PharmaCafe.com

แป่ววววววววววววววววววววววววว

เวร... แล้วผมบอกตรงไหนว่าผมรำคาญ...

ผมบอกว่าบ่นไปก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ที่ต้องทำควรจะทำยังไง...

ถ้าแปลเจตนาผิด... ก็... เออ... "ผมผิดก็ได้"

เรียนต่อไป สู้ต่อไป อย่าท้อแท้กะโชคชะตา อ้อนวอนพระเจ้า สวดมนต์ หรือ รอฟ้ามาทำให้อะไรดีขึ้น เอาแล้วกันครับ
(ไม่ลงมือทำ ก็ไม่ว่าอะไร ... แต่ก็อย่าคาดหวังว่าจะได้อะไรมากเช่นกัน...)

สัตวแพทยสภาแถลงข่าว
เรื่องการศึกษาต่อปริญญาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
โดย
นายสัตวแพทย์ยุคล ลิ้มแหลมทอง
นายกสัตวแพทยสภา
วันพุธที่ ๗ เมษายน ๒๕๕๓
เวลา ๑๒.๐๐ น.
ห้องประชุม ๑ ตึกอำนวยการ กรมปศุสัตว์
การศึกษาต่อปริญญาสัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
สัตวแพทยสภา เป็นห่วงนักเรียน นักศึกษาที่จะเข้าเรียนต่อปริญญาสัตวแพทยศาสตร-
บัณฑิต จากสถาบันที่ยังไม่ผ่านการรับรองหลักสูตรและสถาบันเพื่อการรับรองปริญญา
สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต
วิชาชีพการสัตวแพทย์ เป็นวิชาชีพที่มีความสำคัญในการดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงและ
ปศุสัตว์ ซึ่งเป็นอาหารของมนุษย์และมีมูลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า ๑๕๐,๐๐๐ ล้านบาท
รวมทั้งด้านสาธารณสุขในเรื่องความปลอดภัยทางอาหารและโรคสัตว์ติดต่อสู่คน ผู้ประกอบ
วิชาชีพสัตวแพทย์จึงต้องดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติวิชาชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ. ๒๕๔๕
โดยมีสัตวแพทยสภาเป็นองค์กรกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพ ควบคุมความประพฤติ และ
จรรยาบรรณของสัตวแพทย์ รวมถึงการส่งเสริมการศึกษาและการวิจัยด้านสัตวแพทยศาสตร์
ให้ทันสมัยสามารถรองรับการพัฒนาด้านวิชาการหรือการเปลี่ยนแปลงของโรคระบาดต่างๆ
ด้วย
ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ จะต้องจบการศึกษาและได้รับปริญญา
สัตวแพทยศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยที่สัตวแพทยสภาให้การรับรองปริญญาแล้วเท่านั้น
จึงจะสามารถขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพได้ ซึ่งขณะนี้มีมหาวิทยาลัยที่สัตวแพทยสภาให้
การรับรองปริญญาแล้ว ๖ สถาบัน ได้แก่ คณะสัตวแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหิดล
และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร เท่านั้น
?นักเรียน นักศึกษาที่จะเข้าเรียนวิชาการสัตวแพทย์ ต้องตรวจสอบก่อนว่า
มหาวิทยาลัย ที่เปิดสอนวิชาการสัตวแพทย์นั้น ได้รับการรับรองปริญญาบัตรจากสัตวแพทย
สภาแล้วหรือไม่ หากยังไม่ได้รับการรับรองปริญญาบัตร เมื่อเรียนจบแล้วจะไม่สามารถขอรับ
ใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ได้? นายสัตวแพทย์ยุคล ลิ้มแหลมทอง นายก
สัตวแพทยสภากล่าว
นักเรียน นักศึกษา ท่านใดอยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม ขอให้ติดต่อ สำ นักงาน
สัตวแพทยสภา ตึกผู้เชี่ยวชาญ กรมปศุสัตว์ เลขที่ ๖๙/๑ ถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ
๑๐๔๐๐ โทรศัพท์ ๐ ? ๒๒๕๐ ? ๐๓๙๘ ? ๙ ในเวลาราชการ
๗ เมษายน ๒๕๕๓

เภสัชโหลหรือเปล่า

http://pharmacy.payap.ac.th/UserFiles/File/IMG%2053.pdf

ม.พายัพ รับ นศภ ประจำปี 2553 แล้ว

ประกาศวันนี้ 4 มิ.ย.2553

แล้ว สภาเภสัชฯ รับรองหรือยังครับ

มอ พายัพ รับรองหรือยังเนี่ย ????

เปิดเยอะ แต่ถ้าควบคุมคุณภาพได้ก็น่าจะโอเคนะคะ ความเข้มแข็งของวิชาชพีไม่ได้ขึ้นกับว่าคนเยอะไปหรือน้อยไป
ถ้าคนเยอะแล้วช่วยกันขับเคลื่อนให้ยิ่งใหญ่ไม่ดีหรือคะ อย่างพยาบาลมีเยอะและเข้มแข็งก็ดีออกนะคะ



ความคิดเห็นส่วนตัวคือการควบคุมคุณภาพโดยการสอบใบประกอบวิชาชีพก็เป็นการคัดกรองได้แล้ว เพียงแต่ต้องแจ้งให้เด็กรับทราบ
ว่าจะต้องผ่านการสอบใบประกอบวิชาชีพจึงจะประกอบอาชีพทางเภสัชกรรมได้ ถ้าเด็กเต็มใจเรียนก็โอเค เพราะเชื่อแน่ว่าคนที่สอบใบประกอบผ่านทั้งภาคบรรยายและปฏิบัติต้องมีความรู้พอที่จะประกอบอาชีพได้ ยังมีอีกหลายจังหวัดเภสัชกรไม่เพียงพอและถ้าจัดการเข้มงวดกับร้านยาให้มี full time 100% เชื่อแน่ว่าเภสัชกรไม่มีทางล้น และวิชาชีพของเราจะสูงขึ้นค่ะ เปิดใจให้กว้างเพื่อให้วิชาชีพเราเข้มแข็งเถอะค่ะ

apotheker เขียน:

cm_pharmacistclub เขียน:ผู้ที่จบคณะเภสัช ที่สภาเภสัชกรรมไม่ได้รับรองสถาบัน มีปัญหาแค่ไม่ได้เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมเท่านั้นเอง แต่คุณมีศักดิ์และสิทธิในปริญญาบัตร เป้นเภสัชศาสตร์บัณฑิตทุกประการเพราะกระทรวงศึกษาธิการต่างหากเป็นผู้ควบคุมในการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาของมหาวิทยาลัย เช่นเดียวกับคนที่จบนิติศาสตร์บัณฑิตแต่ไม่อยากว่าความก็ไม่ต้องขึ้นทะเบียนทนายความเพื่อรับใบอนุญาติว่าความ สภาทนายความไม่เห็นไปยุ่งกับหลักสูตรนิติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆเลย สภาเภสัชอาจทำเกินขอบวัตถุประสงค์

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ทนายความ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของนิติศาสตร์ ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ทั้งหมด ยังมีอัยการ มีผู้พิพากษา หรือบางคนเรียนเพราะอยากรู้กฎหมายไว้ใช้ประกอบอาชีพอื่นๆก็มี
ถ้าจะเทียบก็ต้องเทียบกับ แพทยสภา ทันตแพทยสภา สภาการพยาบาล ซึ่งมีบทบาทต่อ การกำหนดมาตรฐานหลักสูตรด้วย

ถ้าเข้าใจไม่ผิด อัยการ ผู้พิพากษา ก็จบนิติศาสตร์ค่ะ อาศัยการสอบเพื่อประเมินความสามารถ ทำนองเดียวกันคนที่เรียนเภสัชย่อมมีทั้งที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้ใบประกอบ และประกอบอาชีพที่ไม่ต้องใช้ใบประกอบซึ่งก็อาศัยการสอบเช่นเดียวกัน และนั่นก็การควบคุมมาตรฐาน
และทำนองเดียวกันอีกการเรียนเภสัชทำให้เรามีความรู้เรื่องยาค่ะ