New Document









ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

ห้องเภสัชกร

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 13 ก.ย. 2010, 11:50

Pharma_Name เขียน:
ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:ม.ไหนเรียนจบแล้วเปิดร้านยาได้เลยบ้าง


ขั้นการเปิดร้านยาของเภสัชกร คือ เรียนให้จบหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตก่อน (ไม่ว่าจะสาขาไหนก็ตาม) ต่อจากนั้นต้องสอบใบประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมให้ผ่าน ที่เหลือก็หาทุน หาสถานที่ แล้วก็เปิดร้านยาได้ครับ ไม่ว่าจบมหาวิทยาลัยไหนก็เปิดได้ครับ

ผมหมายถึง ม.ที่สอนเน้นหนักในเรื่อง การจัดการ และประสพการในร้านยาให้กับนักศึกษาอย่างเต็มที่ โดยผู้ที่จบหลักสูตรเภสัชศาสตร์บัณฑิต ม.นั้นๆ ไม่ต้องไปหางานทำที่อื่นเพื่อหาประสพการเพิ่มเติมอีกก่อนจะเปิดร้านยา
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35







Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย Pharma_Name » 13 ก.ย. 2010, 13:26

ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:ม.ไหนเรียนจบแล้วเปิดร้านยาได้เลยบ้าง

ผมหมายถึง ม.ที่สอนเน้นหนักในเรื่อง การจัดการ และประสพการในร้านยาให้กับนักศึกษาอย่างเต็มที่ โดยผู้ที่จบหลักสูตรเภสัชศาสตร์บัณฑิต ม.นั้นๆ ไม่ต้องไปหางานทำที่อื่นเพื่อหาประสพการเพิ่มเติมอีกก่อนจะเปิดร้านยา


เรียนคุณธวัชชัย วรรณสว่าง "หลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิต" ตรงคำว่า ศาสตร ไม่มีการันต์ครับ
Pharma_Name
 
โพสต์: 357
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ย. 2007, 09:29
ที่อยู่: Bangkok

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย Pharma_Name » 13 ก.ย. 2010, 13:30

ในส่วนของการเรียนการสอนในหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตนั้น จะต้องมีการปรับสัดส่วนความสำคัญทั้งในส่วนโรงพยาบาล ร้านยา โรงงาน ผู้แทนยา เพราะเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่านักศึกษาของเราจะชอบด้านไหน และในการทำงานจริงนั้นก็จำเป็นที่ต้องมีการหาประการณ์ในหลาย ๆ ทางก่อนที่จะทำงานได้อย่างถ้องแท้ เหมือนกับทางแพทย์เองก็ต้องมีฝึกเพิ่มพูนทักษะหลังจากเรียนจบ

ดังนั้น คงไม่มีคณะไหนที่จะเปิดสอนเพิ่มให้มาเป็นเภสัชกรร้านยยาได้เลย นอกจากเด็กคนนั้นเก่ง และหาฝึกเพิ่มเติมระหว่างเรียนเอง ตอนแรกอ่านก็ตกใจเหมือนกันว่าทำไมคุณธวัชชัย ถึงถามว่ามหาวิทยาลัยไหนเรียนจบแล้วเปิดร้านยาได้เลยบ้าง พอมาขยายความทีหลังจึงเข้าใจ แนะนำว่าเขียนให้กระจ่างตั้งแต่แรกจะได้เข้าตรงกันแบบง่าย ๆ
แก้ไขล่าสุดโดย Pharma_Name เมื่อ 15 ต.ค. 2010, 07:40, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
Pharma_Name
 
โพสต์: 357
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ย. 2007, 09:29
ที่อยู่: Bangkok

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย sting19 » 13 ก.ย. 2010, 15:35

เด็กๆ ไม่รู้จักพี่ธวัชชัย อ่ะครับ :roll: :roll: :razz: :razz:
sting19
 
โพสต์: 207
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2005, 14:53

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย ธวัชชัย วรรณสว่าง » 13 ก.ย. 2010, 17:16

ม.มีถึง18 ม.ผมถามว่ามี ม.ไหนที่เปิดสอนเน้นให้นักศึกษาออกไปเปิดร้านยาบ้าง ที่ถามเพราะผมเคยอ่านนโยบายของ ม.กรุงเทพฯ(หลายปีมาแล้ว) ที่ว่า"มีนโยบายผลิตบัณฑิตเพื่อให้ออกมาทำงานในส่วนของเอกชน"(ม.กรุงเทพฯปัจจุบันยังไม่มีคณะเภสัชฯ)ผมอ่านแล้วก็ชอบใจ เพราะมันตรงกับใจผมที่ไม่ชอบทำงานอยู่ในกฎระเบียบของคนอื่น(อาจจะไม่ดีก็ได้)
ธวัชชัย วรรณสว่าง
 
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: 19 ส.ค. 2009, 19:35

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย API » 13 ก.ย. 2010, 18:33

คงไม่มี ม.ไหนกล้าบอกอย่างนั้นหลอกครับ ลองคิดดูว่าถ้าเกิดมี ม.ไหนบอกว่า จะผลิตแพทย์เพื่อเปิดคลีนิก คุณคิดว่าจะเป็นยังไงล่ะ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
API
 
โพสต์: 371
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ธ.ค. 2006, 21:02
ที่อยู่: สวรรค์

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย Pharma_Name » 13 ก.ย. 2010, 19:54

ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:ม.มีถึง18 ม.ผมถามว่ามี ม.ไหนที่เปิดสอนเน้นให้นักศึกษาออกไปเปิดร้านยาบ้าง ที่ถามเพราะผมเคยอ่านนโยบายของ ม.กรุงเทพฯ(หลายปีมาแล้ว) ที่ว่า"มีนโยบายผลิตบัณฑิตเพื่อให้ออกมาทำงานในส่วนของเอกชน"(ม.กรุงเทพฯปัจจุบันยังไม่มีคณะเภสัชฯ)ผมอ่านแล้วก็ชอบใจ เพราะมันตรงกับใจผมที่ไม่ชอบทำงานอยู่ในกฎระเบียบของคนอื่น(อาจจะไม่ดีก็ได้)


ยังยืนยันว่าไม่คณะเภสัชศาสตร์ สถาบันไหน ที่เป็นอย่างที่คุณธวัชชัยว่าครับ
Pharma_Name
 
โพสต์: 357
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 พ.ย. 2007, 09:29
ที่อยู่: Bangkok

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย azzuri » 13 ก.ย. 2010, 20:18

Pharma_Name เขียน:
ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน:ม.มีถึง18 ม.ผมถามว่ามี ม.ไหนที่เปิดสอนเน้นให้นักศึกษาออกไปเปิดร้านยาบ้าง ที่ถามเพราะผมเคยอ่านนโยบายของ ม.กรุงเทพฯ(หลายปีมาแล้ว) ที่ว่า"มีนโยบายผลิตบัณฑิตเพื่อให้ออกมาทำงานในส่วนของเอกชน"(ม.กรุงเทพฯปัจจุบันยังไม่มีคณะเภสัชฯ)ผมอ่านแล้วก็ชอบใจ เพราะมันตรงกับใจผมที่ไม่ชอบทำงานอยู่ในกฎระเบียบของคนอื่น(อาจจะไม่ดีก็ได้)


ยังยืนยันว่าไม่คณะเภสัชศาสตร์ สถาบันไหน ที่เป็นอย่างที่คุณธวัชชัยว่าครับ



เฉพาะทางขึ้นยังงั้ยก้อยังต้องเป็นเป็ดครับ
เภสัชกร = เภสัชกรรม + กรรมกร
อยากให้โลกนี้ไม่มีโชคร้าย
Welcome to My Life
Casa di AzzurRi = บ้านของนาย อัซซูร์รี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
azzuri
Global Moderator
 
โพสต์: 777
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 มี.ค. 2004, 16:22
ที่อยู่: สกลนคร

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย LeMmOy » 13 ก.ย. 2010, 23:28

โอ้ววว เภสัชเซนต์เทเรซ่า !!!!~ ผมว่าเด็กเภสัชที่นี่ต้องสวยและไฮโซแน่ๆเลย ว๊าวววๆๆๆๆ อยากย้อนเวลากลับไปเรียนด้วยจัง อิอิ :lol:
- เภสัช LeMmOy : อร่อยแท้แม้ไม่ทาอะไร -[/color]
ภาพประจำตัวสมาชิก
LeMmOy
 
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มิ.ย. 2009, 05:01

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย white-blue » 13 ก.ย. 2010, 23:59

ตอนผมกำลังเรียนในใจ อยากทำงาน รพ ชุมชนมาก ได้ฝึกงานแล้วรู้สึกชอบ
แต่พอเรียนจบได้ทำงาน จริงๆ แล้ว ช่างน่าเบื่อและจำเจมาก

ธวัชชัย วรรณสว่าง เขียน: มันตรงกับใจผมที่ไม่ชอบทำงานอยู่ในกฎระเบียบของคนอื่น(อาจจะไม่ดีก็ได้)


คำพูดนี้ตรงใจผมมาก ขอคาราวะ หนึ่งจอก
เพราะแสวงหา...มิใช่เพราะรอคอย

เพราะเชี่ยวชาญ...มิใช่เพราะโอกาส

เพราะสามารถ...มิใช่เพราะโชคช่วย

ดังนี้แล้ว "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
white-blue
 
โพสต์: 350
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 พ.ค. 2009, 11:32

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย yammyRx » 15 ก.ย. 2010, 12:10

1. เรื่องหลักสูตร เคยไปฟัง ทางสภาเภสัชกรรม ตอนนี้เค้ามีหลาย Model คะ
จะเห็นว่าแต่ละ ม จะใช้้คนละแบบ
ต่อไปอาจจะมีแบบกลาง
ส่งผลไปยังใบประกอบ อาจจะแยก หรือ ไม่แยกสาขา

2. มน. ป.โท มี สาขาเภสัชกรรมชุมชน
สอนเรื่องระบบ จัดการในร้าน ธุรกิจวิชาชีพ
พี่ที่รู้จักเค้าเล่าให้ฟังคะ
รบกวนผู้รู้ อธิบายเพิ่มด้วยคะ

3. เรียนต่อ ที่เน้น ร้านยา มีที่ไหนบ้างคะ
yammyRx
 
โพสต์: 56
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 22:39

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย myloveinmylife » 23 ก.ย. 2010, 02:18

Pharma_Name เขียน:
ballza เขียน:มันล้นตรงไหนเนี่ย รพ.ผมโคตรจะขาดแคลน ตอนนี้ทำงานสิบมือจนจะเป็นทศกัณฐ์แล้ว ไม่เคยมีวันไหนที่รพ.ผมจะมีเภสัชพอ มาดูได้ที่รพ.ภูมิพลอดุลยเดช


โรงพยาบาลผมขาดเภสัช แล้วผมสรุปว่าเภสัชขาดแคลน หรือว่าร้านยาแถวบ้านไม่มีเภสัช สรุปว่าเภสัชขาดแคลน อันนี้ผมว่ามันไม่ค่อยสมเหตุสมผลนะ ผมมองมันกระจายตัวไม่เหมาะสมด้วย เพราะ

โรงพยาบาลรัฐแห่งไหนโคตรขาดแคลน มันต้องคิดก่อนว่าทำไมถึงไม่มีใครมา เพราะไม่มีตำแหน่งหรือเปล่า หรือว่าถึงมีตำแหน่งก็ไม่มีใครมาเพราะมันกันดาร หรือถึงมีตำแหน่งก็ไม่มีใครมาเพราะบรรยากาศการทำงานไม่ดี หรืองานมันหนักมากจนไม่มีใครมา เพราะถ้าอย่างนั้นถึงผลิตเภสัชกรเพิ่มอีก 40 มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลท่านก็ยังขาดแคลนอยู่ดี ผลิตมามากเท่าไหร่เด็กที่จบใหม่ก็เทไปส่วนของผู้แทน และร้านยาในเมืองใหญ่หมด บางแห่งถึงกับสอบข้อเขียนเพื่อให้น้อง ๆ มารับตำแหน่งข้าราชการกันเลยทีเดียว (1 ตำแหน่ง คนสอบ 40 คน)

โรงพยาบาลของผมก็เช่นกันด้วยปริมาณงานคนไข้ที่มากขึ้นทุกวัน น้องที่มาฝึกงานแต่ละปีก็บอกว่า ถึงจบมาก็ไม่ทำที่นี่หรอกเพราะเหนื่อย คนไข้เยอะ ตำแหน่งจากส่วนกลางก็ไม่มี จะรับ เภสัชกร ลูกจ้างเงินบำรุงก็ลำบากโรงพยาบาลขาดทุน น้องที่ทำตำแหน่งเภสัชกรเงินบำรุง ทำได้สักปีก็ลาออกหมดบอกว่าไม่พอกิน ก้อย่างว่าเดี๋ยวนี้ค่าเทอมเป็นเหมาจ่ายหมดแล้ว เลยแพงมาก



เห็นด้วยอย่างยิ่ง
สนใจ โปรแกรมร้านขายยา ทดลองฟรี 45วัน >>https://goo.gl/iTwf2z okมั่กๆ อัพเดตฟรีตลอดชีพ ราคาไม่แพง
สนใจสินค้าราคาส่ง https://goo.gl/nYvtGh
ภาพประจำตัวสมาชิก
myloveinmylife
 
โพสต์: 334
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มี.ค. 2009, 18:59
ที่อยู่: รังสิต

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย myloveinmylife » 23 ก.ย. 2010, 02:19

smartss เขียน:แพ้หรือชนะเริ่มต้นที่ความคิด
พยาบาลเขาเลือก สิ่งน่ารังเกลียดมารับยาแทนเสมอ แต่ถ้าเสน่ห์แรง เธอจะจำแรงมาเองม้วนไปมาจนสำเร็จ xxเชียว
ผูกไทด์ก็เท่ห์ดี เพิ่มสวัสดีแล้วตั้ง Tip Box check rating ไปเลย :lol:
ใครคิดว่าด้อยกว่าพยาบาลใจเขาก็ด้อยกว่า
ใครคิดว่าด้อยกว่าหมอใจตัวก็ด้อยกว่า
ใครคิดว่าด้อยกว่าวิศวะใจตนก็ด้อยกว่า
ไม่มีใครเหยียดจิตใจเราได้ถ้าเราเองไม่เปิดรับการกระทำนั้นมาให้กระทำ
ลองใช้เกณฑ์อื่นมาวัดบ้าง
งานเภสัชอาจสบายจนเขาอิจฉา
สุขภาพเราอาจดีกว่าผู้รับบริการ
น่าตาบุคลิกเราดีกว่าพวกนั้น :mrgreen:
ทางใครทางมันก็ดี :arrow:
แพ้หรือชนะเริ่มต้นที่ความคิด



เห็นด้วยครับ
สนใจ โปรแกรมร้านขายยา ทดลองฟรี 45วัน >>https://goo.gl/iTwf2z okมั่กๆ อัพเดตฟรีตลอดชีพ ราคาไม่แพง
สนใจสินค้าราคาส่ง https://goo.gl/nYvtGh
ภาพประจำตัวสมาชิก
myloveinmylife
 
โพสต์: 334
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 มี.ค. 2009, 18:59
ที่อยู่: รังสิต

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย Fender » 23 ก.ย. 2010, 02:57

จากความคิดผมนะ สาเหตุนึงที่ทำให้ประชากรล้นน่าจะมาจากการเรียนการสอนเป็นส่วนหนึ่งหน่ะครับ จากหลักสูตรของเราบางสายเช่น สายชุมชน แหล่งฝึกก็หาง่ายมากๆ เพราะร้านยาก็มีอยู่ทั่วไป นอกจากจะได้เด็กมาช่วยงานร้านแล้วยังได้เงินค่าแหล่งฝึกจากทางคณะด้วย นอกจากนี้การเรียนก็เป็นแนวทฤษฏีเยอะมาก เรียนจากตำรา แล้ว ก็สอบ ถ้ามีม.เอกชนสักแห่งอยากเปิดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนใหญ่ก็คิดว่าถึงค่าเทอมจะแพง แต่จบออกมาก็คุ้มทำทุนคืนได้อยู่แล้วเพราะดีกรีก็เป็นเภสัช เงิืนเดือนก็ควรจะได้มากกว่างานสายอื่นๆ การสอนก็ไม่มีอะไรมาก ปิ้งสไลด์สอนไป พาวเวอร์พอยน์สอนไป ถึงเวลาก็สอบ สอบตก ก็ลงใหม่ สำหรับสายคลินิก แหล่งฝึกอาจจะมีน้อยกว่า แต่ด้วยประชากรที่เรียนมีไม่มากนัก supply ก็ยังมากกว่า demand อยู่ดี การเรียนของเราไม่ต้องไปขึ้น ward ตั้งกะ ปีสองปีสามเหมือนหมอ เรียนจากทฤษฏีล้วนๆ เครื่องมือก็ไม่ต้องใช้มาก (ยกเว้น ภาคเภสัชอุตสาหกรรม ซึ่งม.เอกชนส่วนใหญ่ก็ไม่มี tract นี้ เพราะต้องลงทุนซื้อเครื่องมือ เครื่องไม้ ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ผ่านเกณฑ์อีก ส่วนใหญ่เลยไปเปิดเป็น care กะ clinic มากกว่า) อันนี้แหล่ะที่น่าสนใจ เก็บค่าเทอมเด็กได้แพงๆ เทอมละเจ็ดแปดหมื่น ร้อยหัว ก็ตก 7-8 ล้านต่อเทอม เสียก็ค่าเงินเดือนอ. แต่คิดยังไงก็กำไรเหนอะๆ ลงทุนค่าตำราอีกนิด ค่าตึกอีกหน่อย แรกๆอาจขาดทุนก็เหมือนระบบธุรกิจทั่วไป แต่พอคืนทุนแล้วก็เสือนอนกินดีๆนี่เอง อีกอย่าง การเปิดคณะเภสัช คู่แข่งทางการตลาดก็มีน้อยถ้าเทียบกับสายอื่นๆ เช่น วิศวะ บัญชี หรือ etc. ถ้าเปิดยังไงก็ต้องมีคนมาเรียน ถ้าผมมีเงินทุนซักก้อนนึงไม่แปลกหรอกที่จะลงทุนด้านนี้

คิดเล่นๆว่า ถ้าให้เด็กฝึกงานเหมือนหมอตั้งกะปีสองปีสาม (ไม่แน่ใจปีไร) ก็คงยากเพราะวิชาชีพเราเป็นเป็ดน้อยที่รู้หมดทุกอย่างว่ายน้ำก็ว่ายได้บินก็บินได้แต่ก็ไม่เก่งซักทาง ต้องรู้ทฤษฏีของทั้งสาย tech care clinic etc. ก็คงไม่เหมือนหมอเพราะเค้าก็เน้นทางรักษาคน อยู่แล้ว จบมาใครจะไปต่อเฉพาะทาง ก็ไป แล้วถามอีกนิดว่า ถ้าสายเราๆ มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนถ้าหากให้เด็กเลือกเรียนตั้งกะปีสองเลย แล้วก็ไปฝึกงานตอนปี 3 (ประสบการณ์เน้นๆ ปัญหาที่ตามมาอีกก็คือ สาย tech ไม่มีแหล่งฝึก แล้วถ้ามหาลัยเิปิดโรงงานเองหล่ะ เป็นไปได้มั้ย??? น่าคิดแฮะ เหมือนหมอเค้าก็เรียน รพ.ของมหาลัย ครู(ม.ดังๆ เค้าก็มีสาธิตให้สอน) แล้วเราจะเปิดโรงงานเองมั่งดีมั้ย 555+ สาย care ร้านยาคงไม่เป็นปัญหา (แต่อาจเป็นปัญหาด้านค่าแหล่งฝึก) สาย clinic อันนี้ไม่แน่ใจ 555+

วิธีแ้ก้ปัญหา ล้นตลาดจากหลักสูตร (จากความคิดของผม)

ทำให้มันมีความเสี่ยงในการลงทุนซะสิ >>> requirement สูงๆเข้าไว้ เป็นต้นว่า ถ้าจะเปิด ก็ต้องเปิดให้อย่างต่ำสามสาย (ปัจจุบันมีสายย่อยๆอีกมากมายต้องขอโทษหากไม่ได้เอ่ยถึงนะครับ) คือ tech care clinic โดยอาจจะต้องมีแหล่งฝึกที่พร้อมเพรียง มีรง.เป็นของตัวเอง รองรับเด็กได้หรือมีอุปกรณ์ที่เพรียบพร้อมเพียงพอเช่น HPLC 1 เครื่องต่อเด็ก 5 คน อ.ผู้สอน ต้องมี degree หรือ ผลงานเป้นที่ยอมรับ เด็กจบใหม่ต้องสอบผ่านเกณฑ์ไม่ต่ำกว่า 60% (จำนวนเด็กขั้นต่ำมากกว่า 60 คน) ติดต่อกัน 5 ปี ถ้าไม่ถึงก็ไม่รับรองหลักสูตร ถ้า 10 ปีก็ไม่รับรองสถาบันไปเลย เกณ์ฑ์การคัดเลือกเด็กเข้าเรียน ต้องใช้ข้อสอบจากส่วนกลางที่ สภาเป็นผู้ออกข้อสอบ อาจใช้เหมือนกันกับพวกที่สอบตรงในม.รัฐอื่นๆ วัดพื้นฐานกันไปเลยจริงๆ ทางคณะจะต้องมีการทำผลงานทางวิชาการออกมาอย่างต่อเนือ่งไม่ต่ำกว่า.... ชิ้นต่อปีถ้าไม่ถึงปีต่อไปห้ามรับเด็กปี 1 เป็นต้นน 555+ ถ้าทำได้จริงๆ ม.อื่นๆที่จะเปิดเพิ่มคงต้องคิดหนักหล่ะครับ เพราะการลงทุนมันไม่ง่ายอย่างที่คิดและมีความเสี่ยงในการขาดทุนทุกเมื่อหากไม่รักษาคุณภาพไว้ 555+ อันนี้คิดเล่นๆนะครับ ถ้าพาดพิงหรือทำร้ายความรู้สึกครายก็ขอโทษด้วยคร้าบบบ

ส่วนที่มันล้นแล้วมีบางที่ขาดผมว่าก็เหมือนอย่างที่คุณพี่ Pharma_Name พูดแหล่ะครับ ล้นแ้ล้วกระจายตัวไม่เหมาะสมด้วย เพราะอะไร??? เพราะว่า การแก้ไขปัญหาอยากให้เภสัชมีเพียงพอต่อความต้องการของประเทศเลยรับให้มากขึ้น >> ตรงจุด??? >> คนที่เข้ามาเรียน ก็เห็นมีแต่เด็กในเมือง เด็กบ้านๆ ไกลๆ ไม่เคยได้เข้ามาเรียน บางคนได้เ้ข้ามาเรียน ก็หลงแสงสี ระเริงไปกับชีวิตคนเมืองที่ตัวเองไม่เคยได้เจอ จบไป>>> ก็ไม่มีใครไปทำไกลๆหรอกครับ กรุงเทพ เดินสี่ห้าก้าว ก็เจอร้านยาแระ ในห้างก็มีซะเกือบทุกชั้น 555+ ทำไงดีหล่ะ??? ตอบยากครับหุหุ มีหลายปัจจัยมากก อาจต้องไปลองออกแบบการทดลองหาปัจจัยที่มีผล หรือไม่ก็ทำ PAT ก่อน หุหุหุ

ป.ล.
เสนอแนะเพิ่มเติมเล่นๆ ^^
เห็นเด็กเก่งๆ ป.เอก เค้ามีเรียนแลกเปลี่ยนกันระหว่างประเทศ ก็อยากให้เมืองไทยมีแบบนี้มั่ง แลกเปลี่ยนระหว่าง มหาวิทยาลัย 1 ปี รึ หนึ่งเทอม เพราะจะช่วยทำให้เด็กหูตาสว่างมากขึ้น บางคนเรียนที่ม.ตัวเองเก่งมากระดับเทพ 3.80 อัพ แต่พอไปอีกม. เทียบเด็ก 2.50 ยังไม่ติด เปิดโลกทัศน์ดู อาจได้เห็นไรดีๆ อีกทั้งยังเป็นโอกาสด้วยถ้าเด็กคนนั้นจบไปได้เป็นอาจารย์ บางทีการไปดูงานไปเรียนจากม.อื่นๆ เค้าก็สามารถเอาอะไรๆที่ได้จากม.อื่นมาพัฒนาปรับปรุงการเรียนการสอนให้มันมีคุณภาพมากขึ้นด้วย อีกอย่างมันทำให้เข้าถึงกันและกันง่ายขึ้น รู้จักกับเพื่อนร่วมวิชาชีพมากขึ้น ทำให้อะไรๆก็พัฒนาแบ่งปันกันได้ดีขึ้น รึเปล่า 555+
ภาพประจำตัวสมาชิก
Fender
 
โพสต์: 24
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ค. 2009, 18:28

Re: ตอนนี้เป็นยุคมืดของเภสัชกร???

โพสต์โดย denzo » 06 ต.ค. 2010, 19:42

เอ๊ะ แล้วเราผ่าน ยุคสว่างสดใส มาแล้วหลอ
เราต้องทุกข์ทรมานก่อนหรือ ถึงจะได้ลิ้มรสชาติของความสุข
ภาพประจำตัวสมาชิก
denzo
 
โพสต์: 49
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 22:21

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง เอสเปรสโซ่

ผู้ใช้งานขณะนี้

New Document