อยากถามความเห็นเพื่อนๆกลุ่มวิชาชีพเภสัชกร

[Pharm_36]

พอดีเป็นเรื่องที่เจอมากับตัวพร้อมการโยกย้าย
เรื่องมีอยู่ว่าตัวผมเองมีความประสงค์อยากย้ายกลับภูมิลำเนาเดิมที่พิษณุโลก ก็ได้ไปติดต่อกับพี่ๆที่เป็นเภสัชกรหัวหน้าไว้ ได้คำตอบคือไม่รับ อันเนื่องมาจากพี่ต้องการรับน้องเภสัชกรที่จบPharm_D อะไม่เป็นไรครับ พี่เค้ายืนยันเหตุผลเดิม ผมก็เขียนขอไปเหมือนเดิม เพื่อกลับบ้าน แต่สุดท้ายพี่เค้ารับน้องเพื่อนผม ซึ่งก็ไม่ได้จบPharm_D แต่อย่างไร งงครับ เซ้งเลย เขียนมาระบายครับ แบบสุดๆอุสาห์ไม่ใช้เส้น ไม่อยากให้พี่เค้าลำบากใจแต่ลงรูปแบบนี้ไม่ไหว

[apotheker]

น้องตัดสินใจดีแล้วหรือครับว่าจะโพสท์แบบนี้
เพราะเภสัชที่พิดโลกอ่านกันเยอะนะครับ และการโยกย้ายก็ไม่ได้มีแค่หนเดียว
เค้ามาอ่านเค้าก็รู้แน่ว่าน้องเป็นใคร คิดดูดีๆนะครับ

โดยส่วนตัวพี่เห็นว่าการที่จะรับใครหรือไม่รับใครมาร่วมงาน เค้าต้องพิจารณาหลายเรื่องเป็นองค์ประกอบ
บางทีเหตุผลที่แจ้งไปเพื่อที่จะไม่รับก็เป็นเพียงเหตุผลเพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้เกิดความสบายใจกันทุกฝ่าย

[ustapol]

เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว ถ้าน้องอยากได้ก้รับสิครับ หน่วยงานที่รับย้ายไม่เห้นเสียหายอะไร หากต้นสังกัดเขาปล่อยตัว อย่าทำเหมือนระบบศักดินาเลยครับ ไม่มีใครดีเต็มร้อยหรอก ส่วนมากใช้ความรู้สึกในการรับคน อย่าถ้างนะว่าไม่มีงานให้ทำหากรับมาแล้ว ช่วยๆกันหน่อย แค่นี้วิชาชีพก้ตกตำพอแล้ว ไอ้ที่ไม่รับเขามีอำนาจแค่ไหนวะ

[API]

เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว ถ้าน้องอยากได้ก้รับสิครับ หน่วยงานที่รับย้ายไม่เห้นเสียหายอะไร หากต้นสังกัดเขาปล่อยตัว อย่าทำเหมือนระบบศักดินาเลยครับ ไม่มีใครดีเต็มร้อยหรอก ส่วนมากใช้ความรู้สึกในการรับคน อย่าถ้างนะว่าไม่มีงานให้ทำหากรับมาแล้ว ช่วยๆกันหน่อย แค่นี้วิชาชีพก้ตกตำพอแล้ว ไอ้ที่ไม่รับเขามีอำนาจแค่ไหนวะ

งง...หมายความว่ายังไง... ทำไมผมอ่านหลายรอบแล้วก็ไม่เข้าใจ....

[omegaboy]

ผมว่าโพสก็ดีนะ



ใช่ครับ มันคือพี่น้อง


ความจริงก็คือมันมีจริงครับ แบบที่คุณเจอ

[Wiz@rd.]

เดาได้เลยว่าโรงพยาบาลไหน หึหึหึ

[Wiz@rd.]

ลองคุยอีกทีไม๊ล่ะครับ...

เท่าที่ดู GIS ยังไม่เต็มครับ

แล้วก็ถ้าผมเดาไม่ผิด "พี่เค้ารับน้องเพื่อนผมซึ่งก็ไม่ได้จบ Pharm_D" ถ้าใช่อย่างที่ผมคิด พี่ของน้องเค้าก็เป็นเภสัชฯอยู่ในโรงพยาบาลนั้น ดังนั้นการตัดสินใจของพี่หัวหน้าฝ่าย ก็น่าจะเลือกน้องของลูกน้องเค้าก่อนแหละครับ

[Pharm_36]

น้องตัดสินใจดีแล้วหรือครับว่าจะโพสท์แบบนี้
เพราะเภสัชที่พิดโลกอ่านกันเยอะนะครับ และการโยกย้ายก็ไม่ได้มีแค่หนเดียว
เค้ามาอ่านเค้าก็รู้แน่ว่าน้องเป็นใคร คิดดูดีๆนะครับ
โดยส่วนตัวพี่เห็นว่าการที่จะรับใครหรือไม่รับใครมาร่วมงาน เค้าต้องพิจารณาหลายเรื่องเป็นองค์ประกอบ
บางทีเหตุผลที่แจ้งไปเพื่อที่จะไม่รับก็เป็นเพียงเหตุผลเพียงบางส่วนเท่านั้น เพื่อให้เกิดความสบายใจกันทุกฝ่าย

สิ่งที่ผมอยากได้คือการบอกกันตรงๆ ซึ่งผมคิดว่ายอมรับสิ่งที่เกิดได้มากกว่า หรือบอกว่า
เช่นมีคนมาติดต่อแล้ว มีคนใช้เส้นแล้ว มีคนที่เลือกไว้แล้ว มีข้างบนฝากมา(เออผมจะได้ใช้มั้ง)ฯลฯ มันยังรู้สึก
ยอมรับได้มากกว่าอีก(ยกตัวอย่างนะครับ) ไม่ใช่เอาคุณสมบัติต่างๆมาอ้างแล้วสุดท้ายกลับเลือกที่จะรับในอีกคนๆ
หนึ่งซึ่งขาดคุณสมบัติเหมือนกัน ซึ่งอาจเป็นการเลือกปฏิบัติ ไม่ใช่การกำหนดคุณสมบัติ การคัดเลือกควรให้โอกาส
เท่าๆกันไม่ใช่เหรอครับ เพราะทุกคนย่อมมีเหตุผลในการกระทำใช่ไหม เซ้งเป็ด

[ustapol]

เรื่องโยกย้าย ถ้าน้องเขาอยากย้ายมา ก้รับเถอะครับ ถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจริง เขาเองก็คงอยู่กับระบบงานของเราไม่ได้หรอก รพ.ผมรับหมดถ้าอยากย้ายมา เพราะเราให้โอกาสคน ผมเบื่อมากไอ้ระบบสืบประวัติกันว่า คนนี้ดีไม่ดี และก็เบื่อระบบเส้นสายด้วย

[apotheker]

ถ้ารับหมดได้ก็ดีสิครับ แต่ถ้าต้องการ5ตำแหน่ง มาสมัครเป็น10
มันก็ต้องมีผิดหวังกันบ้าง

[omegaboy]

ให้กำลังใจ น้องทำงานต่อไปครับ

รอโอกาสต่อไป

บางทีอยู่ที่เดิมอีกปี อาจหากิ๊กเพิ่มได้อีกคน

ผมเคยเจอแบบนี้เหมือนกัน บอกได้คำเดียวว่า "เซ็งห่าน"

สู้ต่อครับ อิอิ

[Wiz@rd.]

คำตอบที่ควรจะเป็นในเวลาหนึ่ง อาจไม่ใช่คำตอบที่ควรจะเป็นในอีกเวลาหนึ่งครับ
ผมใช้คำว่า "ควรจะเป็น" นะ

การบริหารจัดการคน เป็นอะไรที่ค่อนข้างยากครับ

สมมุติในตอนแรก เราต้องการแบบนี้... คนไปติดต่อแบบนี้... ปฏิเสธไปแบบนี้...
พอเวลาผ่านไปซักระยะหนึ่ง... ความต้องการอาจจะเปลี่ยน... แต่ก็คงไม่สามารถไปบอกคนที่มาติดต่อคนเก่าได้...

ผมเคยเป็นคนสอบเจ้าหน้าที่ที่จะให้เข้ามาทำงาน เท่าที่เคยเป็น ความคาดหวังตอนแรกก็สูง เอาไปเอามา ไม่มีใครทำได้เข้าเกณฑ์นัก ตอนนั้นนึกในใจ อาจต้องตัดสินใจลด spec หรือไม่งั้นก็ต้องจัดการสอบใหม่หมดเลย และแล้วก็มีกรณีที่ว่ากรรมการคนต่างๆคิดว่าการสอบใหม่หมดคงทำไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดบางเรื่อง จึงจำเป็นต้องลด spec เอาก็เคยมี

ก็ตามที่ผมว่า ถ้าสนใจผมว่าพี่ก็ติดต่อไปที่เดิมอีก และลองลงทะเบียนไปอีกครั้ง มีเวลาอยู่อีก 2 วันครับ

[JaruwanS]

น่าสนใจนะคะ
ไม่อยากให้หลักสูตร Pharm.D เป็นปมเล็กๆในวิชาชีพของเรานะ เภสัชกรโรงพยาบาลจำเป็นต้องจบ Pharm.D หรือไม่ เภสัชกรที่ไม่ได้จบหลักสูตรนี้ก็มีหลายท่านที่สามารถพัฒนางานและทำงานคลินิกได้ หากว่ารักในงานบริการ รักผู้ป่วยและรักงานโรงพยาบาลจริงๆ จะมีไหมคะเภสัชกรที่จบ Pharm.D แต่ไม่ชอบงานคลินิก ไม่ชอบขึ้น ward
เท่าที่เป็นอยู่ขณะนี้ Phram.D ก็ได้รับเงินเดือนตอนแรกบรรจุมากกว่าหลักสูตร 5 ปีอยู่แล้ว อย่าให้มันมีรอยแยกระหว่างวิชาชีพมากไปกว่านี้เลยค่ะ (อนาคตคงไม่มีเภสัชกรชั้น 1 และเภสัชกรชั้น 2 นะค่ะ) ฝากไว้ให้คิดนะค่ะ

[Satapat]

(อนาคตคงไม่มีเภสัชกรชั้น 1 และเภสัชกรชั้น 2 นะค่ะ) ฝากไว้ให้คิดนะค่ะ

ทุกวันนี้ก็มีการแบ่งชนชั้นอยู่แล้วนี้ครับ

[Pharm_36]

ขอบคุณทุกความเห็นครับอารมณ์เริ่มเย็น
เป็ดหายไปครับห่านมาแท้ อิอิอิ ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันเสมอ เพียงแต่อย่าลืม
ตัวตนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ว่าคุณถูกเลือกมาโดยความสามารถของตัวเอง หรือเลือกมา
แค่ตามวาระ ความสามารถจะไม่เกิดหากถูกปิดกั้นตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม เหมือนองค์กร
สาธารณสุขที่เปิดโอกาสเฉพาะบางวิชาชีพเท่านั้น