เอาห้องนี้ละคะ-อย่าซื้อยากินเอง

[anan]

กรี๊ดดดดคะ
แม้จะช้าไปหน่อย แอนไม่ถามนะว่าคิดอย่างไรกับ ... เพราะเดี๋ยวถูกว่าอีก
แต่จะบอกว่าประโยค "อย่าซื้อยากินเอง" มันสำแดงเดชแล้วคะ
รายการตีสิบไงคะพี่น้อง คงทราบกันไปทั้งเมืองแล้ว เพราะสภาเภสัชกรรมก็ตอบโต้เอ๊ยชี้แจงไปแล้ว ได้ใจเลยคะ
แต่มันก็ได้ใจเภสัชด้วยกันเองอย่างเดียว ใจประชาชนหายไปแล้วแน่นอนคะ ประชาชนใจหาย ไม่กล้ามาหาเภสัชกรแล้ว ด้วยประโยคสุดฮิต

จำได้ไหมคะ ใครเอ่ยเคยพูดประโยคนี้บ่อย ๆ เวลา แถ-ลงข่าว ตบท้ายเท่ ๆ ด้วยคำว่า อย่าไปซื้อยากินเองนะจ๊ะ โอ้โฮ
แล้วมีมันทำไมฟะ อาชีพอื่น ๆ อะไร ๆ ก็ไปหาหมอ ดีคะ หมอจะได้ไม่มีเวลาว่าง

จริง ๆ ต้องต่อท้ายว่า อย่าไปซื้อยากินเองนะ ถ้าไปที่ร้านที่ไม่มีเภสัชกร ก็นะคะ ไม่รู้จะพูดได้อย่างไร น้ำมันท่วมปากกันทั้งนั้นผู้หลักผู้ใหญ่ใหนเมืองสารขัณฑ์นี้ แถมวิชาชีพเรายังถูกรังแกด้วยรายการสาระน้อย บันเทิงเยอะแบบนี้อีก

สภาขา ไปซื้อเวลาจัดรายการบ้างดีกว่า สปอนเซอร์ก็บริษัทยานี้แหละ ช่วย ๆ กัน จะได้ไหมคะ

น้องแอนไม่รู้จะบ่นอะไรแล้วคะ สิ้นหวังกับระบบเภสัชกรรมชุมชนของไทย ที่ดูแลโดยผู้ไม่รับผิดชอบต่อวิชาชีพของตนเองและไม่รับผิดชอบสังคม สาปส่ง ขอให้ลงนรกกันให้หมกไหม้เลยนะคะ เพี้ยง

[apotheker]

ทั้งหมดทั้งปวงล้วนมาจากการปล่อยให้หมอตี๋ขายยาแทนเรามานานเกินไป ได้เวลาขอคืนพื้นที่จ่ายยาในร้านยาแล้วครับ ข่าวแว่วๆมาว่าเชียงใหม่ เริ่มกระชับพื้นที่แล้วครับ ยังไงก็ขอเอาใจช่วย

ปล.เรื่องเล่าเมื่อเช้านี้
คนไข้ ซื้อยามดลูกอักเสบหน่อย
เภสัช ซักอาการไม่มีการติดเชื้อ มีปวดท้องน้อยหลังยกของหนัก หยิบmefenamic มา
คนไข้ ยาไรอ่ะ ไม่เคยกิน ไม่เอาดีกว่า กลัวแพ้เดี๋ยวเหมือนในทีวี เอากาโน่มาแผงนึง
เภสัช

[Barrios]

คือจะให้พูดว่า ไปซื้อยาถามหาเภสัช คงต้องเดินเป็น 10 ๆ ร้าน กว่าจะเจอ
อยากให้พูด ว่าอย่าซื้อยากินเอง แล้วช่วยแถมหน่อยว่า ร้านแขวนป้ายมันเยอะ หาเภสัชยาก จะได้เริ่มทำอะไรกันจริงจังซักที

[ShioMi]

เชียงใหม่กำลังเริ่มกระชับพื้นที่แล้วจริงๆครับ

แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหนต้องคอยดูกันต่อไป

ปล.อยากบอกว่า รพ.สวนดอก ไม่มีเงินค่าไม่ปฏิบัติเวชให้เลย ใบประกอบของเภสัชกรหลายคนจึงปลิวไปตกตามร้านยาต่างๆ

[anan]

เชียงใหม่กำลังเริ่มกระชับพื้นที่แล้วจริงๆครับ

แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหนต้องคอยดูกันต่อไป

ปล.อยากบอกว่า รพ.สวนดอก ไม่มีเงินค่าไม่ปฏิบัติเวชให้เลย ใบประกอบของเภสัชกรหลายคนจึงปลิวไปตกตามร้านยาต่างๆ

ขอบคุณ สสจ.เชียงใหม่ และผู้ที่เกี่ยวข้องในการกระชับพื้นที่ เป็นกำลังใจให้คะ
ส่วนเภสัช รพ.สวนดอก ไม่มีเงินค่าไม่ปฏิบัติเวช ก็ไม่เป็นไรนี่คะ ก็ออกไปอยู่ร้านตามเวลาที่แจ้งและใบประกอบที่ปลิวไปก็น่าจะได้ เป็นเรื่องที่ถูกต้องด้วยคะ ส่วนท่านที่ได้เงินนี้ก็คงไม่ไปทั้งตัวและใบประกอบอยู่แล้วใช่ไหมคะ

[LeMmOy]

จะว่าไปผมว่าเภสัชเราอ่อนด๋อยในเรื่องการพีอาร์ให้เข้าถึงหัวใจคนส่วนใหญ่นะครับ ด้วยลักษณะงานหรือหน้าที่ความรับผิดชอบผมว่าพวกเราทำกันยอดเยี่ยมอยู่แล้ว แต่ในยุคนี้เป็นยุคของสื่อน่ะครับ เห็นอย่างงี้ก็ต้องยอมรับว่าหมอเค้ามีหัวด้านพีอาร์เก่งกว่าเภสัช + เค้ามีความสามารถในการเข้าไปเกาะยึดกับสิ่งที่มีพาวเวอร์ต่อองค์กรวิชาชีพเค้ามากกว่าเภสัช งานหมอเค้าก็หนักจริงๆ รับผิดชอบต่อชีวิตผู้ป่วยเหมือนๆกับเรา แต่เค้าสามารถแบ่งเวลาไปทำพีอาร์ให้มีประสิทธิภาพเข้าถึงคนจำนวนมากๆได้ด้วย

จริงๆแล้วเภสัชมีทรัพยากรเหลือเฟือมากพอที่จะทำพีอาร์ให้คนรุ้จักและเข้าใจเราดีกว่านี้ในวงกว้างนะครับ ไม่ว่าจะเป็นสปอนเซอร์จากบริษัทยาหรืออะไรก็ตาม แต่น่าเสียดายที่น้าๆเภสัชอาจคิดว่าจะทำไปทำไม ไร้สาระ สุ้เอาเวลาที่เหลือมาทำงานดีกว่า ทำงานดีๆถึงคนไม่เห็นฟ้าก็เห็นเอง อะไรประมาณนี้ ซึ่งผมว่าสำหรับยุคนี้มันน่าจะเป็นสิ่งที่มาควบคู่กันระหว่างการพีอาร์กับงานของเภสัช

มันก็น่าจะทำได้ไม่ใช่หรอครับ .. รึเปล่าครับ

[blacksmithday]

เชียงใหม่กำลังเริ่มกระชับพื้นที่แล้วจริงๆครับ

แต่จะทำได้มากน้อยแค่ไหนต้องคอยดูกันต่อไป

ปล.อยากบอกว่า รพ.สวนดอก ไม่มีเงินค่าไม่ปฏิบัติเวชให้เลย ใบประกอบของเภสัชกรหลายคนจึงปลิวไปตกตามร้านยาต่างๆ

ยินดีด้วยครับ ที่เริ่มกระชับพื้นที่แล้ว แต่อีกอย่างนึงที่สภาควรทำคือ ส่งคณบดีทั้งหลายไปเรียนเศรฐศาสตร์ เพื่อที่คนเหล่านี้จะได้เจริญปัญญากับคำว่า อุปสงค์และอุปทาน เพื่อที่จะได้ไม่เกิดคำว่า เภสัช(เกิน)

[Ham bun]

อยากให้สภามีเภสัชฯที่มีหัวคิดด้านเศรษฐศาสตร์ เหมือนกัน
จะได้ไม่ทำไร แบบสุดโต่ง อิมเมจิ้น วิชาการจ๋า แบบไม่สนสภาพความเป็นจริงเล้ยยยย
ก็แค่เปลี่ยนเงินไม่ทำเวชปฏิบัติ เป็นเงินค่าวิชาชีพ หรืออื่นๆ
ที่ได้รับกันทุกคน ทำไมทำ Part time แล้วมันผิดตรงไหน ถึงทำแล้วไม่มีสิทธิได้ 5000 เนี่ย
อย่าบอกนะว่าผู้ใหญ่หลายท่าน ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยน่ะ
ทำ Part time ได้ประสบการณ์ ได้อะไรหลายอย่าง ได้มุมมองที่จะพัฒนางาน หรือไม่จริง
แล้วไรเนี่ย จะมาปิดกั้นกันด้วยเงินไม่ทำเวช
มันก็แขวนป้ายสิ ตามหลักความจริง
นโยบายมันส่งเสริมการแขวนป้ายทางอ้อม ทั้งที่เต็มใจและไม่เต็มใจ เพราะจำเป็น
ลองเปลี่ยนเงื่อนไขของเงินไม่ทำเวชฯ เปลี่ยนชื่อมันซะ ให้มันได้กันทุกคน ไม่ต้องเหลื่อมล้ำหรือมีความแตกต่าง
ระหว่างคนที่ทำ Part Time และไม่รับ Part time เปิดกว้างให้อิสระกัน ให้ได้กันทุกคนเท่าเทียม
แล้วลองติดตามดูเลย ว่า การแขวนป้ายน่ะลดลง ลองดูสิ
แก้กันที่สาเหตุดิ ไม่ใช่เอะอะมาโทษจรรยาบรรณกันท่าเดียว
ภาคภูมิใจกันนักเหรอ ที่นับวันยิ่งมีเภสัชเริ่มเดินออกจากวิชาชีพไปทำอาชีพอื่น
หรือทำอาชีพเสริมอย่างอื่น
คิดถึงทางหลักเศรษฐศาสตร์กันบ้าง มองในมุมของความอยู่รอดในเรื่องการดำรงชีวิตบ้างประกอบกัน
มองรอบๆมุม เฮ้อ อัดอั้นตันใจเหลือเกิน

[API]

ลองเปลี่ยนเงื่อนไขของเงินไม่ทำเวชฯ เปลี่ยนชื่อมันซะ ให้มันได้กันทุกคน ไม่ต้องเหลื่อมล้ำหรือมีความแตกต่าง
ระหว่างคนที่ทำ Part Time และไม่รับ Part time เปิดกว้างให้อิสระกัน ให้ได้กันทุกคนเท่าเทียม
แล้วลองติดตามดูเลย ว่า การแขวนป้ายน่ะลดลง ลองดูสิ
แก้กันที่สาเหตุดิ ไม่ใช่เอะอะมาโทษจรรยาบรรณกันท่าเดียว

จริงหรือ คิดว่าเปลี่ยนชื่อแล้วให้มันได้ทุกคน แล้วจะแขวนป้ายน้อยลงหรือ...???

ลองไปศึกษาดูก่อนว่าเงินก้อนนี้ได้มาเพราะเหตุอันใด....

จรรยาบรรณกับเศรษฐศาสตร์ มันมักจะมองสวนทางกันเสมอ....

[anan]

อยากให้สภามีเภสัชฯที่มีหัวคิดด้านเศรษฐศาสตร์ เหมือนกัน
จะได้ไม่ทำไร แบบสุดโต่ง อิมเมจิ้น วิชาการจ๋า แบบไม่สนสภาพความเป็นจริงเล้ยยยย
ก็แค่เปลี่ยนเงินไม่ทำเวชปฏิบัติ เป็นเงินค่าวิชาชีพ หรืออื่นๆ
ที่ได้รับกันทุกคน ทำไมทำ Part time แล้วมันผิดตรงไหน ถึงทำแล้วไม่มีสิทธิได้ 5000 เนี่ย
อย่าบอกนะว่าผู้ใหญ่หลายท่าน ชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยน่ะ
ทำ Part time ได้ประสบการณ์ ได้อะไรหลายอย่าง ได้มุมมองที่จะพัฒนางาน หรือไม่จริง
แล้วไรเนี่ย จะมาปิดกั้นกันด้วยเงินไม่ทำเวช
มันก็แขวนป้ายสิ ตามหลักความจริง
นโยบายมันส่งเสริมการแขวนป้ายทางอ้อม ทั้งที่เต็มใจและไม่เต็มใจ เพราะจำเป็น
ลองเปลี่ยนเงื่อนไขของเงินไม่ทำเวชฯ เปลี่ยนชื่อมันซะ ให้มันได้กันทุกคน ไม่ต้องเหลื่อมล้ำหรือมีความแตกต่าง
ระหว่างคนที่ทำ Part Time และไม่รับ Part time เปิดกว้างให้อิสระกัน ให้ได้กันทุกคนเท่าเทียม
แล้วลองติดตามดูเลย ว่า การแขวนป้ายน่ะลดลง ลองดูสิ
แก้กันที่สาเหตุดิ ไม่ใช่เอะอะมาโทษจรรยาบรรณกันท่าเดียว
ภาคภูมิใจกันนักเหรอ ที่นับวันยิ่งมีเภสัชเริ่มเดินออกจากวิชาชีพไปทำอาชีพอื่น
หรือทำอาชีพเสริมอย่างอื่น
คิดถึงทางหลักเศรษฐศาสตร์กันบ้าง มองในมุมของความอยู่รอดในเรื่องการดำรงชีวิตบ้างประกอบกัน
มองรอบๆมุม เฮ้อ อัดอั้นตันใจเหลือเกิน

ว้ายยยยย อะไรกันคะเนี่ย น้องแอน งงงงงง
กะลังแยกประเด็นอยู่น่ะคะ .....
ไม่รับเงินอันนี้ แล้วจำเป็นต้องไป"แขวนป้าย" หรือไงคะ
ก็ไม่รับเงินนี้ แล้วก็ไปอยู่ตามป้ายซะเลยไม่ดีกว่าหรือคะ ก็รับเงินเขามาแล้วไม่ใช่หรือคะ ...หมายถึงเงินจากเจ้าของร้านนะ

ส่วนคนที่รับเงินหลวง แหม ก็หลวงอุตสาห์จ้างให้ไม่ไปทำอะไรแปลก ๆ แล้ว อยู่สบาย ๆ ก็ดีแล้วนี่คะ ทำไมต้องออกมาทำ part time อีก

โอย น้องแอนงง

กะจะเอาสองเด้งใช่ม้าาาาาา

แฟร์ ๆ คะ ยกเลิกเงินอันนี้ แล้วก็ปล่อยอิสระ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายกันไป ดีไหมคะ
ยังงง ๆ อยู่นะคะเนี่ย