมาเกิน (หมั่นไส้มานานแล้ว...)
พอ supply เกิน ก็ไม่มีคนไปเรียน


ต้นเหตุมาจากคณบดีคณะเภสัชที่เห็นแก่เงินจากพวกพ่อค้า จัดตั้งโครงการพิเศษผลิตเภสัชกร
เลยเป็นต้นแบบที่ไม่ดี เลียนแบบเอาอย่างกันไม่อายคะ
ต้องโทษคณบดีท่านนั้นนะคะ


ไม่แน่ใจว่ามหาลัยใหนเริ่มก่อน ระหว่าง มหาลัยมีชื่อเสียง แถวภาคเหนือ ที่หลินปิงพำนักอยู่ กับ มหาลัยมีชื่อเสียงแถวภาคอีสาน ที่ชอบซื่อหมูทุบ กับขนมตุ้บตั๊บ มาฝากเพื่อนๆเนี่ยล่ะ
แต่ถ้าจำไม่ผิดคิดว่าเหนือเริ่มก่อนนะ ดีที่ตอนนี้รู้สึกตัว หยุดไปแล้ว :cool:


มหาวิทยาลัยแรกเป็นมหาวิทยาลัยเขตปริมณฑลภาคตะวันตก ตอนนี้เกษียณไปแล้วแต่ยังเป็นที่ปรึกษาให้ชมรมร้านขายยาแห่งประเทศไทยร่วมกับอาจารย์วิรัตน์ ทองรอด เกาะแน่นกับชมรมยามาโดยตลอด
KKU_rx
 
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2010, 14:30

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย mmm » 06 ก.พ. 2011, 18:46

จะดีกว่านี้ ถ้าออกจากกะลาทั้งหมด
mmm
 
โพสต์: 72
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 พ.ย. 2006, 13:50

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย smartss » 09 ก.พ. 2011, 12:27


ขอเพิ่มอีนิด
ภายหลังอีกหลายชาติท่านเศรษฐีก็บำเพ็ญเพียรในชาติต่อไปอีกจนได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เทศน์สอนสาวกก็คือชายหนุ่มที่ร่ำรวยนี้กลับชาติมาเกิดเป็นพระสาวกของพระองค์ตามนิทานชาดกนี้
วันนี้ผมอยากให้ทุกคนเริ่มเห็นทางออกในชีวิตได้แล้ว เพราะวิชาชีพนี้ต้องมีใจรักมากกว่าเกียรติยศเงินทอง ถ้าเอาเงินเป็นตัวตั้งไปเล่นหุ้น หรือนักการเมืองขี้โกงดีกว่าอาชีพเภสัชกรที่รวยก็แต่คุณค่ารวยความดี เงินก็มีกินใช้ไม่ขาด ส่วนเภสัชกรที่คิดแต่เงินจะรู้สึกว่าชีวิตมันไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ หาทางออกให้กับชีวิตเถิดครับ ถ้ามัวเกาะชีวิตราชการอยู่แบบนี้ (ไม่ตั้งใจทำงานไม่เห็นแก่ประชาชน) รับประกันว่าชาตินี้และชาติหน้าอาจถูกสาปส่งให้จมไปกับเรือแน่ๆๆ :lol:
พูดความดีของเขาคือความดีของเรา
พูดความไม่ดีของเขาคือความไม่ดีของเรา
พึงทำความดี ยิ่งกว่าทำตนเป็นคนดี
ความดีมีไว้ทำ มิไช่แบกหามล่ามโซ่ตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
smartss
 
โพสต์: 320
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 18:46
ที่อยู่: กรุงเทพ

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย jinapo » 09 ก.พ. 2011, 22:32

คือว่า หนูไม่รู้คนอื่นจะคิดยังไงนะคะ หนูยังเรียนไม่จบอาจมองสังคม สถานการณ์ไม่กว้างไกลเท่าผู้ใหญ่บางท่าน
แต่สำหรับหนูแล้ว ตอนที่เลือกเข้าคณะนี้หนูเพียงแค่คิดว่าเรียนอะไรก็ได้ที่มีงานทำ เพราะที่บ้านยากจน ทำงานอะไรที่หาเลี้ยงครอบครัวได้เป็นพอ
แต่การใช้ชีวิต เล่าเรียน และเรียนรู้สิ่งต่างๆในคณะเภสัชศาสตร์มาหลายปี ได้รับการสั่งสอนอบรม ปลูกฝังอะไรหลายๆอย่างจากอาจารย์หลายๆท่าน
รวมทั้งการได้ลงชุมชนและฝึกงานหนูก็คิดว่า แม้ว่าจบไปแล้วอาจจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แต่หนูก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีพนี้
อาจารย์หลายท่านมักพูดเสมอว่า "วิชาชีพเราได้เรียนหลายอย่างที่คนอื่นไม่มีสิทธิ์ได้เรียนอย่างลึกซึ้ง ไม่มีใครรู้เรื่องยาดีไปกว่าเภสัชกร"
ทำให้หนูคิดว่าต่อให้ในวันข้างหน้าเภสัชกรอาจจะล้นตลาด แต่เราที่เป็นคนหนึ่งที่มีความรู้ด้านนี้แม้ไม่ได้ทำงานสายตรงก็น่าจะทำประโยชน์ให้สังคมได้ ทุกวันนี้นิสิตนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ก็เรียนโดยใช้ทุนรัฐบาลส่วนหนึ่ง จบมาเป็นจะทำงานเป็นอะไรถ้าหากมีหัวใจของเภสัชกรก็คงน่าจะคิดได้ว่าควรใช้ความรู้ที่เล่าเรียนมาอย่างไรให้คุ้มกับภาษีประชาชนที่เขาให้เรามาเรียนน่ะค่ะ

หนูคิดว่าถ้าเภสัชกรทุกคนทำงานด้วยหัวใจ วิชาชีพของเราไม่มีทางตกต่ำหรอกค่ะ เพราะหนูตีราคาคุณค่าหัวใจของคนไว้สูงเสมอ

ปล.ความคิดของหนูอาจจะดูเพ้อฝันในสายตาของใครหลายคน แต่หนูคิดอย่างนี้จริงๆค่ะ
jinapo
 
โพสต์: 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.พ. 2011, 21:51

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย kohboy » 10 ก.พ. 2011, 09:07

jinapo เขียน:คือว่า หนูไม่รู้คนอื่นจะคิดยังไงนะคะ หนูยังเรียนไม่จบอาจมองสังคม สถานการณ์ไม่กว้างไกลเท่าผู้ใหญ่บางท่าน
แต่สำหรับหนูแล้ว ตอนที่เลือกเข้าคณะนี้หนูเพียงแค่คิดว่าเรียนอะไรก็ได้ที่มีงานทำ เพราะที่บ้านยากจน ทำงานอะไรที่หาเลี้ยงครอบครัวได้เป็นพอ
แต่การใช้ชีวิต เล่าเรียน และเรียนรู้สิ่งต่างๆในคณะเภสัชศาสตร์มาหลายปี ได้รับการสั่งสอนอบรม ปลูกฝังอะไรหลายๆอย่างจากอาจารย์หลายๆท่าน
รวมทั้งการได้ลงชุมชนและฝึกงานหนูก็คิดว่า แม้ว่าจบไปแล้วอาจจะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย แต่หนูก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาชีพนี้
อาจารย์หลายท่านมักพูดเสมอว่า "วิชาชีพเราได้เรียนหลายอย่างที่คนอื่นไม่มีสิทธิ์ได้เรียนอย่างลึกซึ้ง ไม่มีใครรู้เรื่องยาดีไปกว่าเภสัชกร"
ทำให้หนูคิดว่าต่อให้ในวันข้างหน้าเภสัชกรอาจจะล้นตลาด แต่เราที่เป็นคนหนึ่งที่มีความรู้ด้านนี้แม้ไม่ได้ทำงานสายตรงก็น่าจะทำประโยชน์ให้สังคมได้ ทุกวันนี้นิสิตนักศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ก็เรียนโดยใช้ทุนรัฐบาลส่วนหนึ่ง จบมาเป็นจะทำงานเป็นอะไรถ้าหากมีหัวใจของเภสัชกรก็คงน่าจะคิดได้ว่าควรใช้ความรู้ที่เล่าเรียนมาอย่างไรให้คุ้มกับภาษีประชาชนที่เขาให้เรามาเรียนน่ะค่ะ

หนูคิดว่าถ้าเภสัชกรทุกคนทำงานด้วยหัวใจ วิชาชีพของเราไม่มีทางตกต่ำหรอกค่ะ เพราะหนูตีราคาคุณค่าหัวใจของคนไว้สูงเสมอ

ปล.ความคิดของหนูอาจจะดูเพ้อฝันในสายตาของใครหลายคน แต่หนูคิดอย่างนี้จริงๆค่ะ


กด Like ,
นู๋คิดได้ดีครับ, รักษาความคิดและความรู้สึกนี้ไว้นะครับ นู๋ต้องจบออกมาเป็นเภสัชกรที่ทรงคุณค่าแน่นอนเรย

ก็เข้ามาอ่านได้นี่ครับ..มาอ่านเอาความจริง เอาความเป็นไปของโลกเภสัชกรรมไทย
ส่วนเมื่อรู้แล้วเราจะพิจารณาจัดการชีวิตของตัวเองอย่างไร..ก็เป็นวิจารณญาณของเราเองหละครับ!

:razz:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kohboy
 
โพสต์: 1437
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2006, 14:51

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย iampharmacist » 11 ก.พ. 2011, 16:36

จากวิกิพีเดีย
รายชื่อคณะและสำนักวิชาเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย เป็นหน้ารวบรวมรายชื่อคณะและสำนักวิชาในระดับอุดมศึกษาที่ทำารสอนในวิชาเภสัชศาสตร์ในประเทศไทย ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 17 สถาบัน ดังรายชื่อต่อไปนี้

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ
สำนักวิชาเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
โครงการจัดตั้งคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
iampharmacist
 
โพสต์: 66
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.ค. 2006, 12:39

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 11 ก.พ. 2011, 20:02

เมื่อมีจุดมุ่งหมาย
- ก็เกิดความอยากที่จะทำให้จุดมุ่งหมายนั้นให้เป็นจริง
- เกิดความเชื่อมั่นว่าจะไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นได้
- จึงเกิดความมุ่งมั่นที่จะทำให้จุดมุ่งหมายเป็นจริง
- เมื่อมีความอยาก ความเชื่อมั่น และความมุ่งมั่น จึงมีความกล้า
- เมื่อมีความกล้า จึงลงมือทำ
- เมื่อลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น และความอยาก จึงรักษาวินัยในตัวเองได้ ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง
- เมื่อลงมือทำแล้วเกิดปัญหา หรือความติดขัด ความมุ่งมั่นที่มีอยู่ก็จะทำให้เกิดความไม่ย่อท้อที่จะทำต่อไป ไม่ล้มเลิกไปง่ายๆ
.. แล้วเมื่อทำอย่างนี้ได้ ความสำเร็จก็ไม่น่าจะหนีไปไหน ..
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35

Re: ผมจะทำนายอนาคตเภสัชกรในอนาคตให้ฟัง มามะ มาฟังกัน

โพสต์โดย george » 11 ก.พ. 2011, 20:15

ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:เมื่อมีจุดมุ่งหมาย
- ก็เกิดความอยากที่จะทำให้จุดมุ่งหมายนั้นให้เป็นจริง
- เกิดความเชื่อมั่นว่าจะไปถึงจุดมุ่งหมายนั้นได้
- จึงเกิดความมุ่งมั่นที่จะทำให้จุดมุ่งหมายเป็นจริง
- เมื่อมีความอยาก ความเชื่อมั่น และความมุ่งมั่น จึงมีความกล้า
- เมื่อมีความกล้า จึงลงมือทำ
- เมื่อลงมือทำด้วยความมุ่งมั่น และความอยาก จึงรักษาวินัยในตัวเองได้ ไม่ผลัดวันประกันพรุ่ง
- เมื่อลงมือทำแล้วเกิดปัญหา หรือความติดขัด ความมุ่งมั่นที่มีอยู่ก็จะทำให้เกิดความไม่ย่อท้อที่จะทำต่อไป ไม่ล้มเลิกไปง่ายๆ
.. แล้วเมื่อทำอย่างนี้ได้ ความสำเร็จก็ไม่น่าจะหนีไปไหน ..

ดีจังเลยครับ :razz:
george
 
โพสต์: 108
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ม.ค. 2009, 14:17

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document