ค้านเพิ่มหลักสูตร6ปี-อ้างสูญ600ล้าน คณบดีชี้ไม่กระทบ-รับ30แห่สมัคร2พัน
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มอาจารย์คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) นำโดย ภญ.วรรณี ชัยเฉลิมพงษ์ เข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.รสนา โตสิตระกูล ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เพื่อคัดค้านการออกข้อบังคับสภาเภสัชกรรมว่าด้วยการรับรองปฏิญญาประกาศนียบัตรในวิชาเภสัชศาสตร์ หรือวุฒิบัตร ในวิชาชีพเภสัชกรรมของสถาบันต่างๆ ที่จะรับรองเฉพาะหลักสูตรที่มีมาตรฐานตามเกณฑ์ของหลักสูตร 6 ปี ทำให้คณะเภสัชศาสตร์ทั่วประเทศต้องเร่งเปลี่ยนแปลงหลักสูตรจากเดิม 5 ปี เป็น 6 ปี โดยจะบังคับใช้กับนักศึกษาที่จบในปีการศึกษา 2557
ภญ.ดร.วรรณีกล่าวว่า การบังคับใช้ปฏิญญาดังกล่าวไม่มีเหตุผลเพียงพอ นอกจากอ้างว่าให้เป็นไปตามระบบสากล ซึ่งเลียนแบบมาจากสหรัฐอเมริกาที่เปลี่ยนหลักสูตรเป็น 6 ปีแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอื่น ตรงกันข้ามกลับเพิ่มภาระให้ผู้ปกครอง และรัฐบาลถึงปีละ 600 ล้านบาท นอกจากนี้ การจะเปลี่ยนหลักสูตรที่มีผลกระทบต่ออาจารย์และนักเรียนจำนวนมาก กลับไม่ทำประชาพิจารณ์รับฟังความเห็น ซึ่งก่อนหน้านี้สมาชิกสภาเภสัชกรรมได้เข้าชื่อเพื่อคัดค้าน และต่อมาได้ทำโพลสำรวจสมาชิก 636 คน พบว่าร้อยละ 70 เห็นว่าควรมีหลักสูตร 5 หรือ 6 ปี มีเพียงร้อยละ 20 เห็นว่าควรเป็น 6 ปี ซึ่งสำรวจกับคนจำนวนน้อย ทำให้อาจไม่ได้ข้อมูลที่เป็นจริง
"เราขอคัดค้านการออกข้อบังคับนี้ โดยขอให้สภาเภสัชกรรมยกเลิกการใช้โดยเร็วที่สุด และจัดประชาพิจารณ์จากผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั้งอยากให้วุฒิสภาตรวจสอบว่าการประกาศใช้ข้อบังคับนี้มีธรรมาภิบาลหรือไม่" ภญ.วรรณีกล่าว
นางบังอร ศิริพานิชกุลชัย คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ มข. กล่าวว่า การร้องเรียนของอาจารย์ในคณะเภสัชศาสตร์ มข. น่าจะเป็นกลุ่มอาจารย์บางส่วนที่ไม่เห็นด้วยที่ทางคณะจะปรับใช้หลักสูตรเภสัชศาสตร์จาก 5 ปี เป็น 6 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้ทำความเข้าใจกับอาจารย์ในคณะแล้วว่าจะต้องเปลี่ยนมาใช้หลักสูตร 6 ปีตามมติของสภาเภสัชกรรม ที่จะต้องใช้หลักสูตรใหม่ภายใน 2 ปี โดยทาง มข.ได้เตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น ในปีการศึกษา 2552 จึงได้เปิดรับนักศึกษาหลักสูตร 6 ปี เป็นรุ่นแรก ซึ่งในการสอบรับตรงที่ผ่านมามีผู้สมัครสอบกว่า 2 พันคน แต่รับได้เพียง 30 คนเท่านั้น ดังนั้น แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีการเปลี่ยนมาใช้หลักสูตรใหม่ ก็ไม่มีผลต่อการสมัครเข้าเรียน ที่สำคัญหลักสูตรใหม่ยังเพิ่มคุณภาพของนักศึกษาให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะได้เพิ่มการฝึกประสบการณ์วิชาชีพจากเดิม 500 ชั่วโมง เป็น 2,000 กว่าชั่วโมง โดยการฝึกอบรมจะเน้นในชั้นปีที่ 6 ส่วนหลักสูตรในชั้นปีที่ 1-3 ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมาก
"กลุ่มอาจารย์ที่คัดค้าน คงมีเหตุผลส่วนตัวของเขาเอง เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรครั้งนี้น่าจะมีทั้งผู้ที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ซึ่งน่าจะเป็นเรื่องปกติของการเปลี่ยนแปลงที่จะให้ทุกคนเห็นด้วย 100% คงเป็นไปไม่ได้ สำหรับคณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยอื่นๆ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นต้น ได้เปลี่ยนไปใช้หลักสูตร 6 ปีกันแล้ว ในขณะที่ มข.เพิ่งจะเริ่มในปีนี้ อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีข่าวว่าจะมีอาจารย์ของคณะไปร้องต่อศาลปกครองนั้น เห็นพูดกันมา 1-2 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีผู้ไปร้องแต่อย่างใด" นางบังอรกล่าว
http://www.matichon.co.th/matichon/view ... 2009-03-03