New Document









เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

ห้องเภสัชกร

เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย mos » 13 พ.ย. 2010, 08:41

1.จ่ายยาที่ร้านยาลูกค้าก็ไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่บอกไม่ใชแพทย์
2. อยู่ รพ. ก็ต้องเชื่อฟังหมอว่าหมอให้จ่ายตัวไหนก็ต้องตัวนั้นถ้าโทรไปขัดมีทะเลาะกันอีก
3. อยู่ รพ. เหมือนคนรับใช้หมออีกที
4. เปิดร้านเองก็ต้องเจอเรื่องสงครามตัดราคากัน
5. ลูกค้าบอกร้านนู้นขายถูกร้านนี้ขายเท่านี้เอง
6. อยู่ รพ.รัฐ เงินเดือนเริ่ม ที่ 8000+ ไหนจะต้องลุกมาตอนตี1 เพื่อมาเข้าเวร
7. คนไข้ใน รพ. ไม่รู้คำว่าเภสัชกรหรอก นึกว่า คนหยิบยาแทนหมอ ไม่ค่อยเกรงใจเราเท่าไร่

ยังมีอีกเยอะครับ .... :cry:
mos
 
โพสต์: 37
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ย. 2008, 10:42







Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย Pharma_Name » 13 พ.ย. 2010, 08:58

1.จ่ายยาที่ร้านยาลูกค้าก็ไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่บอกไม่ใชแพทย์

2. อยู่ รพ. ก็ต้องเชื่อฟังหมอว่าหมอให้จ่ายตัวไหนก็ต้องตัวนั้นถ้าโทรไปขัดมีทะเลาะกันอีก

3. อยู่ รพ. เหมือนคนรับใช้หมออีกที
มันอาจจะอยู่ที่วัฒนธรรมโรงพยาบาลหรือเปล่า ที่ใคร ๆ ก็ต้องเป็นคนรับใช้หมอ เคยอยู่โรงพยาบาลแบบนี้มาเหมือนกัน ที่เภสัช พยาบาล กายภาพ ทำหน้าที่แบบคนรับใช้ของแพทย์จริง ๆ แต่ที่ที่ผมทำงานอยู่ปัจจุบัน ไม่มีใครเป้นคนรับใช้ใครนะครับ เราทำงานตามหน้าที่ อันไหนไม่ใช่หน้าที่เราก็ไม่ต้องไปทำ

4. เปิดร้านเองก็ต้องเจอเรื่องสงครามตัดราคากัน
เปิดร้านเป็นธุรกิจนะครับ ไม่ว่าธุรกิจแบบไหนก็เจอปัญหาตัดราคา ราคาเท่ากัน ลูกค้าเลือกร้านราคาถุกกว่า นึกถึงว่าเราเป็นลูกค้าเราก้เลือกร้านที่ราคาถูก เสร็จแล้วร้านที่ขายไม่ออก ก็ต้องทำให้อยู่รอดไม่ว่าจะลดราคาหรือลดรายจ่ายหรือทำโฆษณา ใคร ๆ ก็ต้องเจอครับ ไม่แปลก

5. ลูกค้าบอกร้านนู้นขายถูกร้านนี้ขายเท่านี้เอง
ใคร ๆ ก็อยากได้ของถูกครับ

6. อยู่ รพ.รัฐ เงินเดือนเริ่ม ที่ 8000+ ไหนจะต้องลุกมาตอนตี1 เพื่อมาเข้าเวร
พยาบาลได้น้อยกว่า 8000 อีกครับ แถมเข้าเวรดึกตั้งแต่ เที่ยงคืน ออกเวรตอนเช้า ไม่ได้นอนทั้งคืนนะครับ ทั้งอาบน้ำคนไข้ ทั้งฉีดยา ยิ่งกว่าอีก
7. คนไข้ใน รพ. ไม่รู้คำว่าเภสัชกรหรอก นึกว่า คนหยิบยาแทนหมอ ไม่ค่อยเกรงใจเราเท่าไร่
Pharma_Name
 
โพสต์: 357
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ย. 2007, 09:29
ที่อยู่: Bangkok

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย omegaboy » 13 พ.ย. 2010, 09:39

1.จ่ายยาที่ร้านยาลูกค้าก็ไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่บอกไม่ใชแพทย์
2. อยู่ รพ. ก็ต้องเชื่อฟังหมอว่าหมอให้จ่ายตัวไหนก็ต้องตัวนั้นถ้าโทรไปขัดมีทะเลาะกันอีก
3. อยู่ รพ. เหมือนคนรับใช้หมออีกที
4. เปิดร้านเองก็ต้องเจอเรื่องสงครามตัดราคากัน
5. ลูกค้าบอกร้านนู้นขายถูกร้านนี้ขายเท่านี้เอง
6. อยู่ รพ.รัฐ เงินเดือนเริ่ม ที่ 8000+ ไหนจะต้องลุกมาตอนตี1 เพื่อมาเข้าเวร
7. คนไข้ใน รพ. ไม่รู้คำว่าเภสัชกรหรอก นึกว่า คนหยิบยาแทนหมอ ไม่ค่อยเกรงใจเราเท่าไร่

ไม่นะ

1 ก็เราไม่ใช่แพทย์อยู่แล้วจะไปกลุ้มทำไม เราค้าขาย ยา โดยมีความรู้ร่วมด้วย ป้องกันไม่ให้ใช้ยาผิดๆถูกๆไม่เอาก็ไม่ว่าไร ไปหาหมอได้เลย
เจ็บป่วย นิดๆหน่อยๆ ก็200อัพ หรือจะซื้อยาเอา60-70บาท ส่วนมากยาที่ขายในร้านยา มันเจ้บป่วยแบบพื้นๆอยู่แล้ว

2 ก็เราแย้งแล้วถ้าเขาพร้อมจะรับผิดชอบก็เรื่องของเขาครับ เราทำตามหน้าที่แล้ว อย่าได้เว่อร์เพื่อผู้ป่วยมากไปตามที่เขากำหนดมา
คนเขียนบท มันไม่ได้มาดูหน้างานจริงๆ

3 เขาจ้างเรามาทำงานทำตามหน้าที่ ก็ลองนึกภาพหมอตรวจเอง มาคอยหยิบยาเอง เช็คยาเองดิ ส่วนมากพวกหมอเขาก็ไม่ค่อย อยากมายุ่งกับเราหรอก เขาจ้างเรามา เพราะเขาทำตรงนี้ไม่ได้

4 สงครามราคา ชีวิตต้องสู้ครับ ค้าขายอย่างอื่นเขาก็มีเหมือนกันทั้งนั้นล่ะ ไม่ใช่เฉพาะร้านขายยา

5คนโดนลูกค้าหลอกเอา อย่าไปเชื่อมาก คุณคิดว่าคนทุกคนบนโลกนี้มันโกหกกันไม่เป็นหรืองัย
บางคนเขาไม่ได้เรียนหนังสือ หรือ มีวุฒิ สูงๆแต่ไม่ได้หมายคววามว่าเขาโง่นะครับ

6 เริ่มต้น8พันหรูแล้วครับ สำหรับการทำทุน คนที่รวยจากเงินเดือนคงหายากนะ
มันก็มีนะแต่คงมีน้อย ลองๆหาข้อมูลอาชีพอื่นๆ ไม่ต่างกับเราหรอก โธ่ ลุกขึ้นเวรตอนตี1ทำบ่น
แล้วตอนเรียน คุณไม่เคยอ่านหนังสือจนเกือบสว่างหรือ อย่างน้อยคุณก็ยังได้นอนแต่หัวค่ำมาก่อน

7 ไม่รุ้จักอะดีแล้ว ไม่ต้องเกรงใจก็ดี เราจะได้ทำตัวสบายๆ จะได้ไม่ต้องมาปั้น ภาพพจน์เพื่อให้คนอื่นเคารพ
คุณไม่เห็นหรือ เดี๋ยวนี้ในเน็ต หมอพูดไม่เพราะ หมอหน้าบูด ก็โดนด่า หมอพูดน้อย ก็โดนด่า

เอาน่า อย่าไปคิดว่าตัวเอง เป็นเภสัชกรตลอดเวลา เป็น ศิลปิน เป็นนักปั่นจักรยาน เป็นพ่อค้าบ้าง เป็นชาวสวน ได้จิปาถะ
เราไม่เกิดมาเพื่อที่จะมีชีวิตเพื่อคนป่วยอย่างเดียว
แล้วชีวิตจะมีสุข
omegaboy
 
โพสต์: 291
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ม.ค. 2006, 15:47

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย chabuchabu » 13 พ.ย. 2010, 09:52

จขกท. คิดมากไปอะ ไม่มีใครมองเเบบนั้นหรอก เพราะเรามองตัวเราว่าเป็นเเบบนี้ต่างห่าง วิชาชีพเราเจอ วิชาชีพอื่นก็เจอ เเม้เเต่เเพทย์ยังขัดเเข้งขัดขากันเองเลย คิดมาก............. เงินเดือนเภสัช ไม่ใช่ 8000 เเล้ว 5 ปี 11000 ขึ้น 6 ปี 12000 ขึ้น
chabuchabu
 
โพสต์: 7
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ต.ค. 2010, 09:20

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย white-blue » 13 พ.ย. 2010, 11:52

1.จ่ายยาที่ร้านยาลูกค้าก็ไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่บอกไม่ใชแพทย์
เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง ถ้าเรามีความรู้ด้านวิชาชีพมากพอ วินิจฉัยโรคเก่ง สักวันเค้าจะเชื่อถือเราเอง ถ้าดีแล้วแต่มันไม่เชื่อก็ช่างมัน ปล่อยให้ไปโดนหมอตี๋หลอกจ่ายยาเสตียรอยก็ตามใจ
2. อยู่ รพ. ก็ต้องเชื่อฟังหมอว่าหมอให้จ่ายตัวไหนก็ต้องตัวนั้นถ้าโทรไปขัดมีทะเลาะกันอีก
ขึ้นอยู่กับสถานที่และหมอแต่ละคนว่ามีอีโก้เยอะมั้ย แต่มองในมุมกลับกันต้องเริ่มที่ตัวเราด้วยถ้าจะ consult เภสัชเองก็ต้องมีข้อมูลเพียงพอ ที่จะชักจูงให้แพทย์เปลี่ยนยา ทุกวันนี้เภสัชทำงานสากเบือยันเรือรบ พูดตรงๆว่าบางคนความรู้ด้านคลินิกเหมือนกบในกะลาไปแล้ว
ไม่มีความรู้พอที่จะไปแนะนำแพทย์ได้ แต่ถ้าแพทย์ที่อีโก้สูงก็อย่าใส่ใจเลยถือว่าเราทำหน้าที่ของเราแล้ว

3. อยู่ รพ. เหมือนคนรับใช้หมออีกที
อย่าเรียกว่ารับใช้เลย เราแบ่งแยกกันด้วยหน้าที่ที่ต่างกัน หมอมีหน้าที่สั่ง เภสัชมีหน้าที่หา และจ่าย ก็ตามหน้าที่
4. เปิดร้านเองก็ต้องเจอเรื่องสงครามตัดราคากัน
สงครามตัดราคา ยังสู้ สงครามชีวิตโอชิน ไม่ได้เลย
5. ลูกค้าบอกร้านนู้นขายถูกร้านนี้ขายเท่านี้เอง
เวลาผมไปซื้อของแล้วอยากได้ส่วนลดผมก็พูดแบบนี้แหละ ก็มั่วไปจริงๆไม่รู้หรอกร้านอื่นขายเท่าไรแต่ตูอยากได้ราคานี้อ่ะ
6. อยู่ รพ.รัฐ เงินเดือนเริ่ม ที่ 8000+ ไหนจะต้องลุกมาตอนตี1 เพื่อมาเข้าเวร
อย่างที่คุณ ชาบุชาบุบอกแหละ มีหนังสือมาแล้วว่าเงินเดือนขึ้นอีกสักพักคงปรับ
7. คนไข้ใน รพ. ไม่รู้คำว่าเภสัชกรหรอก นึกว่า คนหยิบยาแทนหมอ ไม่ค่อยเกรงใจเราเท่าไร่
ไม่แปลกหรอก ลองมองดูดีดี คนที่เค้ารับยาแล้วเค้ายกมือไหว้หรือกล่าวขอบคุณเราก็มี ส่วนคนที่ไม่สนใจดึงถุงยาแล้วก็ไปมันก็เยอะ
คนที่ไม่สนใจเราเราก็ไม่ต้องสนใจมันก็จบ ถือว่าทำบุญทำทานไป



ทำงานใน รพ โดยเฉพาะ รพ รัฐ นะพยายามอย่าไปคิดเล็กคิดน้อย เรื่องบางเรื่องอย่าเก็บมาใส่ใจ บางครั้งคำพูดคนอื่นพูดมาอาจจะทำให้เราไม่พอใจ แต่มันเป็นปกติของเค้า และเค้าก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายต่อเรา หรือบางครั้งคำพูดเราพูดไปตามปกติของเราไม่ได้คิดร้ายใครแต่มันอาจไปกระแทกใจใครหลายคนก็ได้ ทำงานกับคนเยอะๆอย่าไปคิดไรมาก ขืนคิดทุกเรื่องบอกได้คำเดียวเลย บ้า คับ บ้า
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย cm_pharmacistclub » 13 พ.ย. 2010, 12:29

ไม่จริงหรอกคับ ไม่อาภัพ อย่างคุมร้านนี่พรบ.ยา 2510 มาตรา 41 แพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล คุมได้แค่ร้านขายยาบรรจุเสร็จนะ เภสัชเราคุมร้านแผนปัจจุบันนะ เหนือกว่าแล้ว ใช่ปะละ :razz:
NEVER BOWS MY HEAD TO THE ELITE RULERS
ภาพประจำตัวสมาชิก
cm_pharmacistclub
 
โพสต์: 65
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มี.ค. 2010, 16:21
ที่อยู่: ข้าจะทำตามเจตนาของสวรรค์

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย Barrios » 13 พ.ย. 2010, 12:54

เป็นหมอก็อาภัพเหมือนกันนะ
1.เรียนก็มากกว่าอาชีพอื่น จบเป็น GP ไปที่ไหนก็ไม่มีใครเห็นหัว ต้องเรียนบอร์ดอีก 2-3 ปี
2.อยู่ รพ. ก็ต้องขึ้นเวร รับผิดชอบมากกว่าคนอื่น คนเป็นโรคน่ารังเกีัยจ โรคติดต่อก็ต้องทนรักษา พูดแต่เช้ายันเที่ยง บ่ายราววอร์ดต่อ
3.เปิดคลีนิค พอได้เงินบ้างแต่ต้องเหนื่อยวิ่งรอก 3-4 ทุ่ม เดี๋ยวนี้คิดแพงมากก็ไม่ได้เดี๋ยวลูกค้าหนีไปร้านอื่น
4.เงินเดือน รพ.รัฐก็ได้ไม่เท่าไหร่ อยู่เอกชนได้มากกว่าเป็น 2-3 เท่า แต่เค้าก็เลือกรับเฉพาะคนเก่ง ๆ ไอ้ที่ไม่เก่งก็ต้องไปอยู่ไกล ๆ
5.รักษาคนไข้อย่างดีทุกวันแต่ไม่รู้ว่าจะโดนฟ้องเมื่อไหร่

หมอก็ลำบากเหมือนกันเนอะ
:mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Barrios
 
โพสต์: 714
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 08:41
ที่อยู่: ประเวศ กทม.

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย smartss » 13 พ.ย. 2010, 15:01

1.จ่ายยาที่ร้านยาลูกค้าก็ไม่ค่อยเชื่อถือเท่าไหร่บอกไม่ใชแพทย์แต่ละคนไม่เหมือนกันบางคนเชื่อแต่เพื่อนไม่เชื่อหมอบางคนก็เชื่อหมอเถื่อนหมอผีแล้วแต่บุญที่เขามี
2. อยู่ รพ.ก็ต้องเชื่อฟังหมอว่าหมอให้จ่ายตัวไหนก็ต้องตัวนั้นถ้าโทรไปขัดมีทะเลาะกันอีกค่อยๆฝึกอย่าไปกลัวเขาเหวี่ยงใช้ EQ ที่เหนือกว่า
3. อยู่ รพ. เหมือนคนรับใช้หมออีกทีพี่ๆผมเขาก็ใช้น้องๆเป็นคนรับใช้มีแต่ผมไม่ยอมบอกเหตุผล ลูกผมมันก็ใช้ทำโน้นนี่เราก็สอนเราเลือกที่จะยอมไม่ยอมเขาก็เคยตัวอยู่แล้ว
4. เปิดร้านเองก็ต้องเจอเรื่องสงครามตัดราคากันปล่อยไปผีคู่กับโลง คนดีๆที่ไม่งกราคาเป็นลูกค้าเรา
5. ลูกค้าบอกร้านนู้นขายถูกร้านนี้ขายเท่านี้เองแล้วถ้าเราให้ถูกกว่าที่ว่าจะไปบอกร้านนั้นอีกละซิไม่รู้จักพอมันไม่สิ้นสุดหรอก
6. อยู่ รพ.รัฐ เงินเดือนเริ่ม ที่ 8000+ ไหนจะต้องลุกมาตอนตี1 เพื่อมาเข้าเวรสมัครใจทำบุญต่อก็ทำไปหรือพอแค่นี้ก็ไปที่อื่น
7. คนไข้ใน รพ. ไม่รู้คำว่าเภสัชกรหรอก นึกว่า คนหยิบยาแทนหมอ ไม่ค่อยเกรงใจเราเท่าไร่หมาข้างบ้านมันก็ไม่รู้จักว่าผมเป็นเภสัชมันเห่าเอาเป็นเอาตายเวลาผมเดินผ่านไม่รู้มันด่าผมหยาบแค่ไหนแค่การแต่งกายต่างกับเจ้าของมันหรือมีกลิ่นยาแต่ผมไม่ทะเลาะกับหมาเจ้าของละอายไล่ตีมันเอาใจเราทุกที
ผมเคยไปทำPTพนักงานห้องยาเวชระเบีนยคนป่วยบอกว่าทำไมเภสัชPTดูดีกว่าหมอPT เสื้อก็ไม่รีดโหนรถเมล์มาเราขับรถเก๋ง
เสื้อเราใหม่กว่าผ้าก็ขาวกว่าผ้าก็หนาอย่างดีพวกนี้แพ้ทองเราต้องเข้าใจความคิดเขาผมก็แก้ต่างน้องหมอเขาเพิ่งจบผมจบมานานไม่ต้องเรียนหนัก
แค่อยากชี้ให้เห็นบางอย่าง..เปลือกนอกภายในก็สำคัญพอกัน
พูดความดีของเขาคือความดีของเรา
พูดความไม่ดีของเขาคือความไม่ดีของเรา
พึงทำความดี ยิ่งกว่าทำตนเป็นคนดี
ความดีมีไว้ทำ มิไช่แบกหามล่ามโซ่ตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
smartss
 
โพสต์: 320
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 18:46
ที่อยู่: กรุงเทพ

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย zartingtong » 14 พ.ย. 2010, 15:14

ถ้าทำงาน ร.พ. ก็ต้องยอมรับอย่างนั้นแหละ

ทำงานอย่างอื่น ยังไงก็มีโอกาสถึงจะแข่งขันกันก็เป็นเรื่องของเราเองที่จะสู้

ไม่ก็ไปทำงานที่เภสัชเป็นใหญ่ เพราะหมอทำไม่ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย denzo » 15 พ.ย. 2010, 08:57

ผมเรียนจบมา ก็ได้เป็น หัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมชุมชน เคยรักษาการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล มาแล้ว เพราะแพทย์ ทันตแพทย์ไม่อยู่
รพ.นี้มี แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร แค่อย่างละคน เนื้อหอมสุดสุด
พอมาทำเอกชน พวกหมอ ผู้ตรวจการ หัวหน้า OPD ที่มาใหม่ ยกมือไหว้ผมกันเกรียวเลย แล้วก็ค่อยๆเหลือแต่พยาบาล
ยังไม่นับผู้ป่วยที่อายุมาก อีกบานทุ่ง (ที่นี่ รพ.เอกชน มีกะตังค์กันทั้งนั้น ขับ Porche ก็ยังมี)
งานนี้ขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพ การวางตัว และก็โชว์ความสามารถหน่อยถ้ามีโอกาส และอย่าใช้โอกาสเปลืองหล่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
denzo
 
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 22:21

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย battyz » 15 พ.ย. 2010, 23:39

รายละเอียดของคำแนะนำดีๆ พี่ๆเภสัชกรทั้งหลาย ได้มาบอกไปแล้ว

ไม่ว่าคุณจะจบสาขาวิชาชีพไหน ทัศนคติที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ
ผลของงานจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับตัวเราว่ามีความมุ่งมั่นและมั่นใจที่จะทำงานให้สำเร็จเพียงใด
เพราะหากเรามุ่งมั่นและมั่นใจว่าจะทำให้สำเร็จ ความคิดใหม่ๆ กลยุทธ์ใหม่ๆ จะพรั่งพรู
เกิดกระบวนการที่จะทำให้่เกิดความสำเร็จในการทำงานได้

หากเราไม่มุ่งมั่น คอยคิดถึงแต่เงื่อนไขว่างานจะสำเร็จได้ต้องขึ้นอยู่กับสิ่งอื่นๆ
ด้วย เช่น ปัจจัยต่างๆที่คุณนำมาปรึกษากัน กลยุทธ์ใหม่ๆ และกระบวนการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของการทำงานจะไม่เกิดขึ้น
เพราะถูกปิดกั้นด้วยเงื่อนไขเหล่านั้น

ฉะนั้น หากต้องการความสำเร็จให้นึกถึงเสมอว่าตัวเราเองเป็นผู้กำหนดความสำเร็จนั้นได้
ในกรณีที่เราล้มเหลว ถ้าเราโยนความล้มเหลวนั้นว่าเป็นเพราะคนอื่นไม่ใช่เพราะตัวเรา
เราจะไม่ได้คิดพัฒนาปรับปรุงตนเองเพื่อความสำเร็จในอนาคต

คนที่คิดดี พูดดี ทำดี เป็นคนดีมีคุณค่าระดับหนึ่ง
แต่หากได้มีโอกาสใช้ความสามารถของตนช่วยเหลือผู้อื่นในการทำงาน
จะยิ่งเป็นการเพิ่มคุณค่าของคนผู้นั้นมากขึ้น

ชีวิตจะอาภัพหรือรุ่งโรจน์ไม่ใช่เพราะเกิดมาเป็นเภสัชกร
ขึ้นอยุ่กับความคิด ที่คุณอยากจะเปลี่ยน
เพื่อเดินทางต่อไป อย่างมีความสุขหรือไม่ ต่างหาก
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย INDY_Rx » 16 พ.ย. 2010, 15:40

มาทำงานโรงงานสิครับ
INDY_Rx
 
โพสต์: 340
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 มี.ค. 2009, 14:02
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย battyz » 16 พ.ย. 2010, 16:37

เห็นเภสัชหงอย เลยเขียนมาไม่ให้เหงา
ลองตามไปอ่านดูนะ
"อยู่ร้านยาให้มีความสุข ทัศนคติเชิงบวกสำหรับเภสัชกร โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล"

ในชีวิตเภสัชกรอย่างพวกเรา ถ้ายังคิดท้อ มองเห็นแต่หนทางอนาคตที่มืดมน
วิธีคิดเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น
ทัศนคติเชิงบวกเป็นสรณะสำคัญที่ช่วยทำให้ชีวิตเราดีขึ้นทุกวันๆ
ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการงาน ในทุกๆครั้งและทุกสถานการณ์
เภสัชกรอย่างเราจะสามารถมองเห็นโอกาสได้ดีกว่าเดิมในขณะที่คนอื่นมองเห็นปัญหา
ลองมาจุดไฟในดวงใจแห่งความสุขแบ่งฟังกัน จะดีไหม

อยู่ร้านยา ไม่ได้ขายยา เราให้บริการประชาชนต่างหาก

http://www.oknation.net/blog/DIVING/2010/11/16/entry-1
.
battyz
 
โพสต์: 336
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2008, 17:24

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย ton431450 » 17 พ.ย. 2010, 15:47

battyz เขียน:เห็นเภสัชหงอย เลยเขียนมาไม่ให้เหงา
ลองตามไปอ่านดูนะ
"อยู่ร้านยาให้มีความสุข ทัศนคติเชิงบวกสำหรับเภสัชกร โดย เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล"

ในชีวิตเภสัชกรอย่างพวกเรา ถ้ายังคิดท้อ มองเห็นแต่หนทางอนาคตที่มืดมน
วิธีคิดเท่านั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่น
ทัศนคติเชิงบวกเป็นสรณะสำคัญที่ช่วยทำให้ชีวิตเราดีขึ้นทุกวันๆ
ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการงาน ในทุกๆครั้งและทุกสถานการณ์
เภสัชกรอย่างเราจะสามารถมองเห็นโอกาสได้ดีกว่าเดิมในขณะที่คนอื่นมองเห็นปัญหา
ลองมาจุดไฟในดวงใจแห่งความสุขแบ่งฟังกัน จะดีไหม

อยู่ร้านยา ไม่ได้ขายยา เราให้บริการประชาชนต่างหาก

http://www.oknation.net/blog/DIVING/2010/11/16/entry-1
.

แล้วจะเอาอารายกินอ่ะไม่ได้กินหญ้านะครับ ให้บริการประชาชนแต่สู้ร้านหมอตี๋ขายถูกกว่าไม่ได้ทุกอย่างมีต้นทุน
ton431450
 
โพสต์: 20
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ต.ค. 2010, 14:57

Re: เป็น เภสัชกรนี่ อาภัพ จริงๆเลยนะครับ ...

โพสต์โดย dussadee » 17 พ.ย. 2010, 23:29

ton431450 เขียน:แล้วจะเอาอารายกินอ่ะไม่ได้กินหญ้านะครับ ให้บริการประชาชนแต่สู้ร้านหมอตี๋ขายถูกกว่าไม่ได้ทุกอย่างมีต้นทุน


บางทีต้นทุนของเราอาจจะรวมถึงความรู้ที่หมอตี๋มีน้อยกว่า คำนึงถึงผู้ป่วยมากกว่า(สำหรับบางคน) และบางอย่างที่หมอตี๋ไม่มีเหมือนเราค่ะ

แค่ครั้งเดียวที่ลูกค้ากลับมาขอบคุณ หรือแพทย์ฝากลูกค้ามาขอบคุณ หรือลูกค้าเอาซองยาของเราไปเคลือบ ก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกว่า เอาวะ น่าจะสู้ต่อไปได้ แม้บางครั้งจะหดหู่ใจเวลาเจอสงครามราคา สงครามสเตียรอยด์ และอื่นๆ

ไม่ได้บอกให้เพ้อฝัน แต่อยากให้มีกำลังใจในการทำงาน และดึงข้อดีของเราออกมาสู้กับระบบที่ยังไม่เข้าที่ดีพอค่ะ

เภสัชกรร้านยาคนนึงที่อาจผ่านร้อนหนาวมาไม่มาก ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นค่ะ :mrgreen:
ภาพประจำตัวสมาชิก
dussadee
 
โพสต์: 124
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2008, 08:53

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document