PharmaCafe.com

แล้วก็เมล์ขยะต่างๆที่ขายยา อาหารเสริมที่โฆษณาสรรพคุณเป็นยา เครื่องมือแพทย์ที่น่าจะผิด
ผมร้องเรียน อ.ย. หมด นี่ถ้าได้ดำเนินคดีแล้วได้ค่าเปอร์เซนต์ตอบแทนก็คงดี

- แล้วถ้ายามีความหนืดไม่เท่ากันละคะ
ช้อนเดียวกันยาหนืดไม่เท่ากันปริมาตรจะได้เท่ากันมั๊ยนะ
- แล้วระหว่างใส่ช้อนแล้วดูดขึ้นมา กับ
อยู่ในหลอด 5 ซีซีแล้วบีบใส่ช้อน
- แล้วถ้าบริษัทหนึ่งยาเค้ามีความหนืดมากเค้าจะใช้ช้อนที่ปริมาตรต่างกับ
บริษัทที่น้ำใสๆมั้ยนะ
เผื่อถ้ากลับไปทดลองจะได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ

baifang เขียน:- แล้วถ้ายามีความหนืดไม่เท่ากันละคะ
ช้อนเดียวกันยาหนืดไม่เท่ากันปริมาตรจะได้เท่ากันมั๊ยนะ

ปริมาตรเท่ากันค่ะ แต่น้ำหนักไม่เท่า  ดังนั้นในการ label ข้างขวดยา จึงเป็น xxx mg/ 5 ml  เป็นต้น  บริษัทใดๆ จะทำความหนืดเท่าใด ก็เป็นเรื่องของคุณ  แต่วิเคราะห์แล้ว % ยาต้องอยู่ในช่วงกำหนดของ label amount

baifang เขียน:
- แล้วระหว่างใส่ช้อนแล้วดูดขึ้นมา กับ
อยู่ในหลอด 5 ซีซีแล้วบีบใส่ช้อน

ปริมาตรที่ได้น้อยกว่า 5 ซีซีทั้ง 2 แบบ เนื่องจากมีการเปลี่ยนถ่ายภาชนะ ย่อมต้องมี error แต่ error  อันไหนน้อยกว่าอันไหน ขึ้นอยู่กับลักษณะของภาชนะแรกก่อนเปลี่ยนถ่าย

baifang เขียน:
- แล้วถ้าบริษัทหนึ่งยาเค้ามีความหนืดมากเค้าจะใช้ช้อนที่ปริมาตรต่างกับ
บริษัทที่น้ำใสๆมั้ยนะ
เผื่อถ้ากลับไปทดลองจะได้มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ

คำตอบคือ ไม่แตกต่าง  ปริมาตรช้อนเหมือนกันแหล่ะค่ะ  แต่ถ้าเป็นยาหนืดๆ พวก emulsion หรือ suspension ยาจะมีการติดช้อนมาก  บางบริษัทจะออกแบบช้อนให้มน ไม่มีร่องลึกมาก เวลากินจะง่าย ที่สำคัญคือ เวลาเทยา 5 ml ใส่ช้อนแล้วได้ 5 ml และตามหลักแล้วปริมาตรที่วัดได้จริงควรอยู่ในช่วง label amount ตามเภสัชตำรับ

สงสัยมานานเหมือนกันค่ะ ว่าคนอื่นจัดการกันอย่างไร
เพราะช้อนยาแต่ละบริษัทขนาดต่างกันมาก เลยลองวัดดู
สุดท้ายเลยได้แต่ปลง...

ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ จะบอกให้ใช้ไซริงค์เลย แต่ผู้ปกครองบางคนก็ประหยัด ไม่อยากซื้อ เลยต้องแถมให้แทน
จะใช้ไม่ใช้ก็เรื่องของลูก (คุณ)

อันนี้ผมเห็นด้วยเลยว่า ช้อนแต่ละบริษัทไม่เท่ากันแน่นอน
ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ก็น่าจะไม่มาก
อยากรู้จัง ที่บอกว่า ได้แค่ 4.2 ซีซี นี่บริษัทไหน จะไปลองหาดู

ส่วนเรื่องถ้าเจอไอที่มันไม่แน่นอนแล้วจะเป็นยังไง

1. ถ้าเป็นยาที่ต้องให้ปริมาตรแน่นอน พวก Lanoxin, Depakine, Rimectane
คงต้องแนะนำให้ใช้ syring ดีที่สุด แล้วก็ต้องไม่ลืมแนะนำวิธีใช้ด้วย
เพราะจากประสบการณ์ทำงานที่โรงพยาบาลในแถบชุมชม หลายคนไม่รู้ว่าเอาไว้ดูดยาให้เด็ก
บางคนนึกว่า ต้องกลับไปฉีดยาให้ลูกที่บ้านซะอีก
รวมทั้งการดูปริมาตร การดูดไม่ให้มีฟองอากาศ แล้วก็การใช้ซ้ำ บางคนเล่นเอาไอต้มก็มี
แรกๆผมเองก็มองข้ามในจุดนี้ ไม่ได้อธิบาย แต่ต่อมาผมก็รู้ว่า ยังมีอีกหลายคนที่ไม่รู้นะครับ
ฝากพี่ๆน้องๆ ดูกันเรื่องนี้ด้วย

2. ยาที่ปริมาตรไม่ต้องแน่นอน 100%  ยาส่วนใหญ่คงเป็นประเภทนี้
โดยปกติ dose ยาเด็ก มักจะเป็น range อยู่แล้ว เช่น 10-50 mg/kg/dose
เพราะงั้น ถ้าขาดไปบ้าง เกินไปบ้าง คงไม่เป็นไร เพราะยังไงคงอยู่ในขนาดการรักษา (แต่ว่าคงต้องภาวนาให้ไม่เจอช้อน 4.2 ซีซี ข้างต้น)
หรือแม้แต่ที่เจอจริงๆ หมอบางคนชอบให้แบ่งยาที่ไม่น่าจะแบ่งได้ เช่น
- smecta หรือ questan 1/4 ซอง วันละสามครั้งหลังอาหาร
- unasyn 1/8 เม็ด หลังอาหารเช้า เย็น
ลองคิดดูบางทีแล้ว ไอพวกนี้แบ่งยังไงก็คงได้ไม่แน่นอน
บางครั้งไม่อยากที่จะจ่ายยาพวกนี้เลย เพราะไม่รู้จะอธิบายให้ได้ยาที่ถูกต้องยังไง
แต่อย่างน้อย จะบอกผู้ปกครองว่า ถ้าแบ่งไม่ได้พอดีเป๊ะ ก็ไม่ต้องเครียด หายเหมือนกัน

แต่ยังไงผมก็อยากให้ช้อนชาปริมาตรถูกต้องอยู่ดี

เอ้อ อย่าลืมบอกผู้ปกครองเด็กๆ ด้วยนะครับ ว่า 1 ช้อนชาเท่ากัน 5 ซีซี หลายคนไม่รู้จริงๆ

ทราบเหมือนกันค่ะ ว่าช้อนชาหลายๆ บริษัท 1 ช้อนชาไม่เท่ากับ 5 ซีซี
ดังนั้นบางโรงพยาบาล เลยมีข้อกำหนดเลยว่า ถ้าเป็นยาที่ซีเรียสเรื่องขนาดยา เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาหัวใจ ยาขับปัสสาวะ ยากันชัก ฯลฯ ให้สั่งจ่ายเป็นซีซี โดยใช้ syring ดูดยา
ส่วนยาที่ขนาดยา  อยู่ในช่วงกว้าง (therapeutic index กว้าง) เช่น paracetamol syr. อาจอนุโลมใช้ช้อนยาได้ เพื่อความสะดวกในการบริหารยาของผู้ป่วย

จริงด้วยแฮะ..มันไม่ครบ 5 c.c.

ความตึงผิวก็มีส่วน ทำให้เติมได้อีกเยอะ