ทำงานเภสัชอย่างเดียว.. จะรวยได้ไหมครับ

[ck0707007]

ไม่ควรคิดโดยมุ่งเงินเป็นหลัก
รายได้ อาจหมายถึง ความสุข ความอิ่มอกอิ่มใจ การรับการนับถือจากสังคมรอบข้างด้วย

[cpm001]

ตอนที่จบมาได้ 2-3 ปีผมก็เคยเล่นหุ้น รู้สึกมันได้น้อย ผมซื้อน้อยด้วยแหละ ตอนนั้นเงินทุนไม่มี ไม่รู้จะทำอะไรก็ลองเล่นหุ้นดู โดยใช้ port เดียวกับพี่ชาย ผมซื้อทิ้งไว้ 2 ปีได้มาหน่อยเดียวถ้าเราอยากได้มากๆ ก็ต้องซื้อมากซึ่งเงินขนาดนั้นผมว่าเอามาเปิดร้านดีกว่าผมว่าเสี่ยงน้อยกว่านะ หรือซื้อเพื่อจะรอเงินปันผล7-8% มันก็ช้า มาถึงตรงนี้ผมคิดถูกครับ ซึ่งตรงนี้แล้วแต่บริบทของแต่ละคน มาแชร์ประสบการณ์ครับ

[kingman]

พอดีเข้ามาอ่านกระทู้

ถือเป็นคำถามที่น่าสนใจมากครับ ทำงานเภสัชอย่างเดียว.... จะรวยได้ไหมครับ

ถ้านิยามของคำว่ารวยตามพวกฝรั่ง คือมี สินทรัพย์เพื่อลงทุน(ไม่รวมบ้านที่อยู่ รถที่ใช้ขับ)

ไม่น้อยกว่า 1 ล้าน US ดอลล่า หรือประมาณ 33-36 ล้านบาทไทย ก็คงตอบได้ว่า

ยากสักหน่อยครับที่จะประกอบอาชีพเภสัชกร แบบที่คนทั่วๆ ไปทำจะรวยได้

เพราะจากที่พบมา เภสัชกรที่มีสินทรัพย์ระดับนั้น เขาจะไม่มีวิธีคิด และใช้ชีวิต

แบบที่เภสัชกร ทั่วๆ ไปทำ เภสัชที่รับราชการอย่างเดียว ถ้าใช้ชีวิตแบบปกติ

(ผ่อนรถ ผ่อนบ้าน ใช้จ่ายรายเดือน บางคนต้องเลี้ยงลูก) ก็แถบเป็นไปไม่ได้เลย

ที่จะมีสินทรัพย์ระดับนั้น เภสัชที่รับราชการส่วนใหญ่ที่เคยพบและมีสินทรัพย์ระดับ

นั้น(ไม่นับพวกทุจริต) ก็คือพวกที่ระมัดระวังการใช้เงิน(ส่วนใหญ่จะประหยัดสุดๆ )

และมีช่องทางนำเงินไปลงทุนให้งอกเงย ซึ่งกว่าจะมีสินทรัพย์มากๆ ก็จะมีอายุ

เข้าสู่วัยชราแล้ว(ต้องใช้เวลาสะสมยาวนาน) ส่วนพวกที่ประกอบอาชีพส่วนตัว(ร้านขายยา)

ส่วนใหญ่ก็มีฐานะดีกว่า แต่พอถึงจุดหนึ่งก็ไปต่อไม่ได้ คือ ยอดขายไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายนัก

เจ้าของร้านที่จะร่ำรวย มักมีกระบวนการบางอย่างที่ พิเศษ กว่าร้านอื่นๆ ซึ่งยังไงๆ ก็ต้องขยาย

ยอดขายให้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขา ที่ 2 3 4 ไปเรื่อยๆ บางเจ้าก็ฉีกไปทำขายส่ง

ซึ่งก็คงต้องใช้ฝีมืออย่างยิ่ง พวกที่เห็นทำบริษัทเอกชน (รพ. บริษัทยา ) การที่เงินเดือนจะ

ขึ้นไปสูงๆ ที่เห็นก็มีไม่กี่คน ในระบบเอกชน ถ้าอายุเกิน 45 แล้วยังไม่ไปสู่ตำแหน่งระดับสูง

โอกาสที่จะก้าวข้ามไปค่อนข้างจำกัด บางคนต้องออกมาเปิดร้านยา เพราะการไม่ก้าวหน้า

ทางการงาน

ซึ่งถ้าจะให้สรุปคร่าวๆ ก็คือ ถ้าทำอาชีพเภสัชกรอย่างเดียว โอกาสรวยคงยาก ตามที่กล่าว

ตามที่อ้างมา แต่ถ้ามองอาชีพอื่นๆ ก็พบว่าไม่ได้แตกต่างอะไรเลย คนที่จะร่ำรวยในแต่ละสาขา

อาชีพก็มีเพียงแค่หยิบมือเดียว ระหว่างอาชีพ อาจจะแตกต่างกัน ที่ฐานรายได้ เพราะความยากง่าย

ในการเรียน และการเป็นที่ต้องการของตลาด แต่ผู้คนในสังคมส่วนใหญ่ไม่ว่าจะอาชีพอะไร ก็มี

คนประสบความสำเร็จร่ำรวยไม่กี่คน พูดถึงเภสัชส่วนใหญ่(ยังไม่รวย) แต่ที่เห็นก็ไม่ได้ขัดสนอะไร

อย่างน้อยที่เห็นส่วนมากก็มีรถขับกันเกือบทุกคน และรุ่นหลังๆ ก็เห็นชอบท่องเทียว ไปนู้นไปนี่(ต่างประเทศ)

กันเป็นว่าเล่น พออายุเยอะๆ ก็มีบ้านเป็นของตัวเองกันแทบทั้งนั้น

ส่วนเภสัชกรที่คิดว่าจะต้องร่ำรวย (ไม่ว่าจะมีเหตุผลเบื้องหลังอย่างไร หรือแรงกระตุ้นจากอะไร)

ผมว่าคุณต้องมีวิธีคิด และวิธีการดำเนินชีวิตที่ค่อนข้างพิเศษกว่าคนอื่น ๆ สักหน่อย อย่างเพื่อนเจ้าของกระทู้

ที่ทำงานราชการอย่างเดียว แล้วหวังจะร่ำรวย ผมว่าคงเป็นไปได้ยาก อย่างแรกราชการคงไม่ขึ้นเงินเดือน

เภสัชให้เท่ากับแพทย์หรือทันตแพทย์ เพราะภาระงาน ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน และความต้องการ

ของตลาดแรงงานก็ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้น เราต้องยอมรับจุดนี้เสียก่อน แล้วหาขบวนการวิธีคิด ที่จะนำ

ไปสู่เป้าหมาย(ความร่ำรวย) ที่เป็นไปได้ แล้วพยายามไปให้ถึง คนรวยที่ยั่งยืน ที่ผมเคยพบส่วนใหญ่

ผ่านความยากลำบากมาทั้งนั้น

ส่วนเภสัชกรที่มีความสุขกับฐานะในปัจจุบันแล้ว ผมถือว่าเขาเหล่านั้นโชคดีมาก ไม่จำเป็นต้อง

ไปลำบากลำบนอะไร ก็มีความสุขแล้ว เพราะความสุขของคนมาได้จากหลายทาง ไม่จำเป็นต้องเกี่ยว

กับฐานะการเงินอย่างเดียว

ปล. ที่เขียนเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ใครมีข้อแลกเปลี่ยน หรือข้อเสนอแนะ ก็เต็มที่นะครับ

[lll+O+lll]

กู้ยืมเงิน กยศ. เรียนจนจบเภสัช ทำงานมา 2 ปี เลือกงานเภสัชที่ตัวเองชอบและมีค่าใช้จ่ายรายเดือนน้อยที่สุด ทำงานส่งเงินให้พ่อแม่ เก็บเงินไว้ให้ตัวเอง จากที่ไม่มีอะไร ก็พอมีอะไรติดเนื้อติดตัวบ้าง ตอนนี้รายจ่ายรายเดือนมี ค่าอุปโภคบริโภค ผ่อนรถ+น้ำมัน ส่งเงินให้ที่บ้าน เงินเก็บเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายรายปี (เงินกู้ กยศ. ประกันภัย ภาษี พักผ่อนประจำปี) และเก็บออมเล็กน้อย ตอนนี้ก็ดีใจแล้วเพราะ baseline ต่ำ อยากมีโน่นมีนี่ เงินเก็บก็เลยน้อยตามความอยาก

[cpm001]

ความเห็นคุณ kingman ถูกต้องเลยครับ

[ohayo]

ทำงานโดยคิดถึงเรื่งอเงินอย่างเดียวคงไม่มีความสุขเท่าไหร่นะคะ

ถ้าภาระของคุณคือ ผ่อนรถ ค่าน้ำมัน ส่งให้ทางบ้าน

มอเตอร์ไซด์มีนะ ผ่อนน้อย

พักใกล้ๆที่ทำงาน ไม่ต้องเติมน้ำมัน เดินไปเก็บเรตติ้งไป

ส่งให้ทางบ้าน น่าจะดีใจถ้าทางบ้านเราไม่มีใครป่วยไข้หนักๆเช่น มะเร็ง

ถ้าลืมคิดไป ประกันชีวิต ลดภาษีได้ และเป็นทางเลือกหนึ่งในการออม

เงินเก็บสองพัน ถือเป็นโบนัส

รวยในความหมายของดิฉัน

คนไม่มีหนี้คือคนรวย

ถ้าวันนี้เราไม่มีหนี้ กินไก่ทอดแล้วสามารถรับรู้รสชาติของมันได้ เราคือคนรวยที่มีความสุข

[gmon7]

จริงๆแล้ว ผมก็ว่าดีนะครับที่เภสัชกร ทำงานโดยไม่ได้มุ่งเงินเป็นหลัก

แต่ตราบใดที่ เศรษฐกิจ ยังคงขับเคลื่อนด้วยมือที่มองไม่เห็น ด้วยสิ่งที่เรียกว่าเงิน

การมีเงินมาก พอสมควร ย่อมเป็นหลักประกันอย่างหนึ่งว่า เราจะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุข
แม้ว่า เงินจะเป็นแค่ 1 ในปัจจัยหลายๆอย่าง เช่น การมีสิทธิ ข้าราชการที่ เป็นหลักประกันว่า เวลามีเรื่องไม่คาดฝันอย่างการป่วยหนัก เราจะไม่เดือดร้อนมาก

ซึ่งการที่เราจะมีเงินนั้นมันก็มีวิธีการที่หลากหลาย แต่การที่เราจะทำเช่นนั้นได้ สิ่งหนึ่งที่จำเป็น คือการมีเงินเหลือ
หรือเงินออม ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ในระยะเวลา 5-10 ปี ซึ่งถ้าเราเอาเงินจำนวนนี้ ไปลงทุนย่อมสร้างผลประโยชน์ได้มากกว่าปล่อยมันทิ้งไว้เฉยๆ

ซึ่ง การลงทุนก็มีหลายหลาย เช่น ธุรกิจส่วนตัว อสังหาริมทรัพย์ หุ้น กองทุนรวม พันธบัตร ปล่อยกู้ ฯลฯ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะลงทุนอะไร ก็ย่อมต้องมีความรู้ ในระดับที่มากพอสมควร และต้องยอมรับความเสี่ยงได้

บังเอิญผมคิดว่าการลงทุนในหุ้น เป็นการลงทุนที่เหมาะกับเภสัชกร เลยแนะนำ เผื่อว่าจะมีคนสนใจแล้วไปศึกษาต่อ
เพราะสุดท้าย ผมว่า เภสัชกรส่วนใหญ่ มีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม และอยากทำอะไรดีๆ เพื่อวิชาชีพ สังคม และประเทศชาติ

แต่ติดที่เอาต้องเอาเวลาส่วนใหญ่ไปหาเงิน เพื่อเป็นหลักประกันของความมั่นคง ในการใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

ดังนั้น ผมจึงคิดว่า ถ้ามีเภสัชกร จำนวนมากพอที่มีความหวังดีต่อวิชาชีพ และ ประสบความสำเร็จในการ หาหลักประกันที่ เรียกว่าเงิน

แล้วเอาเวลาส่วนใหญ่ มาทำเพื่อวิชาชีพ ผมว่า วิชาชีพเรา มันพัฒนาไปไกลกว่านี้ครับ

ลองดูที่ แพทย์ก็ได้ ครับ พอเขารวยก็หันไปทำงานด้านธุรกิจ สังคม การเมือง ........... สุดท้ายก็ใช้พลังของสิ่งเหล่านั้น ทั้งใต้ดิน บนดิน เคลื่อนไหวเพื่อผลประโยชน์ของวิชาชีพ สุดท้าย ก็มีกฎหมายต่างๆออกมาในทางที่คนเขียนกฎได้ประโยชน์ จนยากที่เภสัชกรจะเอาชนะได้

ขอให้เภสัชกรทุกคนจงร่ำรวยๆ ครับ

[petphoom]

พอเห็น กระทู้ก็อืมมมมม เข้าใจถามเน๊อะ แสดงว่าอยากรวย (เหมือนผม) แต่เงินก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต
อาทิ เงินซื้อความรักไม่ได้ (ถ้ามันไม่มากพอ) 5555+ ล้อเล่นน่ะ
ตอนนี้ผมรู้สึกว่าไม่ใช่เฉพาะวิชาชีพเภสัชของเราอย่างเดียวหรอกนะครับที่อยากรวย ผมว่าวิชาชีพอื่นๆก็อยากรวยเหมือนกับเราๆนี่แหละครับ
http://www.mlmbizcenter.com/play-video. ... cist02.flv
นี่เป็นตัวอย่างง่ายๆครับ ว่าวิชาชีพอื่นเค้าก็ทำอาชีพเสริมเหมือนๆกัน ไม่ต่างกับพวกเราหรอกครับ เพราะการเป็นคนรวยอาจไม่มีความสุข
แต่ถ้าหากไม่มีเงินความทุกข์มาเยือนแน่ๆครับ

[LeMmOy]

อ่า.. ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่า ..

ผมไม่ได้เจตนาตั้งกระทู้นี้เพื่อให้ขายตรงมาโพสต์หาลูกค้านะครับ


ผมเกลียดเป็นการส่วนตัวครับ เพราะมันไร้สาระครับ สร้างวิมานล่อลวงให้คนเข้าไปแล้วก็หว่านล้อมต่างๆนาๆเพื่อเอาค่าสมัคร
ผมโดนมากับตัวถึงรู้ซึ้งดี

คืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นขายตรง อ่านแล้วอยากจะโพสต์จนตัวสั่น รบกวนช่วยไปโพสต์กระทู้อื่นๆนะครับ ผมว่าน้าๆเจ้าของกระทู้อื่นๆเค้าคงใจดี ไม่เกลียดขายตรงเข้าเส้นแบบผมแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
LeMmOy

[petphoom]

อ่า.. ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่า ..

ผมไม่ได้เจตนาตั้งกระทู้นี้เพื่อให้ขายตรงมาโพสต์หาลูกค้านะครับ


ผมเกลียดเป็นการส่วนตัวครับ เพราะมันไร้สาระครับ สร้างวิมานล่อลวงให้คนเข้าไปแล้วก็หว่านล้อมต่างๆนาๆเพื่อเอาค่าสมัคร
ผมโดนมากับตัวถึงรู้ซึ้งดี

คืออะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นขายตรง อ่านแล้วอยากจะโพสต์จนตัวสั่น รบกวนช่วยไปโพสต์กระทู้อื่นๆนะครับ ผมว่าน้าๆเจ้าของกระทู้อื่นๆเค้าคงใจดี ไม่เกลียดขายตรงเข้าเส้นแบบผมแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
LeMmOy

ใจเย็นๆครับน้อง LeMmOy พี่ไม่ได้มาโฆษณาอะไรนะครับ นี่เป็นสิ่งที่พี่ได้เจอมา เพราะรุ่นน้องพี่เค้าทำโปรเจค "กระบวนการการเข้าสู่ธุรกิจขายตรงของบุคลากรทางการแพทย์" ต้องขอบคุณน้อง LeMmOy มากๆครับ ซึ่งความคิดเห็นของน้องดีมากๆเลยครับ จะได้นำไปเป็นแนวทางในการทำวิจัยต่อ "การสร้างวิมานล่อลวงให้คนเข้าไปแล้วก็หว่านล้อมต่างๆนาๆ" อาจเป็นสาเหตุนึงที่ทำให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าไปทำธุรกิจพวกนี้ก็ได้ครับ
ขอบคุณสำหรับวิสัยทัศน์ดีๆนะครับ ผลวิจัยออกมาเป็นอย่างไรเดี๋ยวจะเอามาแชร์นะครับ

[klang-ya]

ผมเห็นด้วยกันทุกคนที่แสดงความคิดเห็น รวยจนมันต้องอยู่ที่ตัวเราว่าต้องการระดับไหน
ผมเป็นเภสัชกรมา 10 ปี มีร้านยา 2 ร้าน มีรายได้หักค่าใช้จ่ายแล้ว ประมาณ 250,000 บาท/เดือน ผมก็คิดว่าผมพอใจ
ถึงจะมีหมอบางคนอยู่เอกชน(เพื่อนผม) บอกว่ามีรายได้ 500,000 บาท/เดือน มันบอกว่าเพื่อนมันบางคนได้เกือบล้าน(มันยังคิดว่าตัวเองจนอยู่)
แต่ผมรู้สึกดีกับรายได้ระดับนี้ของผมแล้วถึงจะไม่รวยเป็นร้อยล้านแต่ก้ไม่ลำบากอะไร..ผมว่ามันอยู่ที่ใจมากกว่านะครับว่าพอหรือไม่พอ..

[pmc]

มีชื่อที่อยู่เสร็จสรรพ บอกรายได้ขนาดนี้ ไม่กลัวหรือครับ

[twilight]

รวย คือถ้าเทียบ กับวิชาชีพใกล้กัน ก็บางคนก็รวยกว่า หมอ กว่า ทันตะ
ส่วนใหญ่ เภสัช ก็มีเพื่อน เป็น หมอ ทันตะ เยอะ อยู่
ก็จะรู้รายได้กันนะ

[APPLE_rx12MU]

จะ "รวย" หรือไม่ ... วัดกันที่ไหน
ถ้า ทำงานได้เงิน - รายจ่ายที่ใช้ไป = เหลือเงิน/ทรัพย์สิน มากๆ นับว่า "รวย"
ทำงานได้เงิน - รายจ่ายที่ใช้ไป = ไม่เหลือเงิน/ทรัพย์สิน นับว่า "จน"
แต่ "มากๆ" นี้ ... มากแค่ไหน
และ "รายจ่ายที่ใช้ไป" ... ใช้อย่างไร
ที่สำคัญ เราจะกำหนดสิ่งต่างๆ ตามแต่ใจปราถนา ตามแต่จิตที่คิดเปรียบ หรือ เราจะกำหนดจากการที่ได้ "ทำงาน"

"การทำงานอย่างมีคุณค่า" เป็นการทำงานที่ทำให้ตนเอง "รวยความสุข" และสามารถแบ่งปันความสุขให้กับผู้ที่อยู่รอบข้าง

ทำงานเภสัชอย่างเดียว มาตลอด ... ปัจจุบันยังคงเป็นเภสัชกร ที่ทำงานบ้าง ตามที่จิตอาสา สะดวกสบาย อยู่ได้อย่างที่ควรจะเป็น มีเวลาพักผ่อนท่องเที่ยว และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข พอๆ กับน้องสาวที่เป็นแพทย์ และทันตแพทย์ แต่เราก็อาจจะสุขกันไปคนละทาง เติบโตรับผิดชอบกันคนละบทบาท
แต่ถ้า "รวยเงิน" แล้ว ไม่สามารถจะอยู่อย่างปกติสุข ไม่สามารถจะเป็นตัวเราได้เต็มที่ "เราจะมีเงินไปทำไม"

[white-blue]

อืม....ขอดันกระทู้หน่อยนะ เข้ามาอ่านแล้วรู้สึกชอบครับ มีหลากหลายความคิดและมุมมอง