ตามนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันกำหนดให้มีการสร้างโรงพยาบาลตำบล โดยพัฒนาจากPCUเดิม เป้าหมาย5000 แห่งใน 3 ปี ที่น่าสนใจคือในรพต.นั้นมีเฉพาะตำแหน่งแพทย์,พยาบาล,ทันตาภิบาล,จพง.สาธารณสุข เท่านั้น ไม่มีตำแหน่งเภสัชกร นี่คือเรื่องจริงที่มีเภสัชกรบางกลุ่มเท่านั้นที่ทราบ เหตุผลเพราะกรรมการไม่เห็นความสำคัญ ไม่เห็นบทบาทที่จำเป็นของเภสัชกรปฐมภูมิ ไม่มีผลงานเป็นลายลักษณ์อักษร(Hard Data) ทำให้กรรมการไม่สามารถกำหนดให้มีตำแหน่งเภสัชกรได้
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการจัดตั้งทีมพัฒนาระบบยาชุมชน ภายใต้การสนับสนุนของกพย.(แผนงานสร้างกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา) ซึ่งประกอบด้วยคณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ตัวแทนเภสัชกรภาคกลาง,ภาคเหนือ,ภาคอีสาน,ภาคใต้ มาร่วมทำงาน โดยมีเป้าหมายคือร่วมพัฒนาบทบาทเภสัชกรปฐมภูมิ สร้างคุณค่าของวิชาชีพส่งเสริมการทำงานเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเภสัชกรมีผลงานที่ดีมากมาย แต่ไม่โชว์เก็บไว้ดูเอง ไม่มีเวทีนำเสนอ ขาดการรวบรวมขัดเกลาบทบาทหน้าที่ทรงคุณค่าสื่อสารสู่สาธารณะ รวมถึงขาดการเชื่อมโยงเครือข่ายเภสัชกรในแต่ละภูมิภาคที่เป็นรูปธรรม
ผมอยากให้พี่น้องเภสัชกรทุกคนมิใช่เพียงแค่เภสัชกรที่ทำงานระดับปฐมภูมิหรือคุ้มครองผู้บริโภคฯเท่านั้น แต่เภสัชกรทุกคนต้องช่วยกันและเห็นความสำคัญในประเด็นนี้ซึ่งถือว่าเป็นอนาคตที่สำคัญของวิชาชีพ ใครจะดูแลระบบยาได้ดีเท่าเรา เรารู้แก่ใจ ถ้าเราไม่ช่วยกันใครจะช่วยเรา รุ่นน้องเภสัชกร หรือวิชาชีพเรา
แฮ่ะๆๆ โพสไปแล้วเมื่อตะกี้ แต่นั่งได้ซักพัก ก็คิดอะไรแปลกๆได้อีก....
