New Document









ต่อไปจะขายทรานซามินต้องมีใบสั่งยาแล้วครับ

ห้องเภสัชกร

Re: ต่อไปจะขายทรานซามินต้องมีใบสั่งยาแล้วครับ

โพสต์โดย bannakan » 13 ม.ค. 2011, 13:09

Barrios เขียน:
cannabis เขียน:แก้ปัญหาได้งี่เง่ามาก.....พรรคประชาธิปปัตย์ อย่างหวังว่าตระกูลผมจะเลือกอีกเลย (เหตุผลมีทั้งเศรษฐกิจ ดินแดนไทย ฯลฯ)

out off label ไอ้คนงี่เง่า ไปดูที่คลินิกแพทย์พวกเสริมความงามจ่ายยาหน่อยสิ ว่าคลินิกหรือร้านยาจ่ายเยอะกว่ากัน

สภาเภสัชมันไปมุดหัวที่ไหนอีกแล้ว มาปกป้องวิชาชีพเป็นไหม ถ้าไปปัญหามันอยู่ที่ร้านยาแขวนป้าย ก็จัดการมันให้จริงจังสักทีสิ


พรรคไหนก็แก้แบบนี้แหละ แก้แบบขำขำ
แล้วสภาก็ออกมาให้ข่าวแล้วว่า "ยาอันตรายนะจ๊ะ ให้ใช้ให้ถูกที่"

---ถ้าจะเลือกแก้ให้ดีให้คงทนน่าจะแก้เรื่องความขาว มันจะขาวกันไปทำไม ปิดไฟก็มองไม่เห็นและ :mrgreen:


แล้วจะปิดทำไม อิอิ :mrgreen:
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
bannakan
 
โพสต์: 151
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ค. 2007, 23:09







Re: ต่อไปจะขายทรานซามินต้องมีใบสั่งยาแล้วครับ

โพสต์โดย ประชาสัมพันธ์สภาเภสัชกรรม » 13 ม.ค. 2011, 14:30

สภาเภสัชกรรมเตือนระวังอันตรายจากการกินยาให้ผิวขาว
วอนประชาชนปรึกษาเภสัชกรเพื่อใช้ยาอย่างถูกต้อง

รศ. ภญ. ธิดา นิงสานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีการนำยาที่มีฤทธิ์ในการห้ามเลือด ชื่อทรานีซามิก หรือมีชื่อการค้าที่รู้จักกันว่า ทรานซามีน มารับประทาน โดยเชื่อว่าจะช่วยรักษาฝ้าและทำให้ผิวขาวขึ้นนั้น อาจมีอันตรายถึงชีวิต

ยาทรานีซามิกนี้ในประเทศไทยขึ้นทะเบียนเป็นยา และมีประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโรคเลือดไหลหยุดยาก หรือเลือดออกมากผิดปกติ โดยมีฤทธิ์ในการห้ามเลือด จากการศึกษาในสัตว์ทดลองโดยการทายาบนผิวหนังที่ผ่านการส่องด้วยรังสียูวีบีพบว่า ปริมาณเม็ดสีเมลานินที่ผิวหนังลดลง และเมื่อศึกษาโดยการฉีดเข้าผิวหนังบริเวณที่เป็นฝ้า พบว่าผิวสว่างขึ้น จึงทำให้เกิดกระแสการนำยามาใช้ในการรักษาฝ้า และทำให้ผิวขาวกันอย่างแพร่หลาย ทั้งที่การศึกษาดังกล่าวยังศึกษาในผู้ป่วยจำนวนน้อย และในสัตว์ทดลองเท่านั้น

สำหรับยาในรูปแบบรับประทานยังขาดการศึกษาในคนที่ถูกต้องตามหลักวิชาการว่า การใช้ยาจะช่วยให้ผิวขาวขึ้นได้จริงหรือไม่ การนำยามารักษาฝ้าหรือทำให้ผิวขาวโดยขาดการคำนึงถึงผลข้างเคียงของยาที่ช่วยเร่งการแข็งตัวของเลือด อันอาจนำไปสู่การอุดตันของหลอดเลือดดำ ซึ่งถ้าไปอุดตันที่อวัยวะสำคัญ เช่น ปอด หรือสมอง ก็อาจทำให้เกิดอันตรายถึงชีวิตได้

ขณะนี้สภาเภสัชกรรมได้เร่งส่งเสริมให้เภสัชกรร้านยาและโรงพยาบาล ช่วยให้คำแนะนำแก่ประชาชนในเรื่องการใช้ยาอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและสุขภาพของประชาชน และท่านยังย้ำเพิ่มเติมว่า ประชาชนไม่ควรซื้อยาทรานีซามิก มารับประทานเพื่อหวังผลให้ผิวขาวขึ้น ควรรอข้อมูลการศึกษาที่ยืนยันประสิทธิภาพและความปลอดภัยของยาอย่างชัดเจนก่อน

?สภาเภสัชกรรมได้ร่วมมือกับสมาคมวิชาชีพเภสัชกรรมที่เกี่ยวข้อง ในการจัดอบรมส่งเสริมความรู้เภสัชกรอย่างต่อเนื่อง และหากประชาชนมีข้อสงสัยทางยา ท่านสามารถปรึกษา เภสัชกร ได้ทุกครั้งเมื่อไปที่ร้านยาหรือโรงพยาบาล ? รศ. ภญ. ธิดา นิงสานนท์ กล่าวเสริม


?อยากรู้เรื่องยา ปรึกษาเภสัชกร?
[pdf][/pdf]
ภาพประจำตัวสมาชิก
ประชาสัมพันธ์สภาเภสัชกรรม
 
โพสต์: 18
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 มิ.ย. 2010, 14:43

Re: ต่อไปจะขายทรานซามินต้องมีใบสั่งยาแล้วครับ

โพสต์โดย Piggy Bunny » 13 ม.ค. 2011, 15:08

anan เขียน:ท่านประชาสัมพันธ์สภา ฯ พูดถูกคะ ...ในฐานะเภสัชกรจึงควรให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยเพื่อให้เกิดการใช้ยาอย่างเหมาะสม โดยยึดถือ สุขภาพของผู้ใช้เป็นเหมายสูงสุด

ตอนนี้บ้านเมืองเราดูแปลกประหลาดพิกลพิการ เพราะคนที่ควรทำหน้าที่ไม่ทำหน้าที่ให้ถูกระบบ
พอมี drug abuse ทีหนึ่งก็มีมาตรการแปลก ๆ พิลึก ๆ ทำให้คนที่เขาจำเป็นจะต้องใช้ยานั้นลำบากลำบน เข้าไม่ถึงยาไปอีก
เอาง่าย ๆ กรณียานี้ ปกติหมอก็จ่ายให้กับคนที่เลือดประจำเดือนมากผิดปกติอยู่แล้ว เดือนหนึ่งก็กินไม่กี่ครั้ง ถ้าเอายานี้มาเข้าระบบที่คิดง่าย ๆ ปัดความรับผิดชอบอย่างที่เป็นอยู่ ก็จะทำให้คนไข้ต้องเสียเวลาไปรอคิวหาหมอทุกเดือน เพื่อรับยามากินสองสามวัน ให้เลือดหยุด ประหลาดดีไหมคะ ...

ก็ให้เภสัชกรจริง ๆ นี่แหละคะ ช่วยดูแลการใช้ยา ADR ที่อาจเกิดขึ้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเกินความสามารถเภสัชกรนี่คะ สังเกตด้วยตาและซักถามก็ได้แล้ว และก็ไม่ใช่พิษเฉียบพลันด้วย ก็สามารถส่งต่อหมอได้แล้ว ถ้าพบ ADR

ส่วนที่เภสัชกรแนะนำแล้วไม่เชื่อ เพราะอะไรละคะ เพราะเขาเชื่อหมอผิวหนังมากกว่าไงคะ แล้วไงละคะ ยาตัวเดียวกันไหม อ้อ ที่หมอให้กินนะไม่ใช่เด็ก ๆ นะคะ high dose ด้วย ใน leaflet ให้ใช้แค่ 1-2 เม็ด แต่หมอให้กินตั้ง 3 เม็ดต่อครั้ง อย่างนี้ท่านรัฐมนตรีควรจะโทษใครดีคะ ...

เอ การใช้ยานอกอินดิเคชั่นในทะเบียนนี่ มันมักเกิดจากใครหนอ นอกจากอาชีพที่แตะต้องไม่ใคร่จะได้แล้ว ก็ยังมี "เภสัชกรปลอม" อีกพะเรอเกวียนคะ คุณขา

ไม่อยากจะพูดดดดด ....แล้วก็ให้เภสัชดี ๆ อย่างพวกเรามาเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวกันไป



กด Like แบบ infinity .......
ภาพประจำตัวสมาชิก
Piggy Bunny
 
โพสต์: 113
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ก.พ. 2010, 17:44

Re: ต่อไปจะขายทรานซามินต้องมีใบสั่งยาแล้วครับ

โพสต์โดย DeXa » 20 ม.ค. 2011, 11:05

Piggy Bunny เขียน:
anan เขียน:ท่านประชาสัมพันธ์สภา ฯ พูดถูกคะ ...ในฐานะเภสัชกรจึงควรให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยเพื่อให้เกิดการใช้ยาอย่างเหมาะสม โดยยึดถือ สุขภาพของผู้ใช้เป็นเหมายสูงสุด

ตอนนี้บ้านเมืองเราดูแปลกประหลาดพิกลพิการ เพราะคนที่ควรทำหน้าที่ไม่ทำหน้าที่ให้ถูกระบบ
พอมี drug abuse ทีหนึ่งก็มีมาตรการแปลก ๆ พิลึก ๆ ทำให้คนที่เขาจำเป็นจะต้องใช้ยานั้นลำบากลำบน เข้าไม่ถึงยาไปอีก
เอาง่าย ๆ กรณียานี้ ปกติหมอก็จ่ายให้กับคนที่เลือดประจำเดือนมากผิดปกติอยู่แล้ว เดือนหนึ่งก็กินไม่กี่ครั้ง ถ้าเอายานี้มาเข้าระบบที่คิดง่าย ๆ ปัดความรับผิดชอบอย่างที่เป็นอยู่ ก็จะทำให้คนไข้ต้องเสียเวลาไปรอคิวหาหมอทุกเดือน เพื่อรับยามากินสองสามวัน ให้เลือดหยุด ประหลาดดีไหมคะ ...

ก็ให้เภสัชกรจริง ๆ นี่แหละคะ ช่วยดูแลการใช้ยา ADR ที่อาจเกิดขึ้นก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเกินความสามารถเภสัชกรนี่คะ สังเกตด้วยตาและซักถามก็ได้แล้ว และก็ไม่ใช่พิษเฉียบพลันด้วย ก็สามารถส่งต่อหมอได้แล้ว ถ้าพบ ADR

ส่วนที่เภสัชกรแนะนำแล้วไม่เชื่อ เพราะอะไรละคะ เพราะเขาเชื่อหมอผิวหนังมากกว่าไงคะ แล้วไงละคะ ยาตัวเดียวกันไหม อ้อ ที่หมอให้กินนะไม่ใช่เด็ก ๆ นะคะ high dose ด้วย ใน leaflet ให้ใช้แค่ 1-2 เม็ด แต่หมอให้กินตั้ง 3 เม็ดต่อครั้ง อย่างนี้ท่านรัฐมนตรีควรจะโทษใครดีคะ ...

เอ การใช้ยานอกอินดิเคชั่นในทะเบียนนี่ มันมักเกิดจากใครหนอ นอกจากอาชีพที่แตะต้องไม่ใคร่จะได้แล้ว ก็ยังมี "เภสัชกรปลอม" อีกพะเรอเกวียนคะ คุณขา

ไม่อยากจะพูดดดดด ....แล้วก็ให้เภสัชดี ๆ อย่างพวกเรามาเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวกันไป



กด Like แบบ infinity .......


ตามมากด like ด้วยคนค่ะ โดนใจ :biggrin:
DeXa
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 มี.ค. 2010, 16:35

ย้อนกลับ

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document