คำวิเคราะห์จากนักวิแคะ

[blacksmithday]

เมื่อวันศุกร์ได้ไปหาโบรคเกอร์ประจำตัวซึ่งซื้อขายกันมานานหลายปี ซึ่งโบรคเกอร์ก็แนะนำอย่างนั้นอย่างนี้ตามประสาของเขาไป อยากจะบอกว่าผมไม่เคยเชื่อเธอเลย แต่เน้นที่ว่าเธอสวย เวลาสอบถามข้อมูลก็มักจะนัดเธอออกมากินข้าวเพื่อเจริญสายตาไปด้วยและฟังบทวิเคราะห์จากนักวิแคะของเธอในการลงทุนในตลาดหลอกทรัพย์ซึ่งไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไรหรอก ซื้อตามทีไร หุ้นลงทุกที กองแช่งอยากตาย แต่มีประโยคนึงที่เธอพูดแล้วสะดุดหัวทิ่มหัวตำเลยก็คือ ขณะนี้อุปสงค์ อุปทานของตลาดโดยรวมได้เปลี่ยนไปแล้ว คนทำงานอยากสบายมากขึ้น อยากได้เงินเดือนสูงมากขึ้น แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปในแก่นแท้ของวิชาชีพ ฟังดูแล้วเป็นไง ฟังดูแล้วก็ให้หวนคิดถึงวิชาชีพเรา เราผลิตคนเภสัชออกมามากมายเพื่ออะไร เพื่อสนองความต้องการทางด้านการเงินของผู้บริหารที่มีสมองหมาปัญญาควาย เพื่อจะทำยอดรายได้เข้าสถานศึกษา แล้วเรารับผิดชอบในผลผลิตนี้รึป่าว แบบว่าจบมามีงานทำให้เลย ฝากเข้าทำงานให้เลยให้คุ้มกับค่าเล่าเรียนอันแพงลิบลิ่ว สักวันผมทายอนาคตไว้เลยว่าถ้าเราไม่ใช้ถุงยางในการคุมกำเนิดบัณฑิตจบใหม่ เราจะมีเภสัชเดินกันเกร่อ เราจะกลับไปใช้คำว่า เบๆ ซึ่งแปลว่าเบสิค เราจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยห้องแถวเหมือนไอ้ปินมัน คิดแล้วก็เศร้า
ปล ขออภัยที่ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ แต่เพื่ออรรถรสในการรับชม ถ้าไม่พอใจ ลบได้เลย

[apotheker]

อุปทานของตลาดโดยรวมได้เปลี่ยนไปแล้ว คนทำงานอยากสบายมากขึ้น อยากได้เงินเดือนสูงมากขึ้น แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปในแก่นแท้ของวิชาชีพ

อีกอย่างคือคนห่วงเรื่องหน้าตามากขึ้นเพราะความสวยความหล่อจะเป็นทางลัดในการสร้างฐานะได้

[kohboy]

เมื่อวันศุกร์ได้ไปหาโบรคเกอร์ประจำตัวซึ่งซื้อขายกันมานานหลายปี ซึ่งโบรคเกอร์ก็แนะนำอย่างนั้นอย่างนี้ตามประสาของเขาไป อยากจะบอกว่าผมไม่เคยเชื่อเธอเลย แต่เน้นที่ว่าเธอสวย เวลาสอบถามข้อมูลก็มักจะนัดเธอออกมากินข้าวเพื่อเจริญสายตาไปด้วยและฟังบทวิเคราะห์จากนักวิแคะของเธอในการลงทุนในตลาดหลอกทรัพย์ซึ่งไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไรหรอก ซื้อตามทีไร หุ้นลงทุกที กองแช่งอยากตาย แต่มีประโยคนึงที่เธอพูดแล้วสะดุดหัวทิ่มหัวตำเลยก็คือ ขณะนี้อุปสงค์ อุปทานของตลาดโดยรวมได้เปลี่ยนไปแล้ว คนทำงานอยากสบายมากขึ้น อยากได้เงินเดือนสูงมากขึ้น แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปในแก่นแท้ของวิชาชีพ ฟังดูแล้วเป็นไง ฟังดูแล้วก็ให้หวนคิดถึงวิชาชีพเรา เราผลิตคนเภสัชออกมามากมายเพื่ออะไร เพื่อสนองความต้องการทางด้านการเงินของผู้บริหารที่มีสมองหมาปัญญาควาย เพื่อจะทำยอดรายได้เข้าสถานศึกษา แล้วเรารับผิดชอบในผลผลิตนี้รึป่าว แบบว่าจบมามีงานทำให้เลย ฝากเข้าทำงานให้เลยให้คุ้มกับค่าเล่าเรียนอันแพงลิบลิ่ว สักวันผมทายอนาคตไว้เลยว่าถ้าเราไม่ใช้ถุงยางในการคุมกำเนิดบัณฑิตจบใหม่ เราจะมีเภสัชเดินกันเกร่อ เราจะกลับไปใช้คำว่า เบๆ ซึ่งแปลว่าเบสิค เราจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยห้องแถวเหมือนไอ้ปินมัน คิดแล้วก็เศร้า
ปล ขออภัยที่ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ แต่เพื่ออรรถรสในการรับชม ถ้าไม่พอใจ ลบได้เลย

ชอบบทวิเคราะห์แบบ "เห็นความจริง ไม่เสแสร้ง ไม่ตอแหลสร้างภาพ" แบบนี้จังเลยครับ

มาเขียนให้อ่านบ่อยๆนะครับ,
ผมอ่านแล้ว..รู้สึกดี ครับ

[frankie8]

ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวกลไกตลาดก็ปรับเข้าสู่สมดุลของมันเองครับ เมื่อไหร่สมดุลมันก็จะหาเรื่องให้ไม่สมดุล
เมื่ออุปทานเยอะกว่าอุปสงค์ ตลาดก็จะปรับตัวทำให้ราคาของสินค้าที่อุปสงผลิตออกมาราคาถูกลงตามกลไกของตลาด
ในอนาคตเภสัชมีเยอะ แต่ค่าจ้างถูกลงครับ

[Ham bun]

ภาพที่สังคมมองเรา เลิศหรู พวกแพทย์ เภสัช หือ หัวดี
เงินเดือนสูง คนภายนอกมองเราเงินเดือน 40000 บาท UP
แต่ในสภาพความเป็นจริงมองใน กลุ่มคนส่วนใหญ่ของเภสัชฯ จะทำงานในส่วน รพ
ซึ่งไม่ใช่เลย 40000 Up เนี่ยต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ
หลายคนเริ่มคิดหันไปประกอบอาชีพอื่น
หลายคนถ้ามีคนใกล้ตัวถาม ก็จะบอกว่าไปเรียนอย่างอื่นเถอะ
ทำงานจบมาทำงาน Office ได้เงินพอกัน แถมไม่ต้องอยู่เวรเลิกดึก ไม่ต้องเสี่ยง
โอ้ววว เกิดอะไรขึ้นกับวิชาชีพเราหนอ แตกต่างจากตอนเข้าเรียน

เบื้องลึกจริงๆแล้ว เราและหลายๆคนก็ยังคงภาคภูมิใจในวิชาชีพ
เพราะเป็นสัมมาอาชีพ เป็นอาชีพที่ทำประโยชน์ให้สังคม ทำแล้วได้บุญ
เป็นผู้ให้ มันน่าภาคภูมิใจนะ
แต่ถ้ามัน Balance กันให้ไม่ขัดจากภาพลักษณ์ก็คงดีนะ

[Mr. Sexman]

เมื่อวันศุกร์ได้ไปหาโบรคเกอร์ประจำตัวซึ่งซื้อขายกันมานานหลายปี ซึ่งโบรคเกอร์ก็แนะนำอย่างนั้นอย่างนี้ตามประสาของเขาไป อยากจะบอกว่าผมไม่เคยเชื่อเธอเลย แต่เน้นที่ว่าเธอสวย เวลาสอบถามข้อมูลก็มักจะนัดเธอออกมากินข้าวเพื่อเจริญสายตาไปด้วยและฟังบทวิเคราะห์จากนักวิแคะของเธอในการลงทุนในตลาดหลอกทรัพย์ซึ่งไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไรหรอก ซื้อตามทีไร หุ้นลงทุกที กองแช่งอยากตาย แต่มีประโยคนึงที่เธอพูดแล้วสะดุดหัวทิ่มหัวตำเลยก็คือ ขณะนี้อุปสงค์ อุปทานของตลาดโดยรวมได้เปลี่ยนไปแล้ว คนทำงานอยากสบายมากขึ้น อยากได้เงินเดือนสูงมากขึ้น แต่ไม่ได้เจาะลึกลงไปในแก่นแท้ของวิชาชีพ ฟังดูแล้วเป็นไง ฟังดูแล้วก็ให้หวนคิดถึงวิชาชีพเรา เราผลิตคนเภสัชออกมามากมายเพื่ออะไร เพื่อสนองความต้องการทางด้านการเงินของผู้บริหารที่มีสมองหมาปัญญาควาย เพื่อจะทำยอดรายได้เข้าสถานศึกษา แล้วเรารับผิดชอบในผลผลิตนี้รึป่าว แบบว่าจบมามีงานทำให้เลย ฝากเข้าทำงานให้เลยให้คุ้มกับค่าเล่าเรียนอันแพงลิบลิ่ว สักวันผมทายอนาคตไว้เลยว่าถ้าเราไม่ใช้ถุงยางในการคุมกำเนิดบัณฑิตจบใหม่ เราจะมีเภสัชเดินกันเกร่อ เราจะกลับไปใช้คำว่า เบๆ ซึ่งแปลว่าเบสิค เราจะกลายเป็นมหาวิทยาลัยห้องแถวเหมือนไอ้ปินมัน คิดแล้วก็เศร้า
ปล ขออภัยที่ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ แต่เพื่ออรรถรสในการรับชม ถ้าไม่พอใจ ลบได้เลย

ชอบบทวิเคราะห์แบบ "เห็นความจริง ไม่เสแสร้ง ไม่ตอแหลสร้างภาพ" แบบนี้จังเลยครับ

มาเขียนให้อ่านบ่อยๆนะครับ,
ผมอ่านแล้ว..รู้สึกดี ครับ

ผมอ่านแล้วน้ำตาจะไหล แล้วพี่

[kohboy]

ผมอ่านแล้วน้ำตาจะไหล แล้วพี่

เป็นยังไงบ้างหละ..เกาะช้าง สวรรค์แห่งร้านขายยา,
ตอนนี้นับถอยหลังกันถ้วนหน้า ชิมิ?

[Mr. Sexman]