New Document









อยากรู้

ห้องเภสัชกร

อยากรู้

โพสต์โดย bodin705 » 21 ธ.ค. 2010, 16:50

เขามาอ่านกระทู้บ่อยๆและจิตใจเสื่อมโทรม เห็นปัญหาของเภสัชกรหลายๆคนก็เห็นใจ นึกสะท้อนถึงตัวเอง ปัญหาที่จอบ่อยๆก็เรื่องแขวนป้ายนี่แหละ ผมเป็น นศภ คนนึงอยู่ในสถาบันที่ผมรักและภูมิใจ รักในวิชาชีพ ไปทำกิจกรรมอื่นๆร่วมกับ สนภท ก็มีรณรงค์ไม่แขวงป้ายอยู่ตลอด แต่นี่เห็นผู้ใหญ่ทำผิดกันซะเอง(ผู้ใหญ่คนที่ไม่ได้ทำผมก็ให้ความเคารพนับถือ) แล้วจะเอาอะไรไปสอนเด็ก อยากรู้ อย. สสจ. สธ. สภา ไม่ทำอะไรเลยหรอ ร้านแขวนป้ายก็เห็นกันเยอะแยะแต่ไม่ทำอะไร ไม่ต้องบอกว่าต้องแจ้งหรอก เดินไปหน้าปากซอยก็เจอแล้ว เห็นแล้วเสียดายวิชาชีพที่เรียนมา มีความรู้หามีคุณธรรมไม่ เห็นใจคนที่เค้าทำดี อยากรู้ถ้ารณรงค์ให้ นศภ ทุกคนทุกสถาบันแขวนป้ายให้หมดเลย จะมีใครทำอะไรไหม :exclaim:
bodin705
 
โพสต์: 35
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 15:02







Re: อยากรู้

โพสต์โดย apotheker » 21 ธ.ค. 2010, 17:12

ผมเคยบอกน้องๆที่มาฝึกงานว่า น้องๆนี่แหละจะเคลื่อนไหวเรื่องนี้ได้ดีที่สุด เพราะถ้าพวกพี่ๆทำบางคนก็จะมองว่าเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทำเพื่อทำลายคู่แข่งทางการค้า แต่พลังของนักศึกษาเป็นพลังที่บริสุทธิ์ และประโยชน์ที่ได้ก็ได้กับพวกเราเองนั้นแหละเมื่อจบมาแล้วก็หางานทำง่ายขึ้น ตั้งเป็นชมรมขึ้นมาปรึกษาอาจารย์ทางด้านกฎหมาย ฟ้องร้องเิอาผิดร้านยาและเภสัชกรที่แขวนป้ายในพื่นที่ให้เป็นตัวอย่างสักราย2ราย ถ้า สสจ.ไม่ทำอะไร ก็ฟ้องสสจ.ซะเลย ฐานละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ออกสื่อตีข่าวให้ดังๆ เชือดไก่ให้ลิงดูสัก5ตัว10ตัว เดี๋ยวมันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเอง
รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
apotheker
Global Moderator
 
โพสต์: 2435
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.พ. 2004, 11:48
ที่อยู่: simcity

Re: อยากรู้

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 21 ธ.ค. 2010, 17:26

ใครเขาจะทำอย่างไรก็ช่าง ถ้าเราเห็นว่ามันไม่ดี เราไม่ทำตามอย่างเขา เท่านั้นก็ช่วยได้มากแล้ว
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35

Re: อยากรู้

โพสต์โดย dussadee » 21 ธ.ค. 2010, 21:38

เรียนพี่ธวัชชัยที่เคารพค่ะ

หนูเข้าใจที่พี่ธวัชชัยพยายามสอนเป็นอย่างดีค่ะ การทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ก่อนที่จะให้คนอื่นทำอะไร เราควรจะทำตัวเราให้ดีเสียก่อนใช่มั๊ยคะ

แต่ที่หนูไม่เข้าใจคือ เพราะอะไรถึงมีการแขวนป้ายอยู่อย่างเกลื่อนเมือง บางครั้งคนที่แขวนป้ายกลับเป็นเจ้าที่ที่รับผิดชอบดูแลกฎเอง บางครั้งก็รู้สึกน้อยใจขึ้นมาว่าทำไมการทำสิ่งที่ถูกต้องมันถึงกลายเป็นจุดอ่อนในบางที ยกตัวอย่างง่ายๆที่หนูประสบเองค่ะ ร้านยาแถวร้านหนูมี7ร้าน แขวนป้าย 5 ร้าน และ 5/7 ร้านที่แขวนป้ายเป็นร้านที่มีเจ้าของคนเดียวกัน ทุนหนา ขายยาราคาถูกมาก เช่น zyrtec กล่องละ 98-100 บาท และหนูเข้าใจเป็นอย่างดีค่ะ ว่าจะต้องแยก2เรื่องออกจากกันคือ ร้านยาแขวนป้าย และร้านที่มีทุนหนา มีหลายร้าน แต่ที่พบก็คือร้านพวกนี้แขวนป้ายหมด อย่างไม่น่าเชื่อค่ะ

ลูกค้าหนูมีหลายประเภทค่ะ ประเภทแรก คือ ซื้อยาและถามหาเภสัชกรทุกครั้ง ไม่เกี่ยงราคา ประเภทที่สองคือ ซื้อยาเน้นถูก ใครขายไม่รู้ ไม่สนใจ เป็นมากไปหาหมอก็จบเรื่อง และประเภทสาม คือ ซื้อยา ถามหาเภสัชกรทุกครั้ง และต้องการยาถูกๆ ถ้าไม่ถูก ก็จะไปซื้อยาร้านที่ถูกแล้วเอายามาถาม จริงๆแล้วหนูบริการทุกประเภทแหละค่ะ และพยายามอย่างมากที่จะแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างการรับยาที่จ่ายโดยเภสัชกรและคนทั่วไป แต่หลายครั้งหนูได้คำตอบกลับมาว่า ลูกค้าไม่รู้หรอก ใครเป็นหรือไม่เป็นเภสัช หรือไม่ก็ อ้าว..ร้านนั้นไม่ใช่เภสัชหรอกเรอะ เห็นใส่เสื้อขาว และบอกว่าชั้นนี่แหละเภสัช ขึ้นป้ายร้านก็ขึ้นว่า ขายยาโดยเภสัชกร ใบอนุญาตก็มี ทำไมขายได้ล่ะ หนูตอบได้ทุกคำถาม ยกเว้นทำไมขายได้ล่ะ หนูกระอักกระอ่วนใจที่จะต้องตอบเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะจริงๆแล้วถ้าพูดไปมันก็เข้าวิชาชีพเราเอง

คือที่หนูขออนุญาตแสดงความคิดเห็นในส่วนนี้ หนูทราบดีค่ะว่าพี่ธวัชชัยเคยประสบเหตุการณ์อย่างหนูมาแล้วทั้งสิ้น และยังยืนอยู่ได้อย่างแข็งแรง แต่หนูกังวลอย่างที่สุดค่ะ กังวลว่าจะมีเภสัชกรดีๆสักกี่คนที่จะมีรากและลำต้นที่แข็งแรงอย่างพี่ ไม่ล้มตายไปก่อนที่จะประสบความสำเร็จ หรือเปลี่ยนทัศนคติในการดำรงไว้ซึ่งจริยธรรมในการประกอบวิชาชีพอย่างเข้มแข็งแล้วไปแขวนป้ายประชดชีวิตเภสัชกรไปอย่างนั้น

และสุดท้ายหนูก็คงได้แต่หวังว่าวิชาชีพเราจะไม่เป็นที่ดูถูกของวิชาชีพอื่น หรือ ประชาชนเข้าใจบทบาทและความสำคัญของพวกเราอย่างแพร่หลาย ซึ่งแน่นอนค่ะ การที่จะให้คนอื่นเห็นคุณค่าของเรา เราต้องทำตัวให้ดีเสียก่อน หนูก็จะทำต่อไปค่ะ และจะรอวันที่หนูหวังไว้ปรากฏอย่างชัดเจน หากไม่เสียชีวิตไปซะก่อน "เมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ เภสัชกร(ดีๆ)จะเป็นใหญ่ในวงการยาค่ะ"

ขอบคุณค่ะ :razz: :razz:
ภาพประจำตัวสมาชิก
dussadee
 
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2008, 08:53

Re: อยากรู้

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 22 ธ.ค. 2010, 13:22

ตอบคุณ dussadee
อนาคตของร้านยาของเภสัชกรชุมชน
ผมขายยามาแล้ว 39 ปี แต่เมื่อย้อนหลังไปประมาณ 15 ปี ผมมีความคิดว่าผมเป็นเภสัชกร หากผมขายยาเหมือนๆกับร้านยาอื่นที่เป็นคู่แข่งขันกับผม นอกจากจะไม่ทำให้วิชาชีพเภสัชกรรมในประเทศไทยได้พัฒนาขึ้นแล้ว เวลาที่มีอะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นในร้านยาที่ไหนก็ตาม ผมจะเป็นเป้าหมายโดนโจมตีก่อนว่า การกระทำอย่างนี้แม้แต่ร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้ปฏิบัติการในร้านยังทำเลย ผมจึงมีความคิดว่าร้านยาของผมต้องทำให้แตกต่างกว่าร้านยาอื่น โดยใช้วิชาชีพที่ผมเรียนมาเป็นหลักในการสร้างความแตกต่าง ผมได้ทบทวนวิชาที่เรียนมาอีกครั้ง และพยายามปรับความรู้ให้ทัดเทียมกับเภสัชกรรุ่นใหม่ๆ นอกจากนั้นผมได้ปรับปรุงร้านยาของผมให้ทันสมัยขึ้น เพราะผมรู้ว่าคนรุ่นใหม่ชอบความทันสมัย ผมได้พยายามศึกษา และติดตาม กลยุทธ์ต่างๆและวิธีการบริหารงานของร้านสะดวกซื้อ พยายามสังเกตความแตกต่างระหว่างร้านสะดวกซื้อ กับร้านโชวห่วย แล้วนำมาจดไว้ในข้อที่ดีของร้านสะดวกซื้อ และร้านโชวห่วย เป็นข้อๆ แล้วนำมาปรับปรุงใช้กับร้านยาผมเสมอ
สำหรับสถานการณ์ร้านยาในปัจจุบันเท่าที่ผมทราบ
ร้านยาแขวนป้ายที่เจ้าของร้านไม่ใช่เภสัชกร และไม่มีลูกหลาน หรือญาติพี่น้องเป็นเภสัชกรนั้น เขากำลังเกิดความท้อแท้ เพราะคิดว่าคงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงร้านยาตามความเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภครุ่นใหม่ๆได้ แต่เขาก็ยังมีลูกค้าเก่าๆอยู่บ้าง
สำหรับร้านยาที่เจ้าของร้านไม่ใช่เภสัชกร แต่มีลูกหลาน หรือญาติพี่น้องที่เป็นเภสัชกร และเอาเพียงชื่อของเภสัชกรมาแขวนป้าย ตัวของเภสัชกรไปทำงานที่อื่น เขาคิดว่าถ้ากฎหมายบังคับจริงจังเมื่อไร เขาถึงจะเอาเภสัชกรที่เป็นลูกหลาน หรือญาติพี่น้องมาอยู่ที่ร้านยา แต่ในความเป็นจริงการที่เภสัชกรจะมาอยู่ปฏิบัติการในร้านยา จะต้องมีการสร้างสมประสพการ และขวนขวายหาความรู้อยู่ตลอดเวลา เภสัชกรที่ทำงานอยู่ในสาขาอื่น เมื่อมาอยู่ร้านยาก็เหมือนต้องเริ่มต้นใหม่หมด
ร้านยาอีกแบบหนึ่งคือร้านยาที่มีทุนสูง มีการบริหารจัดการที่ทันสมัย มีการขยายกิจการมากสาขา แต่ยังใช้เภสัชกรแขวนป้าย เพราะเขามองว่าการขายสินค้ายา ก็คงเหมือนการขายสินค้าทั่วๆไป กลยุทธ์ที่เขานำมาใช้ในการแข่งขันคือการขายยาในราคาถูก สินค้ามีมากชนิด และเป็นเพราะเศรษฐกิจในประเทศไทยยังซบเซาอยู่ ประชาชนจึงให้ความสำคัญกับราคายา มากกว่า ความปลอดภัยจากการใช้ยา การลดราคาสินค้าเป็นกลยุทธ์ที่ใครๆก็สามารถทำเลียนแบบได้ง่าย สุดท้ายร้านยาประเภทขายถูกก็จะมีมากขึ้น รวมทั้งร้านยาทุนหนา เครือข่ายข้ามชาติซึ่งจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในประเทศไทยเร็วๆนี้
สำหรับร้านยาทุนหนา เครือข่ายธุรกิจร้านยาข้ามชาตินั้นซึ่งมีประสพการสูงในธุรกิจค้าปลีก น่ากลัวไหม ความกลัว ความลังเล เป็นความล้มเหลวตั้งแต่ต้น เพราะธุรกิจร้านยาเป็นธุรกิจเฉพาะที่มีความแตกต่างกับธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ คือ ต้องมีเภสัชกรคอยแนะนำการใช้ยาอย่างถูกต้องกับผู้ป่วยในแต่ละรายซึ่งมีความแตกต่างกัน ผมเคยสังเกตเห็นว่าร้านสะดวกซื้อทั้งหลายมักจะไม่ขายส้มตำ เพราะการปรุงรสส้มตำให้ถูกปากผู้บริโภคในแต่ละรายไม่เหมือนกัน จุดนี้เป็นจุดได้เปรียบของร้านยาของเภสัชกรชุมชน ที่เรามีการซักถามผู้ป่วยแต่ละรายก่อนจ่ายยา หากเราปลูกฝังความรู้สึกชาตินิยมลงไปในชุมชนอีก ร้านยาทุนหนา เครือข่ายธุรกิจร้านยาข้ามชาติ ก็ไม่ได้เป็นคู่แข่งขันที่น่ากลัวของเรา
ร้านยาของเภสัชกรชุมชน หากทำเลียนแบบร้านยาเดิมๆโอกาสที่จะล้มเหลวสูงมากเพราะต้องไปแข่งขันแย่งลูกค้ากับร้านยาหลายหลาก ในกติกาที่ไม่เป็นธรรม และการทำบางอย่างที่เราไม่อยากทำ หรือไม่ถนัดที่จะทำ
ร้านยาของเภสัชกรชุมชน ต้องทบทวนบทบาทของตนใหม่ ต้องสร้างกลยุทธ์ของตนเองขึ้นมา และต้องสอดคล้องกับความเชื่อ ความศรัทธา ความรู้ และความสามารถของเภสัชกร และไม่มีการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ ต้องศึกษา เรียนรู้อยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้คู่แข่งขันเลียนแบบทัน เภสัชกรชุมชน และเภสัชกรในสาขาวิชาชีพอื่นควรส่งเสริมให้มีร้านยาของเภสัชกรมากขึ้น ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆก็ตาม แต่สิ่งที่ร้านยาของเภสัชกรชุมชนเหมือนกันทุกร้านก็คือ มีการซักถามที่ดีก่อนจ่ายยา มีการเขียนลงในภาชนะที่บรรจุยาถึงชื่อยา วิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง ครบถ้วน รวมทั้งการเก็บรักษายาที่ดี ต้องทำไปเรื่อยๆ และนานติดต่อกัน จนประชาชนเห็นความแตกต่าง ถึงจุดนั้นเราจะได้ตลาดยาของเราเองคือลูกค้าที่ให้ความสนใจในความปลอดภัยจากการใช้ยามากกว่าการให้ความสนใจกับราคาที่แตกต่างกันไม่มาก
สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมร้านยาอื่นที่ทำผิด พรบ.ยา จึงยังขายยาได้ ถ้าจะให้ตอบกับลูกค้าผมจะตอบว่า ในประเทศไทยมีการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เข้มแข็งซึ่งก็เหมือนกันกับหลายๆประเทศในแถบนี้ ดูแต่ลอตเตอรี่ของรัฐบาลยังขายเกินราคาเฉยเลย ไม่เห็นโดนจับ ประชาชนต้องตัดสินใจเองว่า จะซื้อยาร้านไหนจึงจะหายจากโรค และมีความปลอดภัยคุ้มกับเงินที่ต้องเสียไป
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35

Re: อยากรู้

โพสต์โดย dussadee » 22 ธ.ค. 2010, 13:54

ขอบคุณสำหรับคำตอบของพี่ธวัชชัยค่ะ

หนูก็หวังอีกเหมือนเดิมว่าสักวันนึง ประชาชนทั่วไปจะสามารถแยกร้านยาและร้านขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกรออกจากกันได้ และเลือกใช้บริการร้านยาที่มีเภสัชกร และความฝันไกลๆของหนูก็ยังคงเป็น กฏหมายของไทยมีความเข้มแข็ง องค์กรที่สนับสนุนร้านยาที่ทำผิดกฏหมายหมดไปค่ะ

สุดท้ายนี้ หนูตระหนักดีค่ะว่า จริงๆแล้วร้านยาที่มีเภสัชกรจะไม่ปลอดภัยไปกว่าร้านขายยาทั่วๆไปเลย ถ้าเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการไม่หมั่นทบทวนรวมถึงพัฒนาความรู้อย่างสม่ำเสมอ และพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ต้องขอบคุณพี่ธวัชชัยมากๆค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
dussadee
 
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2008, 08:53

Re: อยากรู้

โพสต์โดย kratosus » 22 ธ.ค. 2010, 19:25

แต่นี่เห็นผู้ใหญ่ทำผิดกันซะเอง(ผู้ใหญ่คนที่ไม่ได้ทำผมก็ให้ความเคารพนับถือ) แล้วจะเอาอะไรไปสอนเด็ก

หมายถึง อาจารย์เหรอครับ ????
kratosus
 
โพสต์: 18
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2008, 23:25

Re: อยากรู้

โพสต์โดย bodin705 » 24 ธ.ค. 2010, 21:32

ป่าวครับ พูดรวมๆเฉยๆ
bodin705
 
โพสต์: 35
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 15:02

Re: อยากรู้

โพสต์โดย bodin705 » 24 ธ.ค. 2010, 21:58

พี่ธวัชชัย สุดยอดครับ นับถือๆ ความคิดผมว่าการที่ให้ประชาชนตัดสินเองนั้นเป็นเรื่องที่ถูกแล้ว แต่ว่าปัญหานี้ก็จะจมอยู่นาน เพราะประชาชนทั้งประเทศจะมองเห็นความแตกต่างได้อย่างไร ในเมื่อเป็นอุดมการของคนๆเดียว แน่ล่ะที่ชุมชนร้านยาของพี่อาจเห็นความแตกต่างแต่ก็ไม่ใช่ทั้งประเทศ และมีเภสัชกรกี่คนที่คิดได้แบบนี้ ถึงแม้จะมีเภสัชกรหลายคนทำตามอุดมการ สร้างความแตกต่าง แต่การเวลาก็กล่อนใจคนได้ ทำดีตลอดแต่ไม่รู้จะได้ดีเมื่อไหร่ ก็ท้อแท้กันได้ และอาจทำให้เดินทางผิดได้ แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่รู้ว่าทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาคืออะไร อาจจะต้องมีคนๆนึงออกมาแสดงความไม่พอใจ หรือเดินขบวนเหมือนการเมือง ผมก็ไม่รู้เพราะประสบการณ์ผมยังน้อยแต่ก็แค่คิดว่า ที่เค้าบอกๆกัน ว่าไม่เเขวนป้าย แขวนไม่ดี บอกแค่พวก นศภ แล้วปัญหาจะจบหรอ นศภ จบใหม่มาเกิดอยากได้รายได้สองทางเห็นรุ่นก่อนๆทำได้ ก็ทำตาม ก็กลับมาสู่วงจรอุบาทไม่จบไม่สิ้น ก็คงไม่มีวันที่ท้องฟ้าเป็นสีทองหรอกครับ
bodin705
 
โพสต์: 35
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มิ.ย. 2010, 15:02

Re: อยากรู้

โพสต์โดย white-blue » 25 ธ.ค. 2010, 16:08

เป็นน้องบางทีถ้าซ่าเกินไปบางครั้งอาจเอาตัวไม่รอด " ในระบบราชการ "
ถ้าจะซ่าก็เอาแต่พอดี บางที่ต้องทำเป็นโง่บ้าง ระบบราชการไม่ชอบคนฉลาดเกินไป
เป็นคนตรงแต่เส้นไม่ใหญ่พอ จะเจ็บตัวได้ ต้องมีเทคนิคดีดี :lol: :lol:
นี่แหละเหตุผลที่ทำให้ไม่มีการพัฒนา
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32

Re: อยากรู้

โพสต์โดย Ham bun » 02 ก.พ. 2011, 07:13

การไล่จับอย่างเดียวไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาที่สาเหตุ
เฉกเช่นการไล่จับขโมย แต่ไม่พัฒนาประเทศให้ประชาชนมีการกินดีอยู่ดี
ขโมยจะหมดไปหรือไม่??
เคยลองทำแบบสอบถามกันหรือเปล่าว่าสาเหตุที่แท้จริงของการแขวนป้ายคืออะไร
อย่านั่งนึกเอาจากความคิดของตัวเอง
เพราะมันจะทำให้เราแก้ปัญหาไม่ตรงประเด็น
Ham bun
 
โพสต์: 63
ลงทะเบียนเมื่อ: 15 ส.ค. 2009, 02:16


ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

cron
New Document