New Document









ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

ห้องเภสัชกร

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย pharmakop » 26 ม.ค. 2011, 10:45

by kohboy ? Tue 25 Jan 2011 5:26 am

pharmakop wrote:

by kohboy ? Tue 25 Jan 2011 2:12 am
:roll:
อ่อนไปครับ,
ยากด้วย เพราะบางอย่างที่เสนอมาต้องแก้กฎหมายด้วย!
เสนอแบบนี้..ข้าราชการที่เคยเหลี่ยงเลี้ยงไปวันๆ จะชอบมั่กๆ เพราะแทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเลย !!



เห ลี่ยงเลี้ยงไม่ได้ครับ แต่มีแนวทางที่ชัดเจนว่าต้องทำอะไร ฝ่ายที่ต้องแก้กฏหมายก็ต้องแก้ ฝ่ายควบคุมกำกับก็ต้องทำ ผลที่ผมต้องการก็คือ เมื่อมีร้านยาคุณภาพมากขึ้น ประชาชนก็จะถูกคุ้มครองด้สนยามากขึ้น และจเริ่มรับรู้ถึงข้อดีของการมีเภสัชกร และเมื่อไหร่ที่ถึงวันนั้น เมื่อความพร้อมเริ่มเกิด 2ปีก็ประกาศได้ว่าร้านยาทุกแห่งต้องมีเภสัชกรปฏิบัติการตลอดเวลา และเป็นร้านยาคุณภาพ

หนทางที่ยาวไกล ก้าวที่ยิ่งใหญาของวิชาชีพ เริ่มต้นที่ก้าวแรกเสมอครับ


อีกอน่างที่ผมเสนอแนวนี้ เพราะ ผมเขียนไว้แล้วว่า ละมุนละม่อมที่สุด





เอาตรงๆนะครับ,
ไม่โกรธกันนะครับ,

เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ...



..." โครงการอย่างนี้ เป็นโครงการแบบข้าราชการคิด เอาไว้แก้ผ้าเอาหน้ารอด ซื้อเวลาเพื่อหายใจทิ้งหายใจขว้างเพื่อกินเงินเดือนไปวันๆแค่นั้น !! "



:twisted:



ถูกต้องครับ เป็นการคิดแบบข้าราชการ ผมทำงาน รพช. แฟนลาออก ตอนนี้ได้ร้านยาคุณภาพแล้ว จึงเรียนว่า เภสัชกรตลอดเวลาทำการ กับการเป็นเภสัชกรตลอดเวลาทำการที่เป็นร้านยาคุณภาพ แตกต่างกัน ไปในทางที่ดีขึ้น ผมจึงอยากเพิ่มจำนวนครับ ขอเรียน พี่เกาะแบบนี้ครับ(ท่านคงเป็นพี่ผม)
ราชการก็มีปัญหา ด้านการปฏิบัตินะครับ เช่น สสจ. ในภาพรวม อัตรกำลังเภสัชกร 5-7คน และการดำเนินการด้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งในหลายๆงานที่ดูแลอยู่
ปัญหาอยู่ที่ความเพียงพอ เอาจริงเอาจัง นโยบาย ผลประโยชน์ทับซ้อน น้องอยากทำ หัวหน้าไม่เอาด้วย หัวหน้าอยากทำ สสจ.ไม่เอาด้วย หลากหลายปัจจัย แต่เราต้องทำหน้าที่อยู่ตรงนั้นอยู่

รพ. พนักงานเจ้าหน้าที่ระดับอำเภอ ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอย่างมากผู้รับผิดชอบงานด้านนี้ มีแค่ 1คน การตรวจ จับ ปรับ อะไรก็ตามทำได้ค่อนข้างยาก ประกอบกับ การที่อยู่ในพื้นที่ ทำให้การตรวจ ส่วนใหญ่ใช้หลักนิติรัฐ มากกว่านิติศาสตร์ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ไม่มีปืนครับ
พี่ผมคนนึงมาทำงานใหม่ๆ ไปตรวจโรงงานน้ำดื่ม ตอนจบมาใหม่ๆ เคร่งตามแบบที่เรียนมา ปรากฎว่า วันต่อมา มีคนขับรถตาม แล้วชักปืนมาขู่ พี่เห็นก็พยายามหนี แต่ทราบได้ทันทีว่าไม่ปลอดภัย
หรือกรณี การยิงกันที่อุดร เนื่องจากขัดผลประโยชน์ ถามว่ามันคุ้มมั๊ยที่จะทำ เราเอาชีวิตเรา สร้างประโยชน์ให้วิชาชีพด้านอื่นไม่ดีหรือ
เขาต้องอยุ่ในพื้นที่อีกนาน และบางที่กลับเป็นผู้บริจาครายใหญ่ให้ รพ. จะทำอะไร ผอ.ก็ปรามอีก(อันนี้ไม่ใช่ผมนะครับ)

มีมุมอีกมุม เรื่องวิชาชีพครับ ก่อนหน้า เภสัชกร น้อยไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงมี ขย1234 ขึ้นเพื่อโอกาสการกระจายยาที่ทั่วถึง แน่นอนเป็นผลเสียมากกว่าผลดี เพราะผู้ที่ไม่มีความรู้ดำเนินการ แต่ประเทศไทยในตอนนั้น เลือกไม่ได้
ปัจจุบัน เภสัชกรล้นตลาด ร้านยาที่อยู่เต็มใเวลา เริ่มมองเห็นปัญหาการใช้ยา และรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการทำงาน จึงต้องเรียกร้อง
ความรู้สึกแบบนี้ ผมก็เคยเป็น ทำไมผมเปิดร้านยา คลินิกพยาบาลข้างๆกันก็ขายออปตัล หรืออื่นๆ ทำไม่ได้ แต่เขายังทำ จะแจ้งสสจ.ดีมั๊ย
สุดท้าย การทำหน้าที่ของเราให้ประชาชนยอมรับ กลับทำให้เขาเลิกขายไปโดยปริยายเพราะไม่มีคนซื้อเขาแล้ว เหลือเฉพาะรายการที่ให้ประกอบวิชาชีพเขาเท่านั้น จากวันั้นถึงวันนี้ ความรู้สึกขุ่นเคือง ไม่มีในใจผมเลย ผมได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราทำตัวให้มีคุณค่าเพียงพอที่เขาจะเรียกหาเราหรือยัง ภาพมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามันมีมากขึ้นและดีขึ้นกว่าสมัยก่อนที่ผมจบมาอีก
ประสบการณ์ก็เลยสอนผมว่า อย่าทำให้เขาหมดทางเลือกในทันที ให้เขามีเวลาในการตั้งตัวปรับปรุงตนเอง วางแผนบ้าง เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานที่จะถูกประกาศใช้ เพราะอย่างไร เราก็คนไทยด้วยกัน อาจออกจากวงการ หรือพัฒนาให้ได้มาตรฐาน แล้วแต่เขาจะเลือก
ข้อเสนอของผม จึงเห็นว่ามีหลายมิติ มุมมองที่จะต้องปรับแก้ ไม่ใช่แค่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวจะสำเร็จได้ เพราะเราไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น ผมยกตัวอย่างการยกเลิกการสอนวิชาแพทย์แผนโบราณที่ ศิริราช สมัย ร5 ยกเลิกไม่ทำเลย เราก็ขาดความต่อเนื่องไปมากในเรื่องนี้ก่อนที่จะเริ่มฟื้นกันใหม่ คำถามคือ แผนตะวันตกที่เข้ามาทำหใ้แผนไทยตกขอบ ก่อนหน้าที่จะเข้ามา เขาอยู่กันได้มั๊ย แบบไหน อยู่มาอย่างไร
เขาก็อยู่กันได้ แน่นอน ระบบร้านยาเราก็มีพัฒนาการมาเช่นเดียวกัน 8ร้านในอำเภอผม เหลือแค่ร้านเดียวที่ไม่ได้ส่งลูกไปเรียนเภสัชกลับมา
ผมคิดว่าตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ที่จะดำเนินการด้านนี้ให้มีความชัดเจน จึงเสนอแนวทางการแก้ปัญหาเชิงระบบ อย่างที่เห็น
วัตถุประสงค์การตั้งกระทู้ จึงอยากจะได้ข้อเสนอแนะแบบที่ พี่ธวัชชัย เขาเพิ่มเติมมา เพราะในมุมผม อาจไม่ครอบคลุมครบถ้วน จึงอยากได้เพิ่มเติม หลังจากนั้นก็จะส่งไปให้สภาเภสัช ต้นเรื่องใหญ่ที่จะทำการแทนเราได้ อย่างที่คุณ white-blue ถาม ส่ง ถึง อ.ธิดา พี่กิตติ หรือคนอื่นๆที่พอจะรู้จักอยู่บ้างให้ช่วยพิจารณาแนวทางการดำเนินงาน ในฐานะที่วิชาชีพเภสัชกร เป็นสิ่งที่ผมเป็นผมในวันนี้ และเป็นวิชาชีพที่ผมจะไม่หยุดพัฒนา จนกว่าจะสิ้นลม ครับ ด้วยความเคารพทุกความคิดเห็น
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharmakop
 
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2006, 15:41
ที่อยู่: ร้อยเอ็ด







Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย pharmakop » 26 ม.ค. 2011, 10:48

by white-blue ? Tue 25 Jan 2011 7:23 am
แล้วที่คุณเสนอ เราจะเริ่มจากอะไรก่อนดีครับ เพราะการพูดลอยๆในเว็ปบอร์ดมันก็เหมือนกับเด็ก นั่งแชต กันไปวันๆ

เอาเป็นว่าเราช่วยกันร่างหนังสือมาสักฉบับแล้ว ล่ารายชื่อเภสัชกร แล้วส่งให้คณะกรรมการสภาเภสัช ดีมั้ย?

หรือ ว่าทำหนังสือมา ผู้อาวุโสใน pharmacafe รวมตัวกันนำหนังสือไปส่งให้ถึงมือ กรรมการสภาเลย? (อันนี้ผมไม่ไปด้วยนะเพราะผมยังวัยรุ่นอยู่) :lol: :lol: :lol:

หรือ จะรวมตัวกัน เป็นกลุ่ม " เภสัชกรไทยหัวใจรักชาติ " ไปยืนกดดันที่ อนุเสาวรีดี (อันนี้เดี๋ยวทั่น นายกออกมาบอกว่า เป็นวิชีชีพที่มีเกียรติไม่ควรออกมาเดินประท้วงเหมือน ตอน พรบคุ้มครองผู้บริโภคอีก)

หรือจะเอาทางใหนดี ว่ามาเลย :smile:


ตอบให้แล้วนะครับในข้อด้านบน :smile:
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharmakop
 
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2006, 15:41
ที่อยู่: ร้อยเอ็ด

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย pharmakop » 26 ม.ค. 2011, 10:49

by ธวัชชัย วรรณสว่าง ? Tue 25 Jan 2011 7:33 am
ขอแสดงความเห็นเรื่องนี้บ้าง
การแก้ปัญหาเรื่องการแขวนป้ายของเภสัชกร
สภาเภสัชกรรม
1. จัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาร้านยาคุณภาพ
2. พัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำหรับร้านยาคุณภาพให้ไปในทิศทางเดียวกัน
3. จัดให้มีการตรวจสอบมาตรฐานของร้านยาคุณภาพทุก3ปี พร้อมแนะนำสิ่งใหม่ดีๆที่ทำให้มาตรฐานร้านดีขึ้น
4. ดำเนินการเรียกสิทธิประโยชน์ให้กับร้านยาคุณภาพ
5. ส่งเสริมให้มีศูนย์กระจายสินค้าสำหรับร้านยาคุณภาพ
6. ให้เภสัชกรอื่นสามารถปฏิบัติการแทนเภสัชกรที่มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านยาได้ โดยต้องแจ้งให้ สสจ.รับทราบด้วย
7. ร้านยาที่เปิดใหม่ภายใน 1 ปี ต้องยื่นแบบขอเป็นร้านยาคุณภาพก่อน จึงจะขอยื่นต่ออายุใบอนุญาตขายยาในปีถัดมาได้
อาหารและยา
1. ออกประชาสัมพันธ์ ร้านยาที่ประชาชนควรไปซื้อ คือ ร้านยาที่มีเภสัชกรประจำตลอดเวลาเปิดทำการ
2. ออกประชาสัมพันธ์ เรื่อง วิธีซื้อยา วิธีใช้ยา วิธีเก็บรักษายา และข้อปฏิบัติเมื่อเกิดอาการแพ้ยา อย่างถูกต้อง มีข้อสงสัยให้ถามร้านยาที่มีเภสัชกรที่อยู่ใกล้บ้านท่าน
3. ดำเนินการตามกฎหมายยาอย่างเคร่งครัด
4. แยกประเภทร้านยาขายปลีก กับ ร้านยาขายส่งออกจากกัน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)
1. ดำเนินการตามที่อาหารและยาระบุ
2. จัดให้มีการประชุมผู้ประกอบการร้านยา เภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติในร้านยา เพื่อพัฒนามาตรฐานร้านยาอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
3. ออกประชาสัมพันธ์ หรือ เอกสารความรู้เรื่องยาที่ถูกต้องให้กับประชาชนได้รับทราบเสมอ เมื่อมีปัญหาการใช้ยาไม่ถูกต้องในชุมชน
4. เภสัชสสจ.ออกชุมชนสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องยา กับ ครู พระสงฆ์ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชน กลุ่มองค์กร ประชาชนและข้าราชการการเมือง
บริษัทยาที่ได้รับ GMP
1. งดส่งเสริมการขายยาด้วยการให้รางวัลเป็นเงิน หรือการอื่นใดที่สามารถคิดคำนวณเป็นเงินได้
2. ควรให้การสนับสนุนการตรวจสอบมาตรฐานร้านยา
3. บริษัทยาต้องจัดให้มีการประชุม และอบรมความรู้เรื่องยาของบริษัทอย่างถูกต้องกับพนักงานของบริษัท ไม่ขายยาให้กับร้านยาโดยที่รู้ว่าร้านยานำไปจ่ายให้กับประชาชนด้วยความเชื่อ ที่ผิดๆ
4. รับเปลี่ยนยาก่อนยาหมดอายุ 6 เดือน
มหาวิทยาลัย และ นศภ.
1. ให้ นศภ.ทำงานวิจัยเรื่อง?ข้อแตกต่างระหว่างร้านยาทั่วไป กับร้านยาคุณภาพ?โดยแยกเป็นรายภาค เมืองท่องเที่ยว และกรุงเทพฯ
2. ให้มีการประเมินผลการฝึกงานของ นศภ. ถ้ายังปฏิบัติในร้านยาไม่คล่อง ให้มาฝึกต่อในวันหยุดราชการจนกว่าจะคล่อง
3. ให้อาจารย์คณะเภสัชฯที่ออกตรวจ นศภ.ฝึกงานได้คุยแลกเปลี่ยนความรู้และประสพการกับเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการในร้านยา
สรุป การแก้ปัญหาเรื่อง เภสัชกรแขวนป้าย คือ เน้นให้การสนับสนุน ส่งเสริม และปกป้อง เภสัชกรที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะเดียวกันมีการ ว่ากล่าว ตักเตือน และลงโทษเภสัชกรที่ละเลยที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย ต้องทำทันทีและติดต่อกันตลอดไป จึงจะแก้ปัญหาได้แน่นอน


ขอบคุณครับพี่ธวัชชัย ผมจะนำไปเติมในส่วนที่ต่างครับ :biggrin:
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharmakop
 
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2006, 15:41
ที่อยู่: ร้อยเอ็ด

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย kohboy » 26 ม.ค. 2011, 13:10

apotheker เขียน:ผมว่าเรื่องนี้มันครบหมดแล้ว ทั้งวิธีการ อำนาจ หน้าที่ กำลังคน ขาดอยู่อย่างเดียวแหละครับ ขาดความจริงใจในการทำงานให้เป็นจริง ของท่านผู้มีอำนาจ แค่นั้นเอง
ลองให้กรรมการสภาเภสัชสักท่านเดียวเท่านั้นแหละ เป็นเจ้าภาพ ดำเนินการฟ้องร้อง จรรยาบรรณของเภสัชแขวนป้าย ฟ้องมันไปเรื่อยๆ ออกสื่อตีข่าวไปด้วย เภสัชเลิกแขวนป้าย ร้านหมอตี๋ก็อยู่ไม่ได้ไปเอง


เอาเป็นว่าผมเห็นด้วยกับแนว.." ฮาร์ดคอร์" ก็แล้วกัน


อย่าให้ต้องวิจารณ์แนว.." ร้านยาคุณภาพ" เลยครับ,
เดี๋ยวจะเคืองกันป่าวๆ

ผมมันคนประเภทที่มองเห็นความเป็นมา และความเป็นอยู่ ในส่วนของความเลวในร้านยาคุณภาพที่มีอยู่ในปัจจุบัน ครับ
ยิ่งคิด ยิ่งไม่เห็นด้วยกับแนวทางละมุน อย่างที่ จขกท.ว่ามา เพราะหากมีการติดอาวุธให้โจร..โจรมันจะยิ่งกำแหง แล้วมันก็จะมีอาวุธหนักๆมาทำลายสังคมได้มากกว่าคนทั่วไป แถมจะฆ่าตายหมด ปลาซิวปลาสร้อยลูกเล็กเด็กแดง พวกเด็กอ่อนหัดจบใหม่..ไม่มีทางได้มีที่ทำกินดีๆ อย่างมากก็แค่พอหากินหาอยู่ไปวันๆ

เห็นท่าจะต้องบาย!!

:cool: :cool:
ภาพประจำตัวสมาชิก
kohboy
 
โพสต์: 1437
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 พ.ค. 2006, 14:51

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย battyz » 28 ม.ค. 2011, 09:34

มาเชียร์คุณ PHARMAKOP กะพี่ธวัชชัยครับ
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย battyz » 28 ม.ค. 2011, 17:57

pharmakop เขียน:

สุดท้าย การทำหน้าที่ของเราให้ประชาชนยอมรับ กลับทำให้เขาเลิกขายไปโดยปริยายเพราะไม่มีคนซื้อเขาแล้ว เหลือเฉพาะรายการที่ให้ประกอบวิชาชีพเขาเท่านั้น จากวันั้นถึงวันนี้ ความรู้สึกขุ่นเคือง ไม่มีในใจผมเลย ผมได้แต่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เราทำตัวให้มีคุณค่าเพียงพอที่เขาจะเรียกหาเราหรือยัง ภาพมันชัดเจนอยู่แล้วว่ามันมีมากขึ้นและดีขึ้นกว่าสมัยก่อนที่ผมจบมาอีก

ประสบการณ์ก็เลยสอนผมว่า อย่าทำให้เขาหมดทางเลือกในทันที ให้เขามีเวลาในการตั้งตัวปรับปรุงตนเอง วางแผนบ้าง เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานที่จะถูกประกาศใช้ เพราะอย่างไร เราก็คนไทยด้วยกัน อาจออกจากวงการ หรือพัฒนาให้ได้มาตรฐาน แล้วแต่เขาจะเลือก
ข้อเสนอของผม จึงเห็นว่ามีหลายมิติ มุมมองที่จะต้องปรับแก้ ไม่ใช่แค่การบังคับใช้กฎหมายอย่างเดียวจะสำเร็จได้
เพราะเราไม่ได้มีอำนาจมากขนาดนั้น


เราทำตัวให้มีคุณค่าเพียงพอที่เขาจะเรียกหาเราหรือยัง
เจ๋งอ่ะ ทำอย่างไรให้เราได้มีโอกาสหรือมีแรงสนับสนุนเพิ่อแสดงบทบาท
เภสัชกรได้เต็มที่ ให้ลูกค้าเรา เขาคิดได้ตั้งแต่ปวดหัวที่บ้าน ว่าเราต้องกำเงินไปร้านเภสัชกรเท่านั้น

อย่าทำให้เขาหมดทางเลือกในทันที ให้เขามีเวลาในการตั้งตัวปรับปรุงตนเอง วางแผนบ้าง เพื่อให้เข้ากับมาตรฐานที่จะถูกประกาศใช้ เพราะอย่างไร เราก็คนไทยด้วยกัน อาจออกจากวงการ

โบราณว่าอย่าไล่อะไรให้จนตรอกครับ เขาจะได้ขยับขยายที่จะพัฒนาหรือมีทางเลือกอื่นๆมั่ง

มาให้กำลังใจ คุณ PHARMAKOP ครับ
เหมือนเชียร์ LIVERPOOL น่านแหละ
เริ่มวันนี้ พรุ่งนี้จะได้เป็นแชมป์ PREMIER LEAGUE ซ้ากที
นี่ก้อรอมานานละ
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย pharmakop » 31 ม.ค. 2011, 01:45

มาให้กำลังใจ คุณ PHARMAKOP ครับ
เหมือนเชียร์ LIVERPOOL น่านแหละ
เริ่มวันนี้ พรุ่งนี้จะได้เป็นแชมป์ PREMIER LEAGUE ซ้ากที
นี่ก้อรอมานานละ


ขอบคุณมากครับ วกมาจนได้ แต่ก็อย่างว่าครับ ทนมาได้ก็ตั้งนาน เริ่มตอนนี้อกีสองปีเปลี่ยน ก็หวังว่าแค่สองครับ คงไม่แก่ตายไปซะก่อน 555
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharmakop
 
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2006, 15:41
ที่อยู่: ร้อยเอ็ด

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย pharmakop » 31 ม.ค. 2011, 01:54

ผมมันคนประเภทที่มองเห็นความเป็นมา และความเป็นอยู่ ในส่วนของความเลวในร้านยาคุณภาพที่มีอยู่ในปัจจุบัน ครับ


เรื่องนี้ ผมเห็นด้วยนะครับ มันยังดีไม่เพียงพอต่อการการันตีว่า ร้านนี้ได้คุณภาพจริงๆ แนวคิดดี แต่ระบบยังแยาอยู่จึงต้องแก้ไขและพัฒนาให้จริงจังกว่านี้อีกมากครับ ในความเห็นผม ก็ต้องมีคนสุ่มตรวจด้วยอีกแรง หรือวิธีการอื่นๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
pharmakop
 
โพสต์: 227
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2006, 15:41
ที่อยู่: ร้อยเอ็ด

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย smartss » 31 ม.ค. 2011, 11:20

pharmakop เขียน: เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่แต่ไม่มีปืนครับ
พี่ผมคนนึงมาทำงานใหม่ๆ ไปตรวจโรงงานน้ำดื่ม ตอนจบมาใหม่ๆ เคร่งตามแบบที่เรียนมา ปรากฎว่า วันต่อมา มีคนขับรถตาม แล้วชักปืนมาขู่ พี่เห็นก็พยายามหนี แต่ทราบได้ทันทีว่าไม่ปลอดภัย
หรือกรณี การยิงกันที่อุดร เนื่องจากขัดผลประโยชน์ ถามว่ามันคุ้มมั๊ยที่จะทำ เราเอาชีวิตเรา สร้างประโยชน์ให้วิชาชีพด้านอื่นไม่ดีหรือ
เขาต้องอยุ่ในพื้นที่อีกนาน และบางที่กลับเป็นผู้บริจาครายใหญ่ให้ รพ. จะทำอะไร ผอ.ก็ปรามอีก(อันนี้ไม่ใช่ผมนะครับ)

เห็นความรุนแรง ตกใจ
บอกกันแบบนี้ เดี๋ยวพวก แรงๆรู้จุดอ่อนเอาวิธีนี้มาใช้บีบเจ้าหน้าที่ให้จัดการร้านแขวนป้ายมั่งน้า
แต่ไงเภสัชเราคงไม่ร้าย ไม่โดนกดดันบีบมากจนให้ทำงี้หรอก เภสัชกรกับผู้บริโภคพัฒนาไปพร้อมๆกันสอดคล้องยั่งยืนกว่ากว่า
พูดความดีของเขาคือความดีของเรา
พูดความไม่ดีของเขาคือความไม่ดีของเรา
พึงทำความดี ยิ่งกว่าทำตนเป็นคนดี
ความดีมีไว้ทำ มิไช่แบกหามล่ามโซ่ตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
smartss
 
โพสต์: 320
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 18:46
ที่อยู่: กรุงเทพ

Re: ไม่บ่น ไม่ด่าใคร ทางแก้ไข เภสัชกรแขวนป้ายกับร้านยาคุณภาพ

โพสต์โดย Ham bun » 02 ก.พ. 2011, 06:16

ขอเพิ่มอีกข้อละกัน เชื่อว่าจะได้ผลเยอะเลย ไม่เชื่อลองทำแบบสอบถามก็ได้ว่าถ้ามีข้อนี้จะยอมเลิกแขวนป้ายมั้ย
เพราะเราเชื่อว่า พี่น้องเภสัชเรา ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นคนไม่ดี
เหมือนถ้าข้าวยากหมากแพง โจรก็เยอะขึ้น ถ้าเลือกได้โจรหลายคนก็ไม่ได้อยากเป็นโจรหรอก
(มองมิติทางสังคมด้วยอ่ะนะ)

ขอให้ยกเลิกเงินไม่ทำเวช 5000 เนี่ย เปลี่ยนมาให้เป็นเงินค่าวิชาชีพแทน 5000
คือใครจะไปทำเอกชน Parttime เงินส่วนนี้ก็ยังได้อยู่
เพราะในทางปฏิบัติถึงไม่ทำเวชข้างนอกก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้ทำงานใน รพ ได้มากขึ้น
และก็ไม่ได้เห็นว่าทำ Parttime แล้วมันจะก่อความเสียหายมากมาย และจริงๆมันก็มีข้อดีด้วยในแง่ของ
เพิ่มพูนประสบการณ์ Service mind มีมากขึ้น
Ham bun
 
โพสต์: 63
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 02:16

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document