ปรึกษาพี่ๆ ทุกคน กับการศึกษาต่อที่ ประเทศอังกฤษครับ

[tamm]

คือ ผมพึ่งจบการศึกษาปริญญาตรี เภสัชศาสตรบัณฑิต หลักสูตร 5 ปีครับ
แล้วก็สอบใบประกอบผ่านเรียบร้อยแล้ว

แต่ต้องการไปศึกษาต่อ ในคณะเภสัชศาสตร์ ที่ประเทศอังกฤษ
เป้าหมายคือการทำงาน ในด้านของเภสัชกรชุมชน หรือร้านยาในอังกฤษครับ

เลยอยากปรึกษาพี่ๆ ว่าในการไปศึกษาต่อที่อังกฤษ จะต้องใช้เวลาเรียนกี่ปี
ต้องสอบใบประกอบอย่างไร แล้วเราสามารถใช้ปริญญาตรีจากประเทศไทยในการต่อยอดได้อย่างไรครับ


ขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ ^ ^

[nhum_nop]

ดูรายละเอียดในเอกสารแนบมาครับจากเว็บสภาเภสัชกรรมของอังกฤษ การทำงานเป็นเภสัชกรชุมชนต้องมีใบประกอบวิชาชีพก่อน ซึ่งต้องสมัครเทียบปริญญาไทยกับอังกฤษก่อน ถ้าเทียบเท่าก็สามารถสมัครเรียนต่อยอด (OSPAP) ได้ใช้เวลา 1 ปี เป็นวิชาของชั้นปี 4 (ปีสุดท้ายของระดับปริญญาตรี) เน้นด้านกฎหมายยาและระบบสุขภาพในอังกฤษ และวิชาเลือกขั้นสูงอื่นๆ จบแล้วก็สามารถสมัครเป็นเภสัชฝึกงาน (pre-registered pharmacist) ทำงานหนึ่งปีครบแล้วก็มาสอบใบประกอบกลายเป็น registered pharmacist เป็นอันครบถ้วน สามารถทำงานได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือร้านยา

http://www.rpsgb.org.uk/registrationand ... tries.html

ส่วนการไปเรียนต่อปริญญาโทหรือเอกในอังกฤษจะไม่ได้สิทธิในการได้ใบประกอบวิชาชีพแต่ประการใด แต่สามารถไปทำงานในด้านที่ไม่ใช่เภสัชชุมชนกับโรงพยาบาลได้ เช่น ทำงานในบริษัทยา ฝ่ายวิจัย ผลิต ควบคุมคุณภาพได้ครับ ในส่วนดังกล่าวไม่ต้องใช้ใบประกอบวิชาชีพ

[tamm]

ขอบคุณมากครับ

งั้นก่อนอื่นต้องสอบ IELTS ให้ได้คะแนนหรูๆ ก่อน

[learn147]

กำลังหาข้อมูลอยู่พอดีเลย กำลังจะศึกษาต่อ ขอบคุณมากนะครับ

[py106]

ดูรายละเอียดในเอกสารแนบมาครับจากเว็บสภาเภสัชกรรมของอังกฤษ การทำงานเป็นเภสัชกรชุมชนต้องมีใบประกอบวิชาชีพก่อน ซึ่งต้องสมัครเทียบปริญญาไทยกับอังกฤษก่อน ถ้าเทียบเท่าก็สามารถสมัครเรียนต่อยอด (OSPAP) ได้ใช้เวลา 1 ปี เป็นวิชาของชั้นปี 4 (ปีสุดท้ายของระดับปริญญาตรี) เน้นด้านกฎหมายยาและระบบสุขภาพในอังกฤษ และวิชาเลือกขั้นสูงอื่นๆ จบแล้วก็สามารถสมัครเป็นเภสัชฝึกงาน (pre-registered pharmacist) ทำงานหนึ่งปีครบแล้วก็มาสอบใบประกอบกลายเป็น registered pharmacist เป็นอันครบถ้วน สามารถทำงานได้ทุกที่ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลหรือร้านยา

http://www.rpsgb.org.uk/registrationand ... tries.html

ส่วนการไปเรียนต่อปริญญาโทหรือเอกในอังกฤษจะไม่ได้สิทธิในการได้ใบประกอบวิชาชีพแต่ประการใด แต่สามารถไปทำงานในด้านที่ไม่ใช่เภสัชชุมชนกับโรงพยาบาลได้ เช่น ทำงานในบริษัทยา ฝ่ายวิจัย ผลิต ควบคุมคุณภาพได้ครับ ในส่วนดังกล่าวไม่ต้องใช้ใบประกอบวิชาชีพ

ตามนี้เลยครับ ขอให้โชคดี

[rinko]

งานที่ไม่ต้องใช้ใบประกอบ ที่อังกฤษก็ require ใบประกอบเจ้าค่ะ ถ้าเราไม่มีใบประกอบ เทียบกับเภสัชกรจบประเทศอังกฤษมี เขาก็ไม่รับเราเจ้าค่ะ ค่าใช้จ่ายเรียน OSPAP ล้านเศษเองเจ้าค่ะ เรียนจบ 1 ปี สอบ ถ้าผ่าน pre-reg 1 ปี สอบ ถ้าผ่านก็เป็นเภสัชกร ก็รอดตัว ร่วมๆ 2 ปี นี่ยังไม่รวมการสอบ IELTS ให้ได้ 7 ทุก part ว่าใช้เวลาอีกเท่าไร หุหุ สถานที่สำหรับ pre-reg ก็แย่งกันปางตาย เรียนจบที่โน่นก็แข่งหาที่ pre-reg กันสนุกสนาน อย่างเราๆภาษาอังกฤษไม่เท่า native ก็ต้องไปลุ้นสมัครเอาตามบ้านนอกพวก Scotland แล้วก็ฟังชาวพื้นเมืองไม่รู้เรื่อง สุดท้าย ตก pre-reg เซ็งกลับมา เสียเวลาไป 2 ปี เรื่องสถานที่สำหรับ pre-reg นี่ เขาดูอายุด้วยนะคะ เรียนจบใหม่อายุเท่าไร เราบวกไปอีก 2 ปีเป็นอย่างต่ำ ทำให้เราแก่กว่าเด็กที่เรียนจบที่โน่นค่ะ เป็นตัวเลือกลำดับรองลงมาของเขาซะงั้น เรื่องตลกกว่านั้นก็คือ ถึงเราจะภาษาอังกฤษดีแค่ไหน เขามีสนธิสัญญากับ euro ว่า สามารถให้พวกเภสัชกรในทวีป europe ที่อยู่ในสนธิสัญญา มาทำงานได้เลย ไม่ต้องผ่าน OSPAP ถึงเภสัชกรกลุ่มนี้จะภาษาอังกฤษแย่มาก ก็มีสิทธิทำงานเหมือนจบจากอังกฤษ อันนี้เล่าให้ฟังขำๆ จริงๆมันไม่ลำบากขนาดนี้หรอกค่ะ เพียงแต่ถ้าเราไม่เจอนรกมา เราก็ไม่มีทางรู้ว่า เมืองไทยดีที่สุดในโลก ถ้าอยากไปก็เต็มที่ไปเลยค่ะ เอาใจช่วย บางทีทำงานไปสักระยะอาจจะค้นพบก็ได้ว่าตัวเราเองเหมาะกับอะไรที่สุด

[Zanarkand]

[Mr. Sexman]

ที่ใครเขาเล่ามาก็ฟังไว้เป็นประสบการณ์นะครับ
ของดีราคาถูกไม่มีในโลกนะครับ อยากได้ต้องพยายามให้ถึงที่สุด

[zartingtong]

ถ้าจะแนะนำ ผมแนะนำให้ไปอเมริกาครับ อย่างน้อยก็หางานอะไรทำไปพลางได้ และความเป็นอยู่ในอเมริกาก็ดีกว่าอังกฤษที่ของกินของใช้แพงมาก ที่อยู่ก็แย่กว่าเยอะ

[anbrocia]

อ๊ะๆๆ อย่ามาว่าอังกฤษนะ เรียนที่อังกฤษที่อยู่ดีๆ ก็มีค่ะ เราว่าขึ้นกันคนชอบนะ มีทั้งบ้านที่อายุเป็นร้อยๆ ปีจนถึงอพาร์ทเมนท์ที่เพิ่งสร้างเสร็จตกแต่ง modern style เต็มที่ ที่อังกฤษแต่ละเมืองจะคล้ายๆ กัน มี town centre มี town shopping mall ที่มีแต่ร้านค้า set เดิมๆ debenhams, topshop, next, new look, peacock, primark, tesco, etc แต่ถ้าเมืองมหาลัยใหญ่ๆ อย่าง oxford, cambride, edinburgh จะมีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเองสูง เราว่านั่นแหล่ะคือเสน่ห์ของการเรียนในประเทศอังกฤษ เพราะได้ทั้งบรรยากาศขลังๆ และวัฒนธรรมด้วย ถ้าไม่ชอบคนดำอย่าไปเลยอเมริกา และถ้าไม่ชอบแขกอย่าไปอังกฤษเพราะเยอะเหมือนกัน 5555 เลือกเมืองดีๆ ที่มีความเป็นอังกฤษสูง อยากไปไหน ค้นคว้าถามคนที่อยู่เมืองนั้นเยอะๆ ก่อนตัดสินใจเลือกยู เพราะไปแล้วถ้าไม่ชอบขึ้นมาอยากเปลี่ยนยูก็เสียเงิน เสียเวลา แต่ถ้ามีโอกาส มีกระตังค์ก็ไปเถอะค่ะ การเพ่ิ่มศักยภาพให้ตัวเอง เป็นการลงทุนที่ดีที่สุด การจะได้เรียนที่อังกฤษไม่ง่ายนะ แต่ถ้าไม่ยอมแพ้ก็จะได้ปริญญากลับมาเชยชมจ๊ะ ขอให้โชคดี

[py106]

อ่า... กระทู้กลายพันธุ์ซะแล้ว... ผมก็ไปเรียนอังกฤษมาเหมือนกัน...ก็มีความชอบส่วนตัวแหละครับไม่ขอ defend มากนักดีกว่า แล้วแต่น้อง...

เอางี้ดีไหม... ไปเรียนให้ได้ใบเภสัชในยุโรปแทน แล้วค่อยไปทำงานในอังกฤษ (ฮา...)
หรือไม่ก็รออีกไม่กี่ปี ใน ASEAN ของเราก็จะคล้ายๆกัน แล้วก็ไปทำงาน Singapore หึหึหึ

ว่าแต่ทำงานในอังกฤษแม้จะได้เงินเยอะ... แต่ไม่มีเงินเหลือเยอะอย่างที่คิดหรอกนะครับ...

[tamm]

โอ้ว กระทู้นี้อยู่ยงคงกระพันจริงๆ ขอบคุณสำหรับทุกคำตอบครับ
แต่ตอนนี้เ้จ้าของกระทู้หันเหไปเปิดร้านยาแทนแล้วครับ

เพราะพอไปศึกษารายละเอียดจริงๆ มันค่อนข้างจะยุ่งยากในหลายส่วน
และที่สำคัญพอสอบถามค่าใช้จ่ายคร่าวๆ ในการไปเรียนต่อแล้วลมแทบจับ
ถึงจะมีคุณแม่ทำงานอยู่ที่โน่นแล้วก็เถอะ ^^

เปิดร้าน หาตังค์ดีกว่า