ไม่ใช้ยา GPO แต่ใช้ Original แทน

[para058]

ที่ใดเป็นแบบนี้บ้าง
มียาเดิมอยู่แต่พอ GPO ผลิตก็เปลี่ยนขนาดยา(mg)ไม่ให้ตรงกับ GPO ผลิตเพื่อใช้ Original
เหตุผลคือไม่มีข้อมูลการใช้ทาง clinic
อย่างนี้ต้องปฏิบัติอย่างไร คนใช้ไม่กล้าใช้อ้างใครรับผิดชอบชีวิตผู้ป่วย
อยากให้ประเทศไทยไม่ขาดดุลต่างชาติและคนไปเที่ยวต่างประเทศลดลง(เกี่ยวหรือเปล่า)
ทำอย่างไรดี
เช่น Gabapentin 300mg GPO ผลิตก็เลย เปลี่ยนของ Original 300mg เป็น 600mg, Lozartan 50mg ผลิตก็เลยเปลี่ยนจาก Original 50mg เป็น 100mg

[Wiz@rd.]

ไม่เข้าใจคำถามครับ เพราะ GPO มักจะผลิตใน mg เดียวกับ Original อยู่แล้วนี่ครับ

ถ้าถามว่าเปลี่ยนเป็น local made ที่ mg ต่างไปจาก Original และ GPO น่าจะเป็นไปได้มากกว่า ???

[ck0707007]

ผมไม่ใช่คนของ GPO แต่ตอบได้ว่า ปกติเขาก็ผลิตในขนาดที่ควรนะครับ
เช่น ขนาด 20 คงไม่ทำเป็น 22.5 หรอกครับ เพราะต้องผลิตตาม Pharmacopoeia

[zartingtong]

ต้องบอกก่อนสิครับว่ายาอะไร บางทีนานไปขนาดไม่ตรงกับแพทย์จ่ายต้องหักครึ่งก็มีเลยปรับปรุงเป็นครึ่งเม็ด เปลี่ยนแบบไม่มีหลักคงไม่มีหรอกครับ

[para058]

รพ.ชุมชนอาจไม่มี
เช่น Gabapentin 300 mg GPO ผลิตเลยไปซื้อ Gabapentin 600 mg ของ Original ชื่อดัง
Lozartan 50 mg ใช้ 100 mg ของ Original

[BoonMa]

ที่ใดเป็นแบบนี้บ้าง
มียาเดิมอยู่แต่พอ GPO ผลิตก็เปลี่ยนขนาดยา(mg)ไม่ให้ตรงกับ GPO ผลิตเพื่อใช้ Original
เหตุผลคือไม่มีข้อมูลการใช้ทาง clinic
อย่างนี้ต้องปฏิบัติอย่างไร คนใช้ไม่กล้าใช้อ้างใครรับผิดชอบชีวิตผู้ป่วย
อยากให้ประเทศไทยไม่ขาดดุลต่างชาติและคนไปเที่ยวต่างประเทศลดลง(เกี่ยวหรือเปล่า)
ทำอย่างไรดี
เช่น Gabapentin 300mg GPO ผลิตก็เลย เปลี่ยนของ Original 300mg เป็น 600mg, Lozartan 50mg ผลิตก็เลยเปลี่ยนจาก Original 50mg เป็น 100mg

ตีความเองว่า...

เป็นโรงพยาบาลรัฐควรปฏิบัติตาม...

- ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ (พ.ศ. ๒๕๓๕ จริงๆ น้องๆ ท่านใดเกิดไม่ทันก็ขออภัย) และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๓๘...แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๓๙...แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๑...แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๒...แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๔๕...
- ท่านใดมีแก้ไขเพิ่มเติมที่ update กว่านี้ กรุณาอนุเคราะห์ข้อมูลเพื่อเป็นวิทยาทาน เพราะเห็นว่าแก้ไขเพิ่มเติมกันเกือบทุกปี...ป่านนี้คง แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ๒๐ แล้วกระมัง...

เพราะในหมวด ๒ การจัดหา ส่วนที่ ๒ การซื้อการจ้าง หัวข้อการจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ ว่าไว้ว่า...

- ข้อ ๖๑ การซื้อยา...ซึ่งองค์การเภสัชกรรมได้ผลิตออกจำหน่ายแล้ว ให้จัดซื้อจากองค์การเภสัชกรรม...โดยให้ดำเนินการด้วยวิธีกรณีพิเศษ...จำหน่ายต้องไม่สูงกว่าราคากลาง...เกินร้อยละ ๓...ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเพราะรายการ Original นั้นมีอัตราใช้มาก(ยอดขายสูง) รอหมดสิทธิบัตรก่อนเหอะ รึถ้ารอไม่ไหวถึงติดสิทธิบัตรก็จะ CL เพื่อให้ได้ผลิตขาย ให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงยามากขึ้น และด้วยการผลิตรายการยาใหม่ๆ อาจเป็นเหตุให้ต้องยกเลิกการผลิตยาที่ไม่จำเป็นจำพวก Aspirin ที่ใช้ป้องกันหลอดเลือดอุดตันได้ผลแทบไม่แตกต่างกัน และใช้เคี้ยวช่วยชีวิตผู้ป่วยในกรณี Acute MI / Stroke ได้ ใครว่าไม่มีข้อมูลการใช้ทาง clinic ?? ก็ที่บริษัท Original ทำไว้ไง ยาตัวเดียวกันเด๊ะๆ ทำไมจะไม่เหมือนกัน ราคาถูกกว่าด้วยซ้ำ ขายเท่ากับราคากลางพอดีเป๊ะ ถึงจะเกินแต่ถ้าไม่สูงกว่า ๓% ก็ยังขายได้ ราคากลาง ๑๐๐ ขาย ๑๐๓ ได้ ถ้าใครอื่นจะขายต้อง ๙๙.๙๙ หรือต่ำกว่า มิหนำซ้ำถ้าผลิตเอง จะขาย ๑๐๓ ก็ต้องซื้อตามระเบียบฯ เพราะให้ใช้วิธีกรณีพิเศษแปลว่าซื้อจากผู้ขายได้โดยตรง คนเดียวเท่านั้น ไม่ต้องเสียเวลาเปรีบเทียบราคากะใคร?? ...
- ข้อ ๖๒ การซื้อยา...ซึ่งองค์การเภสัชกรรมมิได้เป็นผู้ผลิต แต่มีจำหน่าย ให้จัดซื้อจากองค์การเภสัชกรรม...นั่นก็อยากขาย นี่ก็อยากผลิต...ลำพังผลิตให้ทัน Original ก็เหนื่อยพอตัวอยู่แล้ว ผู้ป่วยก็ยังไม่สามารถเข้าถึงยาได้ครบถ้วน เอา!!! ไปซื้อยาโรงงานมาขายละกัน ยังไงก็ขายได้ เพราะราคาขายพอๆ กับราคากลางที่กำหนดตามราคาขายยาตัวนั้นตอนเป็น Original (อีกละ) ส่วนบริษัทผู้ผลิตตัวจริงถ้าอยากขายรึ นู่น!!..ไปขายร้านขายยา คลีนิก เอกชนนู่น ไปแข่งกันเอาเองละกัน ตลาดรพ.รัฐฯ จอง!!!...

ไหน?? ขอดูดิ๊ คนที่ใช้ไม่กล้าใช้อ้างใครรับผิดชอบชีวิตผู้ป่วย ไม่ต้องห่วงนะเพราะเรา "รับผิดชอบชีวิต ผลิตยาคุณภาพ" รักษาผู้ป่วยไม่ได้ผลไปโทษคนรักษานู่น อย่ามาโทษยาเชียว มีใบวิเคราะห์คุณภาพตามเภสัชตำรับทุกตัวถึงค่าทดสอบจะใกล้เคียงขอบบนมั่ง ขอบล่างมั่ง แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ แปลว่ายังมีคุณภาพน่าาา...

[PHARMA]

งงคำถาม แต่อยากตอบ เพราะทำงานโรงรัฐเหมือนกัน