New Document









ค่าแรงการจ้างงานของเภสัชกร

ห้องเภสัชกร

ค่าแรงการจ้างงานของเภสัชกร

โพสต์โดย smartss » 13 ก.ย. 2010, 14:30

มีความรู้สึกว่าการจ้างงานเภสัชกรมีเงินเดือนน้อยลงทุกทีหรือไม่ก็เท่าเดิมเป็นสิบๆปีเช่น PT 80 100 110120 มาเป็นสิบๆปีแล้ว
ราชการเริ่ม7000กว่ามานานแล้ว เอกชน2หมื่นเดี๋ยวนี้แค่หมื่นกว่าๆ
ค่าครองชีพขึ้นไปตั้งหลายร้อยเปอร์เซ็นต์แล้วเมื่อก่อนเติมน้ำมัน300เต็มถังแล้วเดี๋ยวนี้เป็นพัน ค่าอาหาร15 20เป็น35 40แล้ว
ไม่ทราบว่ามีองค์กรใดหรือสหภาพดูแลตรงนี้บ้างบอกที คงไม่ใช่หน้าที่สภา
ความเป็นไปได้ที่จะจัดตั้งองกรมาช่วยเหลือต่อรองมีแค่ไหนทำอย่างไร
แก้ไขล่าสุดโดย smartss เมื่อ 22 ก.ย. 2010, 19:17, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
พูดความดีของเขาคือความดีของเรา
พูดความไม่ดีของเขาคือความไม่ดีของเรา
พึงทำความดี ยิ่งกว่าทำตนเป็นคนดี
ความดีมีไว้ทำ มิไช่แบกหามล่ามโซ่ตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
smartss
 
โพสต์: 320
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 18:46
ที่อยู่: กรุงเทพ







Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย Manit » 13 ก.ย. 2010, 21:43

ไม่มีใครฝืนหลัก demand และ supply ไปได้หรอกครับท่าน smartss :mrgreen:
แพ้หรือชนะเริ่มต้นที่ความคิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Manit
 
โพสต์: 60
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2004, 20:00
ที่อยู่: นครพนม

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย white-blue » 14 ก.ย. 2010, 00:07

Manit เขียน:ไม่มีใครฝืนหลัก demand และ supply ไปได้หรอกครับท่าน smartss :mrgreen:



เป็นคำตอบที่ชัดเจนและตรงประเด็นที่สุด
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย ruralphar » 14 ก.ย. 2010, 09:00

ก็คงต้องกลับไปถามท่านผู้บริหารและอาจารย์คณะเภสัชทั้งหลายที่ผลิตเภสัชกรกันแบบไม่ลืมหูลืมตา

และนี่คือผลของการกระทำนั้น

ผู้บริหารคณะเภสัชที่มีนโยบายแบบนี้เคยนึกรับผิดชอบกันบ้างหรือเปล่า

หรือแค่คณะได้เงิน อาจารย์ได้ค่าสอน ก็พอใจแล้ว
ruralphar
 
โพสต์: 146
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2007, 09:45

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย zartingtong » 14 ก.ย. 2010, 09:50

ก็อย่าไปทำราชการ ที่ประกาศหางานนี่มากกว่าสองหมื่นโขก็เยอะแยะแล้ว :cool:
ภาพประจำตัวสมาชิก
zartingtong
 
โพสต์: 1260
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ส.ค. 2006, 19:14

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย Satapat » 14 ก.ย. 2010, 12:21

zartingtong เขียน:ก็อย่าไปทำราชการ ที่ประกาศหางานนี่มากกว่าสองหมื่นโขก็เยอะแยะแล้ว :cool:

:lol: :lol: :lol:
Satapat
 
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2007, 20:31

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย moomoo » 17 ก.ย. 2010, 13:53

อย่าว่าแต่เภสัชเลยที่ค่าแรง / เงินเดือนน้อย เพราะมันเป็นเหมือนกันหมดไม่ใช่เฉพาะเภสัช

ลองถามเด็กจบมหาลัย ป.ตรี /ป.โท สมัยนี้แล้วจะงง เงินเดือนฟังแล้วน้อยกันมากๆ ตัวคนเดียวยังจะไม่พอใช้ ถ้ามีครอบครัวมีลูกนี่แทบจะไม่พอกิน
ใครที่ทำงานได้เงินดีอยู่แล้วตอนนี้จงภูมิใจเถิด เดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
moomoo
 
โพสต์: 399
ลงทะเบียนเมื่อ: 02 เม.ย. 2010, 12:57

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย hospital » 17 ก.ย. 2010, 21:46

Re: เภสัชกรชรา น้อยใจ
โดย poom ? 17 ก.ย. 2010, 18:42

อย่าว่าแต่อายุ 35 เลยค่ะ
อายุน้อยๆ จบมา 2-3 ปี ก็หางานลำบากเหมือนกัน โดยเฉพาะ รพ.รัฐบาลนะ
เมื่อไหร่จะเลิกตีกรอบ
เมื่อไหร่จะเลิกวัฒนธรรมเส้นสาย เมื่อไหร่จะโปร่งใส เมื่อไหร่จะเลิกการทำอะไรที่พอเป็นพิธี >>>>> เสียเวลา เสียความรู้สึกคนที่มีความตั้งใจจริง
กรุณาบอกมาเลยว่ารับแล้ว มีคนที่ฉันจะรับอยู่แล้ว มีลูกมีหลานของฉันอยู่แล้ว จะได้ไม่เซ็งค่ะ!

5 ปี 6 ปี ก็เหมือนกัน ทราบว่าคุณต้องการเปิดบทบาทหน้าที่ของเภสัชกรมากขึ้นเรื่องงานคลินิก แล้ว 5 ปี ไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้เหรอค่ะ ความรู้ ความสามารถ ฝึก และพัฒนาได้เหมือนกัน หากไม่โดนจำกัดแบบนี้

เฮ้อ! ช่างเป็นอารยธรรมที่.......
hospital
 
โพสต์: 13
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 ก.ย. 2010, 23:30

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย เภสัชทุง » 18 ก.ย. 2010, 20:32

น่าจะทบทวนยุทธศาสตร์ที่ไปเน้นงานคลินิก ผู้ป่วยนั้น ทำให้ผู้บริหารเห็นความสำคัญในการจ้างงานเพิ่มเพียงใด

พัฒนาไปก็มีข้อจำกัด ไปอยู่ใต้อาณัติของแพทย์อีก

น่าจะลองพัฒนาความชำนาญ เชี่ยวชาญไปในด้านที่วิชาชีพอื่นไม่ได้ยึดครองมาก

เช่น การผลิต (สังคมรู้จักเภสัชยิปซีก็ด้านนี้) เภสัชกรรมชุมชน หรือ คุ้มครองผู้บริโภค ที่สามารถขยายไปถึง รพ.สต.

อย่างโครงการของจังหวัดยโสธร ที่จ้างเภสัชกรไปประจำ PCU และ รพ.สต.

หรืออย่างกรอบใหม่ของ รพศ./รพท. หรือ รพ.ใน กทม. ก็เพิ่มอัตรากำลังเภสัชในส่วนของงานคุ้มครองผู้บริโภค

เป็นการเสริม Demand ไปอีกเยอะ และผมเชื่อว่า ความเชี่ยวชาญในการทำงาน คบส. อีก 10 ปี ก็ไม่มีวิชาชีพไหนตามเราทันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
เภสัชทุง
 
โพสต์: 417
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2004, 23:57

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย mekfon » 19 ก.ย. 2010, 22:28

ค่าแรงการจ้างงานจะเพิ่มขึ้นก็ต่อเมื่อเรามีเนื้องานที่ชัดเจนว่าเราทำอะไรได้บ้างค่ะ

หากเราแสดงบทบาทได้อย่างชัดเจน
การเรียกร้องค่าจ้างก็ย่อมทำได้แน่นอนค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
mekfon
 
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2006, 23:00
ที่อยู่: บ้านอิ่มใจ

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย smartss » 21 ก.ย. 2010, 13:27

demand/supplyไม่น่าจะเป็นตัวควบคุมเรื่องทั้งหมด
(ไม่งั้นจังหวัดที่ขาดเภสัชกรอย่างนครพนมคงมีคนมาตื้อไปทำเอกชนแย่งตัวกันวุ่นเลย :lol: )
แล้วdemand ที่ว่าก็มีความรับรู้ไม่ตรงกัน อีกทั้งยังสร้างให้เพิ่มได้
หรือกระทำการใดๆให้ดุลยภาพเปลี่ยนไปโดยจากกฏอื่นๆที่เคยเป็นตัวแปรคงที่
เป็นข้อแม้ที่ถูกควบคุมอยู่

การรับรู้ข้อมูลข่าวสารการทำงานรอบข้าง/ อำนาจการต่อรอง /กฏหมายคุ้มครองวิชาชีพ/ ค่านิยมการให้คุณค่าเภสัชกร
ความต้องการใหม่ๆที่ถูกสร้าง(Quality needs)/ ศักยภาพIQของเภสัชกรใหม่ๆและความสามารถในการจำแนกจัดเกรดจากสังคม
เหล่านี้ล้วนเป็นเนื้อหาในการก่อตัวขององค์กรที่จะมามีบทบาทแกนนำหรืออะไรสักอย่างตามที่กระทู้ถามหาเผื่อเริ่มให้คนรุ่นถัดไป
ไม่ไช่แค่หางานเอกชน2-3 หมื่น

องค์กรเหล่านี้อาจสอคล้องกับการกระจายอำนาจจากสภาฯ สมาคมฯสู่ท้องถิ่นหรือไม่ก็ได้


ส่วนตัวคิดว่าที่จะลดsupply คุมกำเนิดการผลิตเภสัชกรมันไม่แฟร์กับประชาชนส่วนที่ยังยากที่จะเข้าถึงเภสัชกร
และกีดกันผู้ที่ต้องการจะเรียนเป็นเภสัชกร
เพิ่มคุณค่า/ขยายDemandเป็นส่วนสร้างสรรกว่า :wink:
พูดความดีของเขาคือความดีของเรา
พูดความไม่ดีของเขาคือความไม่ดีของเรา
พึงทำความดี ยิ่งกว่าทำตนเป็นคนดี
ความดีมีไว้ทำ มิไช่แบกหามล่ามโซ่ตัวเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
smartss
 
โพสต์: 320
ลงทะเบียนเมื่อ: 22 พ.ค. 2010, 18:46
ที่อยู่: กรุงเทพ

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย Barrios » 21 ก.ย. 2010, 14:20

ถ้านครพนมให้ค่าแรงมากกว่าที่อื่น เภสัชก็พร้อมที่จะไหลไปครับ
(มองจากมุมเภสัช demand คือความต้องการค่าตอบแทนของเภสัช-รายจ่าย,ต้นทุนการเดินทาง / supply คือ ช่วงชีวิตในการทำงาน เราทำงานกัน 30-35 ปี มัวไปทำแต่ที่ได้เงินน้อย ๆ เดี๋ยวแก่ไปจะำลำบาก)
ถ้าขาดเภสัชแต่ไม่ยอมจ้างแพง ๆ แสดงว่า demand ยังไม่สูงจริง

สมมติว่าแรงงานเภสัชเป็นยาตัวนึง
เวลาเราเอาไปขายที่ไหนให้มากกว่าก็ขาย ที่ไหนให้น้อยก็ไม่ขายเก็บไว้ขายที่อื่นดีกว่า
ถ้ายาเรารักษาโรคได้ดีกว่ายาคนอื่น ก็สามารถขายได้แพงกว่า จะขายถูก ๆ ทำไม
ถ้าเค้าเอายาเราไปขายต่อแล้วได้กำไรมากกว่ายาคนอื่น เค้าก็อยากซื้ออยากเอาไปขาย
ที่ไหนขายได้ราคาต่ำ ๆ ย้ายไปขายที่อื่นก็ได้

แต่ถ้ายาเราขายก็แพง ใช้แล้วก็ไม่หาย ที่ไหน ๆ ก็หาซื้อได้
ใครจะซื่อมาซื้อเราล่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Barrios
 
โพสต์: 714
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ต.ค. 2009, 08:41
ที่อยู่: ประเวศ กทม.

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย ruralphar » 21 ก.ย. 2010, 14:35

ถ้าขาดเภสัชแต่ไม่ยอมจ้างแพง ๆ แสดงว่า demand ยังไม่สูงจริง :cry: :cry: :cry:
ruralphar
 
โพสต์: 146
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 มิ.ย. 2007, 09:45

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย เภสัชทุง » 21 ก.ย. 2010, 15:16

smartss เขียน:demand/supplyไม่น่าจะเป็นตัวควบคุมเรื่องทั้งหมด
(ไม่งั้นจังหวัดที่ขาดเภสัชกรอย่างนครพนมคงมีคนมาตื้อไปทำเอกชนแย่งตัวกันวุ่นเลย :lol: )


เผอิญ นครพนม เป็นจังหวัดที่ไม่บูมด้านเศรษฐกิจครับ ไม่มี รพ.เอกชน ไม่มีโรงงานผลิตยา มีร้านยา ขย.1 50 แห่ง

รพ.ชุมชน มีเภสัชกร ระหว่าง 2-6 คน

Demand ภาพรวม จึงน้อยครับ

ตอนนี้ พอมาเข้มงวดเรื่องการอยู่ร้านยา Demand ความต้องการเภสัชกรที่มาอยู่จริงมากขึ้น ค่าตอบแทนในการคุมร้านจึงเพิ่มประมาณ 3-4,000 บาท จากเดิม ร้านยาบางร้านประกาศจ้างเภสัชกร Fulltime 20,000 บาท

บางที การกำหนด Demand หากมีนโยบายหรือมาตรการอะไรมากระตุ้น ก็ส่งผลต่อค่าตอบแทนได้

ลองให้ กระทรวงฯ กำหนดกรอบฯ สิครับว่า รพ.สต. ต้องมีเภสัชกรประจำอย่างน้อย 1 คนเพื่อทำงานเภสัชกรรมชุมชนและคุ้มครองผู้บริโภค

Demand จะเพิ่มจากเดิมหลายสิบตำแหน่ง แต่หาก Supply ยังเยอะอยู่ ก็คงแย่งกันสมัคร อำนาจต่อรองก็น้อย

ไปๆ มาๆ มันก็เข้าหลักเศรษฐศาสตร์เหมือนเดิมครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
เภสัชทุง
 
โพสต์: 417
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2004, 23:57

Re: ค่าแรงการจ้างงานของเสัชกร

โพสต์โดย mekfon » 21 ก.ย. 2010, 17:15

smartss เขียน:ส่วนตัวคิดว่าที่จะลดsupply คุมกำเนิดการผลิตเภสัชกรมันไม่แฟร์กับประชาชนส่วนที่ยังยากที่จะเข้าถึงเภสัชกร
และกีดกันผู้ที่ต้องการจะเรียนเป็นเภสัชกร
เพิ่มคุณค่า/ขยายDemandเป็นส่วนสร้างสรรกว่า :wink:


เห็นด้วยในกรณีดังกล่าวค่ะ..อาจไม่เป็นจำเป็นถึงกับต้องลด supply ที่มีอยู่เดิม เพราะขนาดที่มีอยู่เดิมนี้
ถ้ามองกันจริง ๆ แล้ว ประชาชนก็ยังเข้าไม่ถึงอยู่เลยค่ะ
แต่ในกรณีต้อง control ที่มีอยู่เดิมให้มีคุณภาพและเพิ่มคุณค่า/ขยาย demand ให้เพียงพอมากขึ้นแทนอันนี้สำคัญเลยค่ะ
ทุก ๆ คนต้องปรับตัวและช่วยกันค่ะ ยึดถือบทบาทของตัวเองและทำหน้าที่ให้ดีที่สุดค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
mekfon
 
โพสต์: 28
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มิ.ย. 2006, 23:00
ที่อยู่: บ้านอิ่มใจ

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document