PharmaCafe.com

สภาเภสัชมีหน้าที่ ส่งเสริม... สนับสนุน... ครับ

ผมเชื่อว่าสภาคงไม่มีอำนาจสั่งปิดคณะครับ และคงไม่ไปโจมตี แต่มีทีมจากสภาไปให้แนะนำ (จะทำตามหรือไม่ ทำได้หรือไม่ได้ผมคิดว่าเป็นอีกเรื่อง)

แต่ผมเห็นด้วยและคิดว่าเป็นหน้าที่ที่สภาเภสัช จะต้องประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริง ให้นักเรียนที่จะเข้าเรียนในสถาบันต่างๆได้ทราบว่าสภารับรองสถาบันอะไรบ้าง หลักสูตรอะไรบ้าง

อีกอย่าง... ปัญหาของบางที่เกิดขึ้นแล้ว... และเกิดแน่ๆในอนาคต...
ผมถึงคิดว่าสภาฯและมหาวิทยาลัยควรจะได้คุยกันถึงปัญหาและทางแก้ครับ

ผมไม่เชื่อว่านักศึกษาทุกคนของสถาบันที่จะเกิดปัญหาว่าไม่สามารถสอบใบประกอบได้ จะยอมรับว่า
เค้าขอแค่จบ ได้วุฒิ ไม่ต้องมีใบประกอบไม่ได้

เดี๋ยวนี้เค้าเปิดกันเยอะขนาดนี้แล้วเหรอ คณะเภสัชฯเนี่ย

ขออนุญาตลบค่ะ

ขออนุญาตลบค่ะ

อ่านความคิดเห็นข้างบนแล้วเล่นเอาสะอึกไปเหมือนกันนะครับ ผมไม่เคยเจอเรื่องที่ลาออกระหว่างการเรียนเภสัช แล้วต้องจ่ายเงิน ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขามีบังคับให้จ่ายเงินด้วยหากลาออกระหว่างเรียน หากเป็นคณะเภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่ให้นักศึกษาเซ็นสัญญาชดใช้ทุนการให้นักศึกษาจ่ายเงินหากลาออกระหว่างเรียนมันก็ไม่น่าจะแปลก แต่นี่มหาวิทยาลัยเอกชนไม่ใช่หรือ ทำไมต้องจ่ายเงินหากลาออกด้วยละครับ งง

ขออนุญาตลบค่ะ

ตอบน้อง Thawan นะครับ

พี่ชอบในความกล้าของหนูมาก ซึ่งอาจเป็นเสียงสะท้อนให้กับเพื่อนๆที่อาจจะคิดเหมือนน้องอีกหลายคน แต่เค้าไม่กล้าทำเหมือนน้อง

สู้ๆ นะน้อง อ่านหนังสือมากๆ สอบเข้ารัฐบาลเลยดีกว่าครับ ภาคสมทบ ภาคอังกฤษ ภาคพิสดาร ภาคเพิ่มพิเศษ ภาคค่ำ ภาคไก่กาอะไรก็ได้ครับ

ชัวร์ดี ได้สอบใบประกอบแน่นอนเมื่อหนูเรียนจบ

หรือหนูสอบแพทย์ ทันตแพทย์ไปเลย อย่าได้แคร์

พี่ว่าเมื่อหนูจบมาแล้ว หนูได้ทำอะไรได้มาก เพราะการเรียนคือการลงทุนอย่างหนึ่งครับ แต่เราเลือกที่จะลงทุนที่ไหน

แล้วจบไปเราจะทำงานตามที่หนูพอใจ ตามค่าจ้าง หรือรายได้ที่พึงประสงค์ของหนูเอง

พี่ไม่ได้หวังว่าหนูจะจบมาแล้วต้องทำเพื่อรัฐบาลอย่างเดียว ไม่ใช่ พี่คิดว่าถ้าเราเป็นเภสัชกร เราเปิดร้านขายดีๆ เป็นเภสัชกร ตลอดวันก็ทำได้ เริดจะตาย เป็นซ้อไปเลย

หนูทำอะไรได้มากกว่านั้น และพี่คิดว่า การลงทุนที่หนูลาออกมา หรือจะซิ่วอะไรพี่ไม่ทราบ แต่พี่อยากให้กำลังใจนะ

สู้ต่อไป ยามาโต้ ... ถ้าจะเอาดี เอาให้ดีที่สุด

อย่าหันหลังกลับไปในอดีตที่ไม่สวย แต่จงเดินหน้าอย่า่งสง่า เพื่ออนาคตของตัวหนูเองนะ

สู้ๆ จ๊ะ น้อง Thawan พี่ชื่นชมหนูอยู่ในใจ

สักวันเราคงได้พบกันในวงการสาธารณสุขนะ (ถ้าหนูไม่ซิ่วหนีไปสายสังคม วิดยา วิดวะ เสียก่อน อิอิ)

บางอย่างอย่าหวังอะไรกับสภาเภสัชกรรมมาก

เน่าๆ หนืดๆ เปลี่ยนคณะกรรมการอะไรแล้วก็ดี

ออกมาเหมือนเดิม ทำอะไรไม่มีรูปธรรม สัญลักษณ์ ที่ชัดเจน

เวบสภายังมีไวรัสเลย คิดดูสิ

เฮ้อ เหนื่อย และหน่าย เภสัชกรรมไทย

แต่ผมก็ยังทำเพื่อวิชาชีพ ด้วยตัวผมเองให้ดีที่สุด ^ ^

การรับรองสถาบันหรือหลักสูตร เป็นความพยายามของทางคณะเภสัชศาสตร์ของสถาบันการศึกษานั้นต้องดำเนินการ และกระทำอย่างเป็นขั้นตอน การเปิดคณะเภสัชศาสตร์หลายๆมหาวิทยาลัยเอกชน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้ที่คิดจะประกอบวิชาชีพนี้แต่ขาดโอกาส ทั้งนี้ จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของสภาเภสัชกรรม ในการขอเปิดคณะและรับรองหลักสูตรเพื่อใช้ในการเรียนการสอน นั่นหมายถึงความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัยและทางคณะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบและติดตามเรื่องจากสภาเภสัชกรรมอย่างสม่ำเสมอในส่วนของการนำเสนอแผน หลักสูตรที่จะต้องแก้ไข หรือแม้กระทั่งรายละเอียดต่างๆที่สภาเภสัชกรรมกำหนดร้องขอมายังคณะเภสัชศาสตร์หรือทางมหาวิทยาลัย ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและแก้ไข ซึ่งแน่นอนว่า การรับรองหลักสูตรและสถาบัน ถูกจัดให้เป็นวาระเร่งด่วนที่ทางคณะเภสัชศาสตร์และทางมหาวิทยาลัยจะต้องรีบกระทำการให้ลุล่วงให้เร็วที่สุดครับ

น้องครับ บ่นไปไม่ได้อะไร

สิ่งที่ควรทำคือถามคณะว่าจะเอายังไงกับเรื่องการสอบใบประกอบในรุ่นที่ไม่สามารถสอบได้ หาทางจัดการซะก่อนจะไปไกลกว่านี้
ให้คณะติดต่อสภาและมหาลัยต่างๆ ผมเชื่อว่ามีทางออกที่ดี เช่น โอนหน่วยกิตไป ม.เอกชน อื่น (ไม่รู้เป็นไปได้ไม๊ แต่ก็ต้องยอมเสียเปรียบอะไรบ้าง) แต่ว่ามันต้องมีเจ้าภาพที่ขอเจรจา ดีกว่าคาราคาซังไว้เรื่อยๆ หรือ ไม่งั้นก็ฟ้องศาล ขอความคุ้มครองไปก่อน (เช่นไม่ให้มหาลัยทำอะไร ไม่ให้สภาทำอะไร แล้วให้มหาลัยเร่งทำอะไร หรือเลวร้ายสุดๆก็ให้มหาลัยชดเชยอะไร) อะไรก็ว่าไป

คุณคิดว่าหนูมาบ่น? มาพล่ามน่ารำคาญ?

งั้นหนูขออนุญาตลบเลยล่ะกันนะค่ะ
ถ้ากรุณาอ่านให้ดีๆ หนูพูดแค่ว่า
หนูขอคำแนะนำและเขียนไว้เพื่อเป็นอุทธาหรณ์
แก่คนทั่วไปเท่านั้นเองค่ะ

ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยถ้าก่อให้เกิดความรำคาญ

น้อง thawan ลบกระทู้ ไม่ทราบว่ามีสาเหตุหรือเหตุผลที่แท้จริงจากอะไร.... แต่เรียนให้ผู้ปกครองและสมาชิกทุกคนรับทราบนะครับว่า คณะเภสัชเอกชนทุกที่ ที่เปิดแล้วแต่ยังไม่ผ่านการรับรอง ได้มีการหาแนวทางร่วมที่คณะเภสัชศาสตร์ จุฬา เมื่อหลายวันก่อนที่ผ่านมา โดยอนุกรรมการของสภาเภสัชกรรม และได้ข้อสรุปในการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของทางสภาเภสัชกรรม และไม่ช้านานหลักสูตรและสถาบันต้องได้รับการรับรองอย่างแน่นอน ซึ่งระยะเวลาที่เหลือที่ยังพอมีเวลาแก้ไข เช่น ของ ม.อีสเทิร์น เอเชีย ประมาณ 3 ปี, พายัพประมาณ 1 ปี เป็นต้น แสดงให้เห็นจุดยืนและเป็นภาวะเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการทันทีและพอมีเวลาดำเนินการอย่างรอบคอบในแต่ละที่แตกต่างกัน

สงสารน้องคนที่โพสต์เหมือนกันนะ ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องไปว่าน้องเขา ก็ยังไงก็ขอสอบให้ติดนะครับน้อง